Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

[ถาม]นักเขียนเคยรู้สึกแบบนี้ไหม แล้วแก้ยังไง

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
สวัสดีค่ะ เราเป็นนักเขียนคนหนึ่ง เราเคยเจอความรู้สึกแบบนี้เลยอยากถามว่าท่านอื่นเป็นกันมั้ยแล้วแก้กันยังไง

เคยได้ยินหรืออ่านประโยคนี้มั้ยคะ "เอาความสำเร็จของคนอื่นมาเป็นแรงผลักดัน ไม่ใช่เอามากดดันตัวเอง"

เราชอบประโยคนี้มาก(ซึ่งเป็นของใครจำไม่ได้) ทีนี้พอเราแต่งนิยายเราก็จะมีแฟนนิยายของเรา จะเยอะจะมากมันอีกเรื่องแยกไปเนอะ แต่พอมาทีนี้เนื่องด้วยเราเป็นนักแต่งเหมือนกันเราก็ต้องอ่านด้วย

เราติดตามนักเขียนอยู่หลายท่าน พอเราได้เห็นความสำเร็จหรือกระแสนิยายเขาที่มันขึ้นสูงกว่าของเราแล้วจะเกิดอาการที่เรียกว่า.....อะไรไม่รู้เหมือนกัน TT ถ้าพูดกันตรงๆคิดว่าเข้าขั้นอิจฉามั้ยคะ แต่เราว่าเราไม่ขนาดนั้น แล้วท่านอื่นล่ะคะ ที่รู้สึกแบบเราคิดว่ามันคืออะไร

พอเราเห็นแบบนั้นใช่มั้ย เราก็อยากได้เป็นที่รู้จัก อยากมีคนอ่านของเราเยอะๆเหมือนกับนักเขียนที่เราติดตามใช่มั้ยคะ

โอเค ความรู้สึกแบบนี้เราเป็นก็หาย ต้องใช้เวลา แต่อยากถามท่านอื่นๆว่าเคยเป็นกันมั้ย คิดว่าสิ่งที่เรารู้สึกันนี่เรียกว่าอะไร แล้วจะทำอะไรให้เรารู้สึกดีขึ้นคะ

เขียนระบายซะยาวเลย -0- ขอบคุณที่อ่านจบนะคะ อยากอ่านความเห็นของนักเขียนท่านๆเลยตั้งกระทู้ ขอบคุณค่ะ ^^

แสดงความคิดเห็น

>

22 ความคิดเห็น

ลูเซีย The jar's modeller 31 มี.ค. 59 เวลา 23:00 น. 1

ตรงๆ ก็อิจฉาแหละครับ

แต่มันก็ไม่เชิงไม่ดี ถ้าเอามาผลักดันได้ก็ดีไป
ผมก็มี 5555

ธรรมดาครับ อิจฉา อยากได้อย่างเขา ก็ต้องพยายามให้มาก
ไล่ตามไปให้ทัน ทันแล้วก็แซง เหมือนนักวิ่งที่มีคู่แข่งแหละครับ

ที่จริงก็สนุกดี  

2
ผู้หญิงคนหนึ่ง 31 มี.ค. 59 เวลา 23:04 น. 1-1

อ่านคำว่า ตรงๆก็อิจฉาแหละครับ ยิ้มออกเลย 555555
มันคงเป็นเรื่องธรรมดาเนอะ ทุกคนคงเคยเจอ

อ่านเม้นต์นี้แล้วรู้สึกโล่งจังค่ะ ไม่พาดราม่า 555555 ไฟต์ติ้งกันต่อไป ^_^

0
SilverPlus 31 มี.ค. 59 เวลา 23:19 น. 2

อิจฉาครับ

แต่จะแสดงออกว่าไม่อิจฉา

"ดีใจด้วยนะ" แต่หัวใจนี้โดนบีบอย่างกับลูกไก่ ตาถลนออกมาทีเดียว

ทำได้แต่มองนิยายตัวเอง แล้วหาวิธีปรับปรุงให้มันดีขึ้น

หรือไม่ก็แต่งเรื่องใหม่ เอาให้เหนือกว่า

วนเวียนอยู่สองอย่างนี้แหละ

แต่ผมเชื่อว่า แรงผลักดันที่ดีในการเขียนนิยาย คือแรงจากตัวเราเองนี้แหละครับ ไม่ใช่แรงอิจฉา หรือแรงใดๆ แต่เป็นแรงจากจินตนาการของเรา เราจินตนาการอะไร แต่งให้จบ แค่นั้นเอง

อิจฉามากๆก็เหมือนไฟ ยิ่งอยู่ในไฟมากๆ เราจะเกรียม และไร้ชีวิตชีวา เหมือนตอไม้ไหม้ๆสีดำตอหนึ่งเท่านั้น พอเราไปแต่งนิยาย นิยายมันก็จะดำไปด้วย 

ทางที่ดี อย่าไปอิจฉาเลยครับ หลับหูหลับตาแต่งนิยายต่อไปดีที่สุด 555

0
ScarletWhite 31 มี.ค. 59 เวลา 23:45 น. 3

วิธีแก้ง่ายมาก ไม่ต้องเข้าไปอ่านให้เสียความรู้สึกค่ะ บางทียอดวิวก็ไม่ได้วัดจริงๆ ว่าอะไรดีกว่าอะไร ของบางอย่างกระแสมันมาแรงก็ต้องเป็นธรรมดาที่จะแซงหน้าคนอื่น มันไม่มีอะไรจีรัง สักวันกระแสเหล่านั้นก็จะเปลี่ยนไป 

สู้ๆ นะคะ

0
Death With Love 31 มี.ค. 59 เวลา 23:55 น. 4

อิจฉาครับ อยากได้นักอ่านน่ารักเยอะๆ อยากได้คนคอยแนะนำ อยากได้ตังค์ (ฮา)

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ผมอิจฉาได้ไม่กี่นาทีก็เลิกแล้วละครับ
ผมระลึกเสมอว่า กว่านักเขียนที่เราอิจฉาจะมาถึงจุดนี้ เขาต้องพยายามเท่าไร ทุ่มเทขนาดไหน
แล้วเราล่ะพยายามมากแค่ไหน ได้เท่าเขาหรือเปล่า ถ้าไม่เคยอุตสาหะอย่างเขาก็คงได้แต่อิจฉา

คิดอย่างนี้ ผมเลยอิจฉาใครๆ แค่แปบเดียว แล้วไปลงมือทำดีกว่า

0
White Frangipani 31 มี.ค. 59 เวลา 23:58 น. 5

สวัสดีค่ะ


[ถาม]นักเขียนเคยรู้สึกแบบนี้ไหม แล้วแก้ยังไง


เคยได้ยินหรืออ่านประโยคนี้มั้ยคะ "เอาความสำเร็จของคนอื่นมาเป็นแรงผลักดัน ไม่ใช่เอามากดดันตัวเอง"

จริงแล้วเข้าใจและรู้สึกว่าการนำเอาความสำเร็จหรือผลงานของผู้อื่นมาเป็นแบบอย่างคือแบบอย่างที่ว่าเขาทำสำเร็จได้เราก็ต้องทำสำเร็จได้แบบนี้นะคะ คืออีกความหมายคือนำมาเป็นแรงบันดาลใจให้กับเราเองค่ะ  (อย่านำมากดดันตัวเราค่ะ)

นักหัดเขียนเห็นคนที่มีความสำเร็จประสบความสำเร็จแล้วแท้จริงการที่เราเกิดความยินดีไปด้วยกับเขานั้นจะทำให้เราเป็นสุขนะ แปลกมากเลย  เพราะเหตุนี้หล่ะค่ะที่ทำให้ดิฉันนักเรียนหัดเขียนนิยายช้าเพราะมัวเแอบปลื้มๆนักเขียนผู้มีผลงงานในเด็กดีหลายๆคนค่ะ

บางคนนี่นะคะใกล้เรามากคือเขาเป็นเพื่อนเราในเด็กดีนี้ด้วยนะ เข้าไปอ่านๆผลงานของเขานะยิ้มทั้งวันเป็นสุขค่ะ คนใกล้ตัวเรานี่นะ เก่งมากเลย คิดแบบนั้นรู้สึกแบบนั้นค่ะ ตามๆเสพผลงานเขาไม่ได้เขียนเลยของเรา555

คือปลื้มปริ่มอิ่มเอมไปด้วยกับเขาค่ะ จริงนะคะ อิ่มเอมจนไม่อยากลงมือเขียนเองเลยหล่ะ เพราะบางเรื่องนี่นะคะถูกใจเราแบบชนจิตชนใจเรามากจนรู้สึกว่าเขาเขียนไปแล้วนะ ในรูปแบบที่เราอยากเขียนด้วย

เขาเขียนดีด้วยสิเกิดเป็นความยินดีต่อผู้ที่มีความสำเร็จในจุดมุ่งหมายที่เรารักหรือเคยมีจุดประสงค์ในแนวเรื่องนั้นๆด้วยค่ะ หรือมีความสุขเพียงได้เห็นเพียงสัมผัสผ่านเหตุการณ์ใกล้ตัวนี้ค่ะ นี้เรื่องจริงนะคะ ติดนิยายของเพื่อนๆนักเขียนที่นี่หลายๆเรื่องค่ะ

โอเค ความรู้สึกแบบนี้เราเป็นก็หาย ต้องใช้เวลา แต่อยากถามท่านอื่นๆว่าเคยเป็นกันมั้ย คิดว่าสิ่งที่เรารู้สึกันนี่เรียกว่าอะไร แล้วจะทำอะไรให้เรารู้สึกดีขึ้นคะ"...เข้าใจว่า...คือคุณต้องฝึกค่ะ ก่อนอื่นฝึกที่จะสัมผัสอารมณ์ดังกล่าวนั้นให้จงได้แบบจริงจังชัดเจน เมื่อชัดเจนแล้วคุณได้จับอารมณ์นั้นให้อยู่ว่าแท้จริงเป็นอย่างไรนั้นเอง

ในที่นี้คืออารมณ์ อิจฉานะคะ แท้จริงความรู้สึกอิจฉาคืออารมณ์ที่เป็นพลังลบค่ะ เป็นพลังที่ทำให้อารมณ์มัวหมองนะ และบางครั้งอารมณ์นี้อาจจะทำให้ท้อแท้ได้ด้วยค่ะ ไม่ดีเลยนะ

และสาเหตุที่มันเกิดขึ้นมาเพราะเราเองมีความรู้สึกน้อยเนื้อตํ่าใจในตัวเองค่ะ เมื่อเห็นคนที่เขาดีกว่า ทำได้ ทำสำเร็จตามที่คุณเล่ามานั้นอารมณ์ในส่วนลึกที่มันน้อยเนื้อตํ่าใจมันจะสะท้อนตัวตนหรือเกิดเป็นอารมณ์แสดงอาการดังกล่าวขึ้นมา แท้จริงนั้นเหตุนี้เกิดขึ้นนั้นเป็นเหตุและปัจจัยที่ใจเราเอง หรือที่จิตใจของเราเองค่ะ

หากคุณอยากที่จะปลดปล่อยให้ความรู้สึกหรืออารมณ์อิจฉาเหลือใจให้หายหรือดับไป คุณต้องฝึกที่จะสละมันทิ้งไปค่ะ วิธีคือคุณต้องรู้จักภาคภูมิใจในตัวเองไม่ว่าคุณจะยืนอยู่จุดไหนคุณต้องมีความยินดีต่อตัวคุณเองและสิ่งที่คุณทำ และสร้างพลังผลักใสหรือพลังบวกเพิ่มเข้าไปค่ะ เช่นมีความเชื่อมั่นว่าคุณจะต้องทำให้ได้เป็นต้น

และนำแรงบันดาลใจจากคนที่เขาสำเร็จได้นั้นมาเป็นตัวผลักใสให้ตัวคุณเองด้วยการที่คุณต้องพยายามฝึกที่จะรู้สึกยินดีต่อความสำเร็จของผู้อื่นค่ะ (คือนำมาเป็นแบบอย่างเป็นตัวฉุดหรือดึงคุณอีกแรงนั้นก็ดีค่ะ)

เท่านั้นช่องโหว่ที่มืดดำหรือความรู้สึกที่เราเรียกอีกนัยหนึ่งคือ ความน้อยน้อยตํ่าใจดังที่กล่าวไว้ข้างบนหรือความไม่พอใจในตัวตนของเราเองก็จะถูกเติมเต็มค่ะ เท่านั้นคุณก็จะไม่มีความรู้สึกที่จะอิจฉาใครๆได้อีกต่อไป เพราะคุณจะมีความเชื่อมั่นความภาคภูมิใจในตัวคุณค่ะ

และทุกๆครั้งที่คุณเห็นผู้อื่นประสบความสำเร็จคุณก็จะมีเพียงความยินดี มีความปริ่ม และอิ่มเอมร่วมไปด้วยกับเขา หรือคุณจะมีความสุขไปกับเขาด้วยนั้นเองค่ะ

จากประสบการณ์จริงนะคะ...อาการอิจฉาเคยมีอยู่จำได้ครั้งสุดท้ายตั้งแต่เด็กๆแล้วค่ะ อิจฉาพี่สาวเขาถูกตามใจมากกว่าเรา(ในบางครั้งนะ เพราะ หากไม่ถูกตามใจเขาจะกรี๊ดดดดเสียงดังมากๆ บางครั้งปาข้าวของด้วย น่ารำคาญค่ะ เพราะเขาถูกตามใจมาตลอดและมากเกิน ทุกคนต้องตามใจ)5555 ทั้งที่เราเป็นคนเล็กสุดต้องปิดหูยืนดู  (ความผิดของใครก็ม้ายรู้ และตอนนั้นนะอิจฉา นานมาแล้วค่ะ เรื่องราวที่ผ่านมาเอามาเป็นแบบอย่างเป็นวิทยาทานเลยน๊า555 หากเข้ามาเห็นเข้า ขออภัยด้วยน๊า...ก็เคยบอกแล้วไงว่าจะเอามาเขียนสักวัน...แต่นี้ไม่ใช่การแก้แค้นน้า555)

นานมาแล้วค่ะ มาวันนี้มีแต่ความรัก ความยินดี  รู้สึกแบบนี้แล้วเป็นสุขค่ะ ^____^


ความรู้สึกทั้งหลายทั้งปวงนะคะ มีเกิดขึ้นได้ ตั้งอยู่ได้ และมันสามารถดับไปได้เช่นกันเป็นธรรมชาติ ความรู้สึกไม่ดี สู้สู้ ฝึกๆพยายามทำให้มันดับไปให้จงได้นะคะ

เป็นกำลังใจค่ะ

0
จันทราเร้นกาย 1 เม.ย. 59 เวลา 00:08 น. 6

ขอตอบว่า มันคือความรู้สึก "อิจฉา" ่นั่นเองค่า หัวใจบีบรัด ใบหน้าร้อนผ่าว นัยน์ตาปกคลุมไปด้วยม่านน้ำตา (เว่อร์!) ฮี่ๆๆ ซึ่งเคยผ่านจุดนั้นมาแล้วค่าา :)

แล้วก็แบบว่าจะคลิกเข้าไปดูสักเล็กน้อย (ก็หลายรอบอยู่) ส่องโน่นนี่นั่นไปเรื่อย สรุปกลายเป็นเพิ่มยอดวิวให้เขาซะงั้น

สรุปแล้วก็เลยปลง กลับมาคลิกเข้านิยายตัวเองยังดีซะกว่า วะฮ่าฮ่าฮ่า


3
ScarletWhite 1 เม.ย. 59 เวลา 00:16 น. 6-1

จะว่าไปแอบส่องดูของคุณจันทราก็เยอะนะคะเนี่ย แอบเผานิยายแปป 555

ตลกจัง

0
จันทราเร้นกาย 1 เม.ย. 59 เวลา 00:29 น. 6-2

แป่วๆ นึกว่ามีเราคนเดียวซะอีก >< ฮี่ๆ

จารใจของคุณไป๋ชิงหงเราก็เข้าบ่อยนะคะ 55 (อุ๊บส์ หลุดปาก >X<)
ช็อค

0
Toony03 1 เม.ย. 59 เวลา 08:33 น. 7

เราก็เคยมีความรู้สึกแบบนั้นตอนเขียนนิยายครั้งแรก แต่พอเขียนไปเรื่อยๆแล้วไม่ค่อยมีใครเข้ามาอ่านหรือเม้นเราจะชอบมีความรู้สึกเปลี่ยนไปค่ะ ชอบรู้สึกท้อแทนอิจฉา ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน
แล้วเวลาเราท้อสมองมันก็จะตันจนแต่งอะไรไม่ได้เลย เราชอบเป็นแบบนี้ประจำเลยอ่ะค่ะ(ไม่อิจฉาคนอื่นแต่กลับท้อที่ทำได้ไม่ดีเท่าที่หวังไว้)

0
ทาสแมวแห่งสายลม 1 เม.ย. 59 เวลา 08:37 น. 8

เราก็เป็นค่ะ ช่วงนั้นไม่อยากยอมรับว่า "อิจฉา" เหมือนกัน
แค่แบบ "...ดีจังเลยนา..." ประมาณนี้ 5555 หลังๆ ก็เฉยๆ ล่ะ 5555
พยายามอย่าไปโฟกัสในจุดนี้ก็พอ 

0
Broskev 1 เม.ย. 59 เวลา 11:07 น. 9

เอาไว้เข้าไปดูว่า เรากำลังก้าวไปข้างหน้านะ
ถึงจะช้ากว่า แต่ก็ค่อยๆเพิ่มทีละน้อยนะ
ตอนนี้เรามีเท่านี้ แต่เดี๋ยวให้นายรอเรานะ
เราจะตามนายให้ทัน ประมาณนั้น 555

0
mbth96 (จะออกไปแตะขอบฟ้า) 1 เม.ย. 59 เวลา 11:13 น. 10

เราว่าแรงอิจฉานี่ล่ะค่ะเป็นแรงผลักดันที่ดีมาก เราเคยเป็นตอนเข้าเด็กดีมาเขียนนิยายแรกๆ
เห็นนิยายติดท็อปหมวดก็ลองเข้าไปอ่าน รู้สึกว่าเขาทำดี แต่เราไม่มัวมานั่งคิดอยากได้อยากดีเหมือนเขาอย่างเดียว เราคิดว่าเราเขียนดีกว่า(หลงตัวเองไปหน่อยแต่ตอนนั้นคิดอย่างนั้นจริงๆ)

เราอิจฉานักเขียนคนหนึ่งมาก เขาติดท็อปต้นๆ บ่อยมาก แทบทุกครั้งที่อัพ(เป็นแฟนคลับนิยายเขา เขาอัพเราก็รู้ตลอด) ยอดวิวเป็นหลายแสน คอมเม้นเป็นหมื่น แฟนคลับหลายพันเกือบหมื่น คือรู้ว่าไล่ตามยากมาก เหมือนเขาขับรถหรูเครื่องแรงแล้วเราวิ่งตามด้วยเท้า แต่ด้วยความอยากเป็นเหมือนเขาเราเลยตั้งใจเขียน ตั้งใจอัพบ่อยๆ แต่เราพยายามยังไงก็ไปไม่ถึงเขา ท้อมาก และยิ่งอิจฉาเข้าไปอีก

เราพยายามอยู่สี่ห้าเดือนล่ะมั้งถ้าจำไม่ผิด ในที่สุดนิยายก็ไต่ท็อป พอได้อยู่บนชาร์ตเดียวกัน ยิ่งมีแรงกระตุ้น อยากไล่ตาม เขาอยู่จุดสูงสุด เราอยู่จุดต่ำสุด แต่อย่างน้อยเราก็มาอยู่ที่เดียวกับเขา ตอนนั้นแรงใจ แรงฮึด แรงอิจฉา มาเต็มไปหมด

จนสุดท้ายเราอยู่จุดเดียวกับเขาได้ อัพพร้อมๆ กัน เราได้ติดอับดับ 1 เรียกว่านิยายเราไต่อันดับติดทุกอันดับแล้ว ตั้งแต่ 20 19 กระโดดขึ้นไปบ้าง 14 15 แล้วก็ท็อปเท็น ไล่ไป 1 แล้วก็ลดลงมา สลับไปจนครบ ยอดวิว แฟนคลับ คอมเม้น ตอนนั้นก็ไล่ตามกัน ใช้เวลาเกือบปีกว่าจะทะลุเป้าที่เราตั้งใจ ซึ่งในขณะนั้นเขาติดลมบน ประสบความเสร็จก่อนหน้าเราไปนานมากแล้ว

พอเราทำได้ มีความสุขสุดๆ ค่ะ ตอนนี้ผ่านมาเกือบสองปีละ เขาก็ยังเขียนของเขา หายไปบ้าง เราก็หายไปเป็นพักๆ เหมือนกัน สลับกันหาย และช่วงที่เราทั้งคู่หายไป ก็มีนักเขียนใหม่ฝีมือเยี่ยมติดอันดับแทนเราแทบทุกวัน  เห็นอย่างนั้นก็ไม่เกิดความรู้สึกอิจฉาแล้ว ชอบเข้าไปอ่านด้วยซ้ำ เพราะบางทีขี้เกียจเขียนของตัวเอง 55

ตอนนี้นิยายเราจะติดอันดับหรือเปล่าไม่เคยสนใจเลย สนใจแต่ผลงานและแฟนคลับ อยากเขียนและอยากอัพอย่างเดียว แค่เห็นคอมเม้นคือชื่นใจแล้ว เลิกเปรียบเทียบ เลิกแข่งขัน จนนักอ่านต้องมาบอกเรื่อยๆ ว่าเออ ติดชาร์ตนะ เราก็อ่อๆ แล้วก็แค่นั้น  

พอผ่านไปจุดๆ หนึ่ง แรงอิจฉาเราจะสลายไปเองค่ะอย่าคิดมาก  

0
มุลิลา 1 เม.ย. 59 เวลา 15:27 น. 11

ตอนนี้เรากำลังเป็นเหมือนกันค่ะ อิจฉาค่ะ ฮา แต่ที่เราอิจฉาคือ นักเขียนที่มีพลังใจเยอะ ๆ และขยันน่ะค่ะ เราทำแบบเขาไม่ได้จริง ๆ เราเป็นพวกหม่นมาก และหมดพลังใจง่ายมาก

เวลาอิจฉาก็ทรมานมากค่ะ ถามว่าแก้ยังไง เราก็หาวิธีแก้ไม่ได้เหมือนกัน ได้แต่ทำความเข้าใจตัวเอง ว่า เออ ตอนนี้เราอิจฉาเขาอยู่นะ อิจฉาเพราะอะไร เพราะเขาขยันกว่าเราใช่ไหม เพราะเขาจิตใจเข้มแข็งกว่าเรา เพราะเขาความคิดสร้างสรรค์กว่าเรา ทำความเข้าใจตัวเองไปแบบนี้ สักพักก็จะสงบลงเอง

ถ้าเป็นหนักจริง ๆ แบบคิดแค่ในหัวไม่ไหว เราจะเขียนใส่สมุดค่ะ เขียนความคิดความรู้สึกของตัวเองทั้งหมดลงไปแบบไม่กั๊กเลย ไม่ว่ามันจะเป็นความคิดที่เลวร้ายแค่ไหนก็เขียนมันลงไป แล้วไม่ต้องไปอ่านซ้ำนะคะ เขียนแล้วปล่อยมันไปเลย ช่วยได้ดีทีเดียว

0
peiNing Zheng 1 เม.ย. 59 เวลา 18:17 น. 12

ข้าน้อยเริ่มเขียนหนังสือตอนอายุเยอะแล้ว เข้าใจดีว่านักเขียนแต่ละคนมี 'ต้นทุน' ไม่เท่ากัน

นักเขียนที่ข้าน้อยได้อ่านของเขา มันเจ๋งระดับสุดยอดทั้งที่เขายังอายุแค่ 18 (สมัยที่นิยายอินเตอร์เน็ตเริ่มบูม คนเขียนอายุเกิน 15 ทั้งนั้นแหละขอรับ) คือมีความลุ่มลึก มีปรัชญา มีความคิดที่เกินอายุมากมาย แต่กลับยังคงมีความคิสร้างสรรค์ที่ยอดเยี่ยม ไม่แปลกใจที่เขาเล่าว่าแม่อ่านนิทานรามเกียรติ์ตั้งแต่เด็ก

ตอนเรา 3 ขวบ ทำอะไรอยู่ขอรับ? ข้าน้อยยังวิ่งเล่นปีนต้นไม้อยู่เลย

ความสำเร็จของแต่ละคนมาจากหลายสาเหตุรวมกัน ทั้งต้นทุน ทั้งพรสวรรค์ ทั้งพรแสวง หรือแม้แต่โชค

ถ้าถามว่าจะแก้ยังไง ง่ายๆก็แค่ ท่านทำในสิ่งที่ท่านทำได้ก่อน ถ้าต้นทุนท่านไม่เยอะ ก็ไปเพิ่มให้มันเยอะเสีย ถ้าพรสวรรค์ท่านจำกัด แปลว่าท่านต้องไปกัดฟันกับพรแสวงเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว โชคยังมาไม่ถึงท่าน ก็ให้เตรียมตัวให้เก่งพอ เมื่อไรที่โอกาสมา ท่านจะได้แข็งแรงพอจะรับมันไว้

เริ่มจากสิ่งที่ท่านทำก่อนดีที่สุดขอรับ

1
Death With Love 1 เม.ย. 59 เวลา 19:25 น. 12-1

เห็นด้วยมากครับ เรื่องต้นทุนก็สำคัญ เราทุกคนไม่ได้เริ่มที่จุดสตาร์ทเดียวกัน
เพราะงั้น ถ้าคิดจะมองเปรียบเทียบใคร ควรพยายามเพิ่มต้นทุนให้ได้ใกล้เคียงเขาบ้าง
เหมือนเรามีเป้าหมายด้วย

ผมก็เริ่มอ่านนิยายจากฟิคเกมเมื่อหลายปีมาแล้ว
คนแต่งอายุน้อยมากๆ เพียงแค่ 14 ปี พอได้พูดคุยกันนิดหน่อย ก็รู้ว่าที่บ้านเขาปลูกฝังมาดีมาก
บอกได้เต็มปากความคิดความอ่านของน้องเขาดีมากๆ จนผมกล้าพูดเลยว่า ศรัทธาความสามารถของน้องเขาเลยทีเดียว (ฮา)

0
~ VolcaniK ~ 1 เม.ย. 59 เวลา 20:02 น. 13

เราว่ามันเป็นเรื่องปกตินะที่จะอิจฉาคนที่ได้รับความนิยมมากกว่า ทีนี้มันก็อยู่ที่เราอ่ะว่าจะจัดการความรู้สึกของตัวเองยังไง 

เราว่าความรู้สึก อยากดีเหมือนเขา/ดังอย่างเขา มันเป็นพลังในแง่บวกนะ ทำให้เรามีกำลังใจในการจะไต่ไปถึงจุดนั้นให้ได้

ทีนี้ พอถึงจุดนั้นได้ อีกปัญหาก็จะตามมา คือมันจะทำให้เราติดอยู่บนนั้นอ่ะ ขึ้นว่ายากแล้ว ลงยากกว่า  ทันทีที่นิยายจบ อาการเคว้งมันจะมา พอเขียนเรื่องใหม่ ก็อยากได้รับความนิยมต่อไปเรื่อยๆ ทีนี้ ถ้าเรารักษาคุณภาพต่อเนื่องได้อย่างดีมันก็ดี แต่น้อยคนมากที่ทำได้ บางคนก็พยายามมากเพราะอยากที่จะให้นิยายกลับไปได้รับความนิยมสูงสุดอีกครั้ง ก็รีบเขียน อัพบ่อยๆ เพื่อจะได้ติดท็อปอีกเรื่อยๆ แต่ก็นั่นแหละ คือน้อยคนมากเช่นกันที่จะรักษาคุณภาพได้ขนาดนั้น แล้วถ้าเกิดไม่ประสบความสำเร็จขึ้นมา ก็นอยด์อีก

เราว่าของแบบนี้ อิจฉาได้ อยากดี/อยากเด่นได้ แต่สิ่งหนึ่งที่ต้องมีคือการรู้เท่าทันความรู้สึกตัวเองอ่ะ อยากได้อยากดีมันเป็นเรื่องปกติของกิเลสมนุษย์  

สิ่งสำคัญที่สุดน่าจะอยู่ที่เราจะจัดการกับมันได้ดีแค่ไหน

0
Whiteflower Ri 1 เม.ย. 59 เวลา 21:15 น. 14

มันเป็นเรื่องปกตินะ ที่เราอยากมี อยากเป็นอย่างคนอื่นเขา  มันทำให้เราต้องหันกลับมาดูตัวเองว่า เราพยายามมากพอแล้วหรือยัง เราจริงจังมากพอไหม

ส่วนตัว อื้ม! รู้สึกเลยว่า เรามีความพยายามน้อยเกินไป ยังไม่จริงจังเท่าคนที่เขาประสบความสำเร็จจริง ๆ  แต่ก็พยายามต่อไป ยอมรับความจริง แค่นั้นเองจ้า....

0
Biteholic Girl 3 เม.ย. 59 เวลา 13:08 น. 15

มันคือความน้อยใจ หรือไม่ก็อิจฉา ...ทำไมเราไม่เป็นแบบนั้นมั่งว้า ประมาณนี้ใช่มั้ยคะ 555

0
B 13 s.t 3 เม.ย. 59 เวลา 16:56 น. 16

จะอิจฉาต่อเมื่ออ่านแล้วรู้สึกว่างานเขาดีจริงครับ ถ้าติดท็อป คนอ่านเยอะ แต่เราเขาไปอ่านแล้วเฉยๆ เราก็จะเฉยๆ ไม่อิจฉา ใครที่งานเป็นกระแส แนวเรื่องคนอ่านเยอะอยู่แล้ว แต่เราอ่านแล้วไม่รู้สึกถึงอิมเพคอะไร อันนี้ผมไม่อิจฉาครับ และรู้ดีว่าถ้าเราขยัน ตั้งใจ เดี๋ยวก็ไล่ตามทัน มันจับจุดได้ง่ายๆ 
 
แต่อิจฉาคนมีฝีมือมากกว่า ต่อให้คนตามน้อยกว่าเราก็ยังอิจฉาเขาครับ เพราะรู้ดีว่าสักวันเขาจะไล่ตามเราทันถ้าเขาฝีมือระดับนี้ บอกตรงๆ เลยว่า ไม่กลัวคนที่แซงอยู่ข้างหน้า แต่กลัวคนที่วิ่งไล่ตามเรามามากกว่า ยิ่งรู้ว่าเขามีฝีมือเป็นทุนออมอยู่แล้ว ถึงจังหวะเขาเมื่อไหร่ แซงเราแน่นอน ส่วนคนทีแซงอยู่ บอกตรงๆ ว่ายังไงเราก็ยังเห็นเขาครับ จะนำอยู่ใกล้หรือไกลก็ยังเห็น แต่คนที่ตามหลังนี่เรานี่สิที่เรามองไม่เห็น ซึ่งน่ากลัวกว่าเยอะสำหรับผม เพราะมันจะม้ามืดมาเมื่อไหร่ก็ไม่รู้ 


0
rungphilinxokas 3 เม.ย. 59 เวลา 18:22 น. 17

หนูก็อยากแต่งนิยายค่ะพี่แต่หนูยังเด็กอยู่เลยพึ่ง ม. ต้นเองค่ะ  แต่พี่สู้ๆนะเดี่ยวหนูจะลองอ่านนิยายพี่นะ

0
นักอ่านเม้นท์ 4 เม.ย. 59 เวลา 10:24 น. 18

อิจฉาเป็นเรื่องปกติที่คนธรรมดามีต่อคนที่มีอะไรบางอย่างดีหรือเด่นกว่าเรา แต่อย่าเผลอปล่อยให้ความอิจฉาพัฒนาไปเป็นความริษยาด้วยการคิดร้ายต่อเขา แบบที่เราเห็นในเด็กดีบ่อย ๆ ก็นิยายที่มีแนวโน้มว่าจะไปได้ดีหลายเรื่อง มักจะถูกเม้นท์ประหลาด ๆ เช่น ในขณะที่คนมากมายชมว่าสนุก ภาษาสวย จะมีเม้นท์ริษยาโผล่มาประมาณ อ่านแล้วรู้สึกแย่มาก ไรท์ไม่ดีอย่างนั้นอย่างนี้ มาแบบไร้เหตุไร้ผล มาเพื่อด่า เพื่อบั่นทอนกำลังใจคนแต่งโดยเฉพาะ เวลาอ่านเม้นท์พวกนี้แล้วรู้สึกสมเพช แต่ที่แย่คือคนแต่งเด็ก ๆ บางคนสะเทือนใจจนเลิกแต่งไปก็หลายเรื่อง รีดที่ตามอ่านมาก็ค้างไป

1
SEKRAM / fahkunim 5 เม.ย. 59 เวลา 11:23 น. 18-1

ปาใจให้คห.นี้รัวๆเลยค่ะ ถูกใจมากเลย มันมีทั้งคนชม ติบ้างเป็นธรรมดา แต่นานๆจะมีเม้นต์ด่ามาว่า ด่าแบบเราเละเลยอ่ะ ไม่เข้าใจว่าทำอะไรผิดมากมายขนาดนั้น แล้วเค้าเด็กด้วย 14เอง TT ตะเตือนไตเลย บั่นทอนได้ดีๆจริงๆ แต่ก็ยังฮึดสู้ปั่นงานต่อ เอิ้กกก

0
Alison Claire 4 เม.ย. 59 เวลา 19:17 น. 19

มันคือความอิจฉานั่นแหละจ้า มันเป็นเรื่องปกติเลยแหละ ไม่ใช่แค่แต่งนิยายนะ แต่ความรู้สึกนี้ก็มีในเรื่องอื่นเช่นกัน อย่างเรื่องเรียนนี่เราเป็นบ่อยมาก และที่เกิดอารมณ์แบบนี้ก็เพราะเราจริงจังกับมัน แต่ก็ขึ้นอยู่กับแต่ละคนว่าจะสามารถคิดและนำมาเป็นแรงขับเคลื่อนในการมุ่งสู่ความสำเร็จได้หรืิอเปล่านั้น ก็อีกเรื่องหนึ่งนะ

ปล. ถ้าอยากทำให้สำเร็จ ก็ต้องวางเป้าหมายและเตือนตัวเองเสมอว่าเราคิดที่จะทำอะไร 

0
Miss.Espresso2 4 เม.ย. 59 เวลา 19:42 น. 20

อิจฉา

มี้ก็เป็นค่ะ มีบ้าง ไม่ใช่เรื่องแปลก ถ้าเราเข้าใจและยอมรับ

ทุกคนมีช่วงที่ท้อ อิจฉา ขี้เกียจ หมดกำลังใจ บลาๆ ไม่ว่าจะเป็นเพราะอะไร แต่ถ้าชอบสายนี้จริงๆ ก็ต้องฝึกฝนและพยายาม

แต่อย่าให้มันทำลายคุณได้ บางที คนที่โดนคุณอิจฉานั้น ก็อาจจะมีโมเมนต์แบบคุณมาก่อน

ถ้าเราอยากจะชนะศัตรูก็ต้องเรียนรู้ศัตรูว่าเพราะอะไรที่เขาถึงมีอะไรมากมายกว่า และพยายามศึกษาพัฒนาตนเองไปเรื่อยๆ หาร้านวิจารณ์ อ่านให้มากๆ อ่านให้หลากหลาย

มี้ก็พยายามอยู่ค่ะ ช่วงนี้ตันหนักมาก วิวก็น้อย คนอ่านก็ถอนแฟบ แต่ก็อยากจะแถให้จบค่ะ

0