Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

ม.6 ไม่เรียนพิเศษ.. ไม่ได้แปลว่า 'สอบไม่ได้'

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่



















(ส่วนใหญ่เป็นการบอกเล่าประสบการณ์และอาจเป็นการแนะแนวทางได้..มั้ง)






สวัสดีค่ะ ก่อนอื่นบอกก่อนเลยว่าเพิ่งจบ ม.6 ค่ะ ตามหัวข้อกระทู้คือ ไม่ได้เรียนพิเศษ ใดๆเลยค่ะ มีปัจจัยหลายสาเหตุค่ะ สิ่งต้นๆคือความขี้เกียจเดินทางของเราเอง55555555555 (แต่ไม่ใช่ว่าขึ้นม.ปลายมาไม่ได้เรียนนะคะ) ที่เราตัดสินใจเลือกไม่เรียนทั้งๆที่เป็นช่วงสำคัญที่เราควรจะเรียนให้เยอะที่สุด จะได้เก็บเกี่ยวความรู้เยอะๆ..ผู้ใหญ่ชอบพูดแบบนั้นน่ะค่ะ แต่เรากลับคิดว่า ช่วงม.6นั้นเราอยากหมกตัวอ่านหนังสือ นั่งทำยาวๆ ไม่ต้องเดินทางเพราะสำหรับเรากว่าจะเดินทางไปเรียนคือยาวนานมากค่ะ555555







เอาล่ะเข้าเรื่องเลย เราเรียนศิลป์คำนวณ เราไม่ได้เป็นคนเก่งแต่อย่างใดค่ะ เป็นคนที่เรียนได้ในระดับกลางๆค่อนไปทางดีตั้งแต่เด็กแล้ว ไม่ได้เก่งสุดโต่งขนาดท็อปห้องแต่เรียนได้ทุกวิชาค่ะ ยกเว้นวิทยาศาสตร์ที่ยอมใจกับภาษาเขาจริงๆ (ไม่รู้มันดีรึเปล่าเนี่ย -_-) และสิ่งที่เราทำมาตั้งแต่เด็กๆและคิดว่ามันก็ดีนะ สำหรับทุกระดับชั้นเลย ม.6ยิ่งต้องทำด้วย! อะไล่เป็นข้อๆเนอะ







1. ตั้งใจเรียนในห้องเรียน ข้อนี้สำคัญเลยค่ะ เราควรทำได้เลยนะในข้อนี้ และไม่ว่าจะไปเรียนพิเศษกี่ที่ คุณครูก็มักจะบอกเสมอว่าให้เราตั้งใจเรียนในห้องนะ อย่าคิดแต่ว่าจะมาเรียนพิเศษก็ได้ นั่นไม่ใช่ความคิดที่ดีเลย ความรู้ที่ได้ในห้องจดลงหนังสือหรือสมุดเลยค่ะ จดรกๆก็จดไปไม่ต้องกลัวไม่สวย ความรู้ค่ะท่องไว้!







2. มีวินัยในตัวเอง ข้อนี้จริงๆเราก็ทำไม่ค่อยได้ค่ะเพราะเราเป็นคนขี้เกียจ แต่เวลาบ้างานก็บ้ามากถึงมากที่สุด ชนิดที่ว่าไม่เสร็จไม่นอนและทำได้เรื่อยๆ เพราะงั้นสำหรับเราการมีวินัยนั้นจะมีในช่วงที่บ้างานมาก55555555







3. จดสรุปสไตล์ตัวเอง ฮั่นแหนะ!รู้นะว่ามีคนที่รอสรุปย่อของเพื่อนอยู่5555555555 เราจดด้วยตัวเองมาตลอด กระดาษบ้าง สมุดบ้างแล้วแต่อารมณ์แต่ละเทอม มันคือการทบทวนอย่างหนึ่งซึ่งอาจไม่ต้องทำทุกวัน เรารอใกล้สอบแล้วให้เวลาในการย่ออย่างน้อย 1 อาทิตย์







4. ไม่กดดันตัวเอง นี่แบบถ้าไม่อยู่ในช่วง ม.6 จริงๆจะไม่รู้เลยว่ามันกดดันขนาดไหน.. T__T แต่ไม่ค่ะ! เราเองก็มีกดดันแต่พ่อแม่จะสอนตั้งแต่เด็กๆเลยว่า "ไม่ต้องเครียด ทำให้ดีที่สุด ผลออกมาแบบไหนพ่อแม่ก็ภูมิใจ" และนี่ก็โดนด่ามาตลอดเพราะชอบคิดมาก เครียดมาก แต่โดนด่าว่าง่าวค่ะหลังจากนั้นไม่กดดันอีกเลย ด่าจนต้องร้องขอชีวิต555555555555 แต่นั่นก็เพราะพ่อแม่อยากให้เราคิดได้เนอะ ถือว่าดีแล้วที่เราคิดได้







5. ไม่คิดว่าวิชาไหนง่าย เรารู้ว่าน้อยคนที่จะคิดแบบนี้เพราะข้อสอบเมืองไทยนี่ยากเหลือเกินค่ะ.. แต่มันก็จะมีประเภทที่ว่า 'โอ้ยยภาษาไทยง่ายๆไม่ต้องอ่านหรอก อ่านอังกฤษแทนแล้วกัน' หรือ 'สังคมหรอ หน้าที่พลเมืองก็มีแต่แบบเดิมๆ ไม่อะไปทำเลขดีกว่า' แต่ขอบอกตรงนี้เลยว่าคิดผิดค่ะ! ทุกวิชาสำคัญมากๆๆๆๆๆห้ามลืมสักวิชาเดียวนะ







6. แบ่งเวลาให้ถูก สำหรับเราแล้วข้อนี้เราแบ่งง่ายมาก 'เล่น/เรียน/นอน' เล่นคือช่วงเวลาพักที่โรงเรียนและเล่นมือถือ เรียนก็คือเรียนในห้องและตอนอ่านทบทวน จดบันทึก ส่วนนอนนี่สำคัญมากๆๆๆ ใครอ่านหามรุ่งหามค่ำได้ก็ดีค่ะถ้ามันไม่ส่งผลแย่ แต่ใครที่ทำไม่ได้อย่าฝืนค่ะเพราะมันยิ่งทำให้สมองเราลดลง ที่ฝืนอ่านมาจะเท่ากับ 0 ทันที และตัวเราก็เป็นแบบนั้น ไม่ว่าจะสอบหนักแค่ไหนเราให้เวลาตัวเองถึงแค่เที่ยงคืนแล้วนอนค่ะ พอ พักผ่อน







7. การวางแผนที่ดี อันนี้สุดติ่งเลยยยย ต้องวางแผนไว้ทุกอย่างแหละค่ะไม่ว่าจะการอ่านหนังสือสอบแบบไหน เราจะมานั่งอ่านก่อนวันสอบงี้ไม่ได้นะ ถ้าวางแผนไม่ดีอาจมีผลต่อการเรียนได้







8. การเข้าใจไม่ใช่การท่องจำ เราเชื่อและเราเชื่อมากกกกก ว่าเด็กไทยส่วนใหญ่ใช้วิธีจำๆๆๆเพื่อเข้าไปสอบในช่วงเวลาสอบเท่านั้น สอบจบลืมค่ะ.. ไม่เอานะแบบนี้ อ่านและทำความเข้าใจกับมัน เข้าใจยากก็อ่านไปเรื่อยๆ ลองวิเคราะห์ คิดในมุมมองอื่นดูอาจจะทำให้เข้าใจง่ายขึ้น พอเข้าใจมันแล้วทุกอย่างมันก็จะจำได้เองค่ะ









9. หมั่นหาความรู้เพิ่มอยู่เสมอ ด้วยเทคโนโลยีสมัยนี้สร้างความสะดวกสบายได้มากขึ้น เพราะงั้นใช้ให้มันเป็นประโยชน์นะคะ เรียนในห้องบางครั้งมันก็ไม่พอหรอกจริงมั้ย งั้นเราก็ต้องหาความรู้กันเพิ่มด้วยนะคะ บอกตรงๆว่าที่ทำได้เพราะข้อสอบเก่าๆทางอินเตอร์เน็ตกับการซื้อหนังสือมาเพิ่มเอง











จดสรุปยังไงให้มีความสุข ?



ในการจดของแต่ละคนมันก็ไม่เหมือนกันหรอกค่ะ บางคนชอบแบบเรียบๆ ปากกาแท่งเดียวพอ เผลอๆใช้ดินสอจดด้วยซ้ำ แต่มันก็มีประเภทที่แบบต้องสีสันเยอะแยะ555555555555(เราเอง) แต่เวลาเรียนในห้องนี่ใช้ดินสอเน้อ มานั่งเปลี่ยนสีจดไม่ทันพอดี =_=



   : - อุปกรณ์เสริมช่วยสร้างความสุขกับการเรียนหนังสือด้วยตัวเองงง~



บอกก่อนเลยว่าเราเป็นพวกบ้าเครื่องเขียนมากค่ะ ปากกา ไฮไลท์ กระดาษโน้ต ปากกาสีๆ ดินสอ ฮู้ยยยยใช้ไม่หมดสักอย่าง และอะไรที่มันดูมุ้งมิ้งๆ(ซึ่งเพื่อนชอบบอกไม่เหมาะกับเอ็ง) รวมไว้ที่เราแทบหมด555555555 เหมือนคนบ้าแต่อะไรที่ช่วยได้ก็ทำเนอะ ความสุขเราด้วยจะได้มีแรงอ่านหนังสือ







1. คลังปากกาและของตกแต่ง













(ปากกา,ปากกาเน้นข้อความ,ปากกาสี,เทปตกแต่ง,สติ๊กเกอร์ต่างๆ,โพสท์อิท,กระดาษโน้ตลายน่ารัก)






ในส่วนของตรงนี้นั้นก็ดูตามภาพเลยเจ้าค่ะ..55555555555 แบ่งเป็นหมวดหมู่วางตามมุมโต๊ะเราเลยค่ะ โต๊ะอ่านหนังสือก็เป็นสิ่งที่สำคัญนะ สำหรับเราถ้าสภาพโต๊ะดูไม่เรียบร้อยคืออ่านไม่ได้ จัดมันเข้าไปให้อยู่ตามมุมก็พอ แค่นี้โต๊ะก็ดูดีขึ้นมานิดนึงละ







2. Planner และนาฬิกาจับเวลา









(Planner , นาฬิกาจับเวลา)






อะอย่ามองว่ามันดูไร้สาระนะเจ้าสองตัวนี้เนี่ย มันช่วยจัดระบบเราได้ดีเลยล่ะ



• Planner ช่วยวางแผนต่างๆได้ดี ระบุวันสำคัญแต่ละเดือน แล้วแต่ละอาทิตย์ทำอะไร จดแบบนี้เราว่าดีนะ ตั้งไว้แล้วทำได้/ไม่ได้นั้นเรามาว่ากันอีกที **แนะนำแบบที่แยกออกมาเป็นช่วงเวลานะสำหรับคนที่มีเวลาแน่นอนจริงๆและต้องการวางแผนแน่นอนว่าช่วงเวลาไหนเราจะอ่านอะไร ทำงานอะไร > เข้า Google > "Passion Planner" มีให้โหลดฟรีๆอยู่เนอะ**



• นาฬิกาจับเวลา มีก็ได้ไม่มีก็ได้ แต่มีก็ดี นอกจากมันจะมุ้งมิ้งแล้วมันยังทำให้เราไม่ต้องจับโทรศัพท์อีกด้วย(เดี๋ยวเพลิน) จับเวลาอ่านหนังสือว่าวันนี้เราอ่านได้นานแค่ไหน จับเวลาการทำแบบทดสอบตามเวลาสนามสอบยิ่งดีเลย หาซื้อได้ทั่วไปนะคะ Daiso นี่น่ารักๆเยอะเลย (ของเราเป็นของเกาหลี ลูกเล่นเยอะดีนะ)












**ในกระทู้นี้เราจะไม่พูดถึงเรื่องเกรดการเรียนนะคะ เพราะแต่ละโรงเรียนมีเกณฑ์การให้ไม่เท่ากัน บางที่เรียนชิวเกรดสูง บางที่เรียนเข้มเกรดน้อย (มีค่ะเพราะนี่ไม่ได้อยู่โรงเรียนเดียวตลอดชีวิตเนอะ) เพราะงั้นพูดถึงสิ่งที่ทำแล้วดีต่อตัวเราดีกว่าน้าาา .







ใครอ่านมาทั้งหมดนี่ขอบคุณมากๆเลยค่ะ T_T เพราะเราเขียนยาวมาก บ่นไรนักหนาไม่รู้เนี่ย แต่วิธีนี้เป็นวิธีพื้นฐานเนอะ ทุกอย่างมันอยู่ที่ตัวเราเองแต่ก็อยากมาเน้นย้ำในฉบับของคนขี้เกียจที่มีวิธีเรียนในแบบของเรา555555555 



อ้อ..ไม่ได้บอกว่าไม่ต้องไปเรียนพิเศษกันนะ การเรียนเพิ่มเป็นสิ่งที่ดี แต่ประเด็นสำคัญที่พูดถึงคือ พฤติกรรมการเรียนของตัวเรา เพราะถึงแม้เราจะเรียนมากมายแค่ไหนแต่ถ้าเราไม่หมั่นทบทวนด้วยตัวเองนั้น ทุกอย่างก็สูญเปล่าค่ะ



และถึงแม้ว่าเราจะไม่ได้เรียนพิเศษก็ไม่ได้แปลว่าสอบไม่ได้นะ บางคนอาจมีปัญหาที่ไม่สามารถเรียนพิเศษได้ เพราะงั้นก็ทำสิ่งที่มันส่งผลในด้านดีให้ตัวเองแล้วทุกอย่างมันจะออกมาดีเอง







ทำไมเราถึงพูดได้ว่าไม่ต้องเรียนพิเศษก็ทำได้?



- คะแนนที่ออกมาของเราไม่ได้แย่ แต่ก็ไม่ได้สูงถึงขั้นอู้วหู้วววเก่งเฟ่อร์นะ~ มันออกมาในเกณฑ์ที่ดีสำหรับคนที่พยายามด้วยตัวเอง



- ปัจจุบันสอบติดนวัตกรรมฯเอกมัลติที่มศวค่ะ (แต่ไม่ได้ลงเรียนเพราะมีปัญหาส่วนตัว)







แต่อยากแนะนำ น้องๆที่เข้าสู่ช่วงขึ้นม.6แล้ว ตั้งใจอ่านหนังสือแต่อย่าหักโหม มีที่ไหนลงได้ให้ลงสอบตรงไปเลย(ถ้ามันตรงกับที่สายน้องชอบและน้องไปเรียนได้) เราพลาดตรงที่เราลงสอบแค่2ที่ทั้งๆที่เรายื่นได้หลายที่มาก ซึ่งมนุษยอิ๊งที่มก.นี่ตัดไปได้เลย เราก็ไม่เก่งขนาดนั้นไง.. แต่ดีที่ตัดสินใจลงมศวไว้แต่ก็นะ ไม่ได้เรียนอยู่ดี ทีนี้เลยรอแอดมิชชั่นอย่างเดียว ;___; เพราะงั้นมีโอกาส คว้ามันให้ได้จะได้ไม่เคว้งแบบเราฮือออออออออ....







**ขอบคุณทุกๆความเห็นเลยนะคะ ทั้งรุ่นพี่ เพื่อน และก็น้องๆ ดีใจที่กระทู้นี้มีประโยชน์ต่อหลายๆคนและสร้างแรงบันดาลใจให้น้องๆอีกด้วย ดีใจจริงๆค่ะ เราไม่ค่อยได้เข้ามาในบอร์ดเลย ถ้าใครต้องการถามอะไรเพิ่มเติมหรือจะมาคุยเล่นก็ได้ที่ไอจี @th.study น้า>< หรือจะ message มาหาก็ได้ค่ะถ้าเข้าแล้วจะมาตอบน้า ส่วนคำถามที่มักเจอตอนนี้

- ซื้อแพลนเนอร์ซิมป์สันที่ไหน?>>>ซื้อที่B2Sเมื่อนานมาแล้วค่ะไม่แน่ใจยังมีอยู่ไหม ยังไงก็ลองไปดูกันนะคะ ส่วนที่จะแนะนำเพิ่มคือ Betrend,Muji ค่ะ น่ารักเยอะแยะเลยลองไปเดินดูกันน้าา~





แสดงความคิดเห็น

>

15 ความคิดเห็น

AAAPPPP 17 เม.ย. 59 เวลา 21:49 น. 1

งือออ มายืนยันอีกคน เราก็เรียนพิเศษแค่คอสเดียวตอนม.ปลาย ปล.เรารุ่นเดียวกันเลยอะจขกท

1
jamen. 17 เม.ย. 59 เวลา 22:46 น. 1-1

เย้ดีใจๆ >< มีคนแนวเดียวกับเราละ55555555 ปกติรอบข้างเรียนพิเศษหมด เหมือนเราประหลาดอยู่คนเดียว

0
นักวิทย์พิชิตเวทย์ 17 เม.ย. 59 เวลา 21:56 น. 2

พี่ก็ไม่เคยเรียนพิเศษเลย ยกเว้นเรียนเพิ่มสอวน ตอนม.ปลาย
ตอนนี้เรียนแพทย์อยู่สถาบันนึง พี่ว่าการเรียนพิเศษมันก็ไม่ได้จำเป็นมากขนาดนั้น
มันอาจช่วยได้บ้าง แต่ไม่ได้จำเป็น  ที่เห็นคนที่ติดแพทย์ส่วนมากเรียนพิเศษ
เพราะคนขยันมักไปหาอะไรเรียนเพิ่มต่างหาก ซึ่งพวกนี้หลายคน ไม่เรียนก็ติดอยู่ดี

1
jamen. 17 เม.ย. 59 เวลา 22:44 น. 2-1

จริงค่ะพี่ เพราะส่วนตัวหนูเลยเป็นคนมีความขี้เกียจสูงเลยไม่อยากเรียนพิเศษเพราะขี้เกียจเดินทาง กว่าจะถึงก็ไม่อยากเรียนแล้ว5555555แต่ยังขอบคุณตัวเองหน่อยที่รู้จักเรียนด้วยตัวเอง

0
Shalnark T Diabolus 17 เม.ย. 59 เวลา 23:25 น. 3

คอนเฟิร์มครับ เรียนพิเศษครั้งสุดท้ายตอนอนุบาล3 เป็นคนที่เกลียดการเรียนพิเศษเพราะรู้สึกว่ามันเปลืองเงินและเสียเวลาการใช้ชีวิต - -

0
........ 19 เม.ย. 59 เวลา 20:11 น. 4

มายืนยันว่าไม่เรียนพิเศษก็ได้ถ้าขยัน เดี๋ยวนี้มันง่ายกว่าแต่ก่อนมาก มีให้หาอ่านเอาเยอะแยะตามเน็ต ซื้อหนังสือเอาก็ได้ อยู่ที่จะขวนขวายหรือเปล่า จริงอยู่เรียนพิเศษก็ดี ใครใคร่เรียนก็เรียน คิดว่าเหมาะกับตัวเองก็เรียนไป แต่ใครไม่มีเงินไม่มีกำลัง ก็อย่าเอาแต่โทษโชคชะตา ถึงจขกท จะบอกให้ตั้งใจเรียนในห้อง แต่ก็ใช่ว่ามันจะใช้ได้กับทุก รร มตรงจุดนี้เราขอค้านนิดนึง เราเองก็ไม่ใช่ว่าจะหัวดีนัก รร ที่จบมาก็ธรรมดาไม่ได้สอนดีเด่อะไรมาก อาศัยความขยันเข้าสู้ล้วนๆ ทุกวันนี้ก็เรียนอยู่ มธ นะ ถึงแม้รอบตัวเราจะไม่มีปัจจัยใดๆที่จะเอื้อให้เราเรียนเก่ง แต่อย่าลืมเรามีตัวเราไง ไม่มีใครช่วย เราก็ช่วยตัวเอง

0
Nichakarn 20 เม.ย. 59 เวลา 10:55 น. 5

เย้ มีเพื่อนแล้ว เราก็ไม่ได้เรียนพิเศษเหมือนกัน 555 อ่านเองหมดเลย อ่านเสร็จก้จดสรุป ช้อตโน๊ต ปากกาสีมีเพียบเลย เทปน่ารักๆ กระดาษโน้ตน่ารักๆ สติกเกอร์ รู้สึกว่าเวลามีพวกเครื่องเขียนน่ารักๆเหมือนเปนแรงกระตุ้นอย่างหนึ่งเลยค่ะ ทำให้ตั้งใจเขียน ตั้งใจอ่าน
ตอนนี้เราสอบติด มธ แล้ว
อยากบอกน้องๆที่ไม่ได้เรียนพิเศษ ว่าให้ขยันๆ ตั้งใจๆ อดทนๆ ยังไงเราก็สอบติดได้แน่นอนนะคะ
สู้ๆ รักเลย

0
Kwanjira Sridaorueang 20 เม.ย. 59 เวลา 15:43 น. 6

ไม่เรียนพิเศษก็เป็นที่ 1 ได้ค่ะ คอนเฟิร์มเลย แค่ขยันและจับ concept ของวิชาและครูถูก วางแผนดี ก็มีชัยไปกว่าครึ่งแล้ว
เราเชื่อว่ายังไงเงินที่เสียไปเพราะเรียนพิเศษก็แพ้ความขยันอยู่ดี

ปล.กระทู้นี้มีประโยชน์มากเลยค่ะ เป็นแนวทางสำหรับคนไม่เรียนพิเศษอย่างเราให้สตรองต่อไปและมีแนวทางปฏิบัติที่ดีขึ้น


0
Iwannabedoctor 20 เม.ย. 59 เวลา 15:45 น. 7

อ่านกท.นี้แล้วแลดูจะมีกำลังใจเพิ่มม ขอบคุณค่ะ ที่มาแนะนำ หนูอยากเป็นหมอค่ะ จะพยายามมากๆ จะต้องทำให้ได้เลย ปล.เครืองเขียนมันเป็นอะไรที่เพิ่มกำลังใจในการจดไงไม่รู้นะคะ5555
ปล.นาฬิกาสวยนะคะ

1
jamen. 23 เม.ย. 59 เวลา 15:04 น. 7-1

ขอบคุณนะคะ>< ดีใจที่ทำให้มีกำลังใจเพิ่มขึ้นน้า
อยากเป็นหมอต้องอ่านหนังสือให้เยอะเน้อแต่ว่าก็ไม่ต้องกดดันตัวเอง คนเราไม่ผิดที่จะมีความหวังเพราะงั้นหวังแล้วต้องทำให้มันเป็นจริงแต่ก็อย่าลืมพักผ่อนนะคะ สู้ๆ พี่เป็นกำลังใจให้ค่ะ

0
แนะนำ 20 เม.ย. 59 เวลา 23:09 น. 8

เกิดมาไม่เคยเรียนพิเศษค่ะ กวดวิชาไม่เคยได้แอ้มเงินเราอ่ะ 5555555 แนะนำให้พยายามเข้าใจในตอนที่ครูสอนค่ะ พอเข้าใจแล้ว เราแทบไม่ต้องอ่านหนังสือเวลาสอบเลย เพราะเราเข้าใจอยู่แล้ว ทวนแบบฝึกหัดเล็กน้อย ก็สอบได้แบบชิวๆแล้วค่ะ(แล้วแต่คนรึเปล่าไม่รู้นะ) แต่ความขยันและอดทนสำคัญสุด จากประสปการณ์คนที่สอบได้ที่ 1 หกเทอมรวดค่ะ สู้ๆค่ะ

0
jamen. 23 เม.ย. 59 เวลา 14:43 น. 9-1

B2S ค่ะ
Betrend ก็มีเยอะนะคะ น่ารักๆเยอะเลย><

0
Npp mie 21 เม.ย. 59 เวลา 10:34 น. 10

เราก็เป็นคนหนึ่งนะที่ไม่เรียนพิเศษพ่อแม่บังคับให้เรียนแต่เราไม่เรียนเองเราชอบอ่านที่เราจดสรุปในห้องเรียนมากกว่าเวลาใกล้สอบเราจะอ่านสรุปที่เราจดมาทั้งหมดแล้วก็หาความรู้เพิ่มจากหนังสืออื่นแทน กท นี้มีความน่าสนใจมากๆสำหรับน้องๆที่ขึ้นม.6 ตอนนี้เราติดที่ มจพ แล้ว เป็นกำลังใจให้นะค่ะ

0
Sorularo 21 เม.ย. 59 เวลา 12:04 น. 11

เราก็ไม่เรียนค่ะ เคยเรียนแล้วไม่ค่อยชอบ เราเป็นคนไม่ค่อยชอบไปไหนด้วย รู้สึกเหมือนไปนั่งเรียนแล้วก็ลืม สู้มาอ่านเอง เอาเวลาไปทำอะไรเองดีกว่า
แต่ก็แล้วแต่คนจริงๆค่ะ บางคนเรียนก็ได้จริง ยังไงก็แล้วแต่คนชอบนะ เยี่ยม

0

ความคิดเห็นนี้ถูกลบ

ถูกลบโดยเจ้าของความเห็น

Sasiprapa32 22 เม.ย. 59 เวลา 10:14 น. 13

เราเป็นคนที่ได้เรียนพิเศษตั้งแต่ขึ้นม.ต้นแต่เราก็ทำคะแนนได้ดีตลอดอันนี้ม่ได้อวดนะคะ เราเคยเครียดแล้วเราก็นั่งร้องไห้ให้พอใจแล้วเรา
ก็กลับมามองตัวเองว่าเราผิดพลาดตรงไหน เราต้องปรับตรงไหน มันช่วยให้เราได้คะแนนดีขึ้น
ตอนนี้จะเรียนปวชสายบัญชีแล้วคะ เป็นรุ่นน้องเจ้าของกระทู้นี้ แต่คนละโรงเรียนนะคะ ขอบคุณนะคะที่ตั้งกระทู้นี้ขึ้นมาทำให้หนูมีความฝันต่อไปแม้มันจะยากแต่เราต้องทำมันให้เต็มที

1
jamen. 23 เม.ย. 59 เวลา 15:05 น. 13-1

สู้ๆนะคะ ทำให้ได้ตามที่ฝันไว้ พี่เชื่อว่าถ้าเราตั้งใจทำแล้วผลที่ออกมาจะดีเสมอค่ะ เป็นกำลังใจให้นะคะ><

0
2222 22 เม.ย. 59 เวลา 15:27 น. 14

ขอบคุณนะคะ หนูก้ไม่ได้เรียนพิเศษเหมือนกันแต่เหตุผลคือไม่มีตัง 555555 อยุสายวิทย์ คณิต กำลังจะขึ้นม.6 ตอนนี้เหนื่อยมากกกกกกเศร้าจัง

2
jamen. 23 เม.ย. 59 เวลา 14:47 น. 14-2

สู้ๆนะคะ หาข้อมูลข้อสอบในเว็บต่างๆก็ได้ค่ะมีเยอะเลย
คลิปติวฟรีก็มี อาศัยการอ่านเยอะๆนะคะ ยิ่งอยู่สายนี้ด้วยแล้วต้องสู้นะ ^^สู้สู้

0