ทำไมต้องมาเริ่มอ่านหนังสือตอนม.4? ทั้งๆที่เราเริ่มอ่านตั้งแต่ม.1ได้
ตั้งกระทู้ใหม่
คุณต้องการจะลบกระทู้นี้หรือไม่ ?
24 ความคิดเห็น
เราคิดว่าอ่านตอนไหนก็ได้แหล่ะ แต่เนื้อหาที่จะสอบอะไรต่างๆตอน ม ปลาย
อย่างโอเน็ต แกท แพท หรือสอบตรง ไรงี้
มันก็ส่วนของ ม ปลาย ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวกับ ม ต้น อะไรอะ ถ้าจะอ่านตั้งแต่ ม 1
คงต้องปูพื้น ม4 ไว้แต่เนิ่นๆไรงั้นอะจะได้แน่นๆ ส่วนเนื้อหา ม ต้น จะเอาไว้ฝึกสมองอะไร
ก็แล้วแต่แล้วก็เอาไว้สอบเข้า ม ปลาย ก็ได้นี่เนอะ อืม
ส่วนตัวเรานะคะอ่านตั้งแต่ม.ต้นมันน่าจะดีนะคะมันไม่เกี่ยวกับม.ปลายก็จริง แต่บางคนอาจไม่ได้แค่อ่านเนื้อหาของม.ต้นไงคะก็แล้วแต่คนนะคะเพราะบางคนอาจไปหาข้อมูลต่างๆในการสอบม.ปลาย หรือหาข้อสอบเก่าๆมาสอบถามครูให้ครูช่วยสอนให้ ส่วนตัวเราว่าอ่านตั้งแต่ม.ต้นก็ดีนะคะ^^
บางคนก็รู้... แต่มันทำไม่ได้555555555555 อาจจะเป็นเพราะตอนเด็กยังหาแรงบันดาลใจไม่ค่อยเจอมั้งค่ะ เลยใช้ชีวิตเรื่อยเปื่อย ค่ะ ทำแบบคุณก็ดีแล้วค่ะทำต่อไปเถอะ หลายคนทำไม่ได้เพราะยังไม่มีวิธีอ่านหนังสือที่เหมาะกับตัวเอง เลยยังไม่อ่าน แต่ถ้ารู้วิธีที่ทำให้ตัวเองเข้าใจแล้วก็ทำต่อไปได้เรื่อยๆเลยค่ะ ถือว่าคุณโชคดีมากแล้ว555 ตัวเราเองเพิ่งมาอ่านเองตอนจะขึ้นม.4นี่แหล่ะค่ะ ก่อนหน้านั้นเป้าหมายยังไม่ค่อยชัดเท่าไหร่ ก็อาศัยเรียนพิเศษเอา เรียนทุกวันเลิกทุ่ม-2ทุ่ม ก็ดีค่ะ แต่ไม่มีเวลาทบทวน ลืม55555555 เลยตั้งใจใหม่ เริ่มตอนไหนก็ไม่สายหรอกค่ะ อยู่ที่ว่าได้ทำมันอย่างตั้งใจจริงๆรึเปล่า แค่นั้นแหล่ะค่ะ สู้ๆนะคะ
สู้ๆค่ะ!!^^
คือแอบงงว่า ติวตั้งแต่ม.1นี้คือติวเพื่อ o net ม.6 รึเปล่าคะ
เราเด็กปลาทอง และขอบอกเลยนะคะ คนเราไม่เหมือนกัน ความสามารถในการจำ ความคิดหรือการดำรงชีวิตต่างกันค่ะ
จขกท. ก็ต้องทราบด้วยนะคะว่า เราไม่ได้เรียนวิชาเดียว หรือบทนั้นบทเดียว เราเรียนหลายวิชาล้านบท(เวอร์) ต้องจำของวิชาอื่นด้วย ต้องสอบ ทำรายงาน การบ้าน บางวันมีเรียนพิเศษเย็น แถมเปรี้ยงเข้ากิจกรรมอีก(โรงเรียนเรากิจกรรมเยอะมากกกกค่ะ)
ที่เราโดนมา แค่ทำการบ้านของแต่ละวันให้หมด ก็หมดวันแล้วค่ะ ทบทวนของเก่า ของไม่ถนัดอย่าพูดถึงเลย
เสาร์เรียนพิเศษ วันอาทิตย์ ให้มาทบทวนขอบอกค่ะจะตายตั้งแต่วันเสาร์ 5555 (เราเรียนพิเศษตลอดตั้งแต่ม.1-6) ยังโง่เหมือนเดินค่ะ สอบเสร็จก็ลืม ถถถถถ
แต่มาเรียนมหาลัยจะดีตรงที่กิจกรรมไม่มีเลยเรียนเต็มที่(ลูกพ่อขุนค่ะ)
เราไปนั่งฟังในห้องค่ะ (อ่านไม่ค่อยเข้าสมองค่ะ เราต้องฟังถึงจะเข้า เห็นไหมคะ นี้คือความต่างของแต่ละคน)
จะอ่านจริงจังก่อนวันสอบ 2 วันค่ะในสองวันนี้เราก็ยังเที่ยว นอนกลางวัน ดูการ์ตูนนะคะ ให้สมองพักแล้วมาอ่านหนังสือ เบื่อก็หยุดอ่าน เพราะอ่านแล้วเครียดเบื่อ สมองก็ไม่รับแล้ว (นี้อ่านแบบจิงจังแล้วนะ)
ก่อนเข้าสอบก็มาเปิดดูที่ขีดๆไว้ที่ยากหรือจำไม่ได้ค่ะ
// ต้องบอกก่อนว่าวิธีนี้สำหรับเราได้ผลค่ะ คนอื่นนี้ไม่ทราบ 555 เพราะบอกแล้วค่ะ แต่ละคนแตกต่างกันเนาะ
สู้ๆนะคะ^^
พี่รู้สึกว่ามัน ideal มากๆ เลยอะน้อง
ม.1 คือการปูพื้นฐานไปเรียน ม.ปลาย ม.ปลาย คือพื้นฐานไปเรียนมหาลัย พี่มองว่าถ้าสมมติพี่อยู่ ม.1 แล้วอ่านหนังสือเพื่อเข้ามหาลัย มันเป็นเป้าหมายที่ไกลเกินไปอะ แล้วน้องจะรู้หรอว่าเมื่อถึงเวลาที่จะเข้ามหาลัย มันจะยังคงเป็นเป้าหมายเดียวกับตอนน้องอยู่ ม.1
ตอน ม.1 พี่มองไกลสุดแค่จะเรียนต่อสายวิทย์หรือศิลป์ แค่นั้น ไม่มองว่า เนี่ย ฉันอยากเรียนแพทย์ ต้องรีบอ่านหนังสือ คือพี่ว่ามันไม่ใข่อะน้อง
น้องคิดเผื่อได้ แต่ไม่ใข่ว่าสิ่งที่น้องคิดมันจะเป็นไปตามนั้น
พี่ว่า อ่านหนังสือเพื่อให้พื้นฐานเราแน่นพอจะไปต่อเนื้อหา ม.ปลาย และในระดับที่สูงๆ ขึ้นไปดีกว่านะ
แต่ขอยนะ ที่น้องวางแผนชีวิตเอาไว้
ครับ ชีวิตแต่ละคนไม่เหมือนกันจริงๆครับ แต่คนส่วนมากช่วงเวลาวัยรุ่นในชีวิตของพวกเขา ไม่ควรจะหมดไปกับการเรียนที่มากเกินไปครับ เอาเวลาที่มีครั้งเดียวไปใช้ให้คุ้มบ้าง จะเที่ยวเล่น จะทำอะไรตามประสาเด็กมัธยมต้นก็ทำไปเถอะ แค่อย่าทิ้งการเรียนก็พอ ไม่ต้องไปอ่านล่วงหน้ามันขนาดนั้นหรอก มาเริ่มต้นอ่านตอนปิดเทอม ม.3 ขึ้น 4 หรือ ม.4 ก็ยังไม่สาย ถ้าจะเอาแพทย์ ทันต เภสัช สายวิทย์-สุข ก็คงต้องขยันมากกว่าคนอื่นหน่อย แต่ถ้าคณะอื่นก็ไม่จำเป็นต้องขนาดนั้น
ชีวิตมีครั้งเดียวครับ ใช้ให้คุ้ม
มันทำไม่ได้หรอกค่ะ พื้นฐานของมอหนึ่งกับมอปลายไม่เหมือนกันนะคะ
ยกเว้นเด็กที่ฉลาดมากๆๆๆแล้วเรียนของมัธยมจบแล้ว ถ้าไม่อย่างนั้นนั่งทำข้อสอบเก่าไปก็ไม่ได้อะไรหรอกค่ะ น้องมอหนึ่งมาเจอโจทย์แคลดิพอินทีเกรตต่อให้ทำตั้งแต่มอหนึ่งถึงมอสามมันก็ไม่ออกหรอกค่ะ เรื่องบางเรื่องต้องใช้เวลาในการเรียนรู้ โดยปกติมอสามแล้วเข้าใจตรีโกณก็เก่งแล้วแหละค่ะ
น้องความคิดดีมากเลยนะที่อยากจะเตรียมตัวก่อนคนอื่น
น้องทำได้....ถ้าน้องเรียนเนื้อหามต้นจบแล้ว (เพราะมต้นเป็นพื้นฐานของมปลาย)
ดังนั้นถ้าอยากจะอ่านของมปลายไปเรียนของมต้นให้จบก่อน อย่าข้ามขั้น
ทีนี้มันก็ขึ้นอยู่กับน้องแล้วล่ะว่าอยากจะเรียนเนื้อหามต้นล่วงหน้าเลย หรือว่าเรียนในห้องไปพร้อมกับคนอื่น
ถ้าน้องเลือกทางแรกน้องก็ไปเรียนพิเศษของมต้นให้จบ แล้วอ่านของมปลายได้เลย(ทางนี้สำหรับเด็กอัจฉริยะ น้องจะเหนื่อย เพราะสมองของน้องต้องรับเนื้อหาของระดับชั้นทีสูงกว่า)
แต่ถ้าไม่...น้องอยากใช้ชีวิตแบบเด็กทั่วไป ระหว่างนี้ก็ทำงานอดิเรกไปก่อน เล่นกีฬา เล่นดนตรี ทำงานศิลปะ หรือจะอ่านหนังสือพวกการ์ตูนควา่มรู้ หนังสือฝึกภาษาอังกฤษ ทักษะคิดเลขเร็ว บลาๆๆๆ อะไรก็ได้ที่น้องสนใจ พี่ว่าสนุกและมีประโยชน์แน่นอน พอน้องอยู่ม3ก็ค่อยเตรียมตัวสอบเข้ารรมปลายดีๆ เตรียมอุดม มหิดล หรือจะอยู่โรงเรียนเดิมก็ว่ากันไป ถึงตอนนั้นค่อยอ่านของมปลาย :)
ถ้าสมัยนี้ต้องอ่านตั้งแค่ ม1
สงสัยสมัยลูกหลานเราคงต้องติวเข้ามหาลัยตั้งแค่ ป.1 แล้วมั้ง
เราว่าคนอื่นจะอ่านหนังสือยังไงก็เรื่องของเขาเถอะ เป้าหมายคนเราไม่เหมือนกัน และมันก็มีหลายวิธีที่จะไปถึงเป้าหมายนั้นๆ
จะมาบอกว่า จริงๆ จขกท เป็นคนอ่านหนังสือได้ตลอดเวลา หรือถามว่าทำไมหลายคนต้องมาเร่งอ่านตอน ม4
ถ้าทำแบบนั้นแล้วเขาทำตามเป้าหมายที่เขาตั้งไว้ได้ เช่น สอบติดมหาลัยรัฐดังๆ หรือเป้าหมายเขาคือมหาลัยอะไรก็ได้ที่เขามีความสุข เขาจะเรียนเอกชน เรียนต่างประเทศ เรียนนอกโลก มันก็เรื่องของเขา
รู้สึกว่ากระทู้ไม่ได้ encourageคนให้อ่านหนังสือ หรือต้องการให้shareเทคนิคจริงๆจังๆ
มันดูเป้นการพูดเรื่องส่วนตัวของ จขกท เองซะมากกว่า
ในความคิดเรานะ(วิชาคณิต) คือเราอยู่ม.ปลายและเคยไม่ติวข้อสอบเข้ามหาลัยเราบอกนะว่าเราไม่รู้เรื่องสำหรับสิ่งที่ยังไม่ได้เรียนแต่จุดประสงค์ที่เราเรียนคือการได้เห็นข้อสอบและได้รู้วิธีพลิกแพลงโจทย์(เพราะเราไม่มีความสามารถเรื่องนี้)
เพราะฉะนี่น(อาจจะไม่เกี่ยวนะ)ถ้าจะอ่านอะไรก็ต้องมีพื้นฐานอ่ะ อยู่ม.1ก็อ่านของม.4ได้แต่ก็ต้องอ่านของม.2 ม.3 ให้เข้าใจก่อน
ป.ล เราก็เคยคิดแบบนั้นแต่ทำไม่ได้TT(ไม่สามารถพอ) สู้ๆครับเจ้าของกระทู้
สู้ๆค่ะ
(หยอกๆ)
เอาจริงๆถ้าอยู่ ม.1 สำหรับคนธรรมดาไม่ได้ IQ สูงๆ แล้วมีแผนจะเข้ามหาลัยแบบจริงจังแล้ว รู้ตัวว่าอยากเข้าคณะอะไร เราว่าตั้งใจเรียนเพื่อให้พื้นฐานแน่นๆแต่ให้ค่อยๆเป็นค่อยๆไปดีกว่า ไม่ต้องเคร่งอะไรมาก พอขึ้นสัก ม.3 แล้วเริ่มอ่านเนื้อหา ม.4 อะไรแบบนี้น่าจะโอเคกว่าเริ่มอ่านตั้งแต่ ม.1 (เราว่ามันยังจะเร็วไปด้วยซ้ำ แต่โรงเรียนเรามีคนเริ่มอ่านเนื้อหา ม.ปลายตั้งแต่ ม.3 นะ) ยกเว้นว่าจะเป็นอัจฉริยะ ระดับทุนเล่าเรียนหลวง หรือมีแผนจะไปแข่งโอลิมปิกวิชาการตั้งแต่ ม.3 ม.4 หรือเป็นเด็กอินเตอร์จะสอบเทียบมหาลัยตั้งแต่ ม.4 อันนั้นก็แล้วแต่ค่ะ
ม.ต้น มันก็แค่พื้นฐานให้ไปต่อยอดสายสามัญแผนกวิทย์/ศิลป์ หรือสายอาชีพ เหมือนเป็นช่วงเวลาค้นหาตัวเองช่วงต้นๆ ก็แค่นั้นค่ะ ขยันก็ดี แต่เคร่งไปชีวิตมันก็ตึงเครียด เอาเวลาไปเล่นเกม ดูหนัง ฟังเพลง เที่ยวนิดๆหน่อยๆ นอนเล่นไร้สาระบ้าง ฯลฯ ให้เป็นสีสันชีวิตน่าจะดีเนอะ สมองซีกซ้ายจะไม่ได้ทำงานหนัก แบ่งให้สมองซีกขวาได้ลั้นลาบ้าง ยกเว้นว่าถ้าเกิดเสพติดการอ่านหนังสือเรียน(ซึ่งคงจะมีคนประเภทนี้น้อยมาก) อันนั้นก็อ่านไปเถอะค่ะ ไม่ว่ากัน แต่ก็เป็นคนส่วนน้อยทั้งนั้น
อีกอย่าง เราไม่เคยเห็นสัมภาษณ์ที่ 1 ของประเทศคนไหนที่บอกว่าเริ่มอ่านหนังสือตั้งแต่ ม.1 เลยนะ เห็นเร็วสุดก็ประมาณ ม.4 ม.5 บางคนเตรียมตัว ม.6 ก็มี (หรือว่ามี ก็ไม่รู้เพราะไม่เคยไล่ดูทุกสัมภาษณ์)
ขำภาพ 5555
จริงครับ ชีวิตมัธยมมันสนุกนะ มีครบทุกรส ผมนี่มีทั้งติดหญิง ไล่ตีกัน เที่ยวกลางคืน เล่นดนตรี ลองสูบนั่นนี่ แล้วสุดท้าย ม.ปลายก็ตั้งใจเรียน นึกย้อนแล้วมันคุ้มค่าจริงๆ
อืมมมมมมม เราคนนึงที่ไม่ได้เรียนพิเศษและก็เริ่มอ่านหนังสือตั้งแต่ม.4(อ่านแบบเผินๆ) มาอ่านหนักสุดๆก็ตอนม.6นี่แหละ แล้วก็มีเล่นเกมบ้างไรบ้าง ไม่สิ เรียกว่าเล่นทุกวันเลยดีกว่า5555 แต่เราก็สอบติดมหาวิทยาลัยที่ฝันได้สำเร็จอะ เราแค่จัดแบ่งเวลาให้มันพอดีๆก็พอ ไม่เห็นจะต้องงดเกมงดออกไปเที่ยวเลย
เราก็กำลังจะขึ้น ม.4 ยอมรับว่า ม.ต้น แย่มาก เป็นคนไม่ชอบอ่าน นส. หาแรงบันดาลใจยังไม่เจอ จนตอนนี้เราคิดจะเปลี่ยนตัวเองแล้ว สำหรับเรามันไม่มีคำว่าสายเกินไปหรอก เริ่มตอนไหนไม่สำคัญเท่ากับมีเป้าหมายที่แน่วแน่และพยายาม แต่ดีแล้วค่ะที่เริ่มไว้แต่เนิ่นๆ น้องๆที่เข้า ม.ต้นมาก็เริ่มไปเลย เพราะมันจะทำให้เป็นคนมีวินัยต่อการอ่านค่ะ ชื่นชมเจ้าของ กท.เรื่องการอ่านนะ แต่เราเริ่มต้นต่างกันไง พี่ชายของเราเริ่มต้นดีมาตลอด แต่พอค้นพบว่าตัวเองไม่ได้ชอบหมอจริงๆก็ตอนจะสอบเข้าแล้ว อะไรในชีวิตมันไม่แน่นอน ที่สำคัญคือช่วงสอบเข้านี่แหละว่าเราอยากจะเป็นอะไรจริงๆ เพราะมันจะวัดอนาคตของเราเองด้วย
ที่เราเริ่มอ่านหนังสือตอน ม.4 (แต่เราเรียนเคมีตอน ม.3 ไปเรียนกะพี่ ม.4) เรากะจะตั้งใจ ม.4 ตั้งใจนี่คือตั้งใจจริงๆไม่เที่ยวไม่เล่น ตั้งใจเรียนจริง ที่ไม่เริ่มอ่านตั้งแต่ ม.ต้น เพราะเราอยากให้ชีวิตเราช่วง ม.ต้น สนุก ไม่เครียด เราไม่แค่เกรดเลยตอน ม.ต้น เที่ยวเล่น เต็มที่ เพราะ ม.ต้น ยังไม่อะไรมาก เป็นพื้นฐานต่อ ม.ปลาย เกรดก็ประมาณ 3.5+ แต่ ม.ปลาย เราใช้เกรดตั้งแต่ ม.4 เกรดไม่ดี เรียนไม่ไ้ดก็แย่สิ แล้วถ้าเราตั้งใจ เราจะเอาเวลาไหนไปเล่น ไปเที่ยว เหมือนมอต้น เราเห็นหลายคน มอต้นตั้งใจเรียน แต่พอมอปลายดีแตกไปกับเพื่อนเพราะไม่เคย เปิดโลกใหม่สำหรับเด็กบ้างคน แล้วเคยได้ยินมั้ย ชีวิีตมัธยมสนุกที่สุด ย้อนกลับมาไม่ได้ เราเลยเอาชีวิต มอต้นสนุกที่สุด เพราะมอปลาย เรายอมรับเลยว่า เราหลงผิดง่ายมากก ถ้าเล่นคือเล่นไปเลย เสียคือเสียไปเลย เพราะงั้นเราเลยเริ่ม มอสี่ ไม่สนใจสังคม อยู่ในสังคมที่คิดว่ามันดีกับเรา ไม่จำเป็นต้องแค่ทุกคนแต่ก็ไม่ทำให้ใครเดือดร้อน สิ่งที่เราทำ #คหสต
ผมคิดว่าเด็ก ม.1 คงจะอ่านของ ม.ปลายไม่ไหวหรอกครับ คงน่าจะปวดหัว แต่ถ้าจะอ่านแต่ชั้นที่ตัวเองเรียนอยู่มันก็จะน่าเบื่อแล้วคงทนไม่ไหวอ่ะครับ
โตไปก็ไม่มีโอกาสที่จะไร้สาระขนาดนี้แล้ว
ถ้าเป็นพวกจำแล้วลืมง่าย อ่านมานานๆยิ่งไม่อยู่ในหัวสมอง
เตรียมตอนม.ต้นไปก็เท่านั้น นอกจากจะอยากเข้าโรงเรียนมัธยมปลายดังๆ
ยิ่งถ้าพื้นฐานไม่แน่นพอยิ่งไปต่อไม่ได้ อ่านไปก็งง ฝึกทำโจทย์ไปก็ทำไม่ได้
ชีวิตเด็กมัธยมเองก็ไม่ได้ว่างขนาดนั้น อ่านไปแต่ไม่ได้ใช้อีกสักพักก็ลืม
ทำไมเราไม่อ่านตั้งแต่ป.4 ทำไมต้องเริ่มอ่านตอน ม.1 โอ๊ะผิดๆ
ก็น่าจะเป็นเหตุผลเดียวกันหละครับ
การอ่านหนังสือ อาจจะทำให้เป็นคนเก่งได้
แต่ก็มีคนเก่งหลายยคนที่ แค่ตั้งใจเรียนในห้องอย่างเดียว ไม่ได้อ่านตะบี้ตะบันอ่าน
เราควรคิดว่า ความรู้ที่เราได้รับมา มีไว้ต่อยอดเพื่อความรู้อื่นๆ ไม่ได้อ่านเพื่อไปสอบอย่างเดียว
ม.ต้นมันไม่ใช่เวลาจะมาเคร่งเครียดอ่าน นส. แต่มันเป็นเวลาที่ต้องเล่นสนุก เรียนรู้มิตรภาพ และค้นหาตัวเอง
ถ้ายังค้นหาตัวเองไม่เจอ จะเอาเป้าหมายอะไรไปดำเนินชีวิต!!
เข้าใจว่าน้องเจ้าของกระทู้ไม่ได้หมายถึง เด็กมอหนึ่งควรจะอ่านเนื้อหามอปลายหรอกมั้งคะ แต่หมายถึง อ่านทบทวนบทเรียนไปเรื่อยๆ เก็บเนื้อหาบทเรียนตั้งแต่มอหนึ่งได้เลยต่างหาก
ซึ่งมันก็จะกลายเป็นพื้นฐาน จดจำได้ พื้นฐานแม่น ต่อยอดก็ได้ผลดี ดีกว่าเรียนผ่านๆ อ่านให้สอบได้ก็ลืมหมด แบบปกติมากกว่าค่ะ
ไม่ได้หมายถึงเด็กมอหนึ่งจะไปอ่านของมอปลายเลยหรอกค่ะ 5555
มั้ง บางคอหอไปไกล 55555
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?