พุ่งไปเลยหรือเก็บทั้งสอง
ตั้งกระทู้ใหม่
เราคือเด็กคนหนึ่งที่อยากเป็นหมอแต่ไม่รู้ว่าจะถึงฝันไหมเพราะโดยส่วนตัวก็ไม่ได้เป็นเด็กที่เก่งหรือขยันเท่าไหร่(ออกแนวขี้เกียจด้วยซ้ำ)
เคยคิดที่จะไปติวตอนปิดเทอมใหญ่ม.5แต่ก็สุดท้ายก็ไม่ได้ไปเพราะตารางติวของหลายๆสถาบันนั้นแน่นมาก(ก็รู้ค่ะว่าต้องเข้ม)แต่เราเป็นคนที่ค่อนข้างเข้าใจอะไรยากถ้าไปคงจะตามไม่ทันเพื่อน แล้วถ้าจะทบทวนก่อนนอนก็คงไม่ไหว(นอกจากจะไม่เข้าใจยังกวนเพื่อนให้มมาอธิบายอีกบวกกับความเมื่อยล้าที่สะสมในแต่ละวันด้วย)
เกรดเฉลี่ยที่โรงเรียนก็ปานกลางแต่ไม่สามารถใช้ยื่นรับตรงแพทย์แบบ4เทอมได้ ส่วนเกรดเฉลี่ย5เทอมอาจมีลุ้นแต่ถ้าเจาะลึกเป็นรายวิชาคงไม่ผ่านแน่ๆเพราะเกรดคณิต วิทย์ห่วยมากค่ะแค่เกาะเลข2อยู่ก็เกือบตายแล้ว
จากที่หาข้อมูลมาก็มี กสพท.ที่พอมีโอกาสเพราะไม่ดูเกรดเฉลี่ยแต่แน่นอนว่าคนอื่นๆก็ลงสนามนี้ด้วยโอกาสที่ว่าอาจจะริบหรี่สักหน่อยสำหรับเรา
ตอนนี้เริ่มอ่านหนังสือแล้วค่ะ(เริ่มช้ามาก)เพราะพึ่งตระหนักได้ นอกจากจะเริ่มช้าแล้วข้อมูลในหัวก็น้อยเหลือเกินจนต้องมองหาค่ายที่ไม่นาน(ประมาณ2-7วัน)ก็มีหลายค่ายอยู่เหมือนกัน เช่น ค่ายปั้นหมอ แต่ว่าช่วงเวลาของค่ายติวหมอส่วนใหญ่ที่หาเจอจะอยู่ช่วงปลายเดือนตุลาคมซึ่งพอมองไปดูปฎิทินGAT-PATทุกปีจะสอบช่วงนี้ด้วย(QwQ!!)
เอาแล้วค่ะเพราะพอลองมองดูตัวเองแล้วถ้าจะทุ่มสนามกสพท.เลยแล้วไปติวซะก็กลัวไม่รอด(ถึงรอดก็ปางตาย)แล้วกว่าจะประกาสผลก็เดือนเมษา(หลังรอผลสอบต่างๆนาๆ)ซึ่งถ้าพลาดหลังจากนั้นก็รอแอดอย่างเดียวซึ่งแอดมันก็ใช้GAT-PATด้วย
ถ้าจะเอาGAT-PATด้วย(สำรองเอาไปใช้รอบแอด)ก็อดติวแล้วก็ต้องอ่านหนังสือมากขึ้น(จะทำได้มั้ย!!!)แต่ว่ามันจะได้ความสบายใจ(รึเปล่า)ว่าอย่างน้อยๆก็มีสำรองไว้ละ
เลยเกิดการตบตีแย่งอาณาเขตกันของจิตใต้สำนึกจะเอาทั้งสองอย่าง หรือทุ่มกสพท.อย่างเดียวไปเลยดี เราเองก็ไม่รู้ว่าจะทำได้มั้ยเพราะเริ่มอ่านหนังสือแล้วท้อมากเหมือนไม่เคยได้เรียนมา(ส่งคืนครูหมด)แล้วตอนนี้กำลังดัดตัวเองอยู่ให้มาอ่านหนังสือไม่ไปเล่นโทรศัพท์ คอม ฯลฯ
ตอนนี้เหมือนมรสุมชีวิตเลยค่ะ ต้องอ่านหนังสือไปไฝว้กับคนเทพๆ ต้องเปลี่ยนตัวเองด้วย กำลังใจหดหายมากค่ะพลังใจก็เช่นกัน<<<นี่ล่ะค่ะสาเหตุที่มาตั้งกระทู้ว่าจะทุ่มหรือเอาทั้งคู่ดี
ถ้าใครสามารถแนะแนวทางได้จะเป็นพระคุณยิ่งค่ะ
9 ความคิดเห็น
ลองประเมินง่ายๆก่อนด้วยการทำเจ็ดวิชาเก่าครับ
ถ้าติดสักที่แน่ๆ อาจจะทุ่มให้กสพทเผื่อได้ที่ดีๆ
ถ้าไม่ติดก็เผื่อใจไว้ ฟิตแกทแพทผสมไปด้วยครับ
ขอบคุณค่ะตอนนี้กำลังหาข้อสอบเก่าพอดีเลย จะลองทำดูก่อนถ้าไม่โอเคค่อยเอาแกทแพทด้วย
ก่อนอื่นต้องถามตัวน้องเองก่อนว่าน้องอยากเป็นแพทย์จริงๆหรือไม่ ลองไปเสริชตามอินเทอร์เนตดูว่าคณะแพทย์ต้องเรียนอะไรบ้าง ใช้ชีวิตยังไง แล้วเรารับสภาพไหวไหม ชีวิตหมอลำบากมากถ้าน้องไม่ชอบจริงๆ การที่เป็นคนขี้เกียจก็ไม่ได้หมายความว่าจะเป็นหมอไม่ได้
หาคณะที่ใช่ก่อน แล้วที่สำคัญคือที่ จขกท บอกว่า อยากเป็นแพทย์ อยากเป็นเพราะอะไร ตอบตรงนี้ให้ได้ก่อน มันหมายถึงอาชีพที่จะต้องอยู่ไปตลอด ถ้าไม่ซิ่ว ไม่ใช่เพียงแค่คะแนนสอบเข้าเท่านั้น
ไม่ใช่แค่เพียง กสพท เป็นตัวชี้วัด คนที่สอบเข้าได้แต่ไทออกมาก็มีเยอะแยะ ขึ้นอยู่กับว่าเราชอบหรือเปล่า
ถ้าชอบจริง ให้มุ่งไปกสพทเลย
ขอบคุณค่ะที่เตือนสติเราลองคิดดูแล้ว เหตุผลที่อยากเป็นคืออยากจะช่วยเหลือคนที่ป่วยหรือไม่ป่วยด็ดี แค่อยากให้เขาหายทรมาณ ลองหาข้อมูลมาได้สักพักก่อนตั้งกระทู้แล้วค่ะ ชีวิตตอนเป็นนักศึกษาทรหดมากยังไม่นับตอนจบแล้วไปเป็นหมอที่ต้องหาความรู้อยู่เสมอแล้วไหนจะสถานที่ใช้ทุนอีก ถ้าเราสอบติดแล้วก็จะตั้งใจเรียนให้จบค่ะ จะลองทำสุดความสามารถถ้าไม่ได้ก็คงต้องหาทางอื่น(ซิ่ว) ขอบคุณสำหรับคำแนะนำนะคะ
ก่อนอื่นต้องถามตัวน้องเองก่อนว่าน้องอยากเป็นแพทย์จริงๆหรือไม่ ลองไปเสริชตามอินเทอร์เนตดูว่าคณะแพทย์ต้องเรียนอะไรบ้าง ใช้ชีวิตยังไง แล้วเรารับสภาพไหวไหม ชีวิตหมอลำบากมากถ้าน้องไม่ชอบจริงๆ การที่เป็นคนขี้เกียจก็ไม่ได้หมายความว่าจะเป็นหมอไม่ได้
หาคณะที่ใช่ก่อน แล้วที่สำคัญคือที่ จขกท บอกว่า อยากเป็นแพทย์ อยากเป็นเพราะอะไร ตอบตรงนี้ให้ได้ก่อน มันหมายถึงอาชีพที่จะต้องอยู่ไปตลอด ถ้าไม่ซิ่ว ไม่ใช่เพียงแค่คะแนนสอบเข้าเท่านั้น
ไม่ใช่แค่เพียง กสพท เป็นตัวชี้วัด คนที่สอบเข้าได้แต่ไทออกมาก็มีเยอะแยะ ขึ้นอยู่กับว่าเราชอบหรือเปล่า
ถ้าชอบจริง ให้มุ่งไปกสพทเลย
1.น้องเริ่มช้าไป...ทำไมรู้สึกตัวช้าขนาดนี้
2.ทำไมต้องเลือกว่าจะเตรียมสอบ กสพท. หรือ gat/pat ก็เตรียมไปให้หมดแหละครับ เพราะถ้าน้องไม่ได้แพทย์...รับตรงบางที่เค้าก็ใช้คะแนน 9 วิชาสามัญในการรับคนนะะ
3.ที่อ่านๆของน้องมา...ทำไมมีแค่คำว่า "ก็กลัว"..."คงไม่รอด"..."คงไม่ไหว"... เห่ย!น้อง ถ้าแค่นี้ไม่ไหวอย่าเรียนเลยหมออ่ะ เอาแค่คณะปกติน้องก็ไปไม่รอด...ลองพูดดิ "กูทำได้"..."กุจะต้องติด"..."อ่านแค่นี้กระจอกชิบหาย(เช็ดน้ำตาไปด้วย)"
4.แพทย์มีรับตรงหลายรอบ เช่น ปีที่ผ่านมา มีของ มข.,ม.บู,ม.สุรนารี ลองสอบแม่งให้หมด
5.เรื่องซิ่วเลิกคิด...ถ้าคิดได้ซิ่วจริงๆแน่
6.ถ้าปีนี้สอบไม่ได้...ไม่ต้องแอดครับเชื่อเถอะ...(ถ้าน้องอยากเป็นหมอจริงๆนะ)...เพราะนอกจากจะเสียเวลา...ยังเสีย เงิน ไม่ใช่น้อยๆนะครับ ทั้งค่าหอ ค่าเทอม ค่ารถ เอาไปลงเรียนพิเศษใหม่ดีกว่า...ไหนจะต้องอ่านที้งเรียนทั้งซิ่วเหนื่อยกว่าตอนนี้อีกนะ...ถ้าปีที่ 2 ยังสอบไม่ได้อีก..ก็คงไม่ใช่ทางของน้องล่ะ...ค่อยแอดครับ...ช้าไป 1 ปีคงไม่เสียหายอะไร.."ถ้าคณะที่เราได้ คือ คณะที่ใช่"
ทวนไปเลยน้อง ทำโจทย์เยอะๆ
พี่เพิ่งมารู้ตัวเองตอนปิดเทอมใหญ่ม.5ขึ้นม.6ว่าอยากเป็นหมอ
ตอนนั้นเรียนสะบั้นหั่นแหลกเลยค่ะ อะไรยังไม่รู้ก็เรียนให้หมด อะไรรู้แล้วก็ทวน
คือถึงแม้ว่าน้องจะสับสนว่าควรทุ่มทางไหน แต่ทั้งสองแบบน้องก็ต้องใช้ความรู้เป็นพื้นฐานทั้งนั้น
พี่อยากให้น้องสู้ค่ะ อ่านแล้วทำโจทย์เยอะๆ สนามไหนที่เรามีสิทธิสมัครก็ลงมันให้หมด เพราะ1สนามก็คือ1โอกาสที่น้องจะได้เป็นหมอ
แต่ถึงไม่ติดหมอ-ความรู้ที่น้องขวนขวายใส่สมองก็เป็นต้นทุนหนึ่ง เป็นคะแนนที่จะทำให้เรามีโอกาสติดคณะดีๆถ้าพลาดจากคณะแพทย์ไป
สู้ๆค่ะ ความสำเร็จจะเป็นของคนที่มีความเพียร
ปล. แต่พี่ก็ไม่ติดหมอนะ ทุ่มเทไม่พอ 55555 ยังไงก็ลองหาข้อมูลคณะอื่นเผื่อๆไว้ด้วยนะคะ
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?