แนะนำ 10 เพลงดี จาก 10 หนังดัง ที่คุณไม่ควรพลาด! (ภาค 1)

สวัสดีค่ะ เพื่อนๆ ชาวเด็กดีทุกคน

ทุกครั้งเวลาที่เราดูหนัง เรามักจะจำรายละเอียดเด่นๆ หรือ อะไรที่ประทับใจของหนังเรื่องนั้นกลับมาด้วยเสมอ จริงไหม ? ไม่ว่าจะเป็นฉากรักชวนละลาย ฉากกระชากน้ำตา หรืออื่นๆ อีกมากมาย

แต่มันยังมีอีกสิ่งหนึ่งที่น่าจดจำไม่แพ้รายละเอียดยิบย่อยเหล่านี้เลย นั่นก็ “เพลงประกอบ”

และวันนี้เราขอมาแบบแปลกๆ นิดนึง เพราะเราจะไม่ได้มารีวิวหนังหรือแชร์ประโยคโดนใจแบบครั้งก่อนๆ แต่ในวันนี้เราจะขอนำเสนอ “10 เพลงดี จาก 10 หนังดัง ที่คุณไม่ควรพลาด ภาคที่ 1”

บอกได้คำเดียวว่า ฟังแบบเพลินๆ พาเคลิ้มกันไปไม่แพ้กับการดูหนังเลยทีเดียว

(Source: http://f.ptcdn.info/400/021/000/1405758351-oBEGINAGAI-o.jpg )

ปล. เราขอไม่เรียงลำดับตามความเพราะหรืออะไรแต่อย่างใดนะคะ ขอเรียงลำดับตามตัวเลขปกติพอค่ะ

งั้นเราขอเริ่มที่บทเพลงแรกจากหนังดังเรื่องแรกกันเลยนะคะ

1. Me before you (2016) – Photograph : Ed Sheeran

(Source: http://f.ptcdn.info/260/043/000/o899dm4atRX0KUMjTIB-o.jpg )

เป็นหนังที่ว่ากันว่า ทำให้คนดูน้ำตาแตกกันมาแล้วมาทั่วทุกราชอาณาจักร ด้วยเรื่องราวของสาวเปิ่นบ้านฐานะยากจนที่ตามหาความหมายในชีวิต ต้องมาดูแลเศรษฐีหนุ่มมากประสบการณ์ที่เป็นอัมพาตทั้งตัว เรื่องราวความรักจึงเกิดขึ้น ไม่มีใครรู้ว่ามันเกิดขึ้นตอนไหน ใครเป็นคนเริ่ม แต่เขาทั้งสองรู้แค่ว่า “ชีวิตของเขาเริ่มเปลี่ยนไปตั้งแต่เจอเธอ”

2. Love, Rosie (2014) - Alone Again : Gilbert

(Source: http://images.glaciermedia.ca/polopoly_fs/1.1755252.1423251032!/fileImage/httpImage/image.jpg_gen/derivatives/landscape_804/love-rosie.jpg )

เป็นอีกหนึ่งภาพยนตร์ที่เราแนะนำอยากให้ทุกคนที่เป็นคอหนังโรแมนติก ดราม่า ดู เพราะเราเสียน้ำตาให้กับเรื่องนี้หนักมาก ความหมายของเรื่องลึกซึ้ง ทุกอย่างลงตัวไปหมด เป็นเรื่องราวของ สองเพื่อนสนิทต่างเพศ ที่ต่างฝ่ายต่างตกหลุมรักซึ่งกันและกัน แต่ไม่มีใครกล้าเผยความในใจ จนวันเวลาผ่านไป ทุกอย่างวนไปมา สวนทางกันอยู่เรื่อยๆ ทำให้ทั้งคู่ได้ค้นพบสิ่งที่อยู่ในใจพวกเขามานานแสนนาน

3. About Time (2013) – How long will I love you : Ellie Goulding

(Source: http://file2.answcdn.com/answ-cld/image/upload/f_jpg,w_672,c_fill,g_faces:center,q_70/v1/tk/view/cew/3/4/6/9/0/3469098159/199b484467c47df13eca3fc3a08cc486b29cfaaf.jpeg )

เป็นหนังโรแมนติก คอมเมดี้ ที่ ให้ความรู้สึก Feel good สุดๆ ไม่ได้ให้มุมมองแค่ความรักแบบผู้ใหญ่หรือหนุ่มสาว แต่รวมไปถึงความรักในแบบพ่อลูกและครอบครัว ที่พูดถึงชายคนหนึ่งที่เพิ่งค้นพบว่า เขาสามารถย้อนเวลากลับไปในอดีตได้ ทำให้เริ่มย้อนกลับไปจุดเริ่มเรื่องของความรัก เพื่อทำให้มันสมบูรณ์แบบและลงตัวสำหรับเขามากที่สุด

4. The Fault in our star (2014) – Boom crap: Chali XCX

(Source: http://www.correiodopovo.com.br/blogs/maispreza/wp-content/uploads/2014/01/tfios-still.jpg )

ในฤดูนี้ ช่วงที่สายฝนโปรยปราย อากาศเย็น ท้องฟ้าครึ่มๆ อารมณ์เทาๆ เราแนะนำให้ทุกคนดูหนังเรื่องนี้ เพราะมันกระชากอารมณ์ และเรียกน้ำตา Feeling หม่นๆ เคล้ากับสายฝนได้ดียิ่งนัก เรื่องราวของ ชายหญิงสองคน ที่ต่างฝ่ายต่างป่วยเป็นโรคมะเร็ง และทั้งคู่ได้เข้ามาเติมเต็มในส่วนที่ขาดหายไปของกันและกัน เราขอบอกไว้เลยว่า เราสะอื้นแรงมาก

ปล. แต่เพลงประกอบเรื่องนี้ออกแนวใสๆ แหะ

5. Letter to Juliet ( 2010) - Love Story : Taylor Swift

(Source: https://lunastarz.files.wordpress.com/2015/11/13c26-letterstojulietimagestill3.jpg )

เราว่าคนเลือกเพลงประกอบหนังเรื่องนี้ฉลาดเลยทีเดียว เพราะ ทั้ง Plot หนัง / ชื่อเรื่อง รวมไปถึงความหมายของเพลง ทุกอย่างเข้ากันเป็นเรื่องราวเดียวและถ่ายทอดอารมณ์ออกมาได้เป็นอย่างดี Letter to Juliet เป็นเรื่องราวของหญิงสาวคนหนึ่งที่กำลังจะไปพักผ่อนที่ประเทศอิตาลีก่อนที่เธอจะแต่งงาน เธอได้เดินทางท่องเที่ยวไปยังเมืองต่างๆ และไปเจอบ้านของจูเลียตเข้า พร้อมกับค้นพบจดหมายสารภาพรักของเมื่อ 50 ปีก่อนเข้า ดังนั้นเธอจึงตัดสินใจออกเดินทางช่วยเหลือบุคคลในจดหมายให้สมหวังกับรักแท้

อีก 5 เพลงที่เหลือ ต่อได้ที่ Comment ด้านล่างเลยค่า

Chutamas T 27 มิ.ย. 59 เวลา 23:22 น.

63,447

views

แสดงความคิดเห็น

5 ความคิดเห็น

Chutamas T 27 มิ.ย. 59 เวลา 23:40 น. 1

6. Twilight 4 (2014) – A Thousand years : Christina Perri

(Source: http://c85c7a.medialib.glogster.com/media/06/0653ee1df3a30c1fe213cc386cd9927499bc038e28a20c4ea1e90312cc252399/twilight-breaking-dawn-part-1-wedding-krsiten-stewart-and-robert-pattinson-1.jpg )

หนังโรแมนติก แฟนตาซี ระหว่างแวมไพร์และมนุษย์ที่เป็นอมตะแห่งปี 2000 เราว่าแทบไม่มีใครไม่รู้จักหนังเรื่องนี้ แต่สิ่งที่ชอบมากที่สุดของหนังเรื่องนี้ในทั้งหมด 4 ภาค คือ ฉากการแต่งงานระหว่าง เบลล่าและเอ็ดเวิร์ด เพราะเราดูแล้วรู้สึกเหมือนการรอคอยทั้งหมดของพวกเขามันสิ้นสุดลงแล้ว ไม่ต่างจากความหมายของเพลงประกอบเลยจริงๆ (น้ำตาซึมประทับใจ)

7. 50 Shades of Gray (2015) – Love me like you do : Eillie Goulding

(Source: https://s3-ap-southeast-1.amazonaws.com/cosmenet/upload/content/Cosme+Inside/21913-inside-why50gray/50shadesofgrey.jpg )

**คำเตือน : หนังเรื่องนี้เหมาะกับบุคคลที่มีอายุตั้งแต่ 21 ปีขึ้นไป หากใครอายุยังไม่ถึง รบกวนฟังแต่เพลงไม่ต้องหาหนังดูนะจ๊ะ ไม่เหมาะสมเท่าไร

ว่าด้วยเรื่องนิยายรักอิโรติกชื่อดังกระช่อนโลก (เราเป็นหนึ่งในแฟนหนังสือ) ที่บอกเล่าเรื่องราวของความสัมพันธ์ที่ค่อนข้างซับซ้อนของ เกรย์ และ แอนัสเตเซีย โดยต้องบอกเลยว่าเพลง Love me like you do นั้น เปิดตัวก่อนที่หนังจะเข้าและเพียงแค่ไม่กี่วัน ก็กวาดยอดวิวไปแล้วมากกว่า 1 ล้านวิว บอกได้คำเดียวเลยว่า เพลงของเขาดีจริงๆ

ปล. เราชอบเพลงนี้เป็นพิเศษ อาจจะเพราะว่าเราเป็นแฟนของนักร้องคนนี้อยู่แล้วด้วยละ :P

8. Begin Again (2014) – Lost Star : Adam Levine

(Source: http://cbsnews2.cbsistatic.com/hub/i/r/2014/07/11/bea761b1-bfb9-4ad6-b75c-cce45b667eac/thumbnail/620x350/79cad819a913af3feba3803db7ec9bb2/kjeira-knightley-begin-again-guitar.jpg )

เป็นหนังที่เราดูเพราะนักแสดงเลยทีเดียว (รู้กันอยู่เน่อะ) ไม่ใช่ !! เพราะเป็นหนังที่มาจากผู้กำกับมือดีที่สร้างชื่อให้กับเรื่อง Once มาแล้ว Begin Again เป็นหนังแนว โรแมนติก ดราม่า และ มิวสิค ที่ทั้งเรื่องจะมีแต่เพลง และเพลงในเรื่องทุกเพลงบอกได้เลยว่าเพราะทุกเพลง แต่ที่เราชอบมากที่สุดคงหนีไม่พ้นเพลง Lost Star หากถามว่าเพราะอะไร เราคงตอบว่าเป็นจังหวะ และ ที่สำคัญคือความหมายของเพลง เพราะเราคิดว่า มันเข้ากันดีอีกทั้งยังเป็นเหมือนการสะท้อนความหมายของชื่อหนังผ่านบทเพลงนี้ได้อีกด้วย

9. Warm Bodies (2013) – Hungry heart : Brue Springsteen

(Source: http://cdn.collider.com/wp-content/uploads/nicholas-hoult-teresa-palmer-warm-bodies.jpg )

เราเป็นอีกคนหนึ่งที่หลงเสน่ห์ของพระเอกเรื่องนี้ เอ่ย !! หนังเรื่องนี้และเพลงเข้าอย่างจัง Warm Bodies พูดถึงความรักระหว่างซอมบี้และมนุษย์ โดยที่พระเอกซอมบี้หนุ่มของเรามีงานอดิเรกคือความสะสมของเก่าและเพลงเก่า ถึงแม้เขาจะเป็นซอมบี้ แต่เขาก็มีความคิดที่ว่า ความรักจะเป็นตัวช่วยเยียวยาความด้านชาในใจของเขาได้ อีกทั้งหากใครที่ชอบเพลงที่มีกลิ่นอาย ป๊อปร็อค สไตล์วินเทจแบบเราแล้วละก็ อย่าพลาดเพลงนี้เด็ดขาด

10. Coyote Ugly (2000) - Can’t Fight the moon light : LeAnn Rimes

(Source: https://bellscorners.files.wordpress.com/2013/05/image_1.jpg )

ถ้าเกิดสมมติเราบอกไปว่าเราดูหนังเรื่องนี้ตั้งแต่อายุเท่าไร ทุกคนในกระทู้นี้อาจจะรู้อายุเราออกทันที ฮ่าๆ เอาเป็นว่า เราดูหนังเรื่องนี้เพราะคุณพ่อชวนดู เท่านั้นแหละ ตามหาแผ่น CD ของคนร้องเพลงประกอบหนังเรื่องนี้ทันที Coyote Ugly ดูชื่ออาจจะเหมือน โคโยตี้ เต้นๆ แบบบ้านเราหรือเปล่า No!! ค่า เป็นเรื่องราวของเด็กสาวชนบทที่เข้ามาตะกายความฝันในการเป็นนักแต่งเพลงในเมืองหลวง แต่เกิดเหตุบางอย่างที่ทำให้เธอต้องผลันตัวเองมาเป็น สาวโคโยตี้ในบาร์แทน และที่สำคัญหากใครที่เคยดูหนังเรื่องนี้แล้วละก็ จะนึกถึงเพลงนี้อัตโนมัติเลยทันที ไม่เชื่อลองดู !

จบแล้วจ้า ภาคแรก เดี๋ยวมาต่อภาคที่ 2 ให้ในเร็ววัน
แต่ถ้าเพื่อนๆ คนไหนมีเพลงอะไรแนะนำ มาแชร์กันนะคะ

ยังไงซะ ก็ขอบคุณที่ติดตามกันค่ะ

ของขวัญ