ผลการจัดการเรียนรู้โดยใช้ชุดการเรียนคณิตศาสตร์ร่วมกับเทคนิคการเรียนแบบ STAD เรื่่อง อัตราส่วนตรีโกณมิติ เพื่อส่งเสริมทักษะ การแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ ของนักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5
ชื่อเรื่อง ผลการจัดการเรียนรู้โดยใช้ชุดการเรียนคณิตศาสตร์ร่วมกับเทคนิคการเรียนแบบ STAD
เรื่อง อัตราส่วนตรีโกณมิติ เพื่อส่งเสริมทักษะการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5
ผู้วิจัย ศิริวรรณ ชัยมะณี
ตำแหน่ง ครูโรงเรียนสิงห์สมุทร อำเภอสัต-บ จังหวัดชลบุรี
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เพื่อหาประสิทธิภาพของชุดการเรียนคณิตศาสตร์ร่วมกับเทคนิคการเรียนแบบ STAD เรื่อง อัตราส่วนตรีโกณมิติ เพื่อส่งเสริมทักษะการแก้ปัญหา ทางคณิตศาสตร์ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2)เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนคณิตศาสตร์ก่อนเรียนและหลังเรียน ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ที่ได้รับการจัดการเรียนรู้ โดยใช้
การแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ 3)เพื่อเปรียบเทียบทักษะการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ของนักเรียน
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 หลังการจัดการเรียนรู้ โดยใช้ชุดการเรียนคณิตศาสตร์ร่วมกับเทคนิคการเรียน
แบบ STAD เรื่อง อัตราส่วนตรีโกณมิติ เพื่อส่งเสริมทักษะการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ กับเกณฑ์
ร้อยละ70 4)เพื่อศึกษาระดับความพึงพอใจในการเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5หลังการจัดการ
เรียนรู้ โดยใช้ชุดการเรียนคณิตศาสตร์ร่วมกับเทคนิคการเรียนแบบ STAD เรื่อง อัตราส่วนตรีโกณมิติ
เพื่อส่งเสริมทักษะการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้เป็นนักเรียน
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5/4 โรงเรียนสิงห์สมุทร อำเภอสัต-บ จังหวัดชลบุรี ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2558 จำนวน 30 คน ซึ่งได้จากการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster random sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย
ประกอบด้วยแผนการจัดการเรียนรู้ ที่ใช้ชุดการเรียนคณิตศาสตร์ร่วมกับเทคนิคการเรียนแบบ STAD
เรื่อง อัตราส่วนตรีโกณมิติ เพื่อส่งเสริมทักษะการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 จำนวน 9 แผน ชุดการเรียนคณิตศาสตร์ร่วมกับเทคนิคการเรียนแบบ STAD เรื่อง อัตราส่วนตรีโกณมิติ
เพื่อส่งเสริมทักษะการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 จำนวน 7 ชุด แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนคณิตศาสตร์ เรื่อง อัตราส่วนตรีโกณมิติ ซึ่งเป็นแบบปรนัยเลือกคำตอบชนิด 4 ตัวเลือก จำนวน 30 ข้อแบบทดสอบย่อยประจำชุดการเรียน ชุดที่ 1-7 จำนวน 7 ชุด แต่ละชุดมี 2 ตอน ตอนที่1 แบบปรนัยเลือกคำตอบชนิด 4 ตัวเลือกจำนวน 5 ข้อและตอนที่ 2 แบบอัตนัยแสดงวิธีทำจำนวน 2 ข้อและแบบสอบถามความพึงพอใจในการเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5หลังการจัดการเรียนรู้โดยใช้
ชุดการเรียนคณิตศาสตร์ร่วมกับเทคนิคการเรียนแบบ STAD เรื่อง อัตราส่วนตรีโกณมิติเพื่อส่งเสริมทักษะ
การแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์จำนวน 20 ข้อ การวิเคราะห์ข้อมูลใช้ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ยเลขคณิต ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานและการทดสอบที(t-test)
ผลการวิจัยปรากฏว่า
1. ค่าประสิทธิภาพของชุดการเรียนคณิตศาสตร์ร่วมกับเทคนิคการเรียนแบบ STAD
เรื่อง อัตราส่วนตรีโกณมิติ เพื่อส่งเสริมทักษะการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษา
ปีที่ 5มีประสิทธิภาพสูงกว่าเกณฑ์ 80/80 ที่ตั้งไว้โดยมีค่าประสิทธิภาพเท่ากับ84.81/83.13
2. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนคณิตศาสตร์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ที่ได้รับการจัดการเรียนรู้โดยใช้
ชุดการเรียนคณิตศาสตร์ร่วมกับเทคนิคการเรียนแบบ STAD เรื่อง อัตราส่วนตรีโกณมิติ เพื่อส่งเสริมทักษะ
การแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ.01
3. ทักษะการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 หลังการจัดการเรียนรู้ โดยใช้
ชุดการเรียนคณิตศาสตร์ร่วมกับเทคนิคการเรียนแบบ STADเรื่อง อัตราส่วนตรีโกณมิติ เพื่อส่งเสริมทักษะ
การแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ มีคะแนนเฉลี่ยคิดเป็นร้อยละ 85.37 สูงกว่าเกณฑ์ร้อยละ 70 อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ.01
4. ระดับความพึงพอใจในการเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 หลังการจัดการเรียนรู้โดยใช้ชุดการเรียนคณิตศาสตร์ร่วมกับเทคนิคการเรียนแบบ STAD เรื่อง อัตราส่วนตรีโกณมิติ เพื่อส่งเสริมทักษะการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์โดยรวมอยู่ในระดับมาก (
แสดงความคิดเห็น