ความถนัดแพทย์ยากมากไหมคะ จำเป็นต้องเรียนไหมคะ
ตั้งกระทู้ใหม่
คุณต้องการจะลบกระทู้นี้หรือไม่ ?
13 ความคิดเห็น
........คือ เราว่าแกทยากนะ...
/คหสต. เชาว์เราซื้อ นส .มาฝึกอ่ะ
แนะนำให้เรียนนะ-- อาจแพงหน่อยแต่ถ้าแรกกับการเพิ่มโอกาสสอบติดเราว่าคุ้มนะ
ประมาณ30กว่าชั่วโมง
จากการสอบ ค.ถนัดแพทย์ที่ออนดีมานสมัยม.4
เชื่อมโยง0
เชาว์52
จริยธรรม 83
อาจเป็นเพราะเราไม่รู้จักคำว่าเชื่อมโยงมาก่อน
แต่เราขอแนะนำนะ เรียนเถอะ สถาบันไหนก็ได้มีทั้งออนดีมาน เดอะเบรน แอพพราย บลาๆ
สู้ๆนะพี่555+ผมเด็ก61//
เราอยากแนะนำให้เรียนนะ
คือเราลองซื้อหนังสือมาทำแล้วไม่รอดอะ ไม่อึดขนาดนั้นㅜㅡㅜ เราว่าเชื่อมโยงยากจริงๆ เราว่าแกทเราทำได้แต่มากสพท.แล้วเงิบมากกก
ส่วนตัวถ้าไม่ใช่สายแข็งแบบขยันเปิดหนังสือทบทวนจริงๆอยากให้เรียนนะ เราก็ยังไม่ได้แตะฟิเลย ละรู้สึกว่าอันนี้อ่านเองไม่ได้จริงๆพรุ่งนี้จะไปสมัครของออนดิมานแล้วเนี่ย555
แต่นอกจากลงเรียนแล้วว่างๆแบบระหว่างคาบในห้องเราอยากแนะนำให้มีหนังสือมานั่งทำโจทย์เล่นนะ คือเวลาเราเรียนเสร็จกลับบ้านแล้วไม่ได้ทบทวนอะ หลับอย่างเดียว5555 เออเราก็เรียนกลางๆเหมือนกันๆ
จากประสบการณ์ส่วนตัวเราว่าทุกคนมันมีเวลาพอเว้ย แต่แค่แต่ละคนจะตัดการกับมันยังไง:3
#จากเด็ก60ที่จัดการเวลาไม่เป็น;_;แต่พยายามอยู่..
เราไม่เรียนน่ะ ได้ความถนัดประมาณ 21%
เราดูตามคลิปในยูทูป + ซื้อหนังสือมาอ่าน
พาร์ทไอคิว เป็นพาร์ทที่อัพคะแนนยาก ถือว่าสมองเรามีแค่ไหนก็แค่นั้น เราได้ประมาน ไม่ถึง 50 อ่ะ
พาร์ทจริยธรรม มันจะมีหลักของมันอยู่บ้างน่ะ ไม่รู้สอเทอต้องลองดูๆที่เค้าสอนอ่ะ ที่สอนฟรีตามเน็ต เยอะแยะไป เราได้พาร์ทนี้ 60 กว่าๆ
พาร์ทเชื่อมโยงง่ายที่สุด ถ้าเป็นไปได้ควรเต็ม 100 แต่เราก็ไม่ได้เต็มน่ะ ได้ 98 กว่าๆ ตอบไม่ครบไปข้อหนึ่ง
สุดท้ายนี้แล้วแต่เทอแหล่ะว่าจะอ่านเอง หรือ เรียน
ตอบ 1. เกรด 3.5 เรียน รร.อะไร
2. สายสุขภาพรับเข้าหลายรูปแบบไม่จำเป็นต้องสอบความถนัดแพทย์ กสพท.
3. รู้ได้ยังไงว่าไม่เก่ง พาร์ทจริยธรรมกับไอคิว เพราะข้อสอบจริงไม่มีเผยแพร่ และก็เปลี่ยนทุกปี
4. เรียนพิเศษไม่จำเป็น อยู่ที่การฝึกฝนและความมุ่งมั่น อยากเป็นหมอจริงหรือเปล่า ตอนนี้ก็ยังทันไม่มีคำว่าสาย
5. เกินหรือไม่เกิน20 ไม่ใช่ปัญหา ติดได้ทั้งนั้น
ซื้อหนังสือมาอ่านเองพี่ก็ไม่ค่อยแนะนำนะ เพราะหนังสือตามท้องตลาดมันง่ายกว่าข้อสอบจริงมากๆ(มากในระดับที่ว่ามีเคยจับเวลาทำพาร์ทไอคิวได้เต็มร้อย
ส่วนตัวพี่เป็นคนหัวดีนะ ได้ทั้งวิทย์และศิลป พี่ได้ความถนัด 23นิดๆ พี่อ่านของออนดีมานด์ที่เดียว แต่ตามจริงไม่ต้องเรียนก็ได้ในความคิดพี่ ช่วยไม่ค่อยได้ แต่การจะได้โจทย์ที่เป็นข้อสบจริงมาหัดทำ มันก็หาได้แค่ในกวดวิชา ถ้าให้แนะนำ อย่างน้อยที่สุดไปขอซีร็อกเพื่อนที่เรียนมาอ่านเองครับ จะช่วยได้มากในพาร์ทเชื่อมโยง ส่วนไอคิวเรารจะได้โจทย์ยากจริงๆ โจทย์ของจริง จะได้ช่วยฝึกได้ในอีกระดับ
พาร์ทเชื่อมโยง พาร์ทนี้บุญกรรมเก่าครับ อัพคะแนนให้สูงยาก ต้องใช้เวลาเยอะมาก แล้วแต่คนจริงๆ และด้วยเวลาเหลืออีกสองเดือนนิดๆ ไม่ทันแน่นอน ศึกษาให้พอรู้แนวโจทย์ดีกว่า แล้วหัดทำโจทย์บางชนิด เช่่นโจทย์เงื่อนไขต่างๆ ศึกษาลักษณะข้อสอบ มันมีข้อง่ายๆอยู่ เช่นพวกภาษาไทย ตีความ เซตสามเซต ฯลฯ ก็ไปเก็บให้หมด เลือกทำข้อง่ายๆก่อน น้องทำได้ซัก 18/45ข้อซึ่งมีข้อง่ายๆให้ทำอยู่แล้ว ที่เหลือพวกให้ได้ซัก5ข้อ แค่นี้ก็เกิน 50 แล้วครับ
พาร์ทจริยธรรม แนะนำให้อ่านเล่มเดียว ไม่งั้นจะตีกัน เน้นเข้าใจคอนเซป ไม่ต้องหัดทำโจทย์เยอะ เสียเวลา ให้เราเข้าใจคอนเซฟ คิดแบบหมอดูว่าจะทำยังไง ลองซีร็อกโจทย์มาทำมันจะเห็นแพทเทิร์นเอง แต่ไม่ต้องเชื่อมาก พี่เด็กซิ่วนะ ปีแรกไม่เรียนได้หกสิบกว่า ปีนี้เรียนได้น้อยกว่าเดิม 555555
พาร์ทเชื่อมโยง ฝึกโจทย์เยอะๆก็พอแล้ว พอทำโจทย์ไประดับนึงน้องจะรู้เองว่าจุดหลอกมีอยู่แค่ไม่กี่ที่ ที่เหลือก็จับเวลาให้ทำทันแค่นั้น
พี่ค่อนข้างเชียร์ออนดีมานนะ ไปยืมเพื่อนมาซีร็อก ไม่ก็ไปเรียนก็ได้ เพราะพี่เคยเอาหนังสือของอีกที่มาซีร็อก(ที่ๆสอนคถนัดแพทย์ด้วยฟิสิกส์ด้วย) ที่นั้นโจทย์จริงไม่ค่อยมี(ในพาร์ทไอคิว) โจทย์ง่ายมากๆ เลยเชียร์อันนี้มากกว่า
สู้ๆละกัน
ทำไมถึงว่าพาร์ทเชื่อมโยงอัพคะแนนยากล่ะคะ? เราว่าพาร์ทเนี่ยนี่แหละที่จำเปนต้องได้เต็ม แล้วคนก้ได้เต็มกันเยอะด้วย แล้วอารัยคือไม่ทัน 2เดือนสำหรับเชื่อมโยง เรามองว่ามันทัน ฟันเต็มก้ไม่ยาก พาร์ทนี่ต้องเก็บให้ได้มากสุดๆ เพราะถ้าพลาดคือ คนอื่นเค้าได้เต็มกันอะ มันก้จะห่างกันหลายคะแนน
ส่วนพาร์ทที่ต้องใช้บุญเก่าจิงๆก้คือIQ เพราะวัดไหวพริบ ความคิดเรา มันต้องฝึกเรื่อยๆ ซึ่งข้อสอบมันก้ยากมากๆด้วย คนส่วนใหญ่ได้ไม่ถึง50กันอะ
พิมพ์ผิดครับ เปลื่ยนหัวข้ออันแรกจากเชื่อมโยงเป็นไอคิว มึนไปหน่อย แต่รายละเอียดที่เห็นก็เป็นพาร์ทไอคิวนะครับ ทั้งจำนวนข้อสอบ รายละเอียด ข้อมูล ซึ่งถูกแล้ว
ผมเดาว่าเค้าจะอธิบายพาร์ทไอคิวแหละครับ เนื้อความเป็นพาร์ทไอคิว
เรื่องเก่า เล่าใหม่
เคยรู้จักเด็กคนหนึ่ง ไม่เคยเรียนพิเศษความถนัดแพทย์ที่ใดเลย แม้แต่ครั้งเดียว
และไม่เคยได้อ่านชีทเรียนพิเศษความถนัดแพทย์ของสำนักใดเลย
ใช้วิธีซื้อหนังสือมาอ่านเอง ทำแบบฝึกหัดเอง ประหยัดเงินพ่อแม่ได้ตั้้งเยอะ
แล้วไปสอบความถนัดแพทย์
ปี 55 (ปีแรก) ได้ 19.27 ฉบับที่ 1 ได้ 40.00 ฉบับที่ 2 ได้ 58.75 ฉบับที่ 3 ได้ 94.00
ปี 56 (ปีที่สอง) ได้ 23.2093 ฉบับที่ 1 ได้ 74.4186 ฉบับที่ 2 ได้ 60.00 ฉบับที่ 3 ได้ 97.6744
สอบครั้งที่ 2 ทั้งๆที่ต้องเรียนหนัก เรียนปี 1ที่จุฬาด้วย ซิ่วด้วย
ถามว่า จำเป็นต้องเรียนพิเศษความถนัดแพทย์หรือไม่ ถ้าดูจากผลงานจริงของตัวอย่างนี้ ก็คิดว่าไม่จำเป็นต้องเรียนพิเศษความถนัดแพทย์แต่อย่างใด
สรุป เรียนพิเศษความถนัดแพทย์จำเป็นหรือไม่ ส่วนตัวเห็นว่า แล้วแต่ความถนัดของแต่ละคน และขึ้นอยู่กับรายได้ของพ่อแม่ของแต่ละคน ถ้าพ่อแม่ไม่รวย ไม่มีเงินเรียนพิเศษความถนัดแพทย์เลย จะเสียเปรียบหรือไม่ คิดว่าไม่เสียเปรียบ อ่านหนังสือเอง ไปสอบความถนัดแพทย์ คิดว่าได้คะแนนไม่แพ้คนเรียนพิเศษ ตามเคสตัวอย่างของจริง
ที่มา http://www.dek-d.com/board/view/3619509/
ถ้าไม่มีเงินซื้อหนังสือได้หลายเล่ม
ให้อ่านความถนัดแพทย์ของ The Books เล่มเดียว ก็ดีเพียงพอแล้ว
แต่ถ้าไม่เดือดร้อนเรื่องเงิน มีเงินซื้อหนังสือได้หลายเล่ม ขอแนะนำเพิ่มเติม ดังนี้
ข้อสอบฉบับที่ 1 เชาว์ปัญญา ส่วนนี้ยากปานกลาง ต้องใช้ความเร็ว
ระวังทำไม่ทัน ให้ซื้อแบบทดสอบไอคิว เล่ม 1 เล่ม 2 และ SAT (ความถนัดเชิงวิชาการ)
เพื่อเสริมทักษะ ฝึกทำเยอะๆ เพื่อทำความเร็ว เวลาสอบจริง จะได้ไม่ต้องคิดนาน
ขอให้ได้ 70 ขึ้นไป หรือ 60 กว่าๆ ก็ได้
ข้อสอบฉบับที่ 2 จริยธรรม อ่านใน The Books ส่วนนี้ทำคะแนนได้ยากที่สุด
เล่มนี้ใช้กันมานานหลายรุ่นแล้ว ตั้งแต่ใช้ชื่อผู้แต่งเป็นนิสิตแพทย์รามา
ปรับปรุงเพิ่มเติมเรื่อยมากจนถึงปัจจุบัน
สมัยก่อนไม่ค่อยมีหนังสือประเภทนี้ขาย หาซื้อหนังสือเตรียมสอบยากมาก
ขอให้ได้ 60 ขึ้้นไป หรือ 50 กว่าๆ ก็ได้
ข้อสอบฉบับที่ 3 ความคิดเชื่อมโยง อ่านใน The Books
และหนังสือ GAT ที่ดีๆ หลายๆ เล่มที่ชอบและใช้เตรียมสอบ GAT เชื่อมโยงได้ด้วย
ส่วนที่ 3 นี้ทำคะแนนได้ง่ายที่สุด ขอให้ได้ 100 เต็ม หรือ 90 กว่าก็ได้
เพราะจะไปหวังเอาคะแนนจากส่วนที่ 1 ส่วนที่ 2 ให้ได้คะแนนเยอะๆ เหมือนส่วนที่ 3 เป็นไปไม่ได้
ที่มา http://www.dek-d.com/board/view/3121047/
ความถนัดแพทย์ การเตรียมตัวอ่านหนังสือ ทำแบบฝึกหัด ทำข้อสอบเก่าใช้เวลาไม่มาก เหมือน 7 วิชาสามัญ อย่าเสียเวลาเตรียมตัวกับความถนัดแพทย์มากนัก ตอนนี้ช่วงเวลาเร่งด่วน ถ้าเรียนพิเศษวิชานี้เพิ่ม ต้องเสียเวลาเรียน เดินทางไป-กลับบ้านหรือโรงเรียนกับสถานที่เรียน หลายชั่วโมง สู้เอาเวลาที่ต้องเสียไป อ่านหนังสือเองดีกว่า ประหยัดค่าใช้จ่าย อ่านได้เร็วกว่าด้วย
ถ้าใครมีข้อสอบเก่าความถนัดแพทย์ กสพท.ที่รุ่นพี่ เด็กเตรียมฯ ทุกรุ่นที่เข้าสอบ
จำออกมาคนละ 2 ข้อ แล้วรวบรวมทำเป็นข้อสอบจริงความถนัดแพทย์ครบทุกข้อ
โดยรวบรวมจากเด็กเตรียมฯ ผู้เข้าสอบทุกคน พร้อมจัดทำเฉลยให้ด้วย
เพื่อส่งมอบให้รุ่นน้องปีต่อๆไปนั้น ก็จะยิ่งดีมากๆ เพราะเป็นข้อสอบเก่า ข้อสอบจริงที่ดีมากๆ และเป็นประโยชน์ในการสอบความถนัดแพทย์อย่างมากๆ
ถ้าใครไม่มีข้อสอบเก่า ข้อสอบจริงดังกล่าวในแต่ละปี ให้พยายามขอถ่ายเอกสารจากเด็กเตรียมฯ ก็จะได้ของดีที่สุด เป็นประโยชน์ในการสอบความถนัดแพทย์มากที่สุด เพราะจะได้เห็นข้อสอบเก่า ข้อสอบจริง เพื่อเป็นแนวทางในการเตรียมตัวสอบได้ดีที่สุด ถูกต้องมากที่สุด
ความจริงยังมีอีกหลายกระทู้ที่แนะนำเกี่ยวกับเรื่องความถนัดแพทย์
ลองให้กูเกิ้ลช่วยค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมได้
โหวววเม้นบนๆ ข้อมูลปึก ๆ กันทั้งนั้น คารวะ สรุปจะอ่านเองก็ได้ หรือจะลงติวก็ได้ เอาที่สะดวกเลยครับ
ผมลงติวนะแต่ก็อ่านเองควบไปด้วย อะไรที่ไม่ชัวร์ก็ต้องซ้ำเยอะๆ ผลที่ได้ก็อยู่ที่ตัวเราล้วนๆ ถ้าจะเรียนก็เลือกที่เหมาะกับตัวเอง ผมเลือกแอพพลายด์ เพราะเรียนฟิสิกส์อยู่ที่นี่ก่อนแล้ว สไตล์แอพก็เร็วแต่รู้เรื่อง เน้นจุดที่สำคัญ และการตีโจทย์ของที่นี่พี่หมอสอนทริคได้สะใจมาก ผมก็ได้คะแนนเต็มตามระเบียบ
//เด็กพี่หมอป๋อม ศิษย์สำนักแอพพลายด์
พวก gat มันอาจจะง่ายสำหรับหลายคนแต่ก็มีอีกหลายคนที่ทำไม่ได้จริงๆ ถ้าไม่มั่นใจผมก็อยากให้ลองลงเรียนดู แนะนำแอพพลายด์อีกเสียง ที่แนะนำเพราะพี่หมอเขาไม่สอนวกไปวนมา ไม่ชวนคุยไปเรื่อยแบบที่อื่น พี่หมอสอนให้จับจุดคำถามคำตอบ เรียนไม่เครียด พอตอนไปสอบก็รู้สึกมั่นใจมาก!!!
กรณีผมซื้อหนังสือข้างนอกมาทำโจทย์เพิ่มด้วย เพื่อความชัวร์และวัดผลตัวเอง
เราว่ามันไม่ได้ยากนะแต่แบบมันต้องคิดเยอะ ๆ หัวต้องไว ข้อสอบเยอะมากด้วย ถ้าคิดเยอะเกินไปจะทำไม่ค่อยทัน
เราจะบอกว่า พาร์ทIQ มักจะทำไม่ค่อยทันกัน
พาร์ท จริยธรรม ตอบให้เหมือนคนปกติธรรมดาทั่วไปที่มีจิตสาธาณะ อย่าดีเกินไป เพราะไงมันก็ต้องเดาใจคนออกข้อสอบจริงๆ
อยากให้ซื้อหนังสือมาลองทำให้คุ้นเคยก่อน แต่จริงๆนะข้อสอบเยอะกลัวจะทำไม่ทันมากกว่า
ถ้าอยากฝึกหลายๆแบบลองจัดตารางเรียนใหม่ค่ะ เพื่อจะมีเวลาไหนที่ยังพอลงตัวนี้ได้บ้าง เรียนเสริมเราว่าข้อดีคือทริคเทคนิคในการทำข้อสอบ และการตัดตัวเลือก ไงก็อยากให้ลองเรียนติวเสริมดู เราเรียนที่ แอพพลายด์ฟิสิกส์ ของพี่หมอป๋อมค่ะ เราเรียนทั้งความถนัดแพทย์และแกทเชื่อมโยง และก็หาซื้อหนังสือมาทำเองแต่ต้องเลือกดีๆนะคะ ถ้าอ่านเยอะเกินไปจะสับสนเพราะคำตอบหลายๆเล่มก็ดันไม่ตรงกันอีก
ยากไหม เราว่าไม่แต่ออกแนวซับซ้อน มึนงง หลอกลวง 555555
ลองซื้อหนังสือมาอ่านก่อนก็ได้น๊า ถ้าไม่เข้าใจก็ลงติวเพิ่มเอา
ช่วงขายของ : เราชูป้ายไฟให้พี่หมอป๋อม แอพพลายด์ฟิสิกส์ 555 เราชอบที่นี่สอนดีนะ
ลองหาซื้อหนังสือมาอ่านดูก่อนครับ แต่ถ้าน้องมั่นใจว่าไม่เก่งพาร์ทจริยธรรมกับไอคิว ไงก็ลองลงเรียนดูได้ไม่เสียหายอะไร สถาบันมีให้เลือกติวเยอะแยะ ถ้าให้พี่แนะนำก็ความถนัดของแอพพลายด์ฟิสิกส์ก็ดีอยู่เพราะเขาเน้นมาสายนี้
ลองเรียนด้วยตัวเองดูรึยังคะ ตาม youtube หรือตามหนังสือ ถ้าลองแล้วไม่เข้าใจแสดงว่ายากสำหรับเรา ตัวเราต้องประเมินก่อนว่ารอดไหม ไม่งั้นก็ต้องลงเรียน ยากง่ายของแต่ละคนไม่เหมือนกัน ลองไปเรียนดูค่ะ ส่วนตัวแนะนำความถนัดแพทย์หมอป๋อม แอพพลายด์ฟิสิกส์ พี่หมอสอนเข้าใจง่ายดีค่ะ มือใหม่ไม่ต้องห่วงไม่ยากๆ
สำหรับเราเราเรียนค่ะ ปัญหาคือเลือกที่เรียนพิเศษดีๆ อย่างของเราลงที่แอพพลายด์ฟิสิกส์ สอนดีเลยทีเดียว
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?