ฝากถึงพี่ๆนักเขียนทุกคนค่ะ ตั้งกระทู้ใหม่ ตั้งกระทู้ใหม่ คือว่าอยากรู้ค่ะว่าตอนพวกพี่ๆนักเขียน เริ่มเขียนนิยายเรื่องแรก พวกพี่เริ่มจากอะไรกันบ้างค่ะ เช่น การเขียนให้มีนักอ่าน การเขียนแนวที่ตัวเองชอบเหรอค่ะ หรือเขียนตามแนวนักอ่านชอบกันแน่ค่ะ มีพี่ๆคนไหนเคยเอาประสบการณ์จริงไปเขียนนิยายบ้างไหมค่ะ หนูว่าตอนพวกพี่ๆเขียนนิยายครั้งแรกยังไม่มีประสบการณ์มันน่าสนุกดีนะค่ะ เหมือนได้เรียนรู้ยังไงอย่างงั้นใช่ไหมค่ะ คือหนูเห็นเริ่มมีนักเขียนหน้าใหม่ๆเข้ามาเขียนเยอะขึ้นค่ะก็เลยถามดูค่ะ เผื่อจะได้วางแผนเขียนถูกค่ะ ถ้าเขียนอะไรผิดขออภัยค่ะ mymiwok 25 ส.ค. 59 เวลา 05:28 น. 1 like 561 views Facebook Twitter รายชื่อผู้ถูกใจกระทู้นี้ คน
m13ss 25 ส.ค. 59 เวลา 07:00 น. 1 เริ่มแรกผมเขียนโดยเอาประสบการณ์ใน ชีวิตมาแต่ง อย่างพวกตัวละครต่างๆในนิยาย นิสัยอะไรพวกๆนี้ก็เอามาจากคนจริงๆแหละ นิยายเรื่องแรกของผม รับรองว่าเละไม่ เป็นท่า ยิ่งกว่านั้นไม่รู้ว่าคนอ่านหลงเพราะอะไร (=+=) แน่นอนว่าการเรียนรู้ด้วยตัวเองมักจะจำ ไปตลอด แค่นิยายเรื่องเดียว ผมต้องหาข้อมูลนับ สิบเว็บ ตัวอย่างก็ ชนิดของอาวุธ ปืนคาบศิลา ดาบคะตะนะ การแต่งกายของ ทหาร ความรักร่วมเพศในสมัยโบราณ ตำนานเทพเจ้าพวกกรีก ญี่ปุ่น อียิปต์ นอร์ส และอื่นๆอีกมากมายรวมทั้งของ น่ารักๆ(?)อย่างประเภทของชา ตำนาน วันตรุษจีน ชุดเกราะ ตำแหน่งขุนนาง และอื่นๆอีกมากมายที่บรรยายไม่หมด ("^") (=^=) น่าแปลกนะ ปกติผมพิมพ์ไม่ค่อยเยอะ แต่พักนี้พิมพ์ยาวจัง(^_^) 2 4 ถูกใจ 2 ตอบกลับ 4 เมนู แก้ไข แจ้งลบ ปักหมุด
mymiwok 25 ส.ค. 59 เวลา 17:25 น. 1-1 นิยายเรื่องแรกของพี่นี่ยาวจัง ยาวมาก จะเริ่มเขียนนิยายดีไหม หรือ จะรอให้ความรู้เยอะก่อน อ่านจากพี่เขียนเนี่ย ว้าวเรื่องแรกก็ไม่ใช่ง่ายๆล่ะ พี่น่าจะเป็นนักเขียนที่ดีอีกคนค่ะ ขนาดเขียนเรื่องแรกยังต้องหานู่นหานี่เพื่อต่อบทถือว่าเยี่ยมมากเลยค่ะ ถ้าเป็นหนูเขียน หนูจะไม่รู้เลยว่าจะเริ่มเขียนจากตรงไหน (ขออนุญาติเรียนพี่ค่ะ ) 1 0 ถูกใจ 1 ตอบกลับ เมนู แก้ไข แจ้งลบ
m13ss 25 ส.ค. 59 เวลา 19:00 น. 1-2 แล้วแต่ฮะ จะเริ่มจากหาความรู้ให้ได้ก่อน หรือจะเขียนก่อนแล้วค่อยหาก็ได้ สำหรับผมแล้ว จะร่างตอนขึ้นมาก่อนว่าจะเป็น แนวไหน ใช้ข้อมูลอะไรบ้างเพื่อความสมจริง ถึงจะเป็นนิยาย แต่มันไม่ไร้สาระนะ แบบสอดแทรกความรู้อะไรพวกนี้บ้าง แต่อย่า เยอะ^_^ อ้อ! ผมอายุ 14 นะ ถ้าเรียกว่าพี่เนี่ยคงต้อง อายุน้อยๆอยู่แน่เลย 1 0 ถูกใจ 1 ตอบกลับ เมนู แก้ไข แจ้งลบ
mymiwok 25 ส.ค. 59 เวลา 19:15 น. 1-3 ขอโทษค่ะที่เรียกอย่างงั้น เพราะไม่รู้ว่า อายุเท่าไหร่ ขอโทษค่ะ มันชิน ไปแล้ว ไม่เป็นน้องก็เป็นเพื่อนค่ะ ใช่ค่ะ มีความรู้บ้างก็ดี ขอโทษจริงๆ ค่ะ 1 0 ถูกใจ 1 ตอบกลับ เมนู แก้ไข แจ้งลบ
icevalentine 25 ส.ค. 59 เวลา 07:11 น. 2 เรื่องแรกนี่เขียนเพราะอยากเขียนจริงๆค่ะ ผ่านมาเป็นสิบปีแล้ว แบบอยากลองแต่งเองบ้าง กลับไปอ่านและแบบกุมขมับ นี่ชั้นทำอะไรลงไปมีแต่บทสนทนา บรรยายแทบไม่เป็นเลย แต่โชคดีมากค่ะที่มีพี่ๆที่น่ารักมาช่วยอ่านช่วยติทำให้ได้รู้ถึงจุดบกพร่้อง จากวันนั้นถึงวันนี้นิยายเรื่องแรกยังเขียนไม่จบ ดองยาวแต่รู้สุกผูกพันกว่าจะคิดลบค่ะ ให้กลับไปแต่งก็ไม่อินแล้วเพราะตอนนั้นแต่งแบบวัยรุ่นกุ๊กกิ๊ก นางเอกเล่าเรื่องคิดว่าคงไม่ลบหรอกค่ะ นิยายเรื่องแรกมันถือเป็นความทรงจำดีๆจริงๆนะคะ 2 3 ถูกใจ 2 ตอบกลับ 3 เมนู แก้ไข แจ้งลบ ปักหมุด
mymiwok 25 ส.ค. 59 เวลา 17:20 น. 2-1 ใช่ค่ะนิยายเรื่องแรกมันเป็นความทรงจำที่ดี ดีมากๆมันทำให้รู้ว่าเรามาถึงทุกวันนี้ได้ยังไง 1 0 ถูกใจ 1 ตอบกลับ เมนู แก้ไข แจ้งลบ
icevalentine 25 ส.ค. 59 เวลา 17:35 น. 2-2 เป็นการย้ำเตือนกลายๆเรื่องแรกดองจนไม่จบเรื่องต่อๆมาต้องเข็นให้จบนะว้อยย สงสารคนอ่าน 1 0 ถูกใจ 1 ตอบกลับ เมนู แก้ไข แจ้งลบ
mymiwok 25 ส.ค. 59 เวลา 17:43 น. 2-3 ใช่ค่ะเป็นนักเขียนต้องสงสารคนอ่านด้วย เขารอนานไม่ได้ จากผู้เป็นนักอ่านมาก่อน 0 0 ถูกใจ ตอบกลับ เมนู แก้ไข แจ้งลบ
หอยทากกินบะหมี่ 25 ส.ค. 59 เวลา 11:31 น. 3 แรกเริ่มเขียนตามใจตัวเองเลยค่ะ เอาความคิดที่ว่าอยากอ่านอะไรเป็นที่ตั้ง แล้วก็เขียนตามที่ตัวเองอยากอ่านไปเรื่อยๆ แม้มันจะดูหลักลอย ไม่รู้ว่าคนอ่านจะชอบมั้ย แต่มันสนุกมากเลยนะ ส่วนการเอาประสบการณ์จริงมาเขียน มีบ้างค่ะ เพราะนิยายที่เขียนเป็นนิยายที่ตัวเอกไปเรียนโรงเรียนม.ปลาย แล้วก็มีเหตุการณ์แฟนตาซีต่างๆเกิดขึ้น ก็คือจะมีการเอาประสบการณ์ตรงของตนหรือของเพื่อนมาเขียนบ้าง ทั้งนี้ทั้งนั้น การจะเขียนนิยายนั้นเราไม่ต้องมีประสบการณ์มาก่อนก็ได้ แต่อย่างน้อยเราควรมีประสบการณ์ในการอ่านมาในระดับหนึ่งก่อน เพราะการยิ่งอ่านเยอะ เท่ากับว่าเราได้เห็นสไตล์การเขียน สำนวน การบรรยายต่างๆมาบ้าง ดังนั้นเราจะมีพื้นฐานในการเล่าเรื่องหรือการเรียบเรียงเหตุการณ์ บทสนทนามาแล้ว จะทำให้เราสามารถเขียนได้ไหลลื่น อ่านแล้วไม่ค่อยติดขัดค่ะ 3 1 ถูกใจ 3 ตอบกลับ 1 เมนู แก้ไข แจ้งลบ ปักหมุด
mymiwok 25 ส.ค. 59 เวลา 17:35 น. 3-1 สุดยอดมากค่ะ พี่เป็นอีกคนที่ ทำให้รู้ว่าการที่มีแค่ความคิดที่สร้างสรรค์ก็สามารถเขียนนิยายออกมาได้ แต่ต้องมาประสบการณ์อ่านมาด้วย ใช่ค่ะพี่ตอบโจทย์หนูค่ะ ไม่น่าชื่อว่าการที่เขียนนิยาย ก็เริ่มจากจินตนาการที่ทุกคนมีแต่วิธีคิดต่างกัน สุดยอด 2 0 ถูกใจ 2 ตอบกลับ เมนู แก้ไข แจ้งลบ
lb'skLyrmN 25 ส.ค. 59 เวลา 19:45 น. 4 เรื่องแรกที่ผมแต่งเกิดจากความเบื่อล้วนๆ ครับ ไม่รู้ว่าคุณเจ้าของฯ เป็นเหมือนกันหรือเปล่านะ แต่เวลาเดินเข้าร้านหนังสือแล้วเห็นนิยายหลายเรื่องที่ซ้ำแนวกันเรียงอยู่เป็นตับ ถึงจะแค่เดินผ่านๆ ก็รู้สึกน่าเบื่อหรือเปล่า โดยเฉพาะเรื่องที่แค่อ่านเล่มเดียวแล้วรู้ไปถึงเนื้อเรื่องของนิยายเล่มข้างๆ มันกลายเป็นน่ารำคาญไปเลยหรือเปล่าครับ นิยายเรื่องแรกที่ผมแต่งก็มาจากความคิดนี้ครับ ในเมื่อเห็นนิยายซ้ำๆกันบนแผงหนังสือจนเบื่อแล้ว มันน่าจะมีแนวอื่นโผล่เข้ามาให้หายเอียนบ้างสิ ในเมื่อไม่มีใครทำ ผมก็คงต้องทำมันเอง แล้วมันก็กลายเป็นแรงบันดาลใจแรกในการเขียนนิยายแฟนตาซีเรื่องแรกของผมเลยครับ จนตอนนี้ผ่านมาเกือบสี่ปี มีนิยายแนวอื่นแวะเวียนเข้ามาแทรกที่นิยายพวกนั้นตามที่ผมต้องการ แล้วพาพรรคพวกมาเป็นตับ ก่อนจะมีแนวอื่นแทรกเข้ามาใหม่ยกแผง ผมก็ยังไม่มีนิยายตีพิมพ์สักเรื่องครับ เชื่อไหมว่าตอนที่ผมมีความคิดอยากแต่ง ผมไม่มีประสบการณ์อ่านนิยายจริงจังมาก่อนครับ 2 1 ถูกใจ 2 ตอบกลับ 1 เมนู แก้ไข แจ้งลบ ปักหมุด
mymiwok 25 ส.ค. 59 เวลา 20:17 น. 4-1 ใช่ค่ะเดินเข้าร้านหนังสือ มีแต่นิยายเรื่องคล้ายๆกันเพียงจับแค่เรื่องเดียวก็รู้ว่าเล่มข้างๆกัน น่าจะคล้ายกันค่ะ แต่(ขอแทนตัวเองว่า ฉันนะค่ะ) การแต่งนิยายจากความน่าเบื่อก็ไม่เคยเขียนค่ะ เพราะนึกว่าคงจะออกมาขาดตอน ถ้าเทียบกับการเขียนที่มีจินตนาการแล้ว นิยายที่เขียนออกมาจาก นักเขียนที่เขียนนิยายด้วยความน่าเบื่อ การอ่านก็จะออกมามีข้อแตกต่าง เพราะแต่ล่ะเล่มของนักเขียนแต่ละคนเค้ามีจินตนาการที่คล้ายบ้างไม่คล้ายบ้างค่ะ แต่ส่วนใหญ่ เนื้อเรื่องจะออกมาคล้ายๆกันค่ะ การเขียนโดยมีจินตนาการ ยังไงมันก็น่าอ่านกว่า นิยายที่ได้แรงบันดาลใจมาจากความน่าเบื่อของตัวเองค่ะ แล้วอีกเรื่องค่ะ เชื่อค่ะว่าคนที่ไม่มีประสบการณ์อ่านนิยาย ก็เขียนได้ค่ะ ก็ไม่เข้าใจเท่าไหร่ค่ะ แต่ก็ดีค่ะที่มีหนังสือเรื่องใหม่ๆหลากหลายแนวให้เราได้เลือกอ่านค่ะ 1 0 ถูกใจ 1 ตอบกลับ เมนู แก้ไข แจ้งลบ
เกียรติ์ 25 ส.ค. 59 เวลา 20:18 น. 5 เป็นคนเจ้าความคิด ช่างจินตนาการ จินตนาการมาก ๆ มีความคิดมากมายเข้าเลยอยากถ่ายทอดออกมาเป็นตัวอักษร ตอนแรก ๆ ที่เขียนนิยายมีอาการตันบ่อยมาก ๆ เพราะความคิดไม่โลดแล่นเท่าตอนนี้ แต่ตอนนี้คิดได้ทั้งวัน ทุกวันค่ะ ต้องรีบจดใส่สมุดไว้ไม่ให้หาย 2 1 ถูกใจ 2 ตอบกลับ 1 เมนู แก้ไข แจ้งลบ ปักหมุด
mymiwok 25 ส.ค. 59 เวลา 22:53 น. 5-1 ใช่ค่ะจินตนาการทำให้นักเขียนทุกคนมีความคิดค่ะ ถ้าไม่รีบจดก็จะหายไปค่ะเพราะว่าความคิดไม่ได้อยู่กับเรานานค่ะ เดี๋ยวก็มาเดียวก็ไปค่ะ ต้องเตรียมให้พร้อมอยู่เสมอค่ะ 0 0 ถูกใจ ตอบกลับ เมนู แก้ไข แจ้งลบ
[A]mpz 25 ส.ค. 59 เวลา 20:45 น. 6 เรื่องแรกที่แต่งอย่างจริงจังเกิดมาจากการที่อ่านนิยายจนหมดหิ้งในชั้นหนังสือแฟนตาซี สมัยนั้นแนวโรงเรียนกำลังมาแรง เจือด้วยดาร์คเเฟนตาซีนิดหน่อย ผมไปร้านหนังสือใกล้บ้านอาทิตย์ละสามวัน (ไปทั้งอ่านฟรีและไปซื้อนะครับ) พออ่านจบก็ไม่มีอะไรให้อ่าน เลยจัดการเอาส่วนที่ไม่ชอบของแต่ละเรื่องมาเปลี่ยนแล้วเขียนใหม่ เขียนลงกระดาษสมุดรร.ที่ไม่ใช้เป็นอะไรที่คลาสสิกสุดๆ แถมตอนนั้นยังวาดรูปไว้ในกระดาษข้อสอบตอนทำไม่ได้อีกต่างหาก ปัจจุบันเรื่องนั้นปลิวไปกับสายลมแล้วครับ ฮ่าๆ ดังนั้น สำหรับผมเรื่องแรกคืออยากเขียนอะไรก็เขียนเถอะ เรามันส์ เราสนุกซะอย่าง ประสบการณ์ไม่จำเป็นครับ 2 1 ถูกใจ 2 ตอบกลับ 1 เมนู แก้ไข แจ้งลบ ปักหมุด
mymiwok 25 ส.ค. 59 เวลา 23:01 น. 6-1 ใช่ค่ะเขียนแนวที่อยากเขียนค่ะ อยากเขียนอะไรก็เขียนไปค่ะแต่ให้สื่อถึงความหมายของความคิดค่ะ หนังสอจะออกมาเป็นรูปเล่นที่น่าอ่านทั้งภายในและภายนอกค่ะ แต่ถ้าพี่เขียนเรื่องแรกแล้วดัง เจ๋งสุดๆเลยค่ะ เป็นหนูคงทำไม่ได้ค่ะ 0 0 ถูกใจ ตอบกลับ เมนู แก้ไข แจ้งลบ
ริญญดา 25 ส.ค. 59 เวลา 22:05 น. 7 ที่น้อง จขกท. เขียนน่ะใช่หมดตรงตามนั้นทุกอย่างเลยค่ะ แหม ทำไมรู้เยอะจัง 1 4 ถูกใจ 1 ตอบกลับ 4 เมนู แก้ไข แจ้งลบ ปักหมุด
mymiwok 25 ส.ค. 59 เวลา 23:04 น. 7-1 จะบอกอะไรให้ค่ะ หนูไม่เคยเขียนหนังสือนิยายเลยค่ะทุกแนวหนูไม่เคยค่ะ แต่ทั้งหมดที่หนูได้เรียนรู้กับนักเขียนทุกท่าน มันดีมากเลยค่ะได้อะไรหลายๆอย่างเลยค่ะ 1 0 ถูกใจ 1 ตอบกลับ เมนู แก้ไข แจ้งลบ
mymiwok 25 ส.ค. 59 เวลา 23:11 น. 7-2 จะบอกอะไรให้นะค่ะ หนูไม่เคยเขียนหนังสือนิยายเลยค่ะ แนวอื่นก็ไม่เคยค่ะ แต่หนูรู้แล้วค่ะว่าจะเขียนจากตรงไหน หนูได้เรียนรู้จากนักเขียนทุกท่านที่ตอบคำถามหนูค่ะ ว่าการเริ่มทำนิยายมาจากใจค่ะ ถ้าแต่นิยายจบนิยายก็จะเป็นแรงบันดาลใจให้เราเขียนเรื่องใหม่ค่ะ ออกมาดีกว่าเก่าค่ะ แต่ถ้าเราเขียนนิยายไม่จบแล้วไปเขียนเรื่องใหม่ประสบการณ์เราก็จะน้องค่ะ เพราะนักอ่านเขาเป็นกำลังใจสำคัญให้กับเราค่ะ 2 0 ถูกใจ 2 ตอบกลับ เมนู แก้ไข แจ้งลบ
ริญญดา 26 ส.ค. 59 เวลา 18:13 น. 7-3 สำหรับพี่การเขียนนิยาย หรือ การทำอะไรก็ตาม ต้องมาจากความต้องการที่จะทำ ยิ่งถ้าทำด้วยความรักที่จะทำมัน ทุกสิ่งอย่าง ไม่มีทางหยุดยั้งเราได้ ยิ่งได้แรงเสริมกำลังใจจากผู้อื่น มันจะเป็นการเสริมคุณภาพงานของเรา เพราะยังไงเราก็ทำมันอยู่แล้วถึงแม้จะมีหรือไม่มีคนมาชื่นชมก็ตาม คนที่ชอบมาเขียนว่าหมดกำลังใจ ท้อแล้ว เลิกดีกว่า เพราะไม่คนมาอ่าน มาเม้นต์ให้ คนเหล่านี้ไม่ได้มาเขียนนิยายเพราะอยากจะเขียนนิยาย แค่อยากมาหาคนชื่นชมตัวเอง เขาจึงเขียนไม่จบ เป็นกำลังใจให้น้องในการเขียนนะคะ ทุกคนที่เก่ง ต้องเคยมีครั้งแรกเสมอ คนที่ครั้งแรกประสบผลดีเลยก็ถือว่าเขาโชคดี แต่ถ้าเราไม่ลอง เราไม่เริ่ม เราก็ไม่ได้เรียนรู้ เราก็อยู่แบบเดิมๆ ของเรา่ ต่อไป ตัวพี่เองพี่ไม่ได้อยากเป็นนักเขียน แค่อยากเขียนเพื่อบอกเล่าเรื่องความรู้บางอย่างมากกว่า เป้าหมายจึงไม่ใช่การตีพิมพ์ ประมาณว่า "เอายามาทำขนม" (เอาสาระมาแทรกเรื่องราว) เห็นว่ามีคนยอมกินก็ดีใจแล้ว ไม่หวังว่าจะมากินกันทุกคนค่ะ คนที่อ่านนิยายพี่แล้วได้แรงบันดาลใจว่าจะต้องไปช่วยคนตาบอด มีเพียง 5-6 คน(เท่าที่รู้เพราะเขาบอก) พี่ก็ดีใจมากว่าสารที่พี่ส่งไป คนอ่านไม่เพียงแต่รับรู้ แต่เขาซาบซึ้งและมุ่งมั่นที่จะทำความดีเท่าที่เขาจะทำให้คนอื่นได้ นั้นมีค่ายิ่งกว่าการที่พี่ขายหนังสือแล้วได้เงินอีก 1 0 ถูกใจ 1 ตอบกลับ เมนู แก้ไข แจ้งลบ
mymiwok 26 ส.ค. 59 เวลา 18:57 น. 7-4 ใช่ค่ะแรงบันดาลใจชั้นเยี่ยมเลยค่ะ ถึงแม้ไม่มีคนอ่านเราก็ต้องเขียนต่อไปค่ะ สิ่งที่นักเขียนนิยาย ประเภทคนอ่านน้อยหรือไม่ค้อมเม้น แล้วนักเขียนทัอ ก็อย่างที่พี่บอกค่ะ คือ เลิกทำ เพราะว่าความหมายของนักเขียนประเภทนั้น ไม่ได้ตั้งใจเขียน แค่ต้องการความชื่นชมที่เป็นผลดีต่อตัวเองเท่านั้นเองค่ะ เขาไม่ได้สื่อถึงความหมายของผู้อ่านค่ะว่าเป็นยังไง ถึงหนูยังไม่มีนิยายเป็นของตัวเอง แต่หนูวางพล๊อตไว้หมดแล้วค่ะ แค่อยากเขียนให้จบเรื่องแล้วเอามาลง ถึงแม้จะลงเป็นวัน แต่ไม่อยากให้นักอ่านรอนานเลยเลือกวิธีนี้ค่ะ เป็นทางออกที่ดีที่สุดค่ะ 1 0 ถูกใจ 1 ตอบกลับ เมนู แก้ไข แจ้งลบ
milkypastel 26 ส.ค. 59 เวลา 00:26 น. 8 ของเค้าเหรอ เค้ามีตัวละครอยู่ในหัวค่ะ ประมาณว่าเหมือนมีตัวละครพวกนั้นอยู่แล้ว ชอบสร้างเหตุการณ์อะไรให้้อยู่แล้ว วันนึงแค่อยากจะเห็นมันเป็นเรื่องราว เขียนแนวที่ตัวเองชอบค่ะ อิอิ 2 1 ถูกใจ 2 ตอบกลับ 1 เมนู แก้ไข แจ้งลบ ปักหมุด
mymiwok 26 ส.ค. 59 เวลา 01:37 น. 8-1 ใช่ค่ะเป็น(ขอแทนตัวเองว่าฉันนะค่ะ)ฉันจะเขียนแนวที่ตัวเองชอบเหมือนกันค่ะ 0 0 ถูกใจ ตอบกลับ เมนู แก้ไข แจ้งลบ
nopoxa' 26 ส.ค. 59 เวลา 08:42 น. 9 เริ่มแรกเขียนจากแรงบันดาลใจครับ ยกตัวอย่างเช่น ดูหนังมาแล้วคิดว่า ตอนจบมันไม่เข้าท่าเลย ทำไมพระเอกเป็นงั้นทำไมนางเอกเป็นงี้ เลยเขียนเองซะเลยจะได้ถูกใจ หลังจากนั้นก็ลองเขียนโน่นนี่ไปเรื่อยๆครับ ทั้งนิยาย บทความ นิทาน เรื่องสั้น ... (ผมแอบคิดว่านิทานกับเรื่องสั้นผมทำได้ดีกว่านิยาย...) แต่ก็นั่นแหละครับ อยากเขียนอะไรก็เขียน ฮ่าๆๆ ส่วนประสบการณ์จริงก็มีเอามาเขียนบ้างครับ โดยเฉพาะลักษณะบุคคลกับเรื่อง ทัศนคตินี่แทบจะดึงมาจากคนในชีวติประจำวันเลยล่ะ... 2 0 ถูกใจ 2 ตอบกลับ เมนู แก้ไข แจ้งลบ ปักหมุด
Nomapol 26 ส.ค. 59 เวลา 14:12 น. 10 สู้ ๆ ครับ เริ่มแรกผม ชอบอ่านนิยาย ชอบ ดูละคร แต่บางเรื่องก็จบเร็วไป ยังอยากจะอ่านหรือดูอีก เลยอยากจะลองสร้าง เรื่องที่สนุก ๆ หรือตัวละครเก่ง ๆ แบบนั้น อีกเรื่อย ๆ อะครับ 2 0 ถูกใจ 2 ตอบกลับ เมนู แก้ไข แจ้งลบ ปักหมุด
10 ความคิดเห็น
เริ่มแรกผมเขียนโดยเอาประสบการณ์ใน
ชีวิตมาแต่ง อย่างพวกตัวละครต่างๆในนิยาย นิสัยอะไรพวกๆนี้ก็เอามาจากคนจริงๆแหละ
นิยายเรื่องแรกของผม รับรองว่าเละไม่
เป็นท่า ยิ่งกว่านั้นไม่รู้ว่าคนอ่านหลงเพราะอะไร (=+=)
แน่นอนว่าการเรียนรู้ด้วยตัวเองมักจะจำ
ไปตลอด
แค่นิยายเรื่องเดียว ผมต้องหาข้อมูลนับ
สิบเว็บ ตัวอย่างก็ ชนิดของอาวุธ
ปืนคาบศิลา ดาบคะตะนะ การแต่งกายของ
ทหาร ความรักร่วมเพศในสมัยโบราณ
ตำนานเทพเจ้าพวกกรีก ญี่ปุ่น อียิปต์
นอร์ส และอื่นๆอีกมากมายรวมทั้งของ
น่ารักๆ(?)อย่างประเภทของชา ตำนาน
วันตรุษจีน ชุดเกราะ ตำแหน่งขุนนาง
และอื่นๆอีกมากมายที่บรรยายไม่หมด
("^") (=^=)
น่าแปลกนะ ปกติผมพิมพ์ไม่ค่อยเยอะ
แต่พักนี้พิมพ์ยาวจัง(^_^)
นิยายเรื่องแรกของพี่นี่ยาวจัง ยาวมาก จะเริ่มเขียนนิยายดีไหม หรือ จะรอให้ความรู้เยอะก่อน อ่านจากพี่เขียนเนี่ย ว้าวเรื่องแรกก็ไม่ใช่ง่ายๆล่ะ พี่น่าจะเป็นนักเขียนที่ดีอีกคนค่ะ ขนาดเขียนเรื่องแรกยังต้องหานู่นหานี่เพื่อต่อบทถือว่าเยี่ยมมากเลยค่ะ ถ้าเป็นหนูเขียน หนูจะไม่รู้เลยว่าจะเริ่มเขียนจากตรงไหน (ขออนุญาติเรียนพี่ค่ะ )
แล้วแต่ฮะ จะเริ่มจากหาความรู้ให้ได้ก่อน
หรือจะเขียนก่อนแล้วค่อยหาก็ได้
สำหรับผมแล้ว จะร่างตอนขึ้นมาก่อนว่าจะเป็น
แนวไหน ใช้ข้อมูลอะไรบ้างเพื่อความสมจริง
ถึงจะเป็นนิยาย แต่มันไม่ไร้สาระนะ
แบบสอดแทรกความรู้อะไรพวกนี้บ้าง แต่อย่า
เยอะ^_^
อ้อ! ผมอายุ 14 นะ ถ้าเรียกว่าพี่เนี่ยคงต้อง
อายุน้อยๆอยู่แน่เลย
ขอโทษค่ะที่เรียกอย่างงั้น เพราะไม่รู้ว่า อายุเท่าไหร่ ขอโทษค่ะ มันชิน ไปแล้ว ไม่เป็นน้องก็เป็นเพื่อนค่ะ ใช่ค่ะ มีความรู้บ้างก็ดี ขอโทษจริงๆ ค่ะ
ไม่เป็นไรฮะ
เรื่องแรกนี่เขียนเพราะอยากเขียนจริงๆค่ะ
ผ่านมาเป็นสิบปีแล้ว แบบอยากลองแต่งเองบ้าง
กลับไปอ่านและแบบกุมขมับ นี่ชั้นทำอะไรลงไปมีแต่บทสนทนา บรรยายแทบไม่เป็นเลย
แต่โชคดีมากค่ะที่มีพี่ๆที่น่ารักมาช่วยอ่านช่วยติทำให้ได้รู้ถึงจุดบกพร่้อง
จากวันนั้นถึงวันนี้นิยายเรื่องแรกยังเขียนไม่จบ ดองยาวแต่รู้สุกผูกพันกว่าจะคิดลบค่ะ
ให้กลับไปแต่งก็ไม่อินแล้วเพราะตอนนั้นแต่งแบบวัยรุ่นกุ๊กกิ๊ก นางเอกเล่าเรื่อง
คิดว่าคงไม่ลบหรอกค่ะ นิยายเรื่องแรกมันถือเป็นความทรงจำดีๆจริงๆนะคะ
ใช่ค่ะนิยายเรื่องแรกมันเป็นความทรงจำที่ดี ดีมากๆมันทำให้รู้ว่าเรามาถึงทุกวันนี้ได้ยังไง
เป็นการย้ำเตือนกลายๆเรื่องแรกดองจนไม่จบเรื่องต่อๆมาต้องเข็นให้จบนะว้อยย สงสารคนอ่าน
ใช่ค่ะเป็นนักเขียนต้องสงสารคนอ่านด้วย เขารอนานไม่ได้ จากผู้เป็นนักอ่านมาก่อน
แรกเริ่มเขียนตามใจตัวเองเลยค่ะ
เอาความคิดที่ว่าอยากอ่านอะไรเป็นที่ตั้ง
แล้วก็เขียนตามที่ตัวเองอยากอ่านไปเรื่อยๆ
แม้มันจะดูหลักลอย ไม่รู้ว่าคนอ่านจะชอบมั้ย แต่มันสนุกมากเลยนะ
ส่วนการเอาประสบการณ์จริงมาเขียน
มีบ้างค่ะ เพราะนิยายที่เขียนเป็นนิยายที่ตัวเอกไปเรียนโรงเรียนม.ปลาย
แล้วก็มีเหตุการณ์แฟนตาซีต่างๆเกิดขึ้น
ก็คือจะมีการเอาประสบการณ์ตรงของตนหรือของเพื่อนมาเขียนบ้าง
ทั้งนี้ทั้งนั้น การจะเขียนนิยายนั้นเราไม่ต้องมีประสบการณ์มาก่อนก็ได้
แต่อย่างน้อยเราควรมีประสบการณ์ในการอ่านมาในระดับหนึ่งก่อน
เพราะการยิ่งอ่านเยอะ เท่ากับว่าเราได้เห็นสไตล์การเขียน สำนวน การบรรยายต่างๆมาบ้าง
ดังนั้นเราจะมีพื้นฐานในการเล่าเรื่องหรือการเรียบเรียงเหตุการณ์ บทสนทนามาแล้ว
จะทำให้เราสามารถเขียนได้ไหลลื่น อ่านแล้วไม่ค่อยติดขัดค่ะ
สุดยอดมากค่ะ พี่เป็นอีกคนที่ ทำให้รู้ว่าการที่มีแค่ความคิดที่สร้างสรรค์ก็สามารถเขียนนิยายออกมาได้ แต่ต้องมาประสบการณ์อ่านมาด้วย ใช่ค่ะพี่ตอบโจทย์หนูค่ะ ไม่น่าชื่อว่าการที่เขียนนิยาย ก็เริ่มจากจินตนาการที่ทุกคนมีแต่วิธีคิดต่างกัน สุดยอด
เรื่องแรกที่ผมแต่งเกิดจากความเบื่อล้วนๆ ครับ
ไม่รู้ว่าคุณเจ้าของฯ เป็นเหมือนกันหรือเปล่านะ แต่เวลาเดินเข้าร้านหนังสือแล้วเห็นนิยายหลายเรื่องที่ซ้ำแนวกันเรียงอยู่เป็นตับ ถึงจะแค่เดินผ่านๆ ก็รู้สึกน่าเบื่อหรือเปล่า โดยเฉพาะเรื่องที่แค่อ่านเล่มเดียวแล้วรู้ไปถึงเนื้อเรื่องของนิยายเล่มข้างๆ มันกลายเป็นน่ารำคาญไปเลยหรือเปล่าครับ
นิยายเรื่องแรกที่ผมแต่งก็มาจากความคิดนี้ครับ ในเมื่อเห็นนิยายซ้ำๆกันบนแผงหนังสือจนเบื่อแล้ว มันน่าจะมีแนวอื่นโผล่เข้ามาให้หายเอียนบ้างสิ ในเมื่อไม่มีใครทำ ผมก็คงต้องทำมันเอง แล้วมันก็กลายเป็นแรงบันดาลใจแรกในการเขียนนิยายแฟนตาซีเรื่องแรกของผมเลยครับ
จนตอนนี้ผ่านมาเกือบสี่ปี มีนิยายแนวอื่นแวะเวียนเข้ามาแทรกที่นิยายพวกนั้นตามที่ผมต้องการ แล้วพาพรรคพวกมาเป็นตับ ก่อนจะมีแนวอื่นแทรกเข้ามาใหม่ยกแผง ผมก็ยังไม่มีนิยายตีพิมพ์สักเรื่องครับ
เชื่อไหมว่าตอนที่ผมมีความคิดอยากแต่ง ผมไม่มีประสบการณ์อ่านนิยายจริงจังมาก่อนครับ
ใช่ค่ะเดินเข้าร้านหนังสือ มีแต่นิยายเรื่องคล้ายๆกันเพียงจับแค่เรื่องเดียวก็รู้ว่าเล่มข้างๆกัน น่าจะคล้ายกันค่ะ แต่(ขอแทนตัวเองว่า ฉันนะค่ะ) การแต่งนิยายจากความน่าเบื่อก็ไม่เคยเขียนค่ะ เพราะนึกว่าคงจะออกมาขาดตอน ถ้าเทียบกับการเขียนที่มีจินตนาการแล้ว นิยายที่เขียนออกมาจาก นักเขียนที่เขียนนิยายด้วยความน่าเบื่อ การอ่านก็จะออกมามีข้อแตกต่าง เพราะแต่ล่ะเล่มของนักเขียนแต่ละคนเค้ามีจินตนาการที่คล้ายบ้างไม่คล้ายบ้างค่ะ แต่ส่วนใหญ่ เนื้อเรื่องจะออกมาคล้ายๆกันค่ะ การเขียนโดยมีจินตนาการ ยังไงมันก็น่าอ่านกว่า นิยายที่ได้แรงบันดาลใจมาจากความน่าเบื่อของตัวเองค่ะ แล้วอีกเรื่องค่ะ เชื่อค่ะว่าคนที่ไม่มีประสบการณ์อ่านนิยาย ก็เขียนได้ค่ะ ก็ไม่เข้าใจเท่าไหร่ค่ะ แต่ก็ดีค่ะที่มีหนังสือเรื่องใหม่ๆหลากหลายแนวให้เราได้เลือกอ่านค่ะ
เป็นคนเจ้าความคิด ช่างจินตนาการ จินตนาการมาก ๆ มีความคิดมากมายเข้าเลยอยากถ่ายทอดออกมาเป็นตัวอักษร ตอนแรก ๆ ที่เขียนนิยายมีอาการตันบ่อยมาก ๆ เพราะความคิดไม่โลดแล่นเท่าตอนนี้ แต่ตอนนี้คิดได้ทั้งวัน ทุกวันค่ะ ต้องรีบจดใส่สมุดไว้ไม่ให้หาย
ใช่ค่ะจินตนาการทำให้นักเขียนทุกคนมีความคิดค่ะ ถ้าไม่รีบจดก็จะหายไปค่ะเพราะว่าความคิดไม่ได้อยู่กับเรานานค่ะ เดี๋ยวก็มาเดียวก็ไปค่ะ ต้องเตรียมให้พร้อมอยู่เสมอค่ะ
เรื่องแรกที่แต่งอย่างจริงจังเกิดมาจากการที่อ่านนิยายจนหมดหิ้งในชั้นหนังสือแฟนตาซี สมัยนั้นแนวโรงเรียนกำลังมาแรง เจือด้วยดาร์คเเฟนตาซีนิดหน่อย ผมไปร้านหนังสือใกล้บ้านอาทิตย์ละสามวัน (ไปทั้งอ่านฟรีและไปซื้อนะครับ) พออ่านจบก็ไม่มีอะไรให้อ่าน เลยจัดการเอาส่วนที่ไม่ชอบของแต่ละเรื่องมาเปลี่ยนแล้วเขียนใหม่ เขียนลงกระดาษสมุดรร.ที่ไม่ใช้เป็นอะไรที่คลาสสิกสุดๆ แถมตอนนั้นยังวาดรูปไว้ในกระดาษข้อสอบตอนทำไม่ได้อีกต่างหาก
ปัจจุบันเรื่องนั้นปลิวไปกับสายลมแล้วครับ ฮ่าๆ ดังนั้น สำหรับผมเรื่องแรกคืออยากเขียนอะไรก็เขียนเถอะ เรามันส์ เราสนุกซะอย่าง ประสบการณ์ไม่จำเป็นครับ
ใช่ค่ะเขียนแนวที่อยากเขียนค่ะ อยากเขียนอะไรก็เขียนไปค่ะแต่ให้สื่อถึงความหมายของความคิดค่ะ หนังสอจะออกมาเป็นรูปเล่นที่น่าอ่านทั้งภายในและภายนอกค่ะ แต่ถ้าพี่เขียนเรื่องแรกแล้วดัง เจ๋งสุดๆเลยค่ะ เป็นหนูคงทำไม่ได้ค่ะ
ที่น้อง จขกท. เขียนน่ะใช่หมดตรงตามนั้นทุกอย่างเลยค่ะ
แหม ทำไมรู้เยอะจัง
จะบอกอะไรให้ค่ะ หนูไม่เคยเขียนหนังสือนิยายเลยค่ะทุกแนวหนูไม่เคยค่ะ แต่ทั้งหมดที่หนูได้เรียนรู้กับนักเขียนทุกท่าน มันดีมากเลยค่ะได้อะไรหลายๆอย่างเลยค่ะ
จะบอกอะไรให้นะค่ะ หนูไม่เคยเขียนหนังสือนิยายเลยค่ะ แนวอื่นก็ไม่เคยค่ะ แต่หนูรู้แล้วค่ะว่าจะเขียนจากตรงไหน หนูได้เรียนรู้จากนักเขียนทุกท่านที่ตอบคำถามหนูค่ะ ว่าการเริ่มทำนิยายมาจากใจค่ะ ถ้าแต่นิยายจบนิยายก็จะเป็นแรงบันดาลใจให้เราเขียนเรื่องใหม่ค่ะ ออกมาดีกว่าเก่าค่ะ แต่ถ้าเราเขียนนิยายไม่จบแล้วไปเขียนเรื่องใหม่ประสบการณ์เราก็จะน้องค่ะ เพราะนักอ่านเขาเป็นกำลังใจสำคัญให้กับเราค่ะ
สำหรับพี่การเขียนนิยาย หรือ การทำอะไรก็ตาม ต้องมาจากความต้องการที่จะทำ
ยิ่งถ้าทำด้วยความรักที่จะทำมัน ทุกสิ่งอย่าง ไม่มีทางหยุดยั้งเราได้ ยิ่งได้แรงเสริมกำลังใจจากผู้อื่น มันจะเป็นการเสริมคุณภาพงานของเรา เพราะยังไงเราก็ทำมันอยู่แล้วถึงแม้จะมีหรือไม่มีคนมาชื่นชมก็ตาม
คนที่ชอบมาเขียนว่าหมดกำลังใจ ท้อแล้ว เลิกดีกว่า เพราะไม่คนมาอ่าน มาเม้นต์ให้
คนเหล่านี้ไม่ได้มาเขียนนิยายเพราะอยากจะเขียนนิยาย แค่อยากมาหาคนชื่นชมตัวเอง
เขาจึงเขียนไม่จบ
เป็นกำลังใจให้น้องในการเขียนนะคะ
ทุกคนที่เก่ง ต้องเคยมีครั้งแรกเสมอ คนที่ครั้งแรกประสบผลดีเลยก็ถือว่าเขาโชคดี
แต่ถ้าเราไม่ลอง เราไม่เริ่ม เราก็ไม่ได้เรียนรู้
เราก็อยู่แบบเดิมๆ ของเรา่ ต่อไป
ตัวพี่เองพี่ไม่ได้อยากเป็นนักเขียน แค่อยากเขียนเพื่อบอกเล่าเรื่องความรู้บางอย่างมากกว่า
เป้าหมายจึงไม่ใช่การตีพิมพ์ ประมาณว่า "เอายามาทำขนม" (เอาสาระมาแทรกเรื่องราว)
เห็นว่ามีคนยอมกินก็ดีใจแล้ว ไม่หวังว่าจะมากินกันทุกคนค่ะ
คนที่อ่านนิยายพี่แล้วได้แรงบันดาลใจว่าจะต้องไปช่วยคนตาบอด มีเพียง 5-6 คน(เท่าที่รู้เพราะเขาบอก) พี่ก็ดีใจมากว่าสารที่พี่ส่งไป คนอ่านไม่เพียงแต่รับรู้ แต่เขาซาบซึ้งและมุ่งมั่นที่จะทำความดีเท่าที่เขาจะทำให้คนอื่นได้ นั้นมีค่ายิ่งกว่าการที่พี่ขายหนังสือแล้วได้เงินอีก
ใช่ค่ะแรงบันดาลใจชั้นเยี่ยมเลยค่ะ ถึงแม้ไม่มีคนอ่านเราก็ต้องเขียนต่อไปค่ะ สิ่งที่นักเขียนนิยาย ประเภทคนอ่านน้อยหรือไม่ค้อมเม้น แล้วนักเขียนทัอ ก็อย่างที่พี่บอกค่ะ คือ เลิกทำ เพราะว่าความหมายของนักเขียนประเภทนั้น ไม่ได้ตั้งใจเขียน แค่ต้องการความชื่นชมที่เป็นผลดีต่อตัวเองเท่านั้นเองค่ะ เขาไม่ได้สื่อถึงความหมายของผู้อ่านค่ะว่าเป็นยังไง ถึงหนูยังไม่มีนิยายเป็นของตัวเอง แต่หนูวางพล๊อตไว้หมดแล้วค่ะ แค่อยากเขียนให้จบเรื่องแล้วเอามาลง ถึงแม้จะลงเป็นวัน แต่ไม่อยากให้นักอ่านรอนานเลยเลือกวิธีนี้ค่ะ เป็นทางออกที่ดีที่สุดค่ะ
ของเค้าเหรอ
เค้ามีตัวละครอยู่ในหัวค่ะ ประมาณว่าเหมือนมีตัวละครพวกนั้นอยู่แล้ว ชอบสร้างเหตุการณ์อะไรให้้อยู่แล้ว วันนึงแค่อยากจะเห็นมันเป็นเรื่องราว
เขียนแนวที่ตัวเองชอบค่ะ อิอิ
ใช่ค่ะเป็น(ขอแทนตัวเองว่าฉันนะค่ะ)ฉันจะเขียนแนวที่ตัวเองชอบเหมือนกันค่ะ
เริ่มแรกเขียนจากแรงบันดาลใจครับ ยกตัวอย่างเช่น
ดูหนังมาแล้วคิดว่า ตอนจบมันไม่เข้าท่าเลย ทำไมพระเอกเป็นงั้นทำไมนางเอกเป็นงี้
เลยเขียนเองซะเลยจะได้ถูกใจ หลังจากนั้นก็ลองเขียนโน่นนี่ไปเรื่อยๆครับ ทั้งนิยาย บทความ
นิทาน เรื่องสั้น ... (ผมแอบคิดว่านิทานกับเรื่องสั้นผมทำได้ดีกว่านิยาย...)
แต่ก็นั่นแหละครับ อยากเขียนอะไรก็เขียน ฮ่าๆๆ
ส่วนประสบการณ์จริงก็มีเอามาเขียนบ้างครับ โดยเฉพาะลักษณะบุคคลกับเรื่อง
ทัศนคตินี่แทบจะดึงมาจากคนในชีวติประจำวันเลยล่ะ...
สู้ ๆ ครับ
เริ่มแรกผม ชอบอ่านนิยาย ชอบ ดูละคร แต่บางเรื่องก็จบเร็วไป ยังอยากจะอ่านหรือดูอีก
เลยอยากจะลองสร้าง เรื่องที่สนุก ๆ หรือตัวละครเก่ง ๆ แบบนั้น อีกเรื่อย ๆ อะครับ
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?