บ๊ายบาย 100% แล้วแอดมิชชั่น! ขึ้นปี 61 ปรับระบบเปลี่ยนชื่อใหม่เป็น "เอนทรานซ์ 4.0" เป็นยังไง #dek61 มาดู!

แล้ว กสพท. จะยังอยู่ไหมครับ?

แล้วโควต้า มช. มข. มอ. แบบสอบๆไม่มีแล้วเหรอครับ T.T

ผมเห็นว่าเด็กๆ หลายคนจะชอบแบบแอดมิด นะครับ
เพียงแต่ว่า แต่ละมหาวิทยาลัย สอบตรง เยอะไปหมด
เลยทำให้เหลือยอด มารับแอดน้อย ปัญหามีแค่นี้

ตอนนี้พอแก้ไข ออกมาเป็น เอน 4.0 การสอบเหลือ ครั้งเดียว(gatpat )
แกทแพท ครั้งเดียว ปัญหาก็วนไปสมัย เอน ครั้งเดียว โอกาสพลาดสูง
เจ็บไข้ ได้ป่วย ปัญหาสมัยก่อนมาหมด

ทำไมไม่แก้ปัญหาข้างบน ดันไปเอาวิธีเดิม เอนทรานส์ ในชื่อใหม่

จะเปลี่ยนเป็นอย่างนี้ ถามเด็กไหม ..................

ผมว่าผู้ใหญ่ ในกระทรวง ต้องการแก้ ที่เด็กเสียเงินค่าสอบเข้าได้มากมายมากกว่า
แต่ แก้ไปแก้มา ดันเปลี่ยนไป แบบอดีต ซะทุกเรื่อง อนิจจา



------------

ชอบมากค่ะ
ระบบ ENTRANCE
เราเกิดทันตอนที่มีระบบ ENTRANCE
เพราะพวกญาติๆที่อายุ 30+ เคยผ่านการสอบเข้ามหาวิทยาลัยในระบบ ENTRANCE มาแล้ว
แต่โชคร้ายตอนที่เราเข้าเรียนม.4 ปีการศึกษา 2549
ดันยกเลิกระบบ ENTRANCE มาเป็นระบบ Admission ตั้งแต่ปีการศึกษา 2549 เป็นต้นมา
ความหวังที่จะสอบเข้ามหาวิททยาลัยในระบบ ENTRANCE พังทลาย

งง ว่าโควตา มช จะยังมีให้หนูสอบอยู่อีกมั๊ยยยยยยย งื้อออออ

ม.ดังสบายละ  เด็กดีเด็กเก่งเลือกเข้าหมด ม.รองๆ รอรับเด็กรอบสองนะครับ รอบแรกให้เด็กเลือกม.ดังๆลุ้นติดไม่ติดไปด้วยกัน  เด็กๆก็เครียดกันต่อไปยาวๆ  แทนที่จะมีที่เรียนแบบรับตรงให้สบายใจตั้งแต่ก่อนจบ เลยต้องมาเครียดยาวๆ แบบว่า ต้องไปลุ้นติดที่เรียนที่ไหนแบบทีเดียว ไม่มีที่เรียนสำรองให้สบายใจเลย

แบบนี้เกรดเฉลี่ยนจะยังมีผลต่อการเข้ามหาวิทยาลัยอยู่มั้ยคะ ;;--;;

แกทแพทสอบได้สองครั้งอ่ะดีอยู่เเล้ว ฮรือ

แล้วถ้าเหมือนของ มศว.มันจะมีโครงการต่างๆ เช่น ออกแบบสื่อสาร ไรงี้ โครงการพวกนี้ยังจะมีต่อไปไหมค่ะ

คือถามๆว่ามี กสพท.อยู่รึป่าว แล้วมาตอบว่า ก็เคลียร์ริ่งเฮ้าส์ไง คือเบื่อคำตอบนี้มาก คือมันไม่ชัดเจนเว่ย คือมันยังมีอยู่หรือว่า มาเป็นระบบเดียวกันหมดเหมือนคณะอื่นๆ ใครก็ได้ช่วยตอบให้เคลียๆหน่อยครับ

แล้วเด็กซิ่วอะ
ถ้าไม่มีกสพท. แล้วเด็กซิ่วแถมเป็นเด็กศิลปจะทำไงละ 
เอนทรานซ์รับเด็กศิลปไหม?
#ตูเป็นเด็กศิลปแถมเป็นเด็กซิ่วอีก เครียดสุดๆ

แล้วโควต้า มข มมส ม.อุบล ที่รับเฉพาะเด็กอีสานยังมีอยู่ไหมครับนิ 

ประเด็นคือ แทนที่จะต้องสอบเฉพาะวิชาที่ต้องใช้ กลายเป็นต้องสอบแบบเหมาบุฟเฟ่ต์ ต้องการให้เด็กลดค่าใช้จ่าย แต่ทิ้งผลพวงภาระข้างหลังไว้ให้เด็ก ONET GAT/PAT วิชาสามัญ สอบเดือนเดียวกันหมด GAT/PAT รอบเดียว No รับตรง คือแทนที่จะสบายๆได้ตั้งแต่ขึ้นม.6เทอม2 เพราะมีที่เรียนแล้ว ที่เหลือก็แค่เรียนให้จบ กลายเป็นต้องมานั่งเครียดจนถึงเดือนมีนา ถ้ายื่นไม่ติดอีกก็ต้องเครียดต่อไปอีก อาจต่อไปถึงรับตรงสุดท้ายตอนมิถุนา รู้ผลปุ๊บเรียนมหาลัยต่อเลย ไม่ได้พักอะไรบ้างเลย และรับตรงหลังเคลียริ่งเฮ้า จะเหลือที่นั่งอะไรดีๆบ้างล่ะ ต้องการแก้จุดเดียว แต่จุดอื่นเสียเกือบทั้งหมด ส่วนตัวไม่เห็นด้วย ชอบระบบเก่ามากกว่า ทั้งๆที่เราพร้อมสำหรับระบบadmission ศึกษาเตรียมความพร้อมมาอย่างดี กลายเป็นต้องหาข้อมูล วางแผน เตรียมใหม่หมด และคนที่ลงมติ คือผู้ใหญ่ในกระทรวง ไม่ใช่ตัวแทนนักเรียน จะรู้ได้ไงอย่างไรเหมาะสมต่อเด็ก? #DEK61 #ไม่พอใจ แน่จริงคุณมาสำรวจความเห็นของนักเรียน"ทั้งประเทศ"สิ

สร้างความเท่าเทียม โดยการลดโอกาศคนอื่น

ไม่ใช่ว่าไม่ชอบที่ทุกคนมีสิทธิ์เท่ากันนะ เเต่คิดเเก้ปัญหาด้วยวิธีอื่นไม่ได้เเล้วใช้มั้ย มันเป็นการสร้างความลำบากเพิ่มให้เด็กมากไปกว่าที่มีหรือเปล่า

ไม่มีอะไรเหมาะกว่าคำว่า 'เสร่อ' อีกแล้ว สอบทุกอย่างตู้มเดียวในเดือนมีนา แกทแพทสอบรอบเดียว ไม่มีแก้ตัวรอบสอง ไม่มีีรับตรงก่อน..แทนที่จะได้ติิดรัับตรง เทอม 2 จะได้สบายไม่ห่วงไม่เครียด กลับมาต้องเครียดอีก จบแล้วก็เหมือนยังเร่ร่อน
คนแก่ๆทีี่นั่่งอยู่ในห้องแอร์ ควบคุมการศึกษาไทยจะรู้บ้างมั้ยว่าทำให้การศึกษามันแย่ลง เตรียมตัวกับรัับตรง แอดมิชชั่นตั้งแต่ม.3 แต่ไม่มีประโยชน์เลย

ระบบ ent ดีกว่า มองภาพรวมยังไงก็ดีกว่า แต่ปัญหาคือ ENT 4.0 ยังสอบมากวิชาไป มาอัดแน่นอยู่เดือนมีนาเมษา อันนี้ ENT แต่ก่อนไม่เป็นนะ สอบครั้งเดียวจริง แต่ไม่หลายฉบับ ไม่ได้มีทั้ง GAT PAT 9 วิชา O-Net แบบนี้
และที่สำคัญโควต้าส่วนภูมิภาคก็ยังมี แต่เท่าที่อ่านเหมือนโควต้าที่ต่างๆที่เป็นการสอบจะห้ามมีเลย อันนี้ก็เครียดพอสมควร

คือถ้าปรับก็ปรับให้ครบวงจรได้มั้ย สอบน้อยฉบับลงหน่อยเถอะ มาอัดๆกันในเดือนเดียวบางทีก็ยิ่งเครียด

การสอบให้จบม.6 ก่อนเห็นด้วย คิดถึงภาพรวมแล้วดี แต่ในรายละเอียดยังอยากให้ลดวิชาสอบที่ซ้ำซ้อนลงด้วยนะ

อย่างงี้เกรดในโรงเรียนยังต้องใช้อยู่ไหมอ่าา งง

GATPAT กับวิชาสามัญควรเลือกซักอันนะเพราะถ้างั้นก็เสียเงินสมัครสอบ2อันอยู่ดี

เป็นคนเดียวหรือเปล่านะ. ที่รู้สึกว่า ประเด็นควรแก้ไขไมใช่ แอดหรือ เอนทราน. แต่เป็นระบบจัดการการสอบที่ห่วยย แอดมิชชั่นนี่บอกเลยว่าไม่มีความสมเหตุของตัวระบบ. GAT-Pat ครั้งแรกสอบตอน. ตุลาคม. - YOU เด็กยังเรียนไม่จบเลยให้มีสอบได้ไง? หลายคนเลยไปเรียนพิเศษเป็นบ้าเป็นหลัง แถมรับตรงก็เยอะช่วงนี้......รู้สึกเลยว่ากวดวิชามันมากกว่าการเรียนการสอนที่ให้มีความรู้แต่กลายเป็นธุรกิจที่ปลาใหญ่กินปลาเล็ก เด็กที่มีเงินมักจะได้เปรียบในหลายๆด้านประมาณเราถือมีดอีกฝ่ายถือมีดตีบวก10 ใครจะไปเรียนพิเศษมันสิทธิ์ของเค้าแต่ตัวระบบ. ไม่ควรไปเอื้อให้มันมากขนาดนี้ เพราะสุดท้ายยคนที่มีเงินเท่านั้นที่ได้เปรียบ. และแอดมิชชั่นจุดประสงค์ง่ายคือ ไดเงินเข้ากระเป๋าแค่นั้น ไม่เชื่อลองเอา400*จำนวนเด็กที่สมัครแกทแพทดูสิ

อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาเห็นเม้นจังเลยจะได้รู้ความคิดเห็นคนอื่นด้วยจะได้ปรับแก้ให้ดี

ถึงจะอยู่แค่ม.ต้นแต่เราก็ขอบอกว่าส่วนตัวเราชอบระบบแอดมากกว่า เปลี่ยน..เปลี่ยนได้ค่ะ แต่ไม่ใช่ว่าพอเปลี่ยนแล้วเป็นการเพิ่มภาระของเด็กมากขึ้นแบบนี้ แก้ไขก็แก้ไขกันเอง ถึงพวกคุณจะเคยเป็นเด็กมาก่อนแต่ก็คนละสมัยกันนะคะ ทำไมไม่รับฟังความคิดเห็นจากผู้ที่เกี่ยวข้องโดยตรงอย่างนักเรียนบ้าง นักเรียนก็คิดได้และมีเหตุผลพอนะคะ ถ้าจะเปลี่ยนโดยไม่ฟังความเห็นเด็ก พวกคุณก็ลองอัดๆความรู้ที่พวกเราหรือพวกพี่ๆเขาเรียนมาใส่สมอง แล้วลองจำลองการสอบแบบจริงเลยได้มั้ยคะ ผลออกมาเป็นอย่างไรค่อยตัดสินกันอีกที

เรียนก็เรียนหนัก ยังจะต้องมาเครียดเพิ่มขึ้นกับเรื่องนี้อีก สมองก็ต้องการพักผ่อนบ้างนะคะ หรือว่าตอนเด็กพวกคุณไม่เคยบ่นเกี่ยวกับเรื่องเรียนบ้างคะ หืม

การศึกษาดูงานที่ต่างประเทศก็มีบ่อยไม่ใช่เหรอคะ ลองศึกษาวิธีการเรียนการสอนหรือระบบต่างๆจากประเทศที่เจริญแล้ว แล้วเอามาปรับใช้บ้างก็ได้นะคะ ไม่ใช่หลงระเริงว่าความคิดของพวกคุณดีแล้ว พวกคุณรู้มากพอแล้ว (คำสอนพวกนี้มีเยอะนะคะ เคยอ่านกันบ้างมั้ย หรือมัวแต่นั่งดูเด็กวิ่งเต้นหาที่เรียนพิเศษแล้วรอเงินเดือนออกอย่างเดียว)

ลองคิดดูค่ะ ว่านักเรียนชั้นมัธยมต้นอย่างเรามาแสดงความคิดเห็นแบบนี้หมายความว่าอย่างไร หวังว่าพวกคุณคงมีวุฒิภาวะพอที่จะคิดได้และไม่ใช้อารมณ์ในการตัดสิน ไม่ใช่ว่าพออ่านแล้วค้นหาที่อยู่เด็กจาก IP เครื่องเพื่อมาจับหรือปรับข้อหาหมิ่นประมาทหรืออื่นๆหรอกนะคะ

ปล.นี่เป็นเพียงความคิดเห็นส่นตัวของบุคคลเพียงคนเดียว ไม่มีการอ้างอิงจากที่ใดๆทั้งสิ้น ถ้าไม่มีเหตุผลไปสักหน่อยขออภัยด้วยค่ะ พอดีใช้อารมณ์ผสมด้วย เพราะยังเป็ยงเพียง"เด็ก"คนหนึ่งเท่านั้น (ระบายไปเยอะเลยแฮะ ขอโทษถ้ายาวไปค่ะ)

ปล.2. สู้ๆนะคะพี่ๆ เป็นกำลังใจให้

ระบบadmissionก็ดีอยู่แล้ว ถามเด็ก และผู้ปกครองพร้อมที่จะจ่ายเพื่อให้ลูกได้มีโอกาศเข้ามหาลัย มากที่สุด แก้ปัญหา โดยไม่คิดว่าเด็กเขาได้โอกาศไม่ได้เสียโอกาศ ถ้าจะประหยัดค่าสมัครสอบ ก็ไม่ต้องคิดแทนู้ปกตรองเขา เขายินดีจ่าย

เอาจริงๆเท่าที่อ่านมาจากหลายๆแหล่ง คือส่วนตัวชอบระบบแอดมิชชั่นมากกว่าค่ะ

ถึงตอนนี้เราจะอยู่แค่ ม.3 แต่เราวางแผนชีวิตอะไรมาตลอด จะเลือกอนาคตแบบไหน จะทำยังไงเพื่อให้ความฝันเป็นจริงได้

อยู่ๆเจอเปลี่ยนระบบแบบนี้เล่นทำเอาเครียดเลยค่ะ ตอนอ่านแต่ละคอนเม้นคือน้ำตาไหลไปอ่านไปเครียดไป..

ไม่รู้ว่าตอนนี้จะได้เจอกับระบบนี้จริงๆรึเปล่า จะมีการปรับเปลี่ยนอะไรทีหลังไหม 
แต่รุ่นไหนที่ต้องเจอก็สู้ๆนะคะ TT เราจะสู้ไปด้วยกันนนน

เป็นการตัดโอกาสเด็กอย่างเลือดเย็นสุดๆ
การใช้ระบบนี้เหมือนเป็นการบอกเลยนะ ว่าถ้าคุณมั่นใจว่าคุณเจ๋งจริง คุณค่อยตัดสินใจไปเอารับตรง

คนที่เก่งปานกลางค่อนข้างไปทางอ่อน ที่อยากเข้าคณะที่คาดว่าน่าจะต้องเป็นรับตรง (เช่น สถาปัตย์ที่อาจต้องทดสอบการวาดรูป)  ถ้าเค้าตัดสินใจทิ้งเอนท์เพื่อรอรับตรง แล้วผลออกมาปรากฏว่าไม่ติดล่ะ จะทำยังไง?

ระบบเคลียร์ริ่งเฮ้าส์คือการบีบคั้นเด็กมาก เหมือนเราเล่นเกมส์เสี่ยงดวงเลย ยิ่งเป็นปีแรกด้วย เด็กจะไปรอเอารับตรงเท่าไหร่ เลือกเอาจากที่เอนท์ได้เลยเท่าไหร่ก็ไม่สามารถคาดคะเน เดาอะไรได้เพราะไม่มีตัวอย่างจากปีที่ผ่านมา

ผู้ใหญ่ควรมีความรับผิดชอบมากกว่านี้นะ เด็กไม่ใช่หนูทดลอง ไม่ใช่คนที่คุณจะทำอะไรก็ได้ ถามว่าคุณมีสิทธิ์อะไรถึงมากำหนดทิศทางชีวิตของเราได้ขนาดนี้ 

ตอนนี้เด็กคัดค้านกันทั้งประเทศ เปิดหูลืมตา รับฟังความคิดเห็นของเราได้แล้ว 

GPAX ละคะ?

ประหยัดค่าสอบเพื่อให้เกิดความเท่าเทียม ประหยัดค่าสอบแต่พอเอ็นติดโดยบังเอิญ..ไม่มีเงินพอจ่ายค่าเทอม รัฐบาลต้องตั้งกองทุนแก้ปํญหาให้ด้วยนะ

TU STAR ควรไปสอบไว้ดีไหมอ่ะคะ

สอบวันเดียวกัน เวลาเดียวกัน ข้อสอบเหมือนกัน ใช้คะแนนจากการสอบประเภทเดียวกัน ยื่นคะแนนทั้งประเทศพร้อมกัน

ถ้ามองในเรื่องของความเท่าเทียมแล้ว ผมว่าระบบนี้นับว่ามีความเท่าเทียมที่สุด เพราะปัญหาคนไม่มีเงินไปสอบรับตรงจะหมดไปทันที ทุกคนไม่ว่าจนรวยจะมีสิทธิเท่าเทียมกันตามด้านบน คนจนสามารถเข้าม.ดีๆได้โดยไม่ต้องกังวลเรื่องค่าใช้จ่าย แค่มีความรู้ถึงขั้นเท่านั้น และระบบent นี้จะวัดกันที่คะแนนล้วนๆ ใครเก่งได้เยอะ ไม่เก่งได้น้อย ก็ยุติธรรมดี

ถ้าระบบแบบนี้ถูกใช้กับเหล่าผู้ใหญ่ทั้งหลายก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร แต่มันถูกใช้กับม.6นี่สิ

หากมองในเรื่องคุณภาพของระบบ ก็ถือได้ว่าเป็นระบบที่มีคุณภาพ เพราะมีความยุติธรรมเท่าเทียม ทุกคนจะเจอการทดสอบมาตรฐานเดียวกัน นอกจากนี้ตัวข้อสอบหลายชุดก็สามารถวัดเด็กได้หลายระดับอีกด้วย จึงไม่มีปัญหาที่ว่า"ข้อสอบวัดอะไรไม่ได้" เมื่อมีข้อสอบที่สามารถวัดความรู้อย่างมีคุณภาพ+ระบบที่ดี มันก็ดูจะไม่มีเหตุผลที่ต้องคัดค้านระบบนี้

แต่ที่มีการคัดค้านก็เพราะระบบนี้มันดู"โหดร้าย"สำหรับเด็กม.6ไปหน่อย ทว่าโลกนี้ย่อมมีผู้ชนะและผู้แพ้ตามกฏของธรรมชาติอยู่แล้ว เข้มแข็งก็รอด อ่อนแอก็เดี้ยง เหอๆๆ เพราะงั้นจงปรับตัวกับระบบให้ได้ซะเถิดทุกท่าน

ขอให้โชคดีกับระบบใหม่นะครับ!/รุ่นสุดท้ายพอดี เสียดายหน่อยๆ

ปล.แล้วเกรดในรร.มันคืออะไรล่ะทีนี้ ถ้าไม่ใช้เกรดคิดมันก็ยุติธรรมอีกนั่นแหละ แต่ถ้าไม่มีวิธีที่ทำให้เด็กสนใจการเรียนไม่คิดทิ้งเกรดก็คงวุ่นพอดู

กลับไปเป็นแบบ Ent ยี่สิบกว่าปีที่แล้วดีสุด

ถามจริงระบบเอนทรานซ์ ไม่ใช้เกรดช้ะ แล้วจะให้เราตั้งใจเรียนในห้องทำไม  แทนที่ก่อนจบม.6 เราอาจจะมีที่เรียนดีๆซักที่แล้ว กลับกลายเป็นว่าต้องมารอลุ้นๆพร้อมกัน เครียดกว่าเยอะ ประเด็นคือ ใช้เกรดอยู่ไหม?

ใช้เกรดไม่แฟร์อยู่แล้ว บางรร.กดเกรดมาก ไม่ยุติธรรม
คนที่บอกว่าถ้าไม่ใช้เกรดแล้วจะตั้งใจเรียนในห้องทำไม ต้องถามตัวเองแล้วว่า สรุปที่ตั้งใจเรียนในห้องก็เรียนเพื่อเกรดเหรอ สรุปเรียนไม่ได้เอาความรู้เหรอ หรือรร.ไม่ได้ให้ความรู้เลยนอกจากเกรด

ส่วนคนที่อยากสอบเยอะๆ บอกเลยว่าก็คือคุณมีตังค์ ถ้าลองไม่มีตังค์จะไม่คิดแบบนี้ และอีกอย่างคือไม่ค่อนแม่น ใช้การสอบบ่อยๆเข้าสู้ การสอบข้อสอบเดียวกัน สอบได้จำนวนครั้งเท่ากันทุกคน มาตรฐานเดียวกัน ยังไงก็แฟร์กว่า

ถ้ามองภาพรวมต่อสังคมทั้งหมดยังไงก็ดีกว่า บางครั้งก็ต้องมองภาพรวมของสังคมด้วยนะ ไม่ใช่มองแต่ตัวเราที่มีฐานะและได้โอกาสมากกว่าคนที่ไม่มี

1.กสพท.หล่ะครับ การสอบเข้าพวกคณะแพทย์ ทันตะ เภสัย สัตวแพทย์
2.ต้องใช้เกรดมาไหมครับ (ไม่อยากให้ใช้เลย โรงเรียนให้เกรดไม่เหมือนกัน มาตราฐานการให้คะแนนครูต่าง)
3.TU Star จะโดนยุบไหมครับ

ค.เห็นส่วนตัว รู้สึกโอเครกับการสอบหลังม.6 มันแฟร์กับคนที่ไม่ได้มีตังเรียนพิเศษแบบล่วงหน้าก่อน แต่แอบเสี่ยงตรงสอบครั้งเดียว และที่สำคัญ ****อยากให้เฉลยข้อสอบให้ดูหลังสอบด้วยครับ ถ้าไหนๆก็สอบเหลือรอบเดียว มันจะได้แฟร์ ทักท้วงได้ เพราะคะแนนครั้งนี้มีค่าจริงๆ มันครั้งเดียว เล็กๆน้อยๆก็ต้องเอาครับ 555555

ถามว่าเป็นการพัฒนาที่ยั่งยืนมั้ย เราว่าก็ยั่งยืนในส่วนนึง แต่ทางผู้ใหญ่รีบร้อนไปหรือไม่? ดูอะไรๆยังไม่ลงตัว ควรจะค่อยๆเป็นค่อยๆไป ไม่ควรจะประชุม แล้วสรุป แล้วทำเลย เราว่าควรจะค่อยๆคิดปรับแก้ ทบทวนกันให้ถ้วนถี่ก่อน ไม่ใช่เอะอะเปลี่ยนๆ ท่านๆควรจะ ช่วยกันร่างแผนงานเพื่อให้มันค่อยๆลงตัวก่อน ไม่ใช่ แค่คุยกัน แต่อะไรๆ ก็ยังดูวุ่นวายไปหมด นู่นนี่นั้นก็ยังตกลงกันไม่ได้ แล้วให้เอามาใช้เลย สงสารเด็กนะคะท่านผู้ใหญ่ทั้งหลาย

อิจฉา dek61 มีเวลาอ่านหนังสือถึงเดือนมีนาเลย รุ่นผมเดือนตุลาก็สอบละ ถ้าพลาดไป รอบแอดมิชชั่นก็รับน้อยเหลือเกิน

มันเหมือนลดจำนวนรอบการรับเด็กลง ปิดโอกาสในการรับเด็กหลายๆทาง แล้วแบบ ข้อสอบแม่งก็เยอะเหมือนเดิม แถมมาอัดสอบภายใน 2 เดือนหลังจบ ม.6 คือแบบเด็กก็เครียดเข้าไป แทนที่จะไปฉลองกับเพื่อนกับครอบครัวเรียนจบ มีที่เรียนแล้ว แต่ดันต้องมานั่งเครียดอ่านหนังสือ สอบอีกหลายอย่างติดๆกัน
#บ้าไปแล้ว
ปล. เราเราเป็น dek61

ขอพื้นที่ให้เด็กเทียบเท่ากับซิ่วด้วย