Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

Entrace4.0ไม่แฟร์!! ที่แน่ๆมีคนได้เปรียบและมีคนเสียแบบมหาศาล ! (dek61เป็นต้นไปต้องรู้)

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
Entrace4.0ไม่แฟร์!! ที่แน่ๆมีคนได้เปรียบและมีคนเสียแบบมหาศาล ! 
น้องอยู่กลุ่มไหนจะได้หรือเสีย?? แล้วจะรับมือยังไง?? #อ่านยาวหน่อยแต่โคดคุ้มมม
.
อ้าวเฮ้ยย! ไม่เหมือนที่คุยกันไว้นี่หน่าา 
สอบเอนท์แบบปีนี้จะไม่มีวันกลับมา~ 5555 

.
สวัสดีน้องๆม.ปลายทุกคนนะครับ ^^
กระทู้นี้พี่ตั้งใจตั้งมาเขียนแชร์มุมมองเรื่องEntrace4.0
จากรุ่นพี่คนนึงที่มีประสบการณ์ในการสอบโชกโชนพอตัว 
(สอบติดอะไรที่ไหนบ้างอ่านได้ท้ายกระทู้นะครัช)
ที่อยากจะมาบอกน้องๆว่า "เฮ้ยย entrace4.0มันไม่ใช่เล่นๆนะ"
ต้องตื่นเต้นตื่นตัวกันได้แล้ว 5555
.
ก็อย่างที่หลายคนคงรู้แล้วเรื่องการเปลี่ยนระบบการสอบปีหน้า 
เรียกว่าเปลี่ยนแบบพลิกฟ้ากลับแผ่นดินกันเลย
เมื่อการสอบชี้เป็นชี้ตายอนาคตถูกยุบรวมมาให้เหลือแค่รอบเดียว!! 
(ไม่นับโควต้ากะสอบตรงซึ่งเปิดหลังclearing house)
.
ถึงรายละเอียดจะยังออกมาไม่ครบ 
(ซึ่งถ้าครบพี่จะมาเขียนรีววิชำแหละข้อดีข้อเสียให้อีกรอบ) 
แต่ที่นี่แน่ๆเลยคือ
สมดุล"สนามรบ"เอนทรานซ์จะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป ! 
.
เพราะจะมีฝ่ายนึงได้ประโยชน์
และฝ่ายนึงเสียประโยชน์แบบมหาศาล ! 
(เรียกว่าไม่แฟร์ก็ได้ 5555) 
.
และคนที่ได้ประโยชน์แบบมหาศาลก็คือ
กลุ่มเด็กพวกแรกที่พี่ขอเรียกว่า "forward thinker" 
คือคนที่มีvision 
มองการณ์ไกล และมีวินัยในการทำตามวิสัยทัศน์นั้น ! 
.
Forward thinker จะเป็นพวกแบบ 
เห้ย ปีหน้าต้องเอนท์แล้วนะ 
เนื้อหาก็โคดเยอะ คู่แข่งก็เทพๆทั้งนั้น
มาโหมอ่านท้ายๆนี่งิดแน่ 
ตอนนี้มีเวลาเป็นปี อ่านสะสมไว้เลยดีกว่า ! 
.
ส่วนฝ่ายที่น่าสงสารสุดๆ 
เพราะจะถูกเหยียบมิดคือเหล่า "follower" 
คือคนที่ชอบมาอ่านหนังสือตามหลังเค้า 
ต้องรอไฟลนก้นวันท้ายๆค่อยมาอ่านเงี้ย 555 
.
คือเอาง่ายๆ ตอนสอบแบบระบบเดิม 
เหล่า follower ก็จะนุ่มนิ่มกว่า forward thinker อยู่แล้ว
(ก็เค้าเตรียมตัวมานานอ้ะ ปึ้กกว่าเห็นๆ 555) 
.
แต่ตอนนั้นเหล่าfollowerยังไม่โดนกดมาก
เพราะถูกกระตุ้นให้ต้องอ่านหนังสือตลอดปี 
GAT/PAT รอบแรกตอนตุลาก็ต้องอ่าน
9วิชาตอนธันวาก็ต้องอ่าน 
GAT/PAT รอบ2ตอนมีนาก็ต้องอ่าน 
ถึงจะชอบอ่านตอนไฟลนตูด แต่ก็ยังได้อ่านหนังสือทั้งปี 555 
(ไม่มีใครไปรออ่านตอนแอดกลางรอบเดียวหรอก!!)
.
แถมมีให้สอบลองมือหลายรอบ สอบตรงโควต้านู่นนี่นั่นอีก 
เรียกว่าทำข้อสอบจนคุ้นมือ 
สรุปแล้ว สอบมาก็ตั้งเยอะ มีโอกาสติดหลายที่ก็ตั้งแยะ 
มันก็แคล้วคลาดปลอดภัย 555
ต้องได้เรียนที่ที่มันโอเคซักที่แหละ ฮ่าา 
.
แต่Entrace4.0ไม่ใช่แบบนั้นครับ !! 
การสอบหลักๆที่ชี้ชะตาคือรวดเดียวหลังจบม.6เลย! 
เป็นการเปิดมหกรรมการละเลงเลือดอย่างแท้จริง
.
เมื่อเด็กทีมforward thinker ที่มองการณ์ไกล๊ไกล
เล่นอ่านล่วงหน้ามาเป็นปี ! 
(เพราะกว่าจะสอบก็ตอนมีนานู่นนน) 
มาปะทะกับทีมfollowerที่เพิ่งไฟติด(ที่ก้น) 
เพิ่งได้จับหนังสือจริงๆจังๆ 3เดือนก่อนสอบเองงง !! 
.
คือforward thinker จากเดิมที่แม่งเก่งอยู่แล้ว
แม่งจะแกร่งขึ้นกว่าเดิม เพราะมีเวลาซุ่มซ้อมนานขึ้นหลายเท่า 
(เผลอๆอ่านมาวิชาละ5-6รอบแล้วอ้ะ 555) 
แต่followerกลับอ่อนลงอีก เพราะไม่โดนกระตุ้นให้สอบเป็นช่วงๆแบบแต่ก่อน 
นอนเกาสะดือมาเกือบค่อนปี ประสบการณ์ไม่มี ใสกิ๊งง
แล้วโดนผลักเข้าสังเวียนทีเดียวตอนมีนา ! 
......
น้องคิดว่ามันจะนองเลือดมั้ยล่ะครับ ? 5555
.
ดังนั้นพี่ขอคาดการณ์อนาคตปีหน้าไว้เลย 
ว่าผลลัพธ์ในการสอบของ forward thinker vs follower
จะมีgapที่กว้างขึ้นอีกมากกก 
คือ forward thinker จะยึดที่และสถาบันอันดับบนๆไว้ทั้งหมด
ในขณะที่ follower ก็จะโดนถีบลงมากองข้างล่างกันเพียบ 
.
น้องๆรุ่นที่จะสอบปี61และหลังจากนี้ ไม่ต้องเชื่อคำพูดพี่ 
ลองคิดตามเอาเองว่ามัน make sense มั้ย ?
ถ้าน้องคิดว่า "เออ มันใช่ว่ะ"
ก็ถึงเวลาแล้วที่น้องต้องมานั่งคิดว่า 
น้องจะเป็น forward thinker หรือ follower ? 
.
คนที่เป็น follower ไม่ได้ผิด 
แต่ถ้าจะเอาชีวิตรอดในEntrance4.0 
ต้องเป็น forward thinker เท่านั้น
.
เพราะในท้องทุ่งแห่งนี้ 
ถ้าไม่อยากเป็น "ลูกแกะ" ก็ต้องเป็น "หมาป่า" 
.
และใครเลือกที่จะเป็น"หมาป่า" 
มีเวลาให้น้องลับเขี้ยวอีกปีกว่าก่อนโดนขย้ำครับ ! 
.
>>อธิบายทิ้งท้าย<<
การที่น้องจะเลือกเป็น หมาป่า (forward thinker) ความยากมันไม่ได้อยู่ที่ตอนน้องเลือก เพราะใครๆก็เลือกได้ แต่ความยากมันอยู่ที่ว่า "น้องจะเป็นได้นานแค่ไหน?" --- บางคนเลือกแล้วเป็นได้แค่3วัน บางคน3สัปดาห์ ก็กลับมาเป็นลูกแกะใหม่ละ 5555 
.
ดังนั้นใจความสำคัญจึงอยู่ที่ ถ้าน้องอยากเป็นหมาป่า ต้องอยู่ในถ้ำหมาป่า ไม่ใช่ในฝูงแกะ !! --- ไม่งั้นน้องจะโดนบรรยากาศพาไปได้ง่ายมากๆๆ --- อย่ายอมให้กรงเล็บของเรากลายเป็นกีบ ตอนนี้พี่ได้ทำเพจไว้สำหรับลับเขี้ยวให้ forward thinker โดยเฉพาะ! (มีlinkแปะไว้ให้ข้างล่าง) ในนั้นเต็มไปด้วยบทความที่จะปลุกสัญชาตญาณของforward thinkerแบบฉับพลัน --- ถ้าน้องเป็นหมาป่าหลงฝูง และต้องการอยู่ถ้ำหมาป่า เข้ามากดsee first/เปิดโนติเพจพี่ไว้นะ ไม่งั้นโพสพี่จะแทบไม่ไปโผล่ที่หน้าข่าวน้องๆเลย --- รักษากรงเล็บของทุกคนไว้ให้ดีนะครับ !
.
พี่มิ้ง brain hacking 
-เรียนสไตล์พี่ สอบกี่ที่ก็ติดได้-
.
ชอบกดlike ใช่กดshare :D
.
>>เข้ามาจอยแหล่งซ่องสุมทางความคิด ติดอาวุธให้พร้อมสอบได้ที่เพจ Brain Hacking by P'Mink นี้เลย แนวคิดโดนๆ บทความดีๆ วีดีโอล้ำๆเพียบ <<
https://www.facebook.com/MinkBrainHacking/
#อ๊ะๆอย่าลืม ตั้งsee first/เปิดโนติด้วยนะ ไม่งั้นน้องจะแทบไม่ได้รับโพสจากเพจพี่บนหน้าข่าวเลย (เดี๋ยวนี้FBโหดมาก บอกเลย 555)
______________________________________________________________
>>ใครยังไม่รู้จักพี่ อ่านประวัติได้ที่นี่เลย 
[linkลัด] https://goo.gl/wY0fnD<<
>>กลับไปอ่านบทความย้อนหลังของพี่ทั้งหมดได้ที่นี่
[linkลัด] https://goo.gl/bkCVVQ <<

แสดงความคิดเห็น

>

8 ความคิดเห็น

Shalnark T Diabolus 17 ก.ย. 59 เวลา 20:39 น. 1

มันก็แฟร์กว่าแบบเดิมแหละครับ ความใส่ใจใฝ่รู้มันก็เป็นความรับผิดชอบของตัวคน เรามาเรียนเพื่อที่จะรู้ ถ้าวัดกันที่ความรู้มันแปลกตรงไหน

แบบเดิมสิไม่เท่าเทียม คุณบอกว่าประสบการณ์การสอบโชกโชน ผมไม่ทราบนะครับว่าคุณสอบอะไรที่ไหนยังไงไปบ้าง แต่อยากจะถามว่า...หมดค่าสมัครสอบและค่าเดินทางไปเท่าไหร่เคยคิดมั้ยครับ นั่นละที่ทำให้ระบบเดิมมันไม่แฟร์ คนที่เรียนรุ่นเดียวระดับเดียวกับคุณไม่ใช่จะมีกำลังทรัพย์พอจะไล่สอบเยอะแยะเหมือนคุณทุกคนครับ สุดท้ายคนรวยก็มีสิทธิ์เลือกมากกว่าคนจนทั้งที่เอาจริงๆแล้วความรู้ความสามารถอาจไม่แตกต่างกันก็ได้

1
MinkBH 18 ก.ย. 59 เวลา 08:26 น. 1-1

ขอบคุณครับ เห็นด้วยอย่างยิ่ง ^^ จริงๆกระทู้ๆนี้ไม่มีเจตนาโจมตีระบบหรืออวดการวิเคราะห์อะไรนะครับ จุดประสงค์จริงๆคืออยากให้นองๆรุ่น61เตรียมตัวสิบกันแต่เนิ่นๆ (เข้าใจว่าหัวข้อคงล่อเป้าไปหน่อย555) ถ้าจะพูดเรื่องระบบก็ถูกต้องอย่างที่คุณบอกครับ ขอบคุณที่มาร่วมแสดงความเห็นนะคัรบ

0
rakk 18 ก.ย. 59 เวลา 08:04 น. 3

มันไม่มีอะไรแฟร์หรอกในโลกนี้ ไม่ว่าจะเป็นประเทศไหน และคนไทยก็ยังเป็นลูกไล่อเมริกาตราบที่ยังอวดฉลาดและนั่งงอมืองอเท้า ไม่เหมือนญี่ปุุน ทั้งๆที่เริ่มพัฒนาพร้อมญี่ปุนตั้งแต่สมัย ร 5
แค่เกิดมาก็มีต้นทุนที่ไม่เท่ากัน กำลังหมายความว่าคนรวยหรือคนที่พร้อมกว่าย่อมมีโอกาสมากกว่าเสมอ ประเทศที่ร่ำรวยและพร้อมกว่าก็ได้เปรียบกว่า
การเปลี่ยนแปลงอะไรก็แล้วแต่มันเพียงแค่ทำให้แค่แฟร์มากขึ้นหรือน้อยลงเท่านั้น ถ้ามัวแต่แหกปากแล้วรอเวลาก็รอรับชะตากรรม คนที่เรียนรู้และตามให้ทันคือผู้อยู่รอด
ผมเห็นด้วยกับจขกท ในแง่ที่ว่าคนที่พร้อมกว่าย่อมมีโอกาสมากกว่าเสมอ
ปล ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม ในโลกใบนี้ คนที่แข็งแกร่งและฉลาด ย่อมมีโอกาสแทรกขึ้นมาได้เสมอ

3
MinkBH 18 ก.ย. 59 เวลา 08:27 น. 3-1

ขอบคุณครับ เห็นด้วยอย่างยิ่ง ^^ จริงๆกระทู้ๆนี้ไม่มีเจตนาโจมตีระบบหรืออวดการวิเคราะห์อะไรนะครับ จุดประสงค์จริงๆคืออยากให้นองๆรุ่น61เตรียมตัวสิบกันแต่เนิ่นๆ (เข้าใจว่าหัวข้อคงล่อเป้าไปหน่อย555) ถ้าจะพูดเรื่องระบบก็ถูกต้องอย่างที่คุณบอกครับ ขอบคุณที่มาร่วมแสดงความเห็นนะคัรบ

0
rakk 18 ก.ย. 59 เวลา 16:26 น. 3-2

ก็ขอบคุณเช่นกัน ปกติผมเป็นคนตรงๆ และขวานผ่าซาก แต่ผมก็มีเจตนาดีเช่นกัน
ผมขอเล่าสักนิด แต่ก่อนผมก็เคยอคติกับโลกที่ไม่แฟร์ เพราะเกิดมายากจน แต่มันสมองของผมคิดว่าสอบแพทย์ก็ติด แต่แค่ค่าสมัครสอบยังไม่มีปัญญา
แต่ก็คิดได้ ว่าเราไม่สามารถหาความแฟร์ได้ทุกอย่าง และเข้าใจกับมัน เมื่อทำงานและมีลูก ก็บอกกับตัวเอง เราต้องเตรียมพร้อมให้ลูกเรียนใน รร ดีๆพอที่จะให้เขาแข่งขันได้ เตรียมเงินให้พอที่จะให้เรียนพิเศษ เตรียมเงินให้พอที่จะให้สมัครสอบตามที่เขาต้องการ ส่วนความเก่งความฉลาดก็ขึ้นกันมันสมองของเขา ความแข็งแกร่งและความพร้อมในการสอบก็ผู้เป็นพ่อจะเป็นคนให้ความคิดและปลูกฝัง เมื่อถึงเวลาสอบแข่งขัน มันก็ขึ้นกับตัวเขา
ลูกผมมีสองคน เรียน ม ปลายที่เดียวกัน อยากเรียนแพทย์ทั้งคู่(มันก็เป็นของธรรมดา ที่คนเราใฝ่ฝัน)
ก็ไม่เห็นติดทั้งคู่ คนโตทำงานแล้วก็ไม่เห็นเขาฟูมฟายทั้งๆที่สอบไม่ติด ได้เรียน ม ระดับกลางๆ ทำงานระดับกลางๆ ผมก็ไม่ซีเรียสอะไร เพราะทั้งผมและลูกทำใจได้ในระดับมันสมองของเขาก็เท่านั้น
ส่วนคนเล็ก ตอนนี้เรียน ไฟฟ้า จุฬาปีสอง มันสมองค่อนข้างดี สอบไม่ติดเช่นกัน ซิ่้วปีแรกก็ไม่ติด คะแนนห่างแค่จุดทศนิยม(ถ้า มเอกชน ก็ติด แต่ไม่มีเงินเรียน) จะซิ่วปีสองอีก มันก็อยู่ที่เขาว่าจะมีความพร้อมและมุ่งมั่นแค่ไหน
ตอนสอบครั้งแรก ผมบอกว่าลูกยังพร้อมไม่พอหรอก เขาก็บอกว่าพอ ผลออกมาแล้วเป็นอย่างไร พอซิ่วปีแรกก็พร้อมไม่พอ เพราะคิดว่าพอใจใน วิศว จุฬา ซิ่วปีแรกไม่ติด ปีสองจะเอาใหม่แต่ปีนี้มุ่งมั่มกว่าเดิมเยอะเพราะแฟนมันดันติดแพทย์
มันเริ่มรู้ตัวว่าไม่พร้อมจริง เพราะวิชาชีว และคณิต มันยังติวให้แฟน
สองเริ่มรู้ว่าอนาคตกับแฟนจะมีปัญหา
ปีนี้กล้าประกาศศักดาต่อหน้าผม ว่าติดพันเปอร์เซน ผมก็บอกว่าอย่าโม้ให้ติดก่อนแล้วค่อยโม้
ปล ผมเชื่อว่าเขาติด เพราะคะแนนก็ใกล้เอื้อม ความมุ่งมั่นมากขึ้น(เพราะมีสิ่งเร้า) เข้าใจมากขึ้นว่าความพร้อมจริงๆคืออะไร เพราะจะสอบเข้า ม ไร คณะอะไร ความพร้อมย่อมไม่เท่ากัน

0
MinkBH 18 ก.ย. 59 เวลา 18:10 น. 3-3

ยินดีกับคุณพ่อที่ลูกสอบติดวิศวะจุฬาด้วยครับ ขอบคุณที่แบ่งปันประสบการณ์ให้ฟังครับ

0
ชะชะชะชะชะชะชิ 18 ก.ย. 59 เวลา 12:58 น. 4

ทุกคนที่สอบอยู่ในกติกาเดียวกัน ต่อให้เป็นวิธีรับเข้าแบบเดิมหรือแบบใหม่ คนที่คิดได้และเตรียมตัวก่อน(หรือแบบ Forward ที่ จขกท กล่าวถึง) แบบที่ย่อมได้เปรียบเสมอ

0
wnbm 18 ก.ย. 59 เวลา 17:21 น. 5

เราว่ามันแฟร์นะ สอบหลังเดือนมี.ค. เราว่าเวลาอ่านหนังสือมีมากเลยทีเดียว เพียงแต่ว่าคุณจะบริหารเวลาเป็นหรือเปล่า ไม่ใช่ว่าเอาเวลามาวิเคราะห์ระบบใหม่ เราจะติดหรือเปล่า? กลัวจัง? เตรียมตัวอ่านหนังสือเถอะน้องๆ เวลาอ่านหนังสือมีมากกว่าพวกพี่อีก ที่ต้องสอบgatpatเดือนต.ค. รวมถึงรับตรงต่างๆ เวลาพวกน้องมีมากกว่าพวกพี่อีกนะ ถึงจะใช้ข้อสอบกลาง เวลาพวกคุณก็มีเท่ากันไม่ใช่หรอ ทำมันให้ดีๆสิ ฝากให้คิด คหสต.

0
ไม่แฟร์ยังไง 18 ก.ย. 59 เวลา 18:40 น. 7

งั้นก็ไม่ควรเรียกว่าไม่แฟร์มั้ยคะ? เพราะคนที่อ่านที่เตรียมตัวมาจะสอบได้ดีกว่าก็ถูกต้องแล้ว ไม่ว่าระบบสอบแบบไหนคนที่ขยันทบทวนตั้งใจเรียนก็ย่อมทำได้ดีกว่าอยู่แล้ว

0
เหอะๆ 19 ก.ย. 59 เวลา 11:32 น. 8

หัวข้อกระทู้แลดูล่อเป้า บทความก็แปลกๆ คนที่เตรียมตัวมาดีย่อมทำคะแนนได้ดีกว่าก็ถูกต้องแล้วเป็นสัจธรรม ใครทำยังไงได้ผลอย่างงั้น แล้วเกี่ยวกับความไม่แฟร์ตรงไหน เข้าใจว่าอยากโปรโมตเพจ แต่บทความยังไม่ผ่านนะ เหอะๆ

0