ติดใจวาฟเฟิลอร่อยๆ จากร้านกาแฟ... เอ๊ะ นี่มากินกาแฟหรือมากินขนม ;P

[Sukiieyakii]

บางทีร้านกาแฟก็ไม่ได้เด็ดแค่กาแฟนะเออ!

สมัยนี้ร้านกาแฟ หรือ คาเฟ่ ถือว่าเป็นสถานที่หนึ่งที่ได้รับความนิยมจากคนทุกเพศทุกวัย ไม่ว่าจะเลือกมาอ่านหนังสือ นัดเจอเพื่อนๆ หรือมานั่งชิลจิบเครื่อมดื่มสบายอารมณ์ก็ได้ทั้งนั้น และนอกจากมีเครื่องดื่มให้เลือกหลากหลายแล้ว บางร้านยังมีขนม ของหวาน มาเอาใจลูกค้าอีกด้วย แต่ส่วนใหญ่จะเป็นขนมเล็กๆ น้อยๆ เบเกอรี่ เค้ก ชิ้นนิดหน่อยพอเป็นตัวเลือก ไม่ได้มีหลากหลายเมนูจัดเต็มมากนัก แหม...ถ้าอยากจะกินขนมจัดเต็มขนาดนั้นก็ไปนั่งร้านขนมหวานเลยดีกว่าไหม ฮ่าๆ 
 

แต่การนั่งร้านกาแฟกับนั่งร้านขนมหวานมันคนละฟีลกันเลยว่าไหม ร้านขนมหวานมันเหมือนกับเราตั้งใจไปกิน กินเสร็จก็กลับ ถ้าไปกับเพื่อนอาจจะนั่งเม้าท์มอยนิดหน่อยพอหอมปากหอมคอ แต่สำหรับร้านกาแฟเรารู้สึกว่าเรามานั่งพักผ่อน ปล่อยใจปล่อยกายสบายๆ ค่อยๆ จิบเครื่องดื่มตรงหน้า อารมณ์สโลว์ไลฟ์นิดๆ หรือแม้กระทั่งเวลามากับเพื่อนๆ เราก็นั่งคุยกันได้เรื่อยๆ ไม่รู้สึกกดดัน (แต่ก็ขึ้นอยู่กับร้านแต่ละร้านนะ ฮ่าๆ) 
 

ที่เกริ่นๆ มานี่ไม่ได้จะมาแนะนำหรือรีวิวร้านกาแฟหรอก อ้าว! เอ๊ะ ยังไง?!.... ไม่ต้องงงจ้า เพราะว่าวันนี้เรามารีวิววาฟเฟิลอร่อยๆ ที่ทำให้เราติดใจต้องกลับไปกินซ้ำ แต่มันเป็นวาฟเฟิลจากร้านกาแฟไม่ใช่จากร้านขนมหวานแต่อย่างใด แบบว่าเหย...ร้านกาแฟมีขนมอร่อยๆ ขนาดนี้เลยหรอเนี่ย เผลอๆ อร่อยกว่าร้านขนมหวานบางร้านอีกด้วย พร้อมจะตามไปกิน เอ้ย พร้อมจะตามไปชมหรือยังจ้ะ ป่ะ!ไปชมกันเล้ยยย
 

 

วาฟเฟิลอร่อยที่ว่านี้ มี 2 ร้านด้วยกัน เริ่มที่ร้านแรก “Original Waffle” จากร้าน “Coffee World”
ร้านกาแฟที่คุ้นเคย ชื่อร้านก็บอกว่ามันคือร้านกาแฟจ่ะเธอจ๋า แต่ตัวฉันนั้นกลับไม่ได้สนใจกาแฟเลยจ้า เพราะสิ่งที่ทำให้ฉันติดใจกลับมาที่ร้านนี้บ่อยๆ ก็คือ วาฟเฟิล นี่เอง วาฟเฟิลที่นี่มีให้เลือกหลายแบบ ต่างกันก็ตรงตัวซอสที่ราด เช่น วาฟเฟิลสตรอเบอร์รี่ วาฟเฟิลบลูเบอร์รี่ เป็นต้น สำหรับเราต้องออริจินอล วาฟเฟิล เท่านั้น ซึ่งสามารถเลือกได้ว่าราดน้ำผึ้งหรือเมเปิ้ลไซรัป เราเลือกเมเปิ้ล ไซรัปมา 
 

 

วาฟเฟิลครึ่งวงกลม 2 ชิ้น โรยด้วยน้ำตาลไอซิ่งเล็กน้อย เสิร์ฟพร้อมเมเปิ้ล ไซรัป ที่มาในแก้วชอท กลิ่นหอมมากกก ก่อนลงมือใดๆ คือต้องสูดดมกลิ่นให้อิ่มแกอิ่มใจก่อน ฮ่าๆ 

ราดเมเปิ้ล ไซรัปให้ทั่วทั้งแผ่น แล้วจัดการหม่ำซะเลย 
 

ราดไม่พอ จิ้มมันซะเลย ฮ่าๆ
 

รสชาติ : วาฟเฟิลแป้งกรอบนอกนุ่มใน คือกรอบนิดๆ ไม่ได้กรอบกรุบกรับ เนื้อนุ่มฟูเบาหอมเนย รสหวานกำลังดี เคี้ยวแล้วไม่แหยะ กินส่วนที่ไม่โดนไซรัปยังอร่อย พอกินส่วนที่ไซรัปซึมเข้าไปเนื้อยิ่งอร่อย ฉ่ำ! ถ้ามีวิปครีมกับไอศกรีมอีกสักลูกนะคือฟิ๊นนนนน 
 

ราคา : 80 บาท ราคาแอบแรงไปหน่อย แต่ปริมาณกินคนเดียวดูจะเยอะไป ชวนเพื่อนกินสักคนแชร์ปริมาณและแชร์ราคาก็ดูจะเข้าท่าดี ฮ่าๆ 

 

มาต่อกันอีกร้าน “Matcha Azuki Waffle” จากร้าน “Café Kaldi”
 

ร้านนี้อาจจะไม่คุ้นหูคุ้นตาเท่าไร เพราะมีไม่กี่สาขาใน กทม สาขาที่เรากินอยู่ที่มาบุญครอง ชั้น 4 ร้านนี้นอกจากจะมีเครื่องดื่มให้เลือกหลากหลายแล้ว ยังมีซอฟท์ครีมชาเขียวที่เค้าว่าเป็นเมนูฮิตของร้านอีกด้วยนะ และที่มากไปกว่านั้นวาฟเฟิลที่นี่ก็อร่อยไม่แพ้กัน 
 

เมนูนี้มีวาฟเฟิลสี่เหลี่ยมตัดแบ่งเป็น 2 ชิ้น เสิร์ฟพร้อมโมจิ ถั่วแดงบด วิปครีม และซอฟท์เสิร์ฟชาเขียว
 

 

รสชาติ : แป้งจะออกไปทางกรอบ แต่ไม่แข็ง เนื้อด้านในยังคงนุ่มแต่จะไม่ฟูเบาเท่าของคอฟฟี่เวิลด์ ตัววาฟเฟิลหอมกลิ่นเนยมาก มีคาราเมลเยิ้มๆ เข้มข้นเพิ่มความหวานมาให้อีก คือดีงาม คนชอบรสชาติหวานๆ รับรองถูกใจ ส่วนโมจิเนื้อหนึบหนับดี ถั่วแดงบดเนื้อเนียนหวานกำลังดี และซอฟท์ครีมชาเขียวนั้นก็เด็ดสมคำร่ำลือเลยจ้า เนื้อเนียนรสชาติเข้มข้นไม่หวานเกิน ชอบ! แต่ติดอยู่อย่างหนึ่งคือ วิปครีม เราว่ารสชาติมันเค็มไปอ่ะ บางคนอาจจะชอบ แต่เราไม่ชอบเท่าไร ไม่ชินกับรสชาติแบบนี้เลย ฮ่าๆ 
 

ราคา : 90 บาท ถือว่าโอเคเลยนะ เพราะมีท็อปปิ้งอย่างอื่นมาให้ด้วย 
 

รีวิวจบแล้ว มีใครเคยลิ้มลองวาฟเฟิลจากร้านดังกล่าวบ้างไหมเอ่ย ชอบไม่ชอบก็มาแชร์ความคิดเห็นได้นะ ยิ่งถ้ามีวาฟเฟิลเด็ดๆ ที่ไหนอยากมาแนะนำก็บอกมาได้เลย เพราะนี่ก็ตามหาไปเรื่อยๆ ไม่มีหยุด (เรื่องกินๆ ไม่มีคำว่าพอ ฮ่าๆ) แต่ส่วนมากเราจะมองหาร้านที่เดินทางไปได้สะดวกอ่ะ เพราะเราไม่มีรถส่วนตัว แฮ่ะๆ หวังว่ากระทู้นี้จะถูกอกถูกใจสายหวานกันนะจ้ะ ขอบคุณที่เข้ามาอ่านจ้า