Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

ระหว่างแฟนฟิค และนิยายแปลฟรีที่โดนพ่วงจากการโดเนท!!!

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
————————

แสดงความคิดเห็น

>

37 ความคิดเห็น

อัจฉราโสภิต 9 ธ.ค. 59 เวลา 06:28 น. 1
ผมไม่พูดเรื่องแฟนฟิคชั่นถูกหรือไม่ถูกนะครับ เพราะมันไม่ถูกนั่นแหละ แต่มันก็ไม่ได้ทำให้นิยายแปลถูกขึ้นมานะครับ ของที่ไม่ถูก เอามาเทียบกับของที่ไม่ถูก มันก็ไม่ถูกทั้งคู่เหมือนเดิม

แต่อยากถาม ว่านิยายแปล เอามาแปลให้คนอ่าน มันไม่เสียหายกับเจ้าของเรื่องยังไงครับ

คนที่อ่าน บางคนพอมีของลิขสิทธิ์ถูกกฎหมายเข้ามา เขาซื้อ

แต่อีกหลายคนไม่ซื้อครับ ซื้อทำไม ก็อ่านแล้ว

บางคนอาจจะอ้างว่าถ้ามันสนุกจริงก็มีคนซื้อเก็บอยู่แล้ว แต่ความจริงมันไม่เป็นอย่างนั้นครับ มีข้ออ้างต่างๆนานา สนุกแต่ไม่ถึงขั้นอยากซื้อเก็บบ้างล่ะ ไม่มีเงินบ้างล่ะ

พอเห็นว่าผู้ซื้อน่าจะน้อย สำนักพิมพ์ก็ไม่ซื้อมาแปล ค่าลิขสิทธิ์ที่นักเขียนพึงได้ก็ไม่มี

สิ่งที่สามารถพิสูจน์ได้ว่าที่ผมพูดไปข้างบนเป็นเรื่องจริงก็คือการ์ตูน (มังงะ) ครับ สำนักพิมพ์การ์ตูนของไทยจะตายกันอยู่แล้ว เพราะคนซื้อน้อยลงมาก ทำไมเขาซื้อน้อยลง ? ก็เพราะเว็บแปลให้อ่านฟรีไงครับ อ่านแล้ว รู้เรื่องแล้ว จะซื้อทำไมอีก

แบบนี้จะยังบอกว่าไม่เสียหายอีกไหมครับ

จริงๆเก็บเงินยังอาจจะทำให้ต้นฉบับเสียหายน้อยกว่าด้วยซ้ำ เพราะกรองพวกคนอยากอ่านฟรีออกไป แต่มันไปผิดจังๆตรงที่เอาของเขามาหาผลประโยชน์ให้ตัวเองครับ

ที่เปรียบเทียบกับนิทาน มีข้อแตกต่างอยู่สองอย่างครับ

หนึ่ง นิทานส่วนใหญ่ไม่มีลิขสิทธิ์ อาจเพราะเป็นของเก่าจนเจ้าของลิขสิทธิ์ตายไปนานแล้ว (ลิขสิทธิ์ปกติคุ้มครองหลังเจ้าของตายไป 50 ปี) หรือเป็นของวัฒนธรรมนั้นๆอยู่แล้ว หาตัวผู้แต่งไม่ได้

และสอง การเล่านิทาน คนฟังอย่างมากก็สองสามคน การเผยแพร่มันไม่กว้าง ความเสียหายจึงน้อย แต่การเอานิยายมาลงเว็บ มันคือสื่อมวลชนครับ Mass Media ซึ่งคำว่ามวลชน หรือ Mass ก็แปลตรงตัวว่าหมู่ชนจำนวนมาก หมู่ชนที่จะไม่ซื้อนิยายของเขาก็มากเป็นเงาตามตัวครับ

10
FpVins. 9 ธ.ค. 59 เวลา 11:11 น. 1-1

ก็ไม่ได้ว่านิยายแปล(ฟรี)จะถูกขึ้นมาหรอกน่ะคะ แค่สงสัยกับความมาตรฐานที่ว่า ทั้งที่ละเมิดทั้งสอง แต่โดนแค่อย่างเดียว

อีกอย่าง เราพูดถึงเรื่องนิยายแปลฟรีกับแฟนฟิคค่ะ

0
อัจฉราโสภิต 9 ธ.ค. 59 เวลา 11:16 น. 1-2

ผมก็พูดถึงนิยายแปลฟรีครับ

ประโยคนี้เลยครับ "จริงๆเก็บเงินยังอาจจะทำให้ต้นฉบับเสียหายน้อยกว่าด้วยซ้ำ เพราะกรองพวกคนอยากอ่านฟรีออกไป แต่มันไปผิดจังๆตรงที่เอาของเขามาหาผลประโยชน์ให้ตัวเองครับ" แปลว่าอะไร แปลว่าในบางมุม นิยายแปลฟรีแย่กว่านิยายแปลเก็บเงินเสียอีก

ละเมิดทั้งสอง ทั้งสองอย่างผิด อันนี้เป็นเรื่องของเว็บมาสเตอร์ครับว่าจะเอายังไงต่อ แต่ถ้าจะให้ผมพูด (ซึ่งผมไม่ชอบทั้งนิยายแปลและแฟนฟิค) แฟนฟิคชั่น ผลที่ตามมาที่สามารถมองเห็นได้ คือมีคนรู้จัก มีความนิยมต่อตัวศิลปินหรือผลงานต้นแบบแฟนฟิคชั่นนั้นๆมากขึ้น ได้ผลประโยชน์มากขึ้น ในขณะที่นิยายแปล ผลคือยอดขายน้อยลง ได้ผลประโยชน์น้อยลง

ยังไม่นับที่แฟนฟิคชั่นไม่ใช่การทำซ้ำ ดัดแปลง มาโดยตรง (จริงๆกฎหมายลิขสิทธิ์ครอบคลุมถึงตัวตนนักแสดงด้วย ดังนั้นแฟนฟิคชั่นก็ผิด) ในขณะที่นิยายแปลคือการดัดแปลงโดยตรง คือเปลี่ยนแค่ภาษา อย่างอื่นเป็นของเดิมทั้งหมด นิยายแปลจึงผิดโดยตรงมากกว่า แต่ทั้งสองอย่างผิดเหมือนกันครับ

0
FpVins. 9 ธ.ค. 59 เวลา 11:47 น. 1-3

ในหัวมีแต่ธุรกิจจริงๆสิน่ะคะ เฮ้อ... เงินตัดสินทุกอย่างจริงๆ

0
FpVins. 9 ธ.ค. 59 เวลา 11:56 น. 1-4

http://www.manager.co.th/iBizChannel/ViewNews.aspx?NewsID=9580000087816

รู้สึกว่า นิยายแปลให้อ่านฟรีจะไม่ละเมิดน่ะคะ

0
อัจฉราโสภิต 9 ธ.ค. 59 เวลา 12:04 น. 1-5

เดี๋ยวนะครับ

4. การนำงานมาใช้และเผยแพร่โดยอ้างอิงที่มาหรือให้เครดิตผู้สร้างสรรค์เพียงพอหรือไม่ที่จะไม่ถือเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์

ตอบ การนำงานมาใช้และเผยแพร่ ต้องอ้างอิงที่มาหรือให้เครดิตเสมอ จึงจะไม่ถือเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ และต้องเป็นกรณีที่ไม่ขัดต่อการแสวงหาประโยชน์จากงานลิขสิทธิ์ตามปกติของเจ้าของลิขสิทธิ์ รวมทั้งต้องไม่กระทบกระเทือนถึงสิทธิของเจ้าของลิขสิทธิ์เกินสมควรด้วย

เต็มๆหน้าเลยครับ

ถ้าจะถามว่าขัดขวางการแสวงหาประโยชน์ยังไง ก็กลับไปอ่านคอมเม้นต์ต้นทางเลยครับ พูดไว้แล้ว ไม่พิมพ์ซ้ำ

มีข้ออื่นอีกไหมครับที่บอก หรือดูเหมือนจะบอกว่าการแปลให้อ่านฟรีๆ ไม่ละเมิด ? เท่าที่ดูผมไม่เห็นนะครับ

เงินตัดสินทุกอย่าง ใช่ครับ เพราะการดำรงชีวิตในปัจจุบันต้องใช้เงินทั้งสิ้น ในกรณีนี้ ไม่ใช่เงินคุณคุณพูดได้ครับ คุณไม่ได้เสียเงิน มีของมาให้อ่านฟรีๆ หรือแม้แต่คนแปลเองก็ไม่ได้เสียเงินด้วยเช่นกัน

จะมาเรียกร้องน้ำใจ การแบ่งปัน แล้วตัวเจ้าของผลงานเขาล่ะครับ เขาอยากแบ่งปันด้วยหรือเปล่า เอาผลงานเขามาแบ่งปันโดยไม่ขอเขาแบบนี้

0
นิค&NIck 9 ธ.ค. 59 เวลา 18:37 น. 1-6

แตกต่างยังไงเหรอนิยายแปลฟรีท่างทางสั้นไปงั้นนิยายจีนแปลไทยฟรี เห็นความแตกต่างไหม ใช่ครับภาษาไงสำหรับคนที่ภาษาไม่ได้เรื่องอย่างผมแล้วอ่านมันอ่านไม่ออกนะพอใช้อากู๋แปลออกมาเละเทะเลยไง คนแปลฟรีนั้นเลยเอามาแปลภาษาบ้านเราเลยเข้าใจง่ายขึ้น มาก
และนิยายแปลฟรีแตกต่างมังงะแปลไทยฟรียังไง

นิยายแปลท่ามีlcเขาก็ลบหรือผู้แต่งไม่ต้องการก็ลบ อีกอย่างคนละภาษาบางคนอ่านได้แต่ส่วนใหญ่ละครับอ่านได้ไหมอ่านได้แต่ไม่เข้าใจเก็จนะ

ต่างจากมังงะนะครับบอกไว้ก่อนเพราะทางเจ้าของไม่ได้เลิกแปลและตอนที่แปลๆมาแล้วก็เปิดให้อ่านเลยไมมีใครซื้อไง

เพราะงั้นที่บอกเอาผลงานเขามาแปลฟรีเลยไม่มีปัญหาไงเพราะ1ภาษาใช่ว่าอ่านได้ทุกคน เพราะงั้นมันคนละเรื่องกันเลยเพราะไม่ได้อยู่ในข่ายเขาเลยไม่โดนแย่ง2ถ้าผู้แต่งแจ้งมาทางผู้แปลเราก็ลบ(เพราะไม่ใช่ผลงานเรา)เพราะใช้ว่าจะจำได้หมดทุกตอนซะหน่อยดึงก็ไม่ได้อ่านอย่างเดียว พอlcก็โดนลบอยู่แล้วไม่เหมือนมังงะที่ยังไม่โดนlc เพราะถ้าโดนก็ลบหมดนั้นแหละนอกจากเว็ปเถือนยังอยู่

นี้คือความแตกต่างเข้าใจตรงกันนะเยี่ยม

0
อัจฉราโสภิต 9 ธ.ค. 59 เวลา 18:44 น. 1-7

มังงะแปลไทยฟรีก็ผิดครับ และในเมื่อคุณรู้เรื่องมังงะ คุณไม่รู้เหรอครับว่าสำนักพิมพ์ไทยจะตายกันอยู่แล้ว นิตยสารอย่าง Boom ก็เลิกพิมพ์แล้ว เพราะอะไร เพราะคนอ่านแปลไทย (และแปลอังกฤษ) แล้วเลยไม่ซื้ออ่านของถูกกฎหมาย

นิยายแปลถ้ามี LC แล้วก็ลบ คุณแน่ใจได้ยังไงครับ กระทู้เหนือๆขึ้นไปข้างบนนี้เอง มีเรื่องที่ว่าสำนักพิมพ์ประกาศ LC แต่คนแปลก็ยังแปลต่อเพราะได้รับบริจาคมาแล้วด้วย นี่เหรอครับที่บอกว่า LC แล้วลบ

และถึงจะ LC แล้วลบ คนที่เคยอ่านแล้วก็มีความเป็นไปได้ (สูง) ที่เขาจะไม่ได้ซื้อฉบับ LC ครับ เพราะเขาอ่านมาหมดแล้ว รู้ตอนจบแล้ว ไม่ใช่ทุกคนที่จะอ่านอะไรจบแล้วอยากอ่านอีก ดังนั้นมันจึงไม่ทันแล้วสำหรับสำนักพิมพ์ที่ LC ครับ รายได้ของเขาเสียไปแล้ว ผลประโยชน์ที่เขาพึงได้เสียไปแล้ว และในเมื่อสำนักพิมพ์รู้แบบนี้ บางครั้งเขาก็ไม่เอาเข้ามาพิมพ์เพราะมันไม่คุ้ม กลายเป็นว่าเจ้าของผลงานเสียผลประโยชน์ที่พึงมีพึงได้จากผลงานของเขา

คุณอ่านภาษาต้นฉบับไม่ออกไม่ใช่ข้ออ้างครับ อ่านไม่ออกก็ไม่ต้องอ่าน และเอาจริงๆ ถ้าอ่านไม่ออก แล้วคุณจะอยากอ่านเรื่องนี้ตั้งแต่แรกได้ยังไง แปลว่าคุณอ่านเถื่อนมาก่อนแล้วนั่นแหละ

เข้าใจตรงกันนะครับ

0
นิค&NIck 9 ธ.ค. 59 เวลา 19:01 น. 1-8

ภาษาไม่ใช่ข้ออ้างพูดมาได้ถถถถถผมเอามังงะมาเปรียบครับแต่นิยายแปลก็มีบางพวกเขาอยู่ต่อผมก็สิรอไร ส่วนที่มีเข้ามาหลายๆคนเขาลบนะครับผมไม่ได้บอกว่าทุกคนแต่เป็นส่วนใหญ่ครับนิยายแปล ส่วนมังงะก็ยัดถากรรมเถอะผมไม่สนผมสนนิยายแปลส่วนคนที่ว่าอะไรน่ะอ่านดีๆก่อนค่อยตอบ เพราะหน้าจะได้ไม่แตกตกใจ

0
อัจฉราโสภิต 9 ธ.ค. 59 เวลา 19:46 น. 1-9

คุณยกตัวอย่างมังงะ ผมก็ยกตัวอย่างมังงะตอบครับ และเหตุการณ์เดียวกันนี่แหละจะเกิดกับวงการนิยายแปลด้วย ลองดูกระทู้ข้างบนๆที่พูดถึงการที่สำนักพิมพ์ประกาศลิขสิทธิ์แล้วคนแปลยังแปลต่อสิครับ มีหลักฐานด้วยว่าเห็นคนอ่านบอกว่าเล่มแรกๆคงไม่ซื้อ จะซื้อจากเล่มที่คนแปลยังไม่แปลด้วย แบบนี้ไม่เรียกเสียผลประโยชน์แล้วจะเรียกอะไรครับ

ภาษาไม่ใช่ข้ออ้างครับ ผมยังงงอยู่เลยว่าคุณยังยืนยันตรงนี้อยู่ได้ยังไง การอ่านภาษาต้นฉบับไม่ออกไม่ได้ทำให้คุณมีสิทธิ์จะอ่านฟรีได้ครับ และการที่เป็นคนละภาษากับต้นฉบับมันก็ยังเป็นการแย่งตลาดขัดผลประโยชน์ของเจ้าของผลงานอยู่ดี ขัดยังไงผมพูดไปหลายรอบแล้วข้างบน อธิบายเพิ่มเติมก็แล้ว ยกตัวอย่างที่เกิดขึ้นจริงก็แล้ว คุณบอกให้ผมอ่านดีๆก่อนค่อยตอบ แล้วคุณอ่านของผม (และของคนอื่นๆ) ดีแล้วหรือยังครับ

0
Bubble Mint 10 ธ.ค. 59 เวลา 12:16 น. 1-10

คห. 1-8 ถ้าสะดวกต่อตนเอง จะผิดกฏหมายยังไงก็ช่างเหรอคะ
เราว่า คห. 1 ก็อธิบายชัดเจนแล้วนะ
รู้มั้ย กฏหมายลิขสิทธิ์เอาเรื่องย้อนหลังได้
หมายความว่า คุณแปลโดยไม่ได้รับอนุญาต พอมีการซื้อลิขสิทธิ์ สนพ.ที่ซื้อก็สามารถเอาเรื่องคุณได้ ต่อให้ลบแล้วหรือยังไม่ลบก็ตาม
ต่อให้ยังไม่มีการซื้อลิขสิทธิ์ แต่ถ้าสนพ. จีนหรือนักเขียนเอาเรื่องขึ้นมา คุณจะรับผิดแทนมั้ย
ถ้าคุณพร้อม แล้วคนที่เกี่ยวข้องละ พร้อมจะโดนฟ้องมั้ย
จะเอาแต่ได้โดยไม่คิดถึงคนอื่นเลยเหรอไงคะ

เรื่องภาษามันก็ฝึกกันได้ แต่ไม่ขวนขวายเอาเอง
จะเอามาเป็นข้ออ้างในการสนับสนุนการทำผิดกฏหมายหรือคะ
สมัยนี้มันมีอินเตอร์เน็ตนะ
เอาไปฝึกอังกฤษได้นะรู้ยัง

0
ราชินีโพแดง[ไหหมิง] 9 ธ.ค. 59 เวลา 07:45 น. 2

ก็ใช่ค่ะ แฟนฟิคเองก็ไม่ได้ถูกอะไรมากมายนักไม่ได้มีการขออนุญาตตัวบุคคล หรือเจ้าของ ตลค.เพื่อนำมาเขียนเช่นกัน แต่ลองมองในแง่ธุรกิจค่ะ คงไม่มีแฟนคลับคนไหนเลิกซื้ออัลบั้ม เลิกจ่ายเงินไปคอนเสิร์ตหาอปป้า เลิกเสียเงินซับพอร์ตต่างๆ นาๆ เพราะมีแฟนฟิคหรอกใช่มั้ยคะ? เผลอๆ อาจติ่งหนักกว่าเดิม (รวมถึงไม่เลิกดูละครสำหรับแฟนฟิคนักแสดง หรือเลิกอ่านหรือซื้อการ์ตูนสำหรับแฟนฟิคการ์ตูนที่คนเขียนต่อยอดขึ้นมาจากตัวละครนั้นๆ) เพราะแฟนฟิคในมุมมองเราคือการต่อยอด การสร้างใหม่จากออริจินอลที่แฟนคลับชอบ และนั่นเป็นช่องทางโปรโมทส่วนหนึ่งของบริษัทต้นสังกัดที่เป็นอย่างนี้จริงๆ 

ตัดมาที่นิยายแปล คำถามเราคือ จะยังมีคนสนับสนุนซื้อนิยายเรื่องนั้นๆ อยู่อีกหรือไม่หากมันมีให้อ่านฟรีอยู่แล้ว ใช่ค่ะ บางคนอาจซื้อ สนับสนุนนักเขียน แต่บางคนไม่ และตรงจุดนี้ทำให้เสียรายได้หากมองในเชิงธุรกิจ คงไม่มี สนพ.ไหนเสี่ยงซื้อลิขสิทธิ์ต้นฉบับมาหากประเมินดูแล้วว่านิยายเรื่องนั้นจะไม่สามารถทำเม็ดเงินให้แก่บริษัทได้อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วยหรอกค่ะ ส่วนนักเขียนจากที่แต่เดิมอาจจะได้เงินค่าลิขสิทธิ์มากินขนมสักหน่อยกลับชวดปิ๋วเพราะเพิ่งมารู้ว่านิยายตัวเองถูกเอาไปแปลเผยแพร่ฟรีๆ ซะแล้ว (โถ่ สงสารเขานะคะ)

แล้วถ้าเมื่อคืนเราตาไม่ฝาดไปก่อนหน้านี้ในกระทู้มีท่อนเนื้อหาที่ว่าเหมือน จขกท.จะบอกว่าเผลอๆ แฟนฟิคจะผิดยิ่งกว่านิยายแปลด้วยซ้ำนะคะ(ถ้าไม่มีขออภัยนะคะอาจจะหูตาพร่าเบลอ ดึกแล้ว ถถถ) แต่ก็นั่นแหละค่ะ เราขี้เกียจเถียงว่าอย่างไหนผิดมากผิดน้อยกว่ากัน แต่ตอนนี้ จขกท.เหมือนกับเด็กที่ว่าตัวเองทำผิดโดนครูดุแล้วงอแงชี้ไปหาเพื่อนอีกคนว่าทำไมเขาไม่โดนเหมือนหนูบ้างยังไงยังงั้น

ไม่เอาค่ะ...

ไม่งอแงนะคะ :)

19
9 ธ.ค. 59 เวลา 09:10 น. 2-1

เราเป็นติ่งเกาหลีคนนึงที่รู้จักวงจากแฟนฟิคในเด็กดี อ่านแล้วสนใจในวงจริง ไปเสิร์จต่อแล้วก็สมัครเป็นแม่ยกเลย ตามอุดหนุนหมด แฟนฟิค บัตรคอน พรีออเดอร์อัลบั้ม โหวตให้เค้าตลอด เปย์หนักมากกกกกกกกกกกกกก

0
FpVins. 9 ธ.ค. 59 เวลา 11:17 น. 2-2

อาจจะมีเหมือนกันก็ได้ค่ะ ติ่งที่ไม่เปย์ งอแงสิคะ ถ้าสมมุติว่าคุณเป็นติ่งเกาหลี เป็นอม่ยกที่คลั่งมากก เปย์ทุกอย่าง แล้ววันนึงมันต้องมาจากเราทั้งหมดเพราะข้อผิดพลาดของวงอื่น คุณจะรู้สึกยังไงอ่ะคะ วันนั้นเราก็นั่งเปย์อยู่ดีๆ มีความสุข สนุกสนาน แต่มาวันนี้มันกลับหายไป แล้วถ้ามันไม่ใช่วงเดียว... สำหรับเค้ามันโดนหักอกเลยน่ะคะ

0
FpVins. 9 ธ.ค. 59 เวลา 11:57 น. 2-3

http://www.manager.co.th/iBizChannel/ViewNews.aspx?NewsID=9580000087816

นิยายแปลฟรียังละเมิดอยู่มั้ยคะ??

0
ราชินีโพแดง[ไหหมิง] 9 ธ.ค. 59 เวลา 13:52 น. 2-4

โอ๊ยยย ไม่ต้องสมมุติหรอกค่ะ เรานี่ติ่งตัวจริงเสียงจริง เปย์จนไม่มีเงินกินข้าวมาล่ะ แต่เราว่าตรรกะของคุณมันแปลกๆ อยู่นะคะ กรณีนิยายแปลที่มันเป็นประเด็นมาขนาดนี้เพราะมีคนแปลแล้วดันหาเงินเข้าตัว ทางเว็บหาทางแก้ไขก็ถูกต้องแล้วในระดับหนึ่งแล้ว แต่พวกที่ไม่จบคือกลุ่มพวกคุณที่ออกมาพาลแล้วลากหมวดอื่นไปลงหลุมนี่ด้วยมากกว่าค่ะ อารมณ์จะไม่ยอมตายคนเดียวเหรอคะ

เราว่าแต่ละคอมเม้นก็อธิบายอย่างชัดเจนถึงข้อแตกต่าง ข้อผ่อนปรนให้คุณฟังแล้วนะ อ่านแล้ววิเคราะห์ตามความเป็นจริงค่ะอย่าหัวร้อนจนขาดสติ อีกอย่างมันเอามาเทียบกันไม่ได้ คุณก็ยังจะเอามาเทียบกันได้เนาะ

เราพูดถึงประเด็นการเขียนแฟนฟิคไม่ได้ทำให้แฟนคลับลดความนิยมในการสนับสนุนตัวศิลปินหรือผลงานออริจินอล ไม่ต้องมาโยงไปถ้าวงนั้นทำให้วงอื่นๆ หายไปแล้วอดเปย์จะไม่งอแงเหรอ เออ งอแงแต่ไม่ลากคนอื่นไปลงหลุมด้วยเกตนะ แต่นี่ไม่ใช่ประเด็นเลิกลากมั่วซั่ว

ในขณะเดียวกันการแปลนิยายมาอ่านฟรีส่งผลในแง่การธุรกิจ ในเมื่ออ่านแล้ว รู้เรื่องหมดแล้ว น้อยคนค่ะที่จะซื้อและอุดหนุนผลงานลิขสิทธิ์ ซ้ำทาง สนพ.ก็คงไม่เลือกซื้อลิขสิทธิ์ผลงานที่ผ่านการเผยแผร่มาแล้วเพราะมันขายได้ไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วย

มองในด้านผลกำไรค่ะ อย่ามาว่าในหัวมีแต่ธุรกิจ(ก็เราเรียนสายนี้มาก็ต้องมองแบบนี้สิ ถึงไม่เรียนสายนี้ก็ต้องมองตามความจริงอย่าดื้อ!) เงินตัดสินทุกอย่าง เอ้า! ถ้าคุณเป็นนักธุกิจเป็นเจ้าของบริษัทสักที่ จะไม่สนใจกำไรหรือหรือเม็ดเงินที่จะทำให้บริษัทก้าวหน้าหรืออยู่รอดหรือไง คุณจะบริหารให้ธุรกิจเจ๊งเหรอคะ?!

ส่วนลิ้งค์ที่แปะมาให้อ่านน่ะ คห.1-5 อธิบายให้คุณฟังแล้ว เราอ่านเข้าใจคุณก็น่าจะเข้าใจนะคะ ไม่พูดซ้ำเนาะ เพราะแค่ลากประเด็นกลับมาก็พูดซ้ำมากพอล่ะ

0
ความฝันของแมวเหมียว 10 ธ.ค. 59 เวลา 00:24 น. 2-5

ขอบคุณมากๆ เลย อ่านแล้วเข้าใจมากขึ้นว่าทำไมฝรั่งถึงได้มองว่าประเทศไทยเป็นประเทศที่การละเมิดลิขสิทธิ์ถือเป็นสิ่งถูกกฎหมาย

0
11 ธ.ค. 59 เวลา 13:06 น. 2-6

คิดเเบบว่าในทุกเวปทุกที่ไม่มีนิยายแปลฟรีเลยนะคะ อยากรู้จะขายได้ซักกี่เล่ม เป็นเราไม่อยากซื้อหรอกค่ะไม่รู้เเต่งสนุกรึป่าวคนเเต่งก็ไม่รู้จัก เเพงก็เเพงนิยายแปลบางเรื่อง2เล่ม2500ก็มี เก็บเงินไว้กินข้าวดีกว่า

อย่าเอาแปลฟรีก่อนไทยลิขสิทธิ์ซื้อ กับแปลฟรีหลังซื้อมาปนกันสิคะ
ถ้าสำนักพิมพซื้อมาก็ต้องหยุดไม่ก็ลบตามที่สำนักพิมพ์เค้าขออยู่เเล้ว อย่างหลังอยู่ที่นิสัยส่วนตัวไม่เกี่ยวกัน

ลงฟรีไห้คนบ้านเค้าอ่านได้เเต่คนบ้านเราอ่านละผิด ก็งงนะคะ

ปล.ถ้าสำนักพิมพ์เค้าฉลาดก็ต้องเลือกเรื่องที่เพิ่งแปลเเละฮิต อย่างท่านอ๋องนั้นก็ไปละ โปรโหมดไห้ฟรีอีกแถมแฟนคลับเป็นพรวน

0
อัจฉราโสภิต 11 ธ.ค. 59 เวลา 13:14 น. 2-7

ลงฟรีให้อ่านบ้านเขาอ่านได้บ้านเราผิด

คนที่ลงให้บ้านเขาอ่าน คือเจ้าตัวคนเขียน หรือว่าคนอื่นเอาของคนเขียนไปลงฟรีๆล่ะครับ ?

แล้วถ้าเกิดคุณบอกว่าอย่างหลังก็ทำได้ ลองคิดว่าถ้าเกิดเรื่องแบบนั้นกับนิยายของเว็บนี้ขึ้นมาจะเรียกว่าอะไรครับ มันคือการลอกนิยายที่เขาโวยวายกันประจำนั่นแหละครับ ต่อให้ใส่ชื่อผู้เขียน แต่เอาไปลงในที่ที่ผู้เขียนไม่รู้ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง มันก็ไม่ได้ครับ

ผมงงมากๆว่าคุณคิดอะไรของคุณอยู่ สองอย่างนี้มันไม่เหมือนกันเลย แล้วยังที่ถกที่เถียงกับผมเรื่องกฎหมายก่อนหน้านี้อีก คือมันไม่เมคเซนส์ (ภาษาไทยว่าไงดี ไม่ตรงกับสามัญสำนึกที่คนปกติจะพึงมี) เลยสักนิดครับ

0
11 ธ.ค. 59 เวลา 13:20 น. 2-8

นิยายแปลเค้าเรียกดัดแปลงสร้างสรรเเละต่อยอดได้ค่ะ ไม่ใช่'ลอก'เเค่คำพูดก็ดูถูกละ ถ้าไม่รู้ว่าต่างกันยังไงก็ลองไปหาดูได้ค่ะ ไม่ต่อนะขี้เกียจเถียงเเล้วเเต่จะคิด

0
ราชินีโพแดง[ไหหมิง] 11 ธ.ค. 59 เวลา 14:03 น. 2-9

ดัดแปลง สร้างสรรค์ ต่อยอด โอเค...งั้นก่อนที่จะเอามาดัดแปลงสร้างสรรค์ต่อยอดนี่คือขอทางนักเขียนมาอย่างถูกต้องแล้วหรือยัง? ถ้ายังก็ไม่ต่างอะไรกับลอกมาทั้งดุ้นแล้วเปลี่ยนเป็นภาษาไทยโดยที่เจ้าของไม่รู้เรื่องเลยไม่ใช่เหรอคะ?

ลงฟรีให้คนบ้านเขาอ่านได้ แต่ลงฟรีในไทยให้คนบ้านเราอ่านแล้วผิด ค่ะผิดแน่นอนถ้าคนเอามาแปลไม่ได้ขออนุญาตเจ้าของลิขสิทธิ์มาอย่างถูกต้อง ดูเหมือนพูดไปพูดมานี่จะลืมประเด็นหลักนะคะ

ทางเด็กดีก็ไม่ได้ห้ามลงนิยายแปลนี่คะ แค่ตั้งมาตรฐานการลงว่าต้องได้รับการอนุญาตจากเจ้าของลิขสิทธิ์แค่นั้นเอง แล้วไงอ่ะ ที่โวยวายอยู่นี่คือ?

อีกอย่างถ้าทาง สนพ.ซื้อลิขสิทธิ์นิยายมาแปลสักเรื่องเราว่าเขาก็คงหาทางโปรโมทบ้างล่ะค่ะ ไม่ใช่มาแปลๆ แล้วพิมพ์ขายเลย อาจจะมีลงตัวอย่างให้อ่านกัน อย่างเช่นเรื่องแม่ทัพอยู่บนข้าอยู่ล่างก็มีลงตัวอย่างให้อ่านในเว็บเด็กดีเพื่อให้นักอ่านอ่านก่อนตัดสินใจซื้อไม่ใช่เหรอคะ? ถ้าอ่านแล้วไม่ถูกจริตก็ไม่ต้องเสียเงินซื้อ วินวินทั้งคู่ค่ะ

0
อัจฉราโสภิต 11 ธ.ค. 59 เวลา 14:13 น. 2-10

เขามองว่าการเอานิยายมาแปลเป็นการใช้แบบ Fair Use เลยไม่จำเป็นต้องขออนุญาตเจ้าของลิขสิทธิ์ครับ และไม่ผิดลิขสิทธิ์ด้วย ว่างั้น

ผมเลยไม่รู้จะพูดยังไง อธิบายยังไงว่ามันไม่ Fair Use ก็ยังพูดซ้ำๆว่า Fair Use

0
11 ธ.ค. 59 เวลา 14:23 น. 2-12

ทางเด็กดีก็ไม่ได้ห้ามลงนิยายแปลนี่คะ แค่ตั้งมาตรฐานการลงว่าต้องได้รับการอนุญาตจากเจ้าของลิขสิทธิ์แค่นั้นเอง แล้วไงอ่ะ ที่โวยวายอยู่นี่คือ?
'ตั้งมาตราฐานการจัดอันดับว่าต้องได้รับอนุญาต 'น่าจะถูกกว่าค่ะเด็กดีไม่ได้ห้ามลงเผื่อเข้าใจผิดด

ถามกลับนะคะ ว่าแล้วที่มาโวยวายอยู่นี้คือ?
เราก็มาเเบบนั้นเเระ

0
ราชินีโพแดง[ไหหมิง] 11 ธ.ค. 59 เวลา 14:32 น. 2-13

รู้ค่ะว่าเรื่องที่ขอมาอย่างถูกต้องจะได้ขึ้นจัดอันดับ ส่วนเรื่องที่ยังไม่ได้รับหลักฐานยืนยันจะไม่สามารถขึ้นอันดับได้ ซึ่งเราไม่เข้าใจว่ากับแค่การขึ้นอันดับมันสำคัญขนาดไหน? คนรู้จักเยอะ? เป็นหน้าเป็นตา?

สำหรับเราในฐานะนักอ่านคนนึงแค่ได้อ่านเรื่องที่ชอบก็พอใจแล้ว ถึงเรื่องนั้นจะไม่ได้ขึ้นอันดับจัดท็อปสูงๆ ก็ตาม แต่สิ่งที่ถกเถียงกันอยู่ในตอนนี้ดูร้ายแรงเหมือนกับว่าเด็กดีห้ามลงนิยายแปลนี่คะ

อ้อ เราไม่โวยวายนะคะ ถ้าโวยวายหนักกว่านี้แน่ค่ะ

0
11 ธ.ค. 59 เวลา 15:12 น. 2-14

เช่นกันเราเย็นมากๆจนเบื่อเเต่เพราะเรากลัวคนเข้าใจผิดไงคะ นักแปลจำนวนมากกำลังเข้าใจว่าโดนไล่ที่เพราะกฎนี้ไง

ผิดน่ะผิดรู้ค่ะเเต่เลิกยํ้าคิดยํ้าทำได้เเล้ว ที่เค้าลากเเฟนฟิคมาโวยวายเพราะเค้าต้องการที่ไห้นิยายแปลเเค่นั้น เหมือนที่นข.ต้องการที่ไห้นิยายเเต่งขอบอกว่าประเด็นเเฟนฟิคมันเกิดเพราะกฎและพวกคุณมาโวยวายไม่จบไม่สิ้นว่านิยายแปลผิดไง

อยากให้จบก็เลิกพูดเรื่องนิยายแปลนะคะ แล้วไปเร่งให้wmทำหมวดแปล ยกเลิกกฎอันดับ ดีกว่า ถ้าพวกคุณไม่จบก็ไม่จบค่ะ

ส่วนเรื่องแฟนฟิคเราว่าไม่เกี่ยวหรอก เเต่สงสารเพราะเราเข้าใจเค้าเหมือนกัน

0
ความฝันของแมวเหมียว 11 ธ.ค. 59 เวลา 15:12 น. 2-15

อ่านมาถึงตรงนี้ ชักเห็นใจคนที่พยายามอธิบายด้วยเหตุผลแล้ว ในความเห็นของเราจากมุมมองกว้างๆ ไม่ว่าจะเป็นนิยายแปลหรือจะเป็นแฟนฟิคมันก็เป็นการละเิดลิขสิทธิ์ด้วยกันทั้งคู่ สิ่งที่ทำให้ทั้งสองกรณีถูกต้องได้มีเพียงการได้รับอนุญาตให้เผยแพร่ คัดลอก ดัดแปลง ไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดจากเจ้าของผลงานเท่านั้น

จริงๆ เราสงสัยทั้งสองฝั่งมากๆ ว่ามีความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับเรื่อง "ลิขสิทธิ์" มากน้อยเพียงใด เราอยากขอความอนุเคราะห์ก่อนจะเถียงกันต่อ อ่านบทความของคุณอธิป จิตตฤกษ์ซักนิด ( http://prachatai.com/journal/2013/01/44561 )

จริงๆ สิ่งที่ทาง WM กระทำอยู่ เราก็มองว่าท่านช่างตลกร้าย ไม่ต่างจากผู้ชื่นชอบการใช้น้ำผึ้งหนึ่งหยดล่อประชากรหมีทั้งฝูงให้ออกมาตีกันจนแทบไม่ต่างจากมวยวัด

0

ความคิดเห็นนี้ถูกลบ

ถูกลบโดยเจ้าของความเห็น

อัจฉราโสภิต 11 ธ.ค. 59 เวลา 15:24 น. 2-17

เอาจริงๆพอไปอ่านเนื้อหาของ Fair Use มาแล้ว พบว่าแฟนฟิคชั่นดันเข้าเงื่อนไข Fair Use ครับ แต่นิยายแปลไม่เข้าเต็มๆ

Fair Use ต้องเป็นยังไงบ้าง

1. มีการทำให้ศิลปะหรือความรู้นั้นๆ ก้าวหน้า มีการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ เช่นงานวิจัย อ้างอิงงานวิจัยอื่นมาได้โดยไม่จำเป็นต้องบอกกล่าว และไม่ว่างานวิจัยนั้นจะก่อให้เกิดผลกำไรต่อผู้วิจัยหรือไม่ เพราะงานวิจัยมีสิ่งใหม่เกิดขึ้น

ข้อนี้ แฟนฟิคชั่นเข้าเงื่อนไขครับ คือมีสิ่งใหม่เกิดขึ้น (เรื่องราว เนื้อหาของแฟนฟิคชั่น เป็นสิ่งใหม่) แต่นิยายแปลไม่เข้า เพราะไม่มีสิ่งใหม่ มีแค่การแปลงเป็นอีกภาษาหนึ่ง ซึ่ง โอเค จะเรียกว่ามันเป็นสิ่งใหม่ก็พอจะเรียกได้อยู่ แต่พิสูจน์ยากกว่าแฟนฟิคชั่น

2. ไม่ใช่ข่าวและ/หรือข้อเท็จจริง อันนี้ผ่านทั้งคู่

3. ปริมาณและความสำคัญที่เอามาใช้

ข้อนี้ ฟิคชั่นผ่าน เพราะมักจะเอามาใช้เพียงบุคลิกตัวตนและชื่อของตัวละคร แต่อย่างอื่นแต่งขึ้นใหม่หมด แต่นิยายแปลติดเต็มๆ เพราะเอาทั้งหมดมาใช้ เพียงแปลเป็นภาษาใหม่ แต่เนื้อหาคงเดิม

4. ต้องไม่กระทบกับการแสวงหาผลประโยชน์ของเจ้าของลิขสิทธิ์ ไม่ว่าจะเป็นตลาดที่มีอยู่แล้ว หรือตลาดที่สามารถหาผลประโยชน์ได้ในอนาคต

แฟนฟิคชั่น ถ้าพิสูจน์ได้ว่าทำลายตลาดขัดขวางผลประโยชน์ก็ไม่เข้าข้อนี้ แต่เป็นไปได้ยาก เนื่องจากเป็นข้อเท็จจริงว่าแฟนฟิคชั่นมักไม่ได้ส่งผลกระทบต่อยอดขายหรือผลประโยชน์ของเจ้าของลิขสิทธิ์ แต่นิยายแปลโดนเต็มๆ เพราะมีตัวอย่างที่ใกล้เคียงกันให้เห็นชัดเจน เช่นการ์ตูนแปล หนังเถื่อน และอื่นๆ

จบครับ นิยายแปลไม่เข้าข่าย Fair Use แต่แฟนฟิคชั่น "อาจจะ" เข้า

แฟนฟิคชั่นจะไปผิดตรงหมิ่นประมาทแทนถ้าเกิดเขียนให้เสียหายครับ

0
ราชินีโพแดง[ไหหมิง] 11 ธ.ค. 59 เวลา 15:40 น. 2-18

ต้องย้ำคิดย้ำทำสิคะ ก็เพราะยังมีความเข้าใจผิดๆ กันอยู่เลยต้องย้ำว่าพูดประเด็นเดียวกันไงคะ ทั้งเรื่องที่คุณบอกว่า 'ลงให้อ่านฟรีในบ้านเขาถูกในบ้านเราผิด' เราก็ย้ำก็อธิบายไปแล้ว ว่ามันเป็นยังไง ซึ่งคุณก็ไม่ตอบประเด็นนี้ของเราแล้วเริ่มประเด็นใหม่มันเลยยาวแบบนี้ไงคะ

'ประเด็นเเฟนฟิคมันเกิดเพราะกฎและพวกคุณมาโวยวายไม่จบไม่สิ้นว่านิยายแปลผิดไง'

จากข้อความด้านบน เราคิดว่าประเด็นมันเกิดขึ้นเพราะฝั่งนักอ่านนิยายแปลบางกลุ่มที่ไม่ยอมจบลากแฟนฟิคขึ้นมาเปรียบเทียบเพื่อหาช่องว่างหรือที่ยืนให้กับนิยายแปลมากกว่านะคะ เพราะแฟนฟิคก็อยู่ของมันดีๆ จะมาโทษว่าเกิดเพราะกฏใหม่ที่ตั้งทำให้ต้องพาลลากแฟนฟิคมาเอี่ยวด้วยไม่ได้หรอกค่ะ ลองพิจารณาดูว่าฝั่งที่โวยวายไม่จบไม่สิ้นคือฝั่งไหนกันแน่ค่ะ

0
อัจฉราโสภิต 11 ธ.ค. 59 เวลา 15:44 น. 2-19

อ้อ และเสริมให้อีกนิดนึงนะครับ

Fair Use เป็นหลักการที่ใช้ในสหรัฐอเมริกาเท่านั้น เป็นส่วนหนึ่งของกฎหมายของสหรัฐอเมริกา ประเทศอื่นไม่นับนะครับ

มีประเทศที่ใช้กฎหมาย "คล้ายๆ" กัน แต่ไม่เหมือนกันเสียทีเดียว ไทยเองก็ไม่ได้ใช้กฎนี้ ดังนั้นจะยก "Fair Use" มาอ้างอีกไม่ได้แล้วนะครับ

0
banditkid 9 ธ.ค. 59 เวลา 08:10 น. 3

เห็นหมวดที่เปิดให้ยังไม่รู้อีกเหรอครับ ที่นี้สนับสนุนแฟนฟิคครับ ถูกผิดไม่เกี่ยว ถ้าจะงอแงไปที่อื่นครับ ไม่ต้องเปิดประเด็น

5
FpVins. 9 ธ.ค. 59 เวลา 11:18 น. 3-1

เม้นนี้ยอมรับแล้วค่ะ ว่าDek dสองมาตรฐาน

0

ความคิดเห็นนี้ถูกลบ

นำรูปถ่าย หรือข้อมูลของผู้อื่น ที่มิได้เป็นบุคคลสาธารณะมาลง โดยที่เจ้าตัวไม่ยินยอม หรือมีลงเบอร์โทรศัพท์/ที่อยู่จริง

FpVins. 9 ธ.ค. 59 เวลา 11:48 น. 3-3

นั่นมันภายนอกค่ะ แต่ภายในมันไม่ใช่

0
FpVins. 9 ธ.ค. 59 เวลา 11:49 น. 3-4

การติดต่อกับผู้เขียนจริงมันค่อนข้างยากน่ะคะ

0
อัจฉราโสภิต 9 ธ.ค. 59 เวลา 12:07 น. 3-5

ติดต่อยากก็ไม่ต้องติดต่อสิครับ แล้วก็ไม่ต้องขึ้นท็อป ก็แค่นั้นเอง

อยากทำเรื่องสีเทาๆให้มันได้เหมือนสีขาวๆ ก็ลงทุนหน่อยครับแหม

0
ผ่านมา 9 ธ.ค. 59 เวลา 08:48 น. 4

ไม่เคยอ่านแฟนฟิค แต่ขอพูดถึงนิยายแปล ถ้ามีมาแปลให้อ่านจนตาแฉะ บางเรื่องแปลจบก็ดีไปถือว่าเป็นกำไรผู้อ่าน ถ้าบางเรื่องไม่จบก็ตามสปอยเอา ตอนอ่านสนุกไหม สนุก แต่ถ้ามีสำนักพิมพ์ซื้อลิขสิทธิ์มาขาย หนึ่งในคนที่ไม่ซื้อคือเรา ก็อ่านแล้วอะจะซื้อทำไมเนื้อเรื่องก็ไม่ได้เปลี่ยน บางเรื่องพรรณนาเยิ่นเย้อยาวยืดจนอ่านข้าม ต่อให้มีคนอีกจำนวนมากซื้อ แต่คนที่ไม่ซื้อคือเรา เงินที่สมควรได้จากเราแต่กลับไม่ได้เพราะอะไรถามใจเธอดู เราเอาเงินไปซื้อเล่มที่ไม่เคยอ่านดีกว่า สำหรับเจ้าของลิขสิทธิ์เจ้าของผลงานหรือเจ้าของสินค้า ลูกค้าคือคนสำคัญแม้จะคนเดียวก็ตาม

4
11 ธ.ค. 59 เวลา 13:26 น. 4-1

เเสดงว่าไม่ใช่เเฟนจริงๆไงค่ะ ถ้าเเฟนจริงๆต่อให้อ่านจบก็ซื้อเก็บค่ะ บางเรื่องเราเคยอ่านเเล้วเเต่เราชอบมาก ก็ซื้อมา เเต่หายไปเลยซื้ออีกเล่มก็มี

สำหรับคุณเราว่าต่อให้ไม่เคยอ่านก็ไม่คิดจะซื้ออยู่เเล้วอย่าอ้างเลยค่ะ

0
แบบเดียวกัน 12 ธ.ค. 59 เวลา 00:30 น. 4-2

ผมว่าร้านเช่าหนังสือก็ทำให้ยอดขายลดลงด้วยเช่นกันครับก็เช่ามาอ่านถูกกว่าซื้ออีก

0
minmin 13 ธ.ค. 59 เวลา 13:18 น. 4-3

แฟนนิยายตัวจริง มักซื้อนิยายที่ตัวเองชอบ เก็บไว้
โครตเกลียดเลยที่ คนเขียนหรือ สนพ.ลงนิยายมาสัก 20 ตอนแล้วหยุดลงเพราะจะขายนิยาย โดยไม่บอกล่วงหน้า
ถ้านิยายดีจริงๆ ยังไงเราก้อต้องซื้อเก็บไว้อยู่แล้ว

0
o S_M o 16 ธ.ค. 59 เวลา 17:55 น. 4-4

อันนี้ซื้อไม่ซื้อเราว่าแล้วเเต่คนนะ ยังไงเราก็มองว่าถ้ามีแปลฟรีให้อ่าน ฉบับLC ยังไงยอดขายมันก็น้อยลงอยู่เเล้ว

คือชีวิตมันต้องมีเรื่องเงินเข้ามาเกี่ยวข้องอยู่เเล้วเป็นธรรมดา เพราะฉะนั้นเจ้าของนิยายจะแต่งต่อหรือไม่ก็เป็นรื่องของเขา (ถึงเราจะไม่ชอบก็ต้องทำใจยอมรับ) ถ้าเขาไม่ลงตอนจบเเล้วเปิดขายก็จะได้เงินทั้งจากคนอยากอ่านต่อเเละจากแฟนตัวจริง ยังไงรายได้มันก็มากกว่าขายให้เฉพาะแฟนๆอยู่เเล้ว

คหสต

0
ซ่อนนาม 9 ธ.ค. 59 เวลา 09:49 น. 5

แฟนฟิค+โดจิน กับ นิยายแปล มันไม่เท่าเทียมกันอยู่แล้ว

เอาง่าย ๆ แฟนฟิค+โดจิน อ่านแล้ว ทำให้ไม่อยากซื้อหาต้นฉบับมาอ่านหรือเปล่า ? อัตราส่วนเท่าใดที่คิดเช่นนั้น ?
กลับกัน นิยายแปล อ่านแล้ว ทำให้อยากซื้อหาต้นฉบับมาอ่านด้วยหรือไม่ ? อัตราส่วนเท่าใดที่คิดเช่นนั้น ?

ซึ่งเรื่องนี้มีหลักสากลที่ยึดอยู่
เอาง่าย ๆ นะ เคยเห็นงานที่ได้รับการรองรับทางกฎหมายและทางสนพต้นฉบับอนุญาตผลงานใดให้วางจำหน่ายในงานเหล่านั้นบ้าง ?
โดจิน+แฟนฟิค มีไหม ?
นิยายแปลล่ะ มีหรือเปล่า ?

ซึ่งความที่แตกต่างกันนี่แหละ ทำให้การปฏิบัติระหว่างสองกลุ่มนี้ย่อมแตกต่างกันไปด้วย

0

ความคิดเห็นนี้ถูกลบ

นำรูปถ่าย หรือข้อมูลของผู้อื่น ที่มิได้เป็นบุคคลสาธารณะมาลง โดยที่เจ้าตัวไม่ยินยอม หรือมีลงเบอร์โทรศัพท์/ที่อยู่จริง

เจ้าแม่นาคี 9 ธ.ค. 59 เวลา 10:07 น. 7

นิยายแปลดูดีกว่าแฟนฟิคตรงไหนไม่ทราบคะ ?
วัน ๆ ก็วนเวียนอยู่แต่เกิดใหม่ ทะลุมิติ สิงร่าง ฮาเร็ม หลายผัวหลายเมีย แมรี่ซู

อย่าบอกว่าเรามีอคติ เพราะตัวคุณเอง มีอคติต่อแฟนฟิคเต็ม ๆ ตั้งแต่ลงกระทู้นี้แล้ว
ไม่เคยอยากยุ่งกับนิยายแปล แต่ยกมาเปรียบอย่างนี้ ก็คงต้องพูด

แฟนฟิค คือการเอามาเขียนต่อยอด ถ้าคุณเคยอ่านแฟนฟิคนะ
คุณจะเห็นว่าแฟนฟิคหลายเรื่องที่เอาศิลปินมาเป็นต้นแบบ เอาชื่อมาใช้
แต่เนื้อหาฟิคไม่มีอะไรที่เป็นวงนั้นเลย ถ้าเปลี่ยนชื่อนี่เดาไม่ได้เลยว่าเป็นแฟนฟิคมาก่อน
ต้องคิดเรื่องเอง ไม่ต่างจากการเขียนนิยายเรื่องหนึ่ง

เขียนขึ้นมาใหม่เอง กับแปลงานของผู้อื่น
ลองไตร่ตรองดูนะคะ

นิยายแปล แปลด้วยใจรัก
แฟนฟิค ทุกคนก็เขียนด้วยใจรักเหมือนกัน

อย่าเอาความชอบของคุณ มาดูถูก หรือตัดสินความชอบของคนอื่นว่า มันดีกว่า หรือด้อยกว่าของตัวเอง

ผลประโยชน์ทางธุรกิจ ก็ตามคห. บน ๆ

ดูท่าคุณจะตามดราม่ามาหลายกระทู้แล้ว เปรียบเทียบแฟนฟิค นิยายแปลน่าจะเคยผ่านตาบ้าง
แต่เราจะไม่พูดให้มากความ เพราะดูจากเนื้อหากระทู้ที่คุณตั้งก็....

‘แทงหลังบ้างล่ะ แทงหน้าบ้างล่ะ เผลอนี่แบบมาเลย ซาดิส มีจุบบ้างจูบบ้าง ไซร้บ้าง ขึ้นเตียงบ้าง ประตูหลังบ้าง’

พูดมาได้ค่ะ หากคุณลองเปิดใจอ่านแฟนฟิคดี ๆ สักเรื่อง
คุณจะรู้ว่าในแฟนฟิค มีมากกว่าเรื่องเซ็กซ์

รอโตกว่านี้ ว่าง ๆ ลองย้อนกลับมาอ่านกระทู้ของตัวเองใหม่นะคะ
สวัสดีค่ะ

3
FpVins. 9 ธ.ค. 59 เวลา 11:31 น. 7-1

ส่วนมากเราอ่านกำลังภายใน แฟนตาซีคะ ข้ามมิติมีน้อย อย่างว่านะคะ ถ้าเราลองอ่านแบบไม่มีอคติ เราก็อาจจะชอบ (เรานี่หมายถึงคุณและฉันค่ะ) แต่ก็น่ะคะ เค้าก็เคยคิดจะอ่านฟิคหลายรอบเหมือนกัน แต่พออ่านแล้วมันรู้สึกแปลกๆ เลยได้แต่อ่านผ่านๆ อันนี้ไม่ได้สองมาตรนะคะ เพราะเราอ่านฟิคมานิดหน่อยก่อนจะติดนิยายแปล

0
นิค&NIck 9 ธ.ค. 59 เวลา 18:43 น. 7-2

แฟนฟิกเหรอมันก็เหมือนเอาตัวละครเขามาใช้นั้นแหละ(ตรงๆนะ)แค่แต่งเรื่องเองแต่นั้นสินะเอารูปตัวละครและชื่อมา ทักษะต่างๆอีก นั้นแหละเหมือนๆกันแต่คนละอย่างคนละมุมมองแค่ยังไม่มีคนดราม่าเท่านิยายแปลเองเท่านั้นแหละแต่ถ้าถามว่าผิดไหมพอกันครับแต่ก็ไม่ได้ว่าไม่ดีนะมีอ่านหลายเรื่องเหมือนกันที่สนุกๆ

0
นาคีเป็นงูส่วนตูเป็นคน 9 ธ.ค. 59 เวลา 21:02 น. 7-3

นิยายแปลทำให้เข้าใจความเป็นจีนมากขึ้นค่ะ เราได้ทราบสำนวนเขาด้วยนะแบบกินน้ำส้มสายชู=หึงหวง
ดอกซิ่งยื่นออกนอกกำแพง=ภรรยาออกไปมีชู้าสำหรับหญิงยังไม่มีสามีคือเด็กสาวที่อยากออกไปเปิดเผยความงามให้ชายยเราไม่ได้มีอคติกับแฟนฟิคนะแต่เราก็ไม่อยากให้คนที่เข้าใจนิยายแปลไม่ดีพอมาว่ามันมีแค่นี้ นิยายแปลไม่ได้จำกัดแค่นั้นค่ะตอนนี้เริ่มมีแนวอื่นเข้าๆมาแล้วแต่ก็โดนซื้อลิขสิทธิ์ไปแล้วบ้างอะไรบ้างแต่ทางผู้แปลเขาก็ยอมลบกันนะคะเราค่อนข้างมีน้ำโหนิดหนึ่งกับคำว่าวนเวียน เราก็เคยอ่านฟิคนะแต่เราสนับสนุนฟิคการ์ตูนหรือฟิคเรื่องแต่งมากกว่าคนจริงๆ นะเพราะบางทีเวลาเราอ่านฟิคที่เป็นคนจริงๆเรารู้สึกล่วงเกินสิทธิส่วนบุคคลมากเกินไปค่ะ เราก็ยอมรับนะนิยายแปลมีละเมิดบ้าง แต่เอาจริงๆนินยายจีนส่วนมากเขาเขียนให้ดูจะๆหาอ่านได้ตามเว็ปออนไลน์เลยอ่ะ หนังก็ไม่มงไม่มีมาติดลิขสิทธิ์หรอกถ้าดูที่จีนดูได้ทุกเรื่องล่ะ ติดปัญหาแค่กับสำนักพิมทางจีนเท่านั้นเอง นักเขียนคนจีนส่วนมากน่ารักเป็นกันเองมาก แต่ค่อนข้างตามตัวยากจ้ะ เพราะเขาแต่งกันทีเป็นพันตอน บางทีก็มีชะแวบหายไปบ้างนิยายจบไปบ้างอันนี้เราช่วยผู้แปลตามตัวอย่างในเรื่องหนึ่งขนาดเราฝากคนจีนตามตอนนี้ยังติดต่อไม่ได้เลยพี่อีกเรื่องที่เราตามเขายื่นคำขอมาเป็นปีละผู้แต่งยังไม่ติดต่อกลับเลยยยย แล้วก็เอาจริงๆนะสำนักพิมพ์ไทยจะยอมซื้อลิขสิทธิมาพิมจริงอ่ะอย่าที่เราบอกคือส่วนมากมีเกินพันตอนแล้วถ้าราหนังสือมันเล่มละหลายร้อยเรายังเป็นนักเรียนอยู่ก็ซื้อไม่ไหวอยู่ดีพันตอนนี้คงหนังสือเกินห้าสิบเล่มอ่ะตรงกันข้ามนักเขียนไทยที่เก่งๆแต่ง4เล่มเล่มที่ห้าต้องมาออกเองแล้วเพราะสำนักพิมไม่ต่อให้ คิดว่าพวกเราจะมีหวังป่ะที่จะได้อ่านอ่ะ บางทีเราก็เข้าใจที่จขกทพูดทำร้ายจิตใจคุณนะ แต่เราอ่านฟิคพวกดาราเราก็เจอ-ฉากอย่างว่าหนักอ่ะนะ แต่เราก็ไม่อยากให้คุณมากล่าวว่าสิ่งที่เรารักเหมือนกัน เราก็ขอย้อนกลับให้คุณเปิดโลกนิยายแปลให้กว้างๆเหมือนกัน อ่อ ก็มีแปลฟิคเกาหลี นี่ก็ถือว่านิยายแปลนะคะ ถ้าคุณอ่านของต่างชาติ เราเข้าใจถึงความยากลำบากทั้งของคนเเต่งฟิค และคนแปลค่ะ เพราะเคยเราก็ทำ ถึงจะไม่ใช่ฟิคดารา แต่เป็นฟิคเด็กบอท เราก็ขออนุญาติเจ้าของชื่อนะ เราอยากให้คุณย้อนมองตัวเองบ้าง คุณกล่าวให้เขาเลิกอคติกับฟิค แต่คุณไม่ใช้น้ำเย็นเข้ารูปกับสาดน้ำมัน เราก็อยากให้คุณอย่าเอาความชอบของตัวเองมากล่าวทั้งที่ไม่รู้จักนิยายแปลเช่นกัน อย่าเอาแง่ลบมาลงที่ฝั่งใดฝั่งหนึ่งเพราะมันทำให้คุณดูไม่น่าชมนะคะ

0
Cammy 9 ธ.ค. 59 เวลา 10:22 น. 8


ตรูว่าละ มันเป็นต้องมีเม้นนี้สักเม้น "นิยายแปล มันก็วนๆ เวียนอยู่แต่เกิดใหม่ ทะลุมิติ สิงร่าง ฮาเร็ม หลายผัว หลายเมีย แมรี่ซุ"

แสดงว่าไม่เคยดูนิยายแปลสินะ

นิยายแปล มันก็พอๆ กับเว็บเด็กดีแหละ ที่มันก็มีหลายแนว มีสนุก และไม่สนุก  แต่ที่วนๆ เวียน มันก็เกิดจากความฮิต และการเอามาแปลของคน เสียมากกว่า เรื่องที่แปลก สนุกก็มี

จนตอนนี้มีนิยายแปลหลายเรื่อง ที่แปลๆ กันทำอนิเมะ จนได้รับความนิยมหลายเรื่อง ยกเว้นเรื่องล่าสุดที่ประกาศทำอนิเมะ ผมแบน ไม่อวยใดๆ ทั้งสิ้น เพราะมีเรื่องทาสเข้ามาเกี่ยวข้อง (แอนติ้งเรื่องทาส)

ส่วนต่างโลกอะไรนั้น มาจากการ์ตูนญี่ปุ่น และเว็บเด็กดี ก็มีหลายเรื่องลอกพล็อต แต่ทำได้ดีหรือไม่ ...เชอะ ไม่อยากจะเขียนต่อ 



อีกอย่าง เว็บนี้เขาฮิตนิยายแปลเจ๊ก  เกาหลี ซึ่งผมก็ตอบไม่ได้ มันแตกต่างจากของญี่ปุ่นยังไง แต่โดยรวมผมว่าไม่แตกต่างจากนิยายเว็บเด็กดีหรอกมั้ง แต่ของเจ๊กนี้ อ่านเรื่อง พ่อตาผมเป็นลิโป้ ก็ยำสามก๊ก ให้ดูปวดหัวมากกว่า  ส่วนเรื่องอื่นๆ เดาว่ากำลังภายใน

4
รักแร้ดูแลยาก 9 ธ.ค. 59 เวลา 11:06 น. 8-1

เรียกว่าจีน หรือจิ๋นดีกว่าไหมจ๊ะ

คำว่าเจ๊กเป็นการดูถูกและการเหยียดคนจีน

เป็นคำล้อเลียนของคนไทยที่ล้อคนจีนอพยบในสมัยก่อนจ๊ะ

เพราะเขาพูดไทยไม่ชัด นับหนึ่งสองสามก็นับ เจ๊ก หนอ ซา

การใช้คำว่าเจ๊กจึงเป็นการดูถูกคนจีนในไทยจ๊ะ ไม่ใช่หมายถึงคนจีนจริงๆ

ส่วนคนเขื้อสายจีนในไทยเรียกกันเอง เขาเรียกว่าเจ็กจ๊ะ เป็นการนับถือแบบญาติ

0
Zehn Stärke 9 ธ.ค. 59 เวลา 11:28 น. 8-2

เรื่องพล็อตนั้นเป็นความคิดเชิง Concept ที่ใครๆ ก็สามารถคิดได้ จึงอาจจะมีซ้ำมีลอกกันบ้าง แต่สุดท้ายก็ต้องไปสู้กันที่ Story อย่างที่ว่าจริงๆ เลยครับ

ดังนั้นเมื่อสรุปได้ว่าต้องแข่งกันที่ Story แล้ว อันนี้คงต้องแยกกันอีกทอดหนึ่งระหว่างคนที่เขียนเพื่อเอาสนุก กับเขียนเพื่อหวังขาย ซึ่งคุณภาพก็จะออกมาตามความคาดหวังอยู่แล้ว

นิยายแปลทั้งหมดมันเขียนเพื่อหวังขายคุณภาพจึงออกมาค่อนข้างสูง กลับกันคุณภาพของนิยายเขียนเอาสนุกนั้นก็ต้องเป็นอย่างที่มันควรจะเป็นอยู่แล้วล่ะครับ

ในเด็กดีส่วนใหญ่เป็นมือใหม่หัดเขียนเอาสนุก และมีส่วนน้อยที่เขียนเพื่อหวังขาย เพราะงั้นคุณภาพมันเลยออกมาอย่างที่เห็นนี่ล่ะครับ

0
รักแร้ดูแลยาก 9 ธ.ค. 59 เวลา 13:20 น. 8-4

คำว่าจีน เพี้ยนมาจากจิ๋นจ๊ะ เราเลยแนะนำแบบนั้นไป หรือออกเสียงให้ถูกจริงๆคือฉิน ที่มาจากฉินสือหวงตี้ นั่นแหละจ๊ะ

แต่คำว่าเจ๊ก เป็นคำดูถูกดูแคลน ไม่สมควรใช้จ๊ะ แล้วก็ไม่ได้หมายถึงจีนแผ่นดินใหญ่ด้วยจ๊ะ

0
FpVins. 9 ธ.ค. 59 เวลา 11:45 น. 9-1

แพ้หรอ? ไม่เคยคิดเรื่องนี้น่ะ เพราะเราไม่ชอบการแข่งขัน แพ้ชนะ เราเกลียดกีฬา ถถถ (พูดล่ะเอียม) แต่พาลนี่แน่นอนคะ ก็อย่างว่าละนะคะ ถ้าฟิคไม่มีโดเนทหรือส่งผลเสียต่อเว็ปdek d ตอนนี้ ทางเว็ปก็ไม่ยุ่งอยู่แล้ว เพราะเอาออกสองอย่าง คงจะเสียคนไปไม่น้อย

0
อัจฉราโสภิต 9 ธ.ค. 59 เวลา 12:06 น. 10
ลิ้งค์ที่เจ้าของกระทู้ยกมาเพื่ออ้างว่าแปลฟรีไม่ผิดนี่ กลายเป็นมัดตัวเองเต็มๆเลยครับ

http://www.manager.co.th/iBizChannel/ViewNews.aspx?NewsID=9580000087816


4. การนำงานมาใช้และเผยแพร่โดยอ้างอิงที่มาหรือให้เครดิตผู้สร้างสรรค์เพียงพอหรือไม่ที่จะไม่ถือเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์

ตอบ การนำงานมาใช้และเผยแพร่ ต้องอ้างอิงที่มาหรือให้เครดิตเสมอ จึงจะไม่ถือเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ และต้องเป็นกรณีที่ไม่ขัดต่อการแสวงหาประโยชน์จากงานลิขสิทธิ์ตามปกติของเจ้าของลิขสิทธิ์ รวมทั้งต้องไม่กระทบกระเทือนถึงสิทธิของเจ้าของลิขสิทธิ์เกินสมควรด้วย


2
FpVins. 9 ธ.ค. 59 เวลา 12:19 น. 10-1

55555 ม่องเลยตรู เปลี่ยนข้อก็ได้ค่ะ



6. การก๊อบปี้ภาพหรือบทความจากอินเทอร์เน็ตมาใช้ในลักษณะอย่างไรจึงจะต้องขออนุญาตเจ้าของลิขสิทธิ์ และอย่างไรจึงไม่ต้องขออนุญาต

ตอบ กรณีที่ต้องขออนุญาตเจ้าของลิขสิทธิ์ เช่น การนำภาพหรือบทความนั้นไปใช้ในเชิงพาณิชย์ เป็นต้น กรณีที่ไม่ต้องขออนุญาตเจ้าของลิขสิทธิ์ ต้องเป็นการใช้ในปริมาณพอสมควร เช่น นำมาใช้ในการวิจัยหรือศึกษางานซึ่งไม่ใช่เพื่อหากำไร ใช้เพื่อประโยชน์ของตนเองหรือเพื่อประโยชน์ของตนเองและบุคคลอื่นในครอบครัวหรือญาติสนิท ใช้ในการติชม วิจารณ์ หรือแนะนำผลงานโดยมีการรับรู้ถึงความเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ในงานนั้น ใช้ในการเสนอข่าวทางสื่อสารมวลชนโดยมีการรับรู้ความเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ในงานนั้น และใช้ในการเรียนการสอน เป็นต้น


นิยายแปลฟรีไม่ได้ใช้เชิงพานิช

0
อัจฉราโสภิต 9 ธ.ค. 59 เวลา 12:28 น. 10-2

ข้อ 6. นี่แหละ ที่ผมคิดว่าไม่เคลียร์ที่สุด

แต่การไม่เคลียร์ที่สุดนั้นมันก็ยังมีความเคลียร์ครับ

- กรณีที่ไม่ต้องขออนุญาตเจ้าของลิขสิทธิ์ ต้องเป็นการใช้ในปริมาณพอสมควร เช่น นำมาใช้ในการวิจัยหรือศึกษางานซึ่งไม่ใช่เพื่อหากำไร

การแปลนิยายลงเว็บ ไม่ได้เป็นการใช้เพื่อการวิจัยหรือศึกษางาน (ถ้าจะบอกว่าเอามาแปลเพื่อวิจัยหรือเพื่อการศึกษา ต้องพิสูจน์ครับ งานวิจัยต้องมีกรอบมีจุดประสงค์ในการวิจัย การศึกษาก็เช่นกัน แปลเพื่ออะไร เผยแพร่ให้คนหมู่มากเพื่ออะไร)

- ใช้เพื่อประโยชน์ของตนเองหรือเพื่อประโยชน์ของตนเองและบุคคลอื่นในครอบครัวหรือญาติสนิท

ผู้ใช้เว็บจำนวนมหาศาลไม่ถือว่าเป็นครอบครัวหรือญาติสนิทครับ

- ใช้ในการติชม วิจารณ์ หรือแนะนำผลงานโดยมีการรับรู้ถึงความเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ในงานนั้น

ข้อนี้ไม่เคลียร์ที่สุด แต่ก็อย่างว่าครับ ความ "ไม่เคลียร์ที่สุด" ผมหมายถึงในเชิงเปรียบเทียบ (Comparative) เพราะข้ออื่นมันเคลียร์มากว่าห้าม

ข้อนี้เคลียร์ยังไง หนึ่ง ติชม วิจารณ์นี่ตัดทิ้งไปได้ เพราะไม่ได้มีบทวิจารณ์

สอง แนะนำผลงาน ย่อมมีจุดประสงค์เพื่อให้เจ้าของผลงานนั้นได้ประโยชน์มากขึ้น มีลักษณะการเขียนและการเผยแพร่ที่นำไปสู่จุดประสงค์นั้น แต่การแปลนิยายลงเป็นเรื่องๆไม่เข้าข่ายครับ เพราะสามารถพิสูจน์ได้ว่าขัดผลประโยชน์ ทำลายผลประโยชน์อันพึงได้ของเจ้าของลิขสิทธิ์ และสามารถโต้แย้งได้ว่าถ้าจะแปลเพื่อแนะนำผลงาน ไม่จำเป็นจะต้องแปลทั้งหมดเลย

ข้อนี้ผมคิดว่าหมายถึงพวกนิตยสารหรือบทความวิจารณ์หนังหรือการ์ตูน ที่อาจเอาข้อความ ภาพ หรือบางส่วนของหนังมาเพื่อวิจารณ์ ติชม หรือแนะนำครับ

และแม้จะพิสูจน์ได้ว่าทำไปเพื่อแนะนำจริง แต่คำตอบข้อ 4. ก็ยังมีผลครับ (ถ้าเป็นข้อกฎหมาย ต่อให้ถูกในวรรคหนึ่ง แต่ผิดของอีกวรรค ก็ถือว่าผิด) ในเมื่อการทำซ้ำดัดแปลงนั้นขัดผลประโยชน์ คุณก็ไม่สามารถทำได้ครับ

0
นุ้งดาวเจ้าของไหเจ็ดสีมณีเจ็ดแสง 9 ธ.ค. 59 เวลา 12:53 น. 11
ขอโควทประโยคนี้มา

"บางคนคงคิดนะคะ ว่าเออ เขาเป็นบุคคลสาธรณะ เป็นสามีหลวง อ่านไทยไม่ออก เอามาทำแบบนี้เขาอาจจะดังขึ้น โปรโมทช่วยเขา หารู้ไม่ ถ้าเขาอ่านออกเขาอาจจะเกลียดคุณ จนเข้าลิสดำแล้วก็ได้ แต่ไม่อาจจะทำอะไรได้ เนื่องจากต้องรักษาภาพพจ"



เราข้องใจมากเลย คือแฟนฟิคนี่มีทั่วโลกนะคะ ไม่ใช่มีแค่ในไทย แฟนฟิคเกาหลีที่เป็นภาษาเกาหลีก็มี .___.
หรือแฟนฟิคคนดังของไทยก็มี บีคริส โน่ริท เอมน้ำ ไรงี้ เค้าก็อ่านภาษาไทยออกกันนะคะ


แต่ไม่เถียงเรื่องเอาคนดังมาปู้ยี่ปู้ยำในฟิค อันนี้เราขออยู่กลางๆ ระหว่างเห็นด้วยกับไม่เห็นด้วยละกัน
4
ราชินีโพแดง[ไหหมิง] 9 ธ.ค. 59 เวลา 14:04 น. 11-1

ถ้าทางเกาหลี (พูดแค่เฉพาะทางเกาหลีนะเพราะเห็นเล่นตรงอปป้าบ่อยเหรอเกิน) ...ถ้าทางเกาหลีมันจะฟ้อง ป่านนี้พวกเว็บแฟนฟิคเกาหลีต้นทางเดี้ยงหายไปเป็นแถบแล้วมั้ง //ถอนหายใจ

0
นุ้งดาวเจ้าของไหเจ็ดสีมณีเจ็ดแสง 9 ธ.ค. 59 เวลา 17:23 น. 11-2

จริงค่ะพี่ 55555555555555 ขนาดกฎลิขสิทธิ์เกาหลีเขาแรงกว่าไทยเยอะ เปิดเอ็มวีในยูทูปออกสาธารณะนี่ผิดเต็มๆ ไม่ยึกยักแบบไทย เว็บฟิคเค้ายังลอยนวล

ฟตบ.แม่แฟนไซต์นี่ละเมิดเต็มๆ กว่าฟิคอีก ศิลปินยังยิ้มให้แม่ๆ กันอยู่เล้ย..........

0
อ้าวพาวิ 9 ธ.ค. 59 เวลา 20:42 น. 11-4

อันนี้เป็นการช่วยค่ายโปรโมตศลป.รึเปล่าคะ บางคนเขาก็รู้จักศิลปินเพราะอ่านฟิคเนี่ยแหละ

ตลกจัง

0
อุอิ 9 ธ.ค. 59 เวลา 13:43 น. 12

ความจริงมันก็ผิดทั้งคู่นั่นล่ะค่ะ แต่มองในมุมทั่วไปแล้วแฟนฟิคจะพอหยวนได้มากกว่านิยายแปลอยู่หน่อย

ทำไมถึงเป็นอย่างนั้น?

ต้องลองมองในมุมมองเจ้าของผลงาน ไม่ใช่นักอ่านนะคะ

แฟนฟิคผิดก็จริง แต่เจ้าของผลงานส่วนใหญ่จะไม่ค่อยเอาเรื่องกับพวกนี้นักเพราะถือเป็นตัวช่วยโปรโมตผลงานของเขาให้เป็นที่รู้จักในวงกว้างได้ ซึ่งในที่นี้จะรวมไปถึงพวกแฟนอาร์ตหรือโดจินทั้งหลายด้วย เพราะการมีอยู่ไม่ได้ทำให้เจ้าของผลงานเสียประโยชน์อย่างชัดเจนไงล่ะคะ โดยรวมแล้วเป็นประโยชน์ด้วยซ้ำ

ทีนี้มาดูนิยายแปลที่ก็ผิดเหมือนกัน แต่ดูจะผิดมากกว่าเพราะทำให้เจ้าของผลงานเสียผลประโยชน์ชัดเจน ถึงจะมีข้อดีที่ทำให้ผลงานเป็นที่รู้จักมากขึ้น แต่ก็จะมีข้อเสียที่ถ้าคนหันไปอ่านนิยายแปลเถื่อนจนสำนักพิมพ์ของประเทศนั้นไม่มาซื้อลิขสิทธิ์อย่างที่ควรเป็นเพราะเห็นว่าไม่คุ้มที่จะลงทุน มีให้อ่านเกลื่อนตามเน็ตแล้ว ใครจะมาเสียตังค์ซื้อกัน?

เพราะงั้นเจ้าของผลงานก็ไม่ได้ตังค์อ่ะค่ะ

นี่ล่ะค่ะที่ต่างจากพวกโดจิน แฟนฟิค ซึ่งถ้ามีเยอะคนก็สนใจเยอะสามารถเรียกกระแสนิยมในประเทศนั้นๆได้ สำนักพิมพ์ที่เห็นว่ากระแสเรื่องนั้นดี ถ้าซื้อลิขสิทธิ์ก็น่าจะมีคนซื้อเยอะ ก็มีแนวโน้มที่จะไปซื้อลิขสิทธิ์จากเจ้าของผลงานเพื่อแปลขายในประเทศนั้นมากขึ้น

เจ้าของผลงานก็ได้ตังค์อ่ะค่ะ

ซึ่งพวกแฟนฟิค โดจินส่วนใหญ่ไม่ค่อยไปกระทบการได้เงินของเจ้าของผลงานนัก ก็เลยพอหยวนๆเรื่องพวกนี้ได้ค่ะ

มันต่างกันแค่นี้ล่ะค่ะเจ้าของกระทู้

แต่เราก็ไม่หวังให้เจ้าของกระทู้จะมาเข้าใจหรอกค่ะ เห็นไปคอมเม้นท์ในบางกระทู้ว่าสนใจแต่จะไม่ได้อ่านนิยายแปลของตัวเองเท่านั้น ลิขสิทธิ์อะไรพวกนี้ไม่สนหรอก คนแต่งจริงๆจะอดตายกินข้าวคลุกน้ำปลาประทังชีวิตก็คงไม่สนใจเท่าไหร่ ก็พอเดาได้แล้วค่ะว่ากระทู้นี้จะแค่มาเหวี่ยง ลากแฟนฟิคลงไปตายด้วยกันเฉยๆ

แต่เราก็หวังว่าถ้าเจ้าของกระทู้โตมากกว่านี้จะเข้าใจเรื่องพวกนี้มากขึ้นนะคะ

เข้าใจเจ้าของผลงานทั้งหลายที่อุตส่าห์แต่งเรื่องให้เอามาแปลอ่านกันด้วย

0
ใจร่มๆ 9 ธ.ค. 59 เวลา 14:05 น. 13

จขกท. พลาดมากที่เปรียบเทียบแฟนฟิค กับ นิยายแปล สองอย่างนี้แตกต่างกันมากเลยนะ เราจะไม่พูดเรื่องลิขสิทธิ์ใดๆ แต่เราขอกล่าวถึงรสนิยมการอ่านนะคะ

ของแบบนี้มันขึ้นกับบุคคลค่ะ การที่คุณอ่านฟิคแล้วไม่โดน แต่ถูกใจนิยายแปลมากกว่า ไม่ได้แปลว่านิยายแปลจะดีกว่านะคะ ส่วนคนที่ไม่ชอบอ่านนิยายแปล แต่ชอบอ่านฟิคมากกว่า ก็ไม่อาจมาชี้ตายได้ว่าฟิคดีกว่าเช่นกันนั่นแล

เด็กดีเคยต้มมาม่าชามใหญ่กว่านี้มาแล้วค่ะ เรื่องแฟนฟิค ไม่ทราบว่าจขกท.อยู่ทันมั้ย สัดส่วนแฟนฟิคมีจำนวนมากกว่านิยายแปลด้วย จนมีการแยกหมวดระหว่างนิยายแต่งเอง กับแฟนฟิคออกมา

0
คนบ้า 9 ธ.ค. 59 เวลา 14:18 น. 14

ขอแสดงความคิดเห็น!!
นิยายแปล เอามาน่ะ เจ้าของเค้ารู้มั้ยยย ถาม!! ตั้งมาได้ค_า _มากเลย แปลฟรีเหรอ ใจรัก ปัดโถ่ววว เอาไรมาพิมพ์คะคุณ แฟนฟิคอ่ะ ชื่อน่ะแค่เอามา ส่วนงานแปลหนิ คัดมาทั้งดุ้น แค่มาแปลเป็นภาษาไทยจะมาโวยวายอะไร ศลป.น่ะเค้าจดลิขสิทธิ์ชื่อเค้าป่ะล่ะ? รูปน่ะผิดจริงแต่ต้นสังกัดเค้าเอาความมั้ย อย่าลากมาโยงขอร้อง!! คนชื่อซ้ำกันก็เยอะ พีคตรงเรื่อง "นิทาน"นี่ล่ะ อยากจะหัวเราะเป็นผักบุ้ง ปัดโถ่ววว นั่นแค่เล่าค่ะคุณ ไม่ได้คัดมาแปลอีกทีนึง
ถถถ งานฟรีก็ดีไป แต่ควรเอาความคิดและมันสมองตัวเองมั้ยล่ะคะแล้วคนแต่งเค้าจะแต่งมาทำแมวอะไรอ่ะ ถถถ.....ไม่สะใจบอกเลย แรงไม่ได้

1
อัจฉราโสภิต 9 ธ.ค. 59 เวลา 14:23 น. 14-1

เอาจริงๆจดนะครับ อย่างน้อยๆกฎหมายลิขสิทธิ์ไทยคุ้มครองตัวตนศิลปินครับ (ผมเองก็เพิ่งรู้ นึกว่าผิดฐานหมิ่นประมาทอย่างเดียว)

รูปนี่ ต้นสังกัดไม่เอาเรื่อง ก็ไม่ได้แปลว่าถูกเหมือนกันครับ

0
purina 9 ธ.ค. 59 เวลา 14:24 น. 15
ถ้าคุณจะยกเรื่องนี้มาเป็นประเด็นแล้วโอโหคุณขา!!!  แล้วกับนิยายทั่วไปใดๆในสารโลกที่นักเขียนเขาก็ใช้รูปดารานักร้องมาเป็นอิมเมจล่ะคะ?  

โอ้คุณพระ!!!  สารพัดบท  จะตบจูบ  ปล้ำ  เป็นโจรห้าร้อย เป็นหม่อมเจ้า เป็นขอทาน  ยันฆาตกร และตัวอิจฉาที่สั่งฆ่าคนอื่นก็มีหมดเลยค่ะ

และไม่ได้มีแค่ในไทยนะคะ พวกแฟนฟิคนิยายอินเตอร์ที่ใช้อิมเมจดารานักร้องก็มีทั่วโลกเลยค่ะ...

จริงๆก็ไม่ได้บอกว่ามันไม่ผิดนะคะที่เอารูปคนอื่นมาใช้แบบนี้  แต่งานพวกนี้ก็เกิดจากการกลั่นกรองและสรรค์สร้างโดยหนึ่งสมองและสองมือของนักเขียนเองไม่ใช่เหรอคะ 
2
อัจฉราโสภิต 9 ธ.ค. 59 เวลา 14:27 น. 15-1

"แล้วกับนิยายทั่วไปใดๆในสารโลกที่นักเขียนเขาก็ใช้รูปดารานักร้องมาเป็นอิมเมจล่ะคะ?"

ผิดหมดครับ ถ้าเขาจะเอาเรื่องก็ตายหมด ผิดลิขสิทธิ์อย่างแรก และถ้าเอาชื่อเขามาใช้ เล่นงานเรื่องหมิ่นประมาททำให้เสียชื่อเสียงได้อีก

เพียงแต่ถ้าไม่ได้มีอะไรเสียหายมากมายเขาก็ไม่ค่อยฟ้องกัน คล้ายๆเรื่องนิยายแปลนั่นแหละครับ แต่การเอารูปมาหรือเอาตัวตนมาหลายครั้งไม่ได้ขัดผลประโยชน์ บางครั้งช่วยเพิ่มความนิยม เลยไม่ค่อยเห็นเอาเรื่องกันเท่านั้นเอง ไม่ได้แปลว่ามันไม่ผิด

0
purina 9 ธ.ค. 59 เวลา 14:37 น. 15-2

ใช่ค่ะ เราเห็นด้วยกับคุณ เรามองว่าที่เขาไม่เอามาฟ้องกันก็เพราะมันคล้ายการช่วยกระจายความนิยมให้แก่ตัวนักร้องหรือดาราเอง อย่างเราเองก็เริ่มติดตามดาราหรือนักร้องหลายๆคนจากอิมเมจในนิยายนี่แหละค่ะ ^_^

0
มัณทนา 9 ธ.ค. 59 เวลา 18:36 น. 16

พูดแบบนี้เท่ากับวาคุณกำลังอันธพาลใส่แฟนฟิคการ์ตูนด้วยสินะคะ
เพราะว่าคุณใช้คำว่า "แฟนฟิค" จั่วหัวชื่อกระทู้ด้วย
น่าจะระบุตั้งแต่แรกนะคะว่าเป็น "แฟนฟิคดารานักร้อง"

0
Sopimzize 9 ธ.ค. 59 เวลา 19:06 น. 18
แฟนฟิค - จิ้น โปรโมทศิลปิน ดารา หนัง (รึเปล่า ไม่แน่ใจ) เอาชาวบ้านมามโน แต่งๆๆๆ บลาๆๆ ศิลปินดารา หนัง มันคงไม่มีลิขสิทหรือสิทธิส่วนบุคคลเนอะ ตัวละครในแฟนฟิคน่าสงสารเก่าผู้เขียนนิยายจีนอีกน่ะคะ เอาคนนู้นจิ้นคนนี้ที คนโน้นแอบมีซัมติงกับคนนั้น ก่อนจะเอารูป ชื่อ เขามาเคยขอก่อนมั้ย แบบ โอ้ปป้า..ชั้นขอเอาโอ้ปป้าไปแต่งฟิคนะคะ ไม่มีอะไรมากหรอกค่ะ แค่เอาจิ้นกับคนนี้น่ะ ส่วนฉากก็ อื้มๆ มีจุบบ้างจูบบ้าง ไซร้บ้าง ขึ้นเตียงบ้าง ประตูหลังบ้าง หรืออยากมากก็ซาดิสอ่ะคะ โอ้ปป้า!  เคยขอป่ะล่ะคะ ถามใจดู....
ตัดภาพมาที่อีกข้อความ
“ไม่ได้บอกว่าแฟนฟิคไม่ดีไปหมดน่ะคะ มันก็ยังมีดีอยู่ แต่แค่มันยังไม่โดนเหมือนนิยายแปลฟรี ทั้งที่ทั้งสองก็ไม่ค่อยต่างอะไรกันมากมาย เผลอๆ นิยายแปลดูดีกว่าด้วยค่ะ”
แลดูย้อนแย้งนะคะ? ^^
0
คิดค่ะ 9 ธ.ค. 59 เวลา 19:30 น. 19

เราขอไม่เม้นเกี่ยวกับกระทู้นะคะ เพราะเหตุผลต่างๆก็มีคนชี้แจงกันไปแล้ว แต่ไม่เห็นจขกท.จะฟัง จะทำความเข้าใจเลยอ่ะ555555 ไม่รู้ว่าอ่านมั้ยด้วยซ้ำ ใจคุณมีแต่อคติ ไม่เปิดใจรับคำอธิบายของคนอื่นเลย ทำตัวเหมือนเด็กที่พอโดนว่าก็ตีโพยตีพายว่า'ทำไมคนอื่นไม่โดนล่ะ ทำไมโดนแต่ฉัน' แบบนี้ใครพิมพ์อะไรไปก็ไร้ประโยชน์ค่ะ ถ้าคุณยังเป็นแบบนี้ก็ไม่ต้องตั้งกระทู้มาถามหรอกค่ะเพราะใจคุณมีคำตอบอยู่แล้ว

0
1111 9 ธ.ค. 59 เวลา 19:41 น. 20

คนอื่นเป็นไงเราไม่รู้นะ แต่ว่าเราอ่านฟิคเพราะเราชอบเรื่องเดิมอยู่แล้ว มีคนเอามาแต่งเรายิ่งชอบ เราอ่านฟิคมาเยอะมากทั้งไทยทั้งอังกฤษ รู้สึกทางต่างประเทศจะวัดความดังกันด้วยฟิคเลยนะ เรื่องไหนมีเขียนฟิคตามมาเยอะๆนี่ แสดงว่าดังมากแฟนคลับเยอะ แล้วเราว่าคนที่เขียนฟิคนี่ต้องเคยดูเรื่องนั้นหรือติดตามดาราคนนั้นอยู่แล้ว ไม่ใช่อยู่ๆมาเขียนเองแบบไม่รู้ไรมาก่อน ว่ามะ! แล้วส่วนใหญ่ก็เห็นให้เครดิตกับเรื่องนั้นๆกันอยู่แล้วนี่ ถามว่าเอามายำไหม? ก็อาจมีบ้างนะเราว่า ที่เราอ่านของต่างประเทศนี่ขอบอกว่ายิ่งกว่าไทยอีก บางเรื่องอ่านแล้วไปไม่ถูกเลย ถ้าถามความชอบเราว่าเราอ่านเพราะเราเป็นแฟนคลับน่ะ แต่ถ้าพูดเรื่องลิขสิทธิ์นี่เราก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่ถ้ามันผิดก็คงผิดกันทั่วโลกล่ะนะไม่ใช่ไทยอย่างเดียว

0