Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

ใครอยากพัฒนาภาษาอังกฤษของตัวเองแบบจากหน้ามือเป็นหลังมือเชิญกระทู้นี้ครับ (ไม่ผิดหวังและมีแต่ได้กับได้แน่นอนครับ)

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่

(สามารถอ่านย่อหน้าแรกและข้ามไปอ่านย่อหน้าสุดท้ายได้นะครับ แต่แนะนำว่าให้อ่านให้หมดเลยจะได้เข้าใจแจ่มแจ้ง)
เคยได้ยินกันไหมครับกับคำพูดที่ว่าอยากฟังภาษาอังกฤษออกให้ดูซีรีส์ อยากพูดภาษาอังกฤษชัดและเป็นธรรมชาติก็ให้ดูซีรีส์ อยากได้คำศัพท์ที่ทันสมัยและสามารถพบเจอในชีวิตประจำวันก็ให้ดูซีรีส์
ซึ่งก็มีหลายคนที่เอาวิธีนี้ไปใช้ แต่ภาษาอังกฤษของตัวเองก็ยังไม่พัฒนาเหมือนที่ใคร ๆ เขาพูดกันว่าดูซีรี่ส์แล้วมันดีอย่างนั้นอย่างนี้ 
เรามาดูวิธีการเรียนภาษาอังกฤษผ่านซีรีส์กันนะครับ
วิธีการเรียนภาษาอังกฤษผ่านซีรี่ส์แบ่งออกได้เป็น 3 ระดับด้วยกัน

ระดับ1: ดูซีรีส์พากย์อังกฤษ โดยมีซับไทเทิ้ล (คำบรรยาย) ภาษาไทย
*วิธีนี้ไม่ช่วยอะไรเลยครับ (หรืออาจจะช่วยแต่แทบไม่เห็นความแตกต่างของพัฒนาการภาษาอังกฤษของเรา) เพราะร้อยละ 95 %เนี่ยก็ยังมัวแต่อ่านซับไทเทิ้ล สกิลทางด้านการฟังและคำศัพท์เลยไม่ค่อยพัฒนา ซึ่งส่งผลให้สกิลการพูดไม่พัฒนาเช่นกัน
แต่สำหรับคนที่ทำระดับ 2 ไม่ไหว (แม้ผมจะแนะนำให้ออกจาก comfort zone โดยการเริ่มจากระดับสองเลย) ก็ดูแบบนี้ก็ได้ครับ แต่ต้องพยายามอย่าอ่านซับบ่อย ไม่ก็อาจซับอ่านให้จบรวดเดียว แล้วมาตั้งใจฟังดี ๆ อาจจะพอช่วยได้บ้าง แต่ยังไงก็แนะนำระดับ 2 นะ

ระดับ2: ดูซีรีส์พากย์อังกฤษ โดยมีซับไทเทิ้ลเป็นภาษาอังกฤษ
*วิธีนี้ค่อนข้างมีประโยชน์ครับ เหมาะสำหรับมือใหม่ที่ยังฟังภาษาอังกฤษไม่คล่องและคลังคำศัพท์อาจจะยังไม่แข็งแรงเท่าไหร่ วิธีนี้จะช่วยให้เราฟังออกว่าตัวละครกำลังพูดอะไรกัน (สำหรับผมมันเป็นความมหัศจรรย์อย่างหนึ่งที่ตอนแรกฟังไม่ออกเลย ฟังไม่ไงก็ฟังไม่ออก แต่พอมีซับไทเทิ้ลภาษาอังกฤษมาให้เราอ่านด้วยพร้อมกับฟังไปด้วย ฟังออกเฉย) วิธีนี้ช่วยได้เยอะครับ เพราะเวลาเราไม่รู้คำศัพท์ไหนเนี่ยเราก็สามารถหยุดและเอาคำนั้นไปพิมพ์หาคำหมายใน Google Translate หรือเอาไปเปิดดิกชันนารีดูได้ (เพราะเรารู้ว่าคำนั้นสะกดยังไงแล้วจากซับไทเทิ้ล) 
ข้อเสียของวิธีนี้อาจจะดูซีรีส์ไม่สนุกเท่าไหร่ เพราะต้องดู ๆ หยุด ๆ ไปเปิดศัพท์บ้างไรบ้าง ก็อดทนครับ พอเรารู้ทุกคำศัพท์และฟังออกหมดแล้วก็ถึงเวลาไปดูแบบระดับ 3 (ด้านล่าง)

ระดับ3: ดูซีรีส์พากย์อังกฤษ โดยไม่มีซับไทเทิ้ล
*วิธีนี้คือวิธีที่ช่วยพัฒนาภาษาอังกฤษของเรามากที่สุดครับ อาจจะช่วยได้มากกว่าการอ่านนั่งอ่านหนังสือภาษาอังกฤษ หรือฟังดีวีดีบทสนทนาภาษาอังกฤษด้วยซ้ำ โดยการดูซีรี่ส์แบบนี้เนี่ย จะพัฒนาทั้งสกิลการฟัง คำศัพท์ และการพูดให้เรา (ช่วยการพูดยังไงหลายคนอาจสงสัย ก็คือพอเราไม่ต้องเสียเวลามัวแต่ไปอ่านซับไทเทิ้ล เราก็มีเวลามานั่งดูหน้าตัวละคร ดูปากของเขาเวลาเขาพูด สมาธิของเราไม่ได้อยู่ที่อ่านการแล้ว แต่อยู่ที่การฟังและปากของตัวละคร ซึ่งมันช่วยได้พัฒนาสกิลการฟังและพูดได้มากเลยครับ)

คือผมกำลังคิดว่าจะทำกระทู้ที่จะช่วยเพื่อน ๆ ในการเรียนภาษาอังกฤษโดยการดูซีรีส์ โดยที่ผมจะเอาคำศัพท์จากซีรีส์มาสอนเพื่อน ๆ กัน ซึ่งผมจะแบ่งเป็นตอน ๆ ไปเลย เช่น เชอร์ล็อค โฮมส์ ซี่ซั่น 1 ep 1 มีคำศัพท์อะไรบ้าง (โดยคำศัพท์ที่ผมเอามาจะเป็นคำที่เพื่อน ๆ อาจจะไม่คุ้นกัน และอาจจะฟังไม่ทัน หรือฟังไม่ออก และไม่เข้าใจความหมาย) มาอธิบายให้เพื่อน ๆ ฟังอย่างละเอียดเลย พร้อมทั้งฉากที่ตัวละครพูดคำนั้นด้วย แต่จะใส่ไว้ในสปอยล์นะ เผื่อบางคนอยากอ่านแค่คำศัพท์ เอาแบบชนิดที่ว่าอ่านกระทู้ผมจบเนี่ย สามารถดูซีรี่ส์ ep นั้นแบบระดับ 3 ได้เลย และการันตีว่าสามารถเข้าใจสิ่งที่ตัวละครพูดได้เกิน 80% แน่นอนครับ (ทำไมไม่ 100% หรือ 90%? ก็เพราะว่าผมไม่รู้พื้นฐานของแต่ละคนว่าภาษาอังกฤษดีขนาดไหน บางคนอาจเก่งอยู่แล้ว บางคนอาจไม่รู้อะไรเลย ก็ขอตีไว้ที่ 80% ละกันครับ เพราะผมค่อนข้างมั่นใจว่าน่าจะได้กันประมาณนี้)

ที่ผมมาตั้งกระทู้นี้ก็เพราะอยากให้เพื่อน ๆ มาโหวตกันว่าอยากให้ผมทำเรื่องไหน ก็พิมพ์กันมาในคอมเมนต์เลยนะครับ (พิมพ์ต่อคนที่มาพิมพ์แล้ว เช่นมีคนมาเมนต์ว่า Breaking bad แล้วเราก็แค่ไม่เมนต์ในคอมเมนต์เขาว่า + 1 **แก้ไข** ตอนนีเข้าไปโหวจในเพจได้เลยนะครับ)
สามารถเอาเรื่องอื่นนอกจากนี้ก็ได้นะครับเรื่องไหนก็ได้
ตัวอย่างซีรีส์ที่มีสำเนียงอังกฤษ
1. Game of Thrones
2. Sherlock Holmes
3. Misfits (ค่อนข่าง 15 +)
4. Skins (ค่อนข้าง 18 +)

ซีรีส์สำเนียงอเมริกัน
1. Prison Break
2. Breaking Bad
3. Walking Dead
4. Mr. Robot

**********************
***แก้ไขเพิ่มเติมครั้งที่ 2***
********************** 
สรุปผลโหวตนะครับ
อันดับ 1: Prison Break - แหม่มาแรงเลยนะเรื่องนี้ สงสัยต้องยกความดีความชอบในความหล่อของพระเอก 55555
อันดับ 2: Sherlock Holmes - เรื่องนี้สูสีกับ Game of Thrones แต่ผมก็กังวลอีกอย่างว่าอาจจะยากไปสำหรับคนที่สกิลการฟังยังไม่แน่นพอ
อันดับ 3: Game of Thrones - เรื่องนี้ฟังไม่ยากเท่าไหร่ครับ แต่คำศัพท์ในเรื่องอาจจะไม่ค่อยพบเจอในชีวิตประจำวันนัก

****แก้ไขล่าสุด - 7 พฤษภาคม 2017****
ตอนนี้แอดทำไว้หลายเรื่องแล้วนะ เลื่อน ๆ หาดูกันได้
- Iron Fist
- 13 Reasons Why
- Stranger Things
- Westworld
- Sherlock Holmes

ส่วนเรื่องที่ยังทำไม่จบก็มี
- Legion (4 ตอน)
- Prison Break (4 ตอน)
- Game of Thrones (1 ตอน)
- Black Mirror (1 ตอน)
- Narcos (1 ตอน)
- Mr. Robot (1 ตอน)
- Powerless (1 ตอน แต่เรื่องนี้ไม่ได้ไปต่อ T T)
- American Gods (3 ตอน)

นอกจากซีรีส์แล้วหนังก็มีนะ
- The Guardians of the Galaxy
เรื่องต่อไปคือ 
- Doctor Strange

เอาเป็นว่าเดี๋ยวจะทยอยทำให้จบครับ ติดตามไว้เลย
ใครมีเรื่องไหนน่าสนใจก็แนะนำมาได้เลยครับบ

#ชวนเพื่อนมาเก่งอังกฤษกันนน
ไม่จำเป็นต้องรู้หมดทุกอย่างในวันนี้ แค่รู้มากขึ้นกว่าเมื่อวานนี้ก็พอ
รู้ภาษาอังกฤษมากขึ้นทุกวันที่: Facebook.com/MyFathersAnEnglishMan/ (FB Page: พ่อผมเป็นคนอังกฤษ)
Stay tuned.
JGC

แสดงความคิดเห็น

>

5 ความคิดเห็น

Boom 28 ก.ค. 60 เวลา 17:17 น. 2

ขอยืนยันอีกเสียงค่ะ เมื่อก่อนเป็นคนเกียจภาษาอังกฤษมากจนมาคิดได้ว่ามันสำคัญมากจนชอบมันในที่สุด และเราเป็คนฟังไม่รุ้เรื่แงเลยได้ฟังเพลงหนัง สารคดี เป็นภาษาอะงกฤษหมด แล้วเราก็พูดตามไปที่ฟังออก เชื่อไหมคะว่าเราไม่เคยพูดกับใครนอกจากตัวดอง พอไปสัมภาษเป็นภาษาองกฤษหมด ตอบได้เฉย แถมเป็นธรรมชาติด้วย เพราะเราไม่ได้ใช้แกรมม่าในการพูดเลยค่ะ ขอบอกดลยว่าเราไม่มีเงินมากที่จะไปเรียนที่ไหน ฝึกเอง มันเห็นผล การฟังสำคัญจริงๆค่ะ

0
นมสด กด1105 29 ก.ค. 60 เวลา 00:02 น. 4

Sherlockนี่ผมแนะนำให้ดูท้ายๆสุดของการฝึกภาษาเลยนะครับ เพราะพี่เบนแกพูดเร็วมาก และสำเนียงUKมันค่อนข้างฟังยากพอตัวอยู่สำหรับคนเพิ่งเริ่มต้นอะครับ

0
S.s. 29 ก.ค. 60 เวลา 00:23 น. 5

วิธีนี้ช่วยไหมคะ? คือเราจะฟังเพลงไทยแต่ว่าเปิดศัพท์เป็นภาษาอังกฤษพอเจอศัพท์ไหนที่ไม่คุ้นเราก็จะฟังเพลงเอาว่าศัพท์ๆนี้มันสื่อถึงอะไร(ประมาณว่าศัพท์อื่นเรารู้คำแปลอยู่แล้วแต่คำนี้เราไม่รู้ก็จะหาท่อนที่นักร้องร้องเป็นเพลงไทยแต่ว่าเป็นคำไทยที่เราไม่รู้คำภาษาอังกฤษ)แล้วเราก็จะจดเอาไว้แล้วเอาไปเปิดดิกอีกทีนึงเพื่อความแน่นอน แล้วก็เวลาเปิดดิกจะเปิดหาเป็นเล่มมากกว่าในมือถือ(อันนี้โดยส่วนตัวคิดว่ามันจะทำให้เราเห็นศัพท์อื่นๆไปด้วยทำให้เราได้ศัพท์หลากหลายมากขึ้น)

1
นมสด กด1105 29 ก.ค. 60 เวลา 00:29 น. 5-1

ผมใช้วิธีฟังเพลงสากลที่ชอบอย่างต่ำ 3 รอบครับ (ซึ่งปกติเกินอยู่แล้ว) รอบแรกฟังแบบอิ้งทั้งเพลง รอบ2เปิดอ่านเนื้อเพลง+หาคำแปลทั้งเพลง (บางทีมันจะมีพวกสำนวนที่ต้องแปลเป็นประโยคๆ ผมเลยชอบใช้วิธีหาแปลทั้งเพลงมากกว่าหาทีละคำ) รอบที่ 3 ฟังแล้วพยายามแปลเป็นภาษาไทย ถ้าเราเลือกฟังเพลงที่ชอบ การใช้วิธีนี้จะไม่ฝืนตัวเราเองจนเกินไปครับ แถมได้คำศัพท์ใหม่ๆสำนวนใหม่ๆมาแบบไม่ต้องใช้ความพยายามพยายามจำมากด้วย เพราะมันจะฝังลงไปในสมองของเราเอง 5555

0