Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

Review ประสบการณ์จริงในอังกฤษเป็นเวลา 10 ปี 2007-2017

ตั้งกระทู้ใหม่

รีวิวตัวเอง 10 ปีในประเทศอังกฤษ


สวัสดีเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ชาวเด็กดีทุกคนนะครับ ไม่ได้อัพเดตุเรื่องราวมานานมาก ครั้งล่าสุดหลายๆ คนอาจจำได้ จากกระทู้ล่าสุดที่ผ่านมา ตอบทุกเรื่อง “การเรียนต่อที่ประเทศอังกฤษ” จากพี่เท็ดดี้ นักเรียนไทยที่อยู่อังกฤษมาแล้ว 10 ปี การเขียนรีวิว 10 ปีในประเทศอังกฤษ อาจไม่ครอบคลุมทุกส่วนนะครับ เน้นเอาที่จำได้ และก็ช่วงเปลี่ยนอายุในประเทศอังกฤษ ส่วนใหญ่อาจเขียนไม่เคลียร์บ้าง เพราะพยายามไม่เน้น เชิงลึก แต่เอาพอเข้าใจง่ายๆ เนอะ ถ้ามีการพิมพ์ผิดหรือคำประหลาดต้องขออภัยมา ณ ทีนี้ด้วยนะครับ (พิมพ์ผ่านแป้นพิมพ์ไม่มีภาษาไทยเน้นสัมผัสเอาครับ) 

2007/07/07
ตัวเลขจำได้แม่นได้ครับ เป็นวันแรกที่ได้บินออกจากเอเซียครั้งแรก จากประเทศไทย (ส่วนครั้งแรกบิน จำไม่ได้แล้วครับ แต่คิดว่าออกจากเอเซียครั้งแรก) ส่วนสายการบินก็ British Airways คือ นอกจากบินคนเดียวแล้ว ยังเป็นสายการบินที่ไม่มีพี่ๆ แอร์คนไทยเลย สกิลขอเด็กเวอร์ชั่น Yes, No, Ok and Thank you อย่างเรา ก็เน้น นอนหลับเลยครับ บินไฟท์ กลางคืน และถ้าหิว หรือ อยากกินอะไร เราก็ water อย่างเดียว แต่ก็ผ่านมาได้ ส่วนอาหาร เราเน้นฟังคนข้างๆ เนื่องจากบินไฟท์กลางคืน เราหลับตลอด เลยได้กินแต่อาหารเช้า และก็มาถึงอังกฤษ ส่วนใหญ่ในช่วงเวลานี้จะเน้นอยู่บ้านฝึกภาษา อ่านหนังสือ เล่นเน็ตบ้าง เตรียมความพร้อมไปเรียนที่โรงเรียนที่นี่ครับ ช่วงเวลา น่าจะสองเดือน ก็มาเรียน ที่ โรงเรียนชายล้วนที่ Rainham ในอังกฤษ มาเริ่มเรียนตอน Year 8 เทียบเท่า ม.2 ของเมืองไทย ช่วงปีแรกค่อนข้างมึนมากๆ แต่ก็ไม่รู้ว่าผ่านมาได้อย่างไร แต่ช่วงปีแรก คิดว่าด้วยวัยอายุ 12 ยังมีความเป็นเด็กอยู่เยอะ เลยกลมกลืนเข้ากับคนอื่นได้โดยไม่รู้ตัว แต่ก็เริ่มได้ภาษาอังกฤษดีขึ้นครับ แต่ก็ยังแย่มาก และก็คิดถึงเมืองไทยบ่อยมาก เพราะตอนนั้นมีแต่แม่ และก็เพื่อนแม่ ส่วนเพื่อนคนไทย ก็มีแค่คนสองคน และส่วนใหญ่เป็นผู้หญิง + เรียนชายล้วน เลยทำให้ส่วนใหญ่ไม่ค่อยได้พูดไทย และก็ไม่ค่อยพูดอังกฤษด้วย แต่ก็มีเพื่อนเดินกลับบ้านด้วยกัน ก็เลยมีภาษาที่ดีขึ้น



2008
ปีนี้ อายุ 13 ปี จำอะไรไม่ค่อยได้ เอาเป็นจะพูดเรื่อง Bully ละกัน ซึ่งเด็กไทยปกติ มักจะกลัวปัญหา การเจอการถูกแกล้งใช่ไหม แต่มันไม่เคยเกิดขึ้นกับตัวเราเลย เพราะเพื่อนๆ ทุกคน Nice กับเรามาก และเราก็พูดภาษาอังกฤษได้ประมาณนึงในช่วงนี้ บวกกับตอนเข้าไปเรียนใหม่ เคยเจอรุ่นพี่มาตบหัว นี่ก็ได้ตกใจ เผลอสวนไปหมัดนึง ตกใจจัด อัดเข้าไปเต็มๆ และตอนนั้นมีประโยคเด็ด do you know Thai boxing? I’m from Thailand. จ่าพนม ช้างกูอยู่ไหน ก็มา ก็เลยกลายเป็น ฝรั่งกลัวเด็กไทยคนนี้ไปเลยจ้า ทั้งที่ความจริง มวยก็ต่อยไม่เป็น หน้าก็เอ๋อๆ น่าจะตอนนั้นเป็นเด็กตัวโตด้วย ก็เลยไม่มีใครมาแกล้ง แต่มีแต่รุ่นพี่มา Hi5 กันซะมากกว่า

2009
หลังผ่านไป 2 ปี ปีนี้น่าจะเป็นปีแรก ที่ได้กลับเมืองไทย กลับไปได้ 1 เดือน โอ้โห ไม่อยากกลับมานี่เลย คิดถึงเมืองไทยมาก คิดเลยว่าเรียนจบ มัธยมที่นี่ ยังไงก็กลั้บไปอยู่เมืองไทยแน่นอน ช่วงนี้เอง ก็ลองเขียนบทความ นิยาย ในเด็กดี เพราะว่าตอนนั้น ว่างมาก งานอดิเรก ถ้าไม่นับพวกฝึกภาษา ออกไปเล่นข้างนอก กับเพื่อน จะเป็นการ อ่านคู่สร้างคู่สม และ อ่านนิยายแจ่มใส จนไฟแรงจ้า เกิดความคิดว่า นี่แหละ เราต้องเขียนนิยายจนดังให้ได้ แต่เขียนไปทีไร มันไม่ใช่ตัวเราเลย เราเป็นพวกเขียนอะไรไม่ชอบวางแพลน งั้นเปลี่ยนมาเป็น เขียนเรื่องตัวเองนี่แหละ เป็นประสบการ์ณที่เราได้พบเจอในประเทศอังกฤษ ช่วงนี้เอง ชีวิตการเรียนเราก็เนิ่บๆ อย่างอื่นก็เฉยๆ อ่อๆ ช่วงนี้จำได้ติดซีรีย์ 90210 มาก ชอบตัวละครที่ชื่อ Teddy มากเช่นกัน ปีนี้เป็นได้สมาชิกในบ้านเพิ่มมาด้วย คือลูกหมาชื่อ Pookie ซึงตั้งแต่จำความได้ เลี้ยงหมาชื่อ ปุ๊กกี้มาแล้ว 3 ตัว ก็เลยคิดว่า หรือจริงๆ แม่เราก็อยากให้เราชื่อ Pookie



 2010
ปีนี้จำได้ดีเลยเพราะขึ้น Year 10 ต้องเลือกสายเรียน ตัดสินใจ เน้นเรียนด้าน Art & Design ไปเลย เพราะเป็นวิชาเดียวที่ถนัดสุดในตอนนั้น และก็ชิวดี นั่งวาดในห้อง ดมกลิ่นสี ไปชิวๆ และอีกวิชาคือ Business เลือกเพราะ วิชา French ซึ่งเรียนดี ณ ตอนนั้น ไปตรงกับ Art & Design เลย ตัดใจไปเลือก Business ส่วนวิชาที่ยังบังคับเรียน จะเป็น คณิต วิทย์ อังกฤษ คอม ศาสนา สุขศึกษา และพละ ปีนี้ เขียนบทความส่งให้พี่เป้ Dek-D ด้วย https://www.dek-d.com/studyabroad/18592/ ตอนนี้ กลับไปอ่าน นึกในใจ ตอนนั้นเขียน อะไรเนี่ย อ่านแล้วตลกมาก แต่ก็มีคนเข้ามาอ่านเกือบสองหมื่น พอเริ่มเขียนบทความอันนี้ ก็เริ่มมีคนมาติดตามในเว็บเด็กดี และก็ได้เพื่อนใหม่ๆ หรือคนสอบถามเรื่องเรียนต่ออังกฤษมาเยอะมาก

2011
ปีนี้ ปีสุดท้ายเรียนมัธยม ปี 11 เครียดหนักมาก จำได้ว่า เรียนเพื่อสอบ สอบและสอบ ช่วงนี้เป็นช่วงเลือกว่าเราอยากเรียนต่อสายสามัญหรือสายอาชีพ ตอนแรก Portfolio ไปโดนใจอาจารย์ที่ มหาลัย UCA เลยติดต่อผ่านครูที่โรงเรียน ให้ไปลงเรียน Art college ของมหาลัย ตอนนั้นคิดว่าเราเหมาะกับด้านนี้ แต่ มีจุดเปลี่ยน ได้พูดคุยกับพี่คนไทยที่กำลังเรียนต่อด้าน Travel and Tourism เราฟังแล้วมันคือตัวเรามากกว่า เพราะเราชอบด้านการท่องเที่ยว เลยตัดสินใจ reject offer ของ UCA และสมัครด้านการท่องเที่ยวของ Midkent college ไป เรื่องน่าเศร้าของปีนี้คือ วันที่ Leaver หรือวันสุดท้ายของการเรียน ที่มีการเซ็นต์เสื้อ ของโรงเรียน เราป่วยหนักมาก เลยอดเลยจ้า แต่ก็มีเพื่อนบางคนที่เราเจอเซ็นต์ให้ตอนเจอกันวันสอบ

ปีนี้ กลับไทย รอบที่ 2 หลังจากอยู่ที่อังกฤษ

2012
เริ่มเรียน Travel and Tourism แก็งค์เพื่อนเริ่มหลากหลาย และอายุ 16 พ่อแม่ก็ปล่อยมากขึ้น ช่วงนี้ จะเริ่มเที่ยวบ้าง เพราะว่า เริ่มทำงานในร้านอาหารตำแหน่งเด็กล้างจาน และเริ่มตำแหน่งมาเป็นเด็กวิ่งอาหาร จนมาเป็นเด็กเสิร์ฟ เลยมีตังค์ไปเรียน ไปเที่ยวช่วงนี้ ชีวิตสนุกมาก เพราะยังอาศัยอยู่กับพ่อแม่ ปีนี้ ได้มีส่วนช่วยในการให้ข้อมูล ในหนังสือ คู่มือ เรียนต่อนอก ของ Dek-D ก็รู้สึกตื่นเต้น เสมือนเป็นหนังสือเล่มแรกที่เราได้เขียนได้ตีพิมพ์ ถือว่าทำสำเร็จกับความฝันที่อยากเป็นนักเขียนตอนเด็ก ส่วนเรียนการท่องเที่ยวที่นี่ ชอบให้ใส่ Uniform เราก็ชอบดี เพราะถ้าใส่ชุดไปรเวทไปเรียนคงไม่รู้จะใส่อะไรไป เป็นมนุษย์ไม่ค่อยมีเสื้อผ้าใหม่
ปีนี้ เป็นปีที่ SHINEE มาอังกฤษด้วย ก็ไปดู ได้ที่นั่งเกือบหน้าๆ ดีใจมาก


 ป.ล. ปีนี้ เป็นปีที่พ่อเลี้ยงกับแม่ ตัดสินใจกลับไปอยู่ไทย ส่วนตัวเรานั้น เคยบอกแล้วว่าจบมัธยมยังไงก็กลับ แต่พอโตขึ้นภาษาเริ่มดีขึ้น เริ่มมีงานทำเอง ปีกกล้าขาแข็งมากขึ้น เลยตัดสินใจอยู่อังกฤษต่อ...


เดี๋ยวช่วง ระหว่าง 2013-2017 จะมาต่อให้นะครับ ขอบคุณทุกคนที่อ่านจนมาถึงตรงนี้นะครับ มีอะไรสอบถาม หรือ สนใจ เขียนลงในคอเม้นต์ได้นะครับ จะมาตอบให้ทุกคน

แสดงความคิดเห็น

>

1 ความคิดเห็น