Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

โดนบังคับให้ 'อยากเป็นหมอ'

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
สวัสดีทุกๆคนครับ ตอนนี้ก็ใกล้ถึงช่วงยื่นพอร์ตแล้ว โดยส่วนตัวผมเป็นคนที่อยากเรียนหมอมาตั้งแต่เด็กๆแล้ว แต่พอช่วงขึ้นมัธยมมา พ่อแม่กับญาติๆก็ชอบพูดว่าเป็นหมอให้ได้นะ ป้าก็จะชอบพูดว่า ตั้งใจเรียนนะ เอา 4.00นะ ซึ่งตัวเราก็อ่านหนังสือหลังเลิกเรียนพิเศษ 9ทุ่มถึงตี 2อยู่แล้ว ทำด้วยความอยากทำ จนทนไม่ไหว เราก็บอกป้าไปตรงๆ ว่าอ่านถึงตี 2แล้ว ป้าก็บอกว่าตอนป้า ป้าอ่านถึงตี 3 แล้วตื่นตี 4 มาอ่านต่อ (ป้าเป็นหมอครับ)

พ่อแม่ ตอนประถมเขาก็บอกว่า หาตัวเองให้เจอ อยากเป็นอะไรก็เป็น แต่หลังๆ มาก็พูดอยู่ประจำว่า "ไม่ได้บังคับนะ แต่เป็นหมอก็ดี อยากให้เป็นหมอหางานง่าย เงินเดือนดี" แล้วก็อย่างเช่นตอนสมัครทดลองข้อสอบ จะมีคณะให้เลือก ตอนกรอกข้อมูล แม่ก็จะชอบเดินเข้ามาสั่งๆ ชี้ๆ แล้วบอกว่า เลือกหมอสิ ทำไมไม่เลือกหมอ (ตอนนั้นเลือกสหเวชครับ เพราะเกณฑ์รอบพอร์ตไม่ถึง) แล้วก็วนอยู่แบบนี้ ทั้งพ่อแม่ญาติป้าน้าอา พูดอยู่เสมอๆว่าให้เข้าหมอ

จากคนที่อยากเข้าหมอด้วยใจจริง พอโดนพูดกดดันแบบนี้ ตอนนี้รู้สึกเกลียดไปแล้วครับ ตอนนี้ไม่อยากจะเข้าคณะแพทย์แล้ว อยากตายเสียเลยด้วยซ้ำ ไม่ว่าจะเป็นครูที่โรงเรียนหรือเพื่อนก็จะบอกอยู่เสมอๆ ว่าเข้าหมอไม่ได้หรอก อย่างแกต้องไปเข้านิเทศ ซึ่งเราชอบทำสื่อ แต่ชอบเป็นงานอดิเรกเสียมากกว่า รู้สึกว่าแรงกดดันมันมาจากทุกที่ ไม่ว่าจะเป็นที่บ้านหรือที่โรงเรียน แต่แรงกดดันมันมาต่างกัน

ตอนนี้อยากหายๆไปจากโลกนี้แล้ว มันเหนื่อย ทำไม เราก็มีคามฝันที่อยากเป็นหมอมาตั้งแต่เด็ก แต่ทำไมทุกต้องต้องตะบี้ตะบันให้เราเป็นให้ได้ ตอนนี้ไม่อยากทำอะไรแล้วครับ อยากหลับๆแล้วไม่ต้องตื่นอีกเลยยังคงดีซะกว่า

แสดงความคิดเห็น

>

20 ความคิดเห็น

Sasicha 11 ต.ค. 60 เวลา 23:35 น. 1

สู้ๆนะคะพี่ ถ้าพี่เครียดมาก ก็หาอะไรทำให้พี่สบายใจขึ้น แล้วมุ่งมั่นในสิ่งที่พี่อยากเป็น พี่อยากเป็นหมอ พี่เป็นได้แน่นอนค่ะ ทำให้เขาเห็นว่าเราทำได้ เก็บแรงกดดัน มาเป็นเเรงผลักดันนะคะ ท้อได้ แต่ห้ามถอยนะพี่ เป็นคุณหมอให้ได้นะคะ สู้ๆค่ะ

0
นามแฝงเว็บยอร์ดอุอิ้ 11 ต.ค. 60 เวลา 23:38 น. 2

สู้ๆน่ะค่ะพี่เจ้าของกระทู้ ลองปล่อยวางดูน่ะค่ะ ที่เค้ากดดันเพราะเป็นห่วงอยากให้มีอนาคตดีๆแหละค่ะ ลองคิดซะว่าที่เค้าพูดเพราะเค้าห่วง และลองบอกพ่อแม่หรือญาติๆดูน่ะค่ะว่ารู้สึกกดดันมาก เรื่องนี้ลองปรึกษาคนในครอบครัวดูน้ะค่ะ สู้ๆค่ะ

0
shinyakun 11 ต.ค. 60 เวลา 23:39 น. 3

จขกท ไม่ลองคุยกับพ่อแม่ดูล่ะ ส่วนเรื่องครูที่ รร เขาแค่แนะนำเฉยๆว่าน่าจะมีทางอื่นให้เลือกนอกจากหมอ ไม่จำเป็นต้องคิดมากเรื่องที่ครูแนะนำ

แต่เรื่องพ่อแม่พี่ป้าน้าอานี่น่าหนักใจเนอะ ลองๆคุยกับเขาดูก็ได้ ให้เขาทำความเข้าใจ จขกท ก็ลองไปปรับบรรยากาศดูก็ไม่เลวนะ แล้วค่อยกลับมาคิดใหม่ เผื่อว่าจะตัดสินใจได้

//สู้ๆนะ ไม่ต้องเครียด

0
22therteen 11 ต.ค. 60 เวลา 23:47 น. 4

ใจเย็นๆนะ เราอยากให้นึกถึงความสุขตัวเองเป็นหลัก อย่าไปรับสิ่งแย่ๆเข้ามาเลย ตัดสินใจกับตัวเองก่อนว่าอยากเข้าคณะอะไรที่เราอยากแน่ๆ เราเรียนได้ เราอยู่กับมันแล้วมีความสุขได้ เราเคยได้รับแรงกดดันมาเหมือนกัน บางทีเป็นการดูถูกด้วยซ้ำ ซึ่งเราจะไม่เปรียบเทียบเพราะคนเรารับได้ไม่เท่ากัน แต่เราเลือกที่จะไม่ใส่ใจ เราเลือกที่จะรับฟังแค่คำแนะนำที่ดีๆ ถ้ามีคำพูดที่มันทำให้เรารู้สึกไม่ดี เราจะMind your own business เรา18แล้ว และอนาคตตัวเราอยู่กับเรา เขาไม่ได้มาอยู่กับ เราจะทำสิ่งที่เราอยากทำ แต่เรื่องของคนพวกนั้นเราคิดว่าเขาคงจะหวังดี แต่มันเป็นความหวังดีที่มากเกินไปล้นเกินไป ซึ่งนั่นแหละ shake it off,this is my life

0
หญิง 12 ต.ค. 60 เวลา 08:53 น. 5

มุมมองของเด็กกับผู้ใหญ่ต่างกัน พื้นฐานการเลี้ยงดูก็ต่างกัน หนูไว้ใจใครที่สุดในบ้าน ลองที่จะเปิดใจพูดกับเค้าก่อนดีกว่ามั๊ย อย่ากดดันตัวเองเพราะคำพูดคนรอบข้าง ลองดูว่าเราชอบอะไร แล้วลองคุยกับท่านอีกที ท่าน 2 คนไม่ได้อยู่กับเราทั้งชีวิตก็จริง แต่ท่าน 2 คน ต้องการให้หนูดำเนินชีวิตต่อไปในอนาคตได้เองในวันที่ท่านไม่อยู่ เปิดใจคุยกันนะคะ อย่าแบกอะไรไว้คนเดียว

0
ให้กำลังใจว่าที่นศพ 12 ต.ค. 60 เวลา 16:40 น. 6

เราเคยเป็นช่วงแอดนะอาการแบบนี้เลย คือมันเหมือนเครียดเกินไปอ่ะเลยอยากหนีปัญหา อยากหนีไปอยู่คนเดียว ไม่ต้องทำอะไรเลยเพราะลึกๆก็กลัว กลัวไม่ติด กลัวคนหัวเราะเยาะ กลัวพ่อแม่อาย กลัวต้องเรียนคณะที่ไม่ชอบ ไม่อยากเป็นเด็กซิ่ว บลาๆๆ เพราะคณะนี้รู้ๆกันอยู่ว่าคะแนนสูงมาก คนเก่งแย่งกันเยอะ มันเป็นแค่ช่วงนี้แหละ เดี๋ยวถ้าสอบเสร็จเรียบร้อยก็หาย จะเครียดอีกทีตอนประกาศผลแหละ สู้ๆนะจ๊ะ

0
Tiw-Se 12 ต.ค. 60 เวลา 21:28 น. 7

พี่ลองไปพักก่อนดีมั้ยคะ อย่าเพิ่งคิดแบบนั้นเลยนะ ลองพักสมองไปทำกิจกรรมที่เราชอบให้คลายเครียดก่อนแล้วค่อยทบทวนอีกทีว่าจริงๆแล้วเราต้องการอะไรในชีวิต ยังไงมันก็ชีวิตเราอะเนอะอย่าให้คนอื่นมีผลต่อเรามากเกินไปนะพี่ ในอนาคตเราก็อยู่กับสิ่งที่เราเลือก แต่คนรอบข้างไม่ได้อยู่กับเราตลอดไปเหมือนสิ่งที่เขาเลือกให้เรานะ

เป็นกำลังใจให้พี่อีกแรงค่ะ

0
Ja na 13 ต.ค. 60 เวลา 11:23 น. 9

ถ้าตอนนี้ทุกข์มาก ยังไม่ต้องรีบคิดก็ได้ว่าเข้าคณะอะไร ลองชวนเพื่อนไปเที่ยว ชวนกันไปทำอะไรสนุกๆไปก่อน

(ถ้าจขกทไม่ได้รับแรงกดดันจากเพื่อนๆ ก็ให้เพื่อนช่วยเหลือเราก็ได้นะ)

เรื่องแรงกดดันของครอบครัว ยังไงเรายังสามารถคุย บอกเขาได้ว่าตอนนี้รู้สึกเหมือนโดนบีบบังคับ กลายเป็นว่ารู้สึกไม่อยากเป็นหมอแล้ว จะเข้าหมอไม่จำเป็นจะต้องอ่านหนังสือจนดึกดื่นขนาดนั้นเลย (จริงๆนะ) เราหวังว่าสักวันพ่อแม่ญาติของจขกทจะเข้าใจ ช่วงเวลาวัยรุ่นเนี่ยเราควรมีเวลาว่าง มีความสุขให้มากๆ ถ้าจิตใจเราไม่พร้อม มันทำให้เราทำอะไรไม่ได้จริงๆนั่นแหละ


เป็นกำลังใจให้นะ เราม.6เหมือนกัน ; )


Doing what you like is freedom. Liking what you do is happiness



0
Pinkrabbit15 13 ต.ค. 60 เวลา 11:44 น. 10

เข้าใจว่า จขกท. มีภาวะเครียดมากถึงมากที่สุด เพราะก็เคยมีเรื่องเครียดมากไม่รู้จะทำยังไง อยากหนีปัญหาไปเหมือนกัน บางทีการได้เปลี่ยนบรรยากาศ ไปเจอสิ่งแวดล้อมใหม่ และการได้พักผ่อนให้เต็มทีจากที่เราล้ามานาน มันอาจทำให้เราดีขึ้นก็ได้นะ เป็นกำลังใจให้นะคะ

0
fasterac 13 ต.ค. 60 เวลา 14:37 น. 11

กลัวจะเป็นโรคซึมเศร้าอะ ถ้าไปทำกิจกรรมอื่นๆแล้วไม่หาย แนะนำให้ไปหาหมอก่อน

แวะมาบอกว่าที่บางมด มีคณะทำสื่อเกี่ยวกับแพทย์ ชื่อคณะมีเดียการแพทย์หรืออะไรซักอย่าง คณะไม่ค่อยดังมาก แต่อย่างน้อยมันก็เจอกันครึ่งทาง ได้ทำสื่อ และได้เรียนอนาโตมี่ลึกๆด้วย

0
Fadette 13 ต.ค. 60 เวลา 16:34 น. 12

เฮ้ยยย คือที่ จขกท เล่ามาคล้ายเรามากเลยอ่ะ พ่อแม่ ญาติๆชอบบอกว่าไม่ได้บังคับ เเต่ถ้าเป็นหมอก็จะดีอย่างนู่นอย่างนี้ ตอนแรกเราก็อยากเป็นหมอเหมือนกัน แต่พอโตขึ้นรู้สึกชอบทาง IT มากกว่า เราบอกแม่เรื่องนี้หลายครั้งเเล้ว แต่แม่ก็บอกว่าเข้าใจๆ แต่หมอมันมั่นคงกว่า บลาๆ คือโครตเบื่อเลยเวลาแม่เอาเเต่พูดแบบนี้ ผิดหวังในตัวแม่มากๆ เราก็ไม่รู้จะสรรหาคำไหนมาพูดให้เขาเข้าใจเราได้เเล้ว


แต่มีวันนึงค่ะ เป็นจุดเปลี่ยนเลย วันนั้นประกาศผลโอลิมปิก แล้วคือเราไม่ติดอ่ะ คือเราก็หวังนะ แม่ก็หวัง รอบข้างก็หวัง เเต่พอรู้ว่าไม่ติดคือโครตเสียใจมากๆๆๆ เลยไปร้องไห้คนเดียวในห้อง แม่เลยเดินมาปลอบ ตอนนั้นร้องไห้เเล้วก็พูดกับแม่อยู่ประโยคเดียวซ้ำๆว่า "เราเสียใจที่ทำให้ทุกคนผิดหวัง" วันต่อมา แม่เราก็มาบอกเราประมาณว่า ต่อไปนี้แม่จะไม่บังคับลูกให้เป็นหมออีกแล้วนะ แม่ขอโทษที่พูดอะไรแบบนั้นตลอดเวลา แม่ยอมรับว่า ถ้าลูกเป็นหมอ แม่คงได้หน้าบาน ให้คนชม ซึ่งก็คือแม่เอาความเป้าหมายเเม่ยัดใส่เป้าหมายลูก และปิดปมด้อยของตัวเอง แต่วันนั้นที่เห็นลูกเสียใจ หัวอกคนเป็นแม่ก็เสียใจตาม และก็ไม่อยากให้ลูกเสียใจกับอะไรที่ไม่ใช่ตัวเองแบบนี้ วันนั้นแม่เลยกระจ่างเเล้วว่า ไม่ว่าลูกจะทำอาชีพ หรือเข้าคณะอะไร ลูกก็ยังเป็นคนเก่งของแม่ แม่อยากให้ลูกเดินทางตามที่ตัวเองรัก ช่างคนอื่น ช่างคำชม ช่างทุกอย่าง แม่ไม่สนเเล้ว สุดท้ายแม่ก็รู้เเล้วว่า ความสุขของลูกทำให้แม่มีความสุขที่สุด ความทุกข์ของลูกทำให้แม่ทุกข์ตามมากที่สุด อยากเป็นอะไรแม่จะสนับสนุนเต็มที่ และแม่ก็ไม่ลังเลที่จะปฏิเสธอาชีพหมอเลย ประมาณนี้ค่ะ


https://www0.dek-d.com/assets/article/images/sticker/yy-13.pngพอเราฟังปุ๊ป เราร้องไห้เลยค่ะ ไม่คิดว่าจะได้ยินอะไรเเบบนี้จากแม่ เราโครตภูมิใจในตัวแม่เลยอ่ะตอนนั้น คือความที่วันนั้นเขารับรู้ถึงความรู้สึกของเราที่เสียใจกับการแบกรับความหวังไว้มากมาย เราบอกแม่ว่าคำพูดเมื่อกี้ทำให้เรามีความสุขมากๆ ต่อไปนี้เราจะเลือกทางของเรา เพื่อตัวเอง ไม่ใช่เพื่อใครอีกต่อไปแล้ว

https://www0.dek-d.com/assets/article/images/sticker/jj-big-01.png

ปล. สู้ๆนะคะ มีทางเป็นของตัวเองนี้แหละเท่ที่สุดเเล้ว!

0
บิบิ 13 ต.ค. 60 เวลา 17:05 น. 13

เมื่อก่อนโดนบังคับให้เรียนบัญชีค่ะ แต่พอบอกว่าไม่อยากเรียนบช. อยากเรียนคณะอื่น ก็โดนตอบกลับว่า "จบแล้วจะเป็นอะไร เป็นได้แค่ครู"

สุดท้ายเลยเลือกเรียนครุศาสตร์ค่ะ

0
Minmiki 13 ต.ค. 60 เวลา 18:18 น. 15

ขอบ่นเรื่อยๆหน่อยค่ะ ไร้สาระอยู่


เมื่อก่อนเราก็เคยอยากเป็นหมอนะ เคยอยากไปสอบ ฬ แล้วโดนกดดันแบบนี้ ทั้งจากเพื่อนจากพ่อแม่จากครู ว่านี่เป็นไม่ได้หรอกๆๆ อย่าฝันเลย บลาๆๆ คือตอนนั้นท้อมากอะ เหมือนจขกท. แล้วก็เลิกฝันหมอไปเลย5555 หาอะไรที่เราชอบจริงๆ แล้วก็มีคนถามเราก็บอกแค่ว่ายังไม่รู้เลยว่าอยากเป็นอะไร (จริงๆรู้แล้ว) เราจะได้ไม่ต้องมารับความกดดันตรงนี้ด้วย ถึงจะโดนมองว่าไม่ตั้งเป้าหมาย แต่ก็ยังดีกว่าโดนทำลายเป้าหมาย บางทีก็อยากบอกพวกเขาไปว่า 'บางทีการทำลายความฝันหรือโอกาสอื่นๆ สำหรับคุณอาจจะเป็นครั้งแรก แต่สำหรับคนที่เจอมาอาจจะเป็นร้อยๆครั้ง ครั้งนั้นที่คุณทำลายมันไปอาจจะเป็นครั้งสุดท้ายที่เขามีหวังก็ได้' ขอบคุณที่อ่านจนจบนะ ไร้สาระมากอะ5555 ส่วนจขกท. สู้ๆนะคะ เป็นกำลังใจให้ ถ้าเครียดก็ลองเปลี่ยนความคิดกลับมาคิดบวกเน้อ แล้วก็ดูแลสุขภาพด้วยนะคะ

0
Extern 13 ต.ค. 60 เวลา 21:33 น. 16

ถ้าน้องเลือกเข้ามาหมอ น้องก็จะมีความรู้สึกแบบนี้เรื่อยๆเลยครับ จากใจคนเรียนคณะนี้

0
Jipatkim 14 ต.ค. 60 เวลา 10:50 น. 17

สู้ๆๆน้าาาเจ้าของกระทู้ ตอนพี่สอบเข้ามหาลัยพี่ก็เคยเจอแบบน้องเหมือนกัน ถึงแม้อาจจะไม่หนักเท่า แต่พี่ก็เข้าใจความรู้สึกของน้องน้าา ทำทุกอย่างให้เต็มที่ที่สุด ไม่ต้องเครียดกับมันมาก แค่ขอให้ทำดีที่สุดก็พอ พี่ก็ขอเป็นกำลังใจให้น้าา สู้ๆๆๆ

0
น.แนะ ใอ่อ้วนดำ 14 ต.ค. 60 เวลา 15:57 น. 18

สู้ๆนะ เราเข้าใจ อยู่กับตัวเอง ถามใจตัวเอง ถ้าต้องการเป็นหมอจริงๆก็พยายามต่อไป เครียดก็หาอะไรผ่อนคลาย อย่าโหมมาก เมื่อสอบติดจะรู้สึกดีขึ้นเอง .... มั้ง ไฟติ้ง

0
keaw_igot7 7 พ.ค. 61 เวลา 12:23 น. 19

น้องลองใจเย็นก่อนเนาะ ช่วงนี่เป็นช่วงที่ได้รับแรงกดดันค่อนข้ามาก พี่เข้าใจ ตัวะี่เองก็เคยผ่านมาเหมือนกัน ตอนพี่ตอนนั้นทางบ้านกดดันค่อนข้างมากทางพ่อพี่อยากให้พี่เรียนนิติ(พี่ก็ชอบนะ แต่ไม่อยากใช้ชีวิตกะสายนี้) ทางแม่พี่อยากให้เรียนบริหาร แต่พี่ชอบคอมมาก แต่ทางผู้ใหญ่ไม่สนับสนุนเลย เขาจะพูดกันแบบคนจบเยอะ ไม่มีงานทำ ว่ากันไปนั่น แต่สุดท้ายมันก็อยู่ที่ตัวเราจริงมั้ย ถ้าเราไม่เกี่ยงงานซะอย่างยังไงก็ไม่ตกงาน เลยฝืนใจพ่อแม่เข้าวิศวคอมซะเลย ยอมรับว่าแรกๆโดนด่าเละ แต่พอเวลาผ่านไป เราก็พิสูจให้เขาเห็นว่าเราทำได้ ไม่ตกงาน น้องก็ด้วย พี่เข้าใจว่าตอนนี้น้องอยู่ภายใต้แรงกดดันมาก อย่าเพิ่งท้ออย่างน้อยๆคิดในแง่ดีว่าที่พ่อแม่ทำแบบนั้นก็เพราะรักเพราะห่วงเรา สู้ๆจ้า มีหลายคนเป็นกำลังใจให้น้องนะ ^_^

0