Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

กระจกของโลกซาลาร์อูยูนิ โบลิเวียที่มีมากกว่าเกลือเด็กไทยไปทำอะไรในลาตินอเมริกา????

ตั้งกระทู้ใหม่



สวัสดีค่าา เราชื่อ นส.ชยานันท์ ทิพยอำนาจ อยู่โรงเรียนนวมินทราชินูทิศ หอวังนนทบุรี ม.5 สายวิทย์คณิต เป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนไปประเทศโบลิเวีย AFS56 พึ่งกลับมาถึงไทยอาทิตย์นึงงง เห็นกระทู้ปานามาเลยอยากจะขอจัดโบลิเวียด้วยย ประเทศเพื่อนบ้านกันนน (อเมริกาใต้)

พูดถึงโบลิเวีย เอาตรงๆแทบไม่มีคนรู้จักประเทศนี้ ตอนแรกเราก็ไม่รู้จักประเทศนี้เหมือนกันที่เราเลือกประเทศนี้เพราะเห็นลาปาซ ทุ่งลามะและซาลาร์อูยูนิ เราเลยอยากไปฮ่าๆ อยู่ในอเมริกาใต้หรือลาตินอเมริกา ในสายตาทั่วไปแถบนี้ดูน่ากลัวมากๆแต่จริงๆแล้วมันไม่ได้เป็นแบบนั้นจ้า จริงๆมันก็มีอะไรที่ให้เราค้นหาเยอะแยะ เป็นทวีปที่น่าสนใจมากเลยทีเดียว บอกได้เลยว่าสายปาร์ตี้ต้องมา ที่นีมีปาร์ตี้แทบทุกอาทิตย์เป็นปกติของลาตินอเมริกาเลยยย ที่นี่เกือบทุกประเทศของเมกาใต้จะใช้ภาษาสเปนหมด โบก็สเปนๆ แต่ยกเว้นประเทศบราซิลเน้อที่ใช้โปรตุเกส 

8 กุมภาพันธ์ 2017 ออกจากไทยย รุ่นพี่AFS55 Bolivia มาส่งๆ และเพื่อนร่วมทางนั้นหญิงล้วนค่าาา ชื่อทีมเราคือ
#ข้อยมาสามคน ไปแบบนี้อบอุ่นดี ฮ่าาาาา 


นั่งเครื่องจากไทยไปโบไม่มีเที่ยวบินตรง ต่อเครื่องสามต่อไปเลยจ้าาาา นั่งจะครบทุกทวีปแล้วฮ่าๆ เอเชียไปยุโรปต่อจากนั้นค่อยไปเปรู(ประเทศในเมกาใต้)แล้วอีกต่อไปโบลิเวีย แค่27ชั่วโมงที่อยู่ในเครื่องเองตูดชาวนไปค่ะ
รูปนี้เราถ่ายตอนถึงลาปาซวันแรก เป็นเมืองที่สูงมากกกก เกือบๆ 4000 เมตร แรกๆก็จะปวดหัวหน่อยๆ ไม่หน่อยแล้วแหละฮ่าๆ ถึงตอนเกือบตีหนึ่งที่นู้น คือเวลาที่โบกับที่ไทยแตกต่างกัน 11 ชั่วโมง 


และก็ถึงเวลาบินไปเมืองของตัวเอง เมืองเราชื่อ โคชาบัมบาาาา ถ้าเปรียบเทียบเมืองนี้กับประเทศไทยก็อารณ์ประมาณเชียงใหม่ภูเขาล้อมรอบ เป็นเมืองที่ภูเขาแอนดีสตั้งอยู่เเนวตรงเรียกว่าไงดี แบบภูเขามันแนวตรงไปยาวๆเลยย เป็นภูเขาที่สวยมากก หน้าต่างห้องเราตื่นมาก็เห็นเลย ดี๊ดี แต่เป็นภูเขาที่นับต้นไม้ได้เลยฮ่าๆ ภูมิประเทศที่นี่ค่อนข้างแห้งแล้งพอควร แต่ก็ยังมีต้นไม้อยู่บ้างแต่ก็ไม่เยอะเท่าไหร่ฮ่าๆ อากาศเมืองเราไม่ร้อนมากแต่ก็ไม่หนาวมาก ก็ถือว่าโอเคเลยย แบบปีนึงนับได้เลยว่าเหงื่อออกกี่ครั้ง ฮ่าๆ และค่าเงินของโบจะแพงกว่าไทยริดนึง คือ ห้าบาทไทย เท่ากับ หนึ่งโบลิเวีย ของใช้อาหารงี้ก็ไม่แพงมาก ประมาณไทยได้เลย สิ่งทีแนะนำน้องรุ่นต่อไปที่จะไป เอาโฟมล้างหน้าไปนะลูกก
ที่โบลองหาแล้วในซุปเปอร์มาร์เก็ต หรือว่าห้าง ไม่มีโฟมล้างหน้า คนที่นู้นสิวไม่ค่อยขึ้นกันด้วย ตอนไปแรกๆก็งง ว่า
อ้าวไม่มีจริงๆเหรอ สรุปไม่มีนะคะ ฮ่าๆๆๆ  

โฮสมัมมาเล่าให้ฟังทีหลังประมาณหกเดือนผ่านไปแล้วว่า จริงๆตอนที่เธอมาถึงลาปาซ ตอนนั้นเธอยังไม่มีโฮสเลย แล้วฉันไม่ได้อยู่ที่เมืองด้วย แต่เจ้าหน้าที่เอเอฟเอสโบลิเวีย ขอร้องแหละมั้ง5555 ว่า งั้นรับแค่เป็นโฮสเวลคัมหนึ่งสัปดาห์ก็ได้แล้วเดี๋ยวทางเราจะหาโฮสใหม่ให้เด็ก มัมได้ยินงั้น มัมเลยบอกเอเอฟเอสว่า เขาเป็นแค่เด็กคนนึง ฉันจะรับเป็นโฮสของเขาทั้งปี ทั้งๆที่โฮสมัมยังไม่เคยเห็นรูป ประวัติอะไรเลย ตอนนั้นเรานี่น้ำตาจะไหลอะ นึกว่ามีโฮสตั้งแต่เเรกแล้ว และแน่นอนว่าจะไม่เปลี่ยนโฮสฮ่าๆ น่ารักขนาดนี้จะย้ายได้ยังไงง โฮสเรามีกันหกคน โฮสบราสอง โฮสซิสสอง โฮสมัมและโฮสแดด โฮสบรากับซิสเราสามคนไปเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนด้วยกับเอเอฟเอสนี่แหละคนแรกไปอเมริกา คนที่สองไปเยอรมัน คนที่สามไปอิตาลีพึ่งกลับมาปีที่เราแลกเปลี่ยนเลย คนสุดท้ายไม่อยากไปจ้าา ก่อนหน้าเรามาอยู่โฮสเราก็เคยรับนักเรียนแลกเปลี่ยนคนอื่นไว้
ในรูปข้างล่างเป็นวันแรกที่ไปถึงโคชาละให้ของฝากกับโฮสเลย ปล.โฮสบรากับซิสสามคนตอนนั้นไม่อยู่ๆ


เมืองเราเป็นเมืองที่กิน เยอะมากกกกกกกกกกกกก มากที่สุดในโบลิเวีย โฮสมัมตักข้าวให้ทีนี่แบบให้คนกินจริงๆหรอคะ ฮือออ โฮสเลี้ยงดีมาก ดีเกินไปน้ำหนักนี่ขึ้นมาแปดโล แปดโลถูกแล้ว ค่อยกลับไปลดที่ไทยละกันเนอะะ อาหารของโคชาที่ขึ้นชื่อและที่เราชอบมากก ก็คือ Pique อารมณ์ประมาณเนื้อหั่นเป็นก้อนงี้กับเครื่องปรุงของเขา Charique ก็เนื้อลาะ ถูกแล้ววว อ่านถูกแล้วค่าา เนื้อลามะ อร่อยยย มันเป็นแบบฝอยๆอะ กินกับข้าวโพด มันฝรั่งงี้ ข้าวโพดที่โบเม็ดใหญ่มากก ผลไม้ก็ใหญ่มากก ฟักทองงี้ใหญ่กว่าล้อรถ แต่เราไม่ได้ถ่ายไว้เสียดายมากก ไม่เคยเห็นฟักทอที่ใหญ่ขนาดนั้น ฮ่าๆ และความน่ารักของโบลิเวียก็คือ เขาจะให้ความสำคัญกับมื้อกลางวันมากก ถึงจะต้องทำงานหรือว่าไปเรียนยังไงก็ต้องกลับมากินข้าวที่บ้านเป็นวัฒนธรรมของที่นี่ แล้วแบบความโคชานี้ มัมตักให้ทีจะร้องไห้ ดีใจหรือเสียใจดีฮ่าๆๆ
อร่อยยย แต่มันเยอะเกินไปปป ถ้ารุ่นน้องที่กำลังจะไปแล้วได้โคชา น้องบอกโฮสได้นะว่าขอไม่เอาเยอะ ไม่งั้นจะกลิ้งกลับมาไทยแบบพี่คนนี้ ฮืออ ที่สำคัญเวลากินเสร็จแล้วต้องพูดว่า โปรเวโช่ กราเซียส ประมาณขอบคุฯสำหรับอาหารงี้ ธรรมเนียมที่นี่แหละ บางทีกลับมาไทยพอกินเสร็จกำลังจะพูดแต่เอ้อ อยู่ที่ไทยแล้วนีหว่าไม่ต้องพูดแล้ว ฮ่าๆ ถึงตอนนี้ยังงงๆว่าตื่นมานี่อยู่ที่ไทยหรืออยู่ที่โบ ขอเวลาปรับตัวอีกนานๆฮ่าๆๆ และเราก็ได้ชื่อใหม่โฮสเรา เวลาเรียกเราจะเรียกว่า ปินปอน มันเป็นเพลงเด็กของภาษาสเปน ชื่อปินปอนเลยยย คือเราชื่อ พิม ไงฮ่าๆๆ ภาษาสเปนไม่มี พ พาน มีแต่ออกเสียง ป ปา ก็เข้าทางเพลงนี้เลยจ้าาา ถ้าโฮสสบายใจที่เรียกว่าปินปอนหนูก็สบายใจจจจ

การทักทาย
จะคล้ายๆยุโรปเลยย ก็คือชนแก้ม กับกอด ทั้งผู้ชายผู้หญิง เด็กเพื่อนผู้ใหญ่ทำเหมือนหมดด เพราะเป็นวัฒนธรรมของที่นี่ไม่ต้องเขินๆ อยู่ๆไปเดี๋ยวก็ชิน แรกๆก็จะเขินๆงงๆหน่อย ฮ่าๆๆๆ คนที่นี่ไม่ว่าเราจะสวัสดีตอนเช้าไปแล้วกับโฮสงี้ พอเจออีกทีตอนบ่ายก็ต้องพูด สวัสดีตอนบ่าย พอเย็นก็พูด เจอก่อนนอนก็พูดก็เป็นธรรมเนียมของที่นี่ฮ่าๆ มาแรกๆนี่ โอหละ (สวัสดี) ทั้งวันคนทักทั้งวันเลยยย 
ภาษา
ใช้ภาษาสเปนจ้าาา ไม่มีภาษาชื่อภาษาโบลิเวีย ฮ่าๆๆ แต่เขามีภาษาของที่นี่อยู่นะชื่อว่า ภาษาเคชัวร์ แต่แค่ชนพื้นเมืองที่ใช้ ภาษาหลักๆก็สเปน

แรกๆเรากดดันเรื่องภาษามาก โฮสเราตั้งไว้ว่าสองเดือนเราต้องพูดสเปนให้ได้ แต่พอผ่านไปสองเดือนเราก็ยังพูดไม่ได้ พอโฮสเราเห็นภาษาไทยของเราเท่านั้นแหละเขาก็เข้าใจ ที่โฮสมัมตั้งไว้สองเดือนเพราะลูกสาวเขาไปแลกเปลี่ยนที่อิตาลีแล้วพูดอิตาลีได้ภายในสองเดือน เพราะว่าภาษาสเปนกับอิตาลีมันคล้ายกันมากๆ ที่เห็นแบบทำไมเพื่อนยุโรปถึงไว้ภาษาไวกว่าเรา ก็เพราะว่าภาษาเขามันคล้ายๆกันไง ของเราแค่ตัวอักษรก็ไม่เหมือนแล้ววว เพราะงั้นไม่ต้องเครียดเรื่องภาษามาก อยู่ๆไเดี๋ยวก็ได้ๆ ฮ่าๆ

ตอนที่ถ่ายไปโอรูโร่ โฮสพาไปดูคานิวัลแล้วพอดีมีบ้านอยู่นู้นเลยได้เที่ยวเมืองไปด้วยเลย ในภาพขวาสุดเสื้อขาวโฮสมัมเรา และโฮสซิสล่างสุดที่ยกมืออยู่ นอกนั้นก็เป็นเพื่อนของโฮสงี้ คนอยู่ตรงกลางเป็นคนสวิสเซอร์แลนด์เป็นเพื่อนของโฮสบราเรา ส่วนโฮสแดดก็เป็นคนถ่ายรูปให้ ฮ่าๆ

คานิวัลที่นี่ ถือว่าเป็นงานยิ่งใหญ่อลังการมากเว่อ แปลกตาดีอย่างเช่นตัวนี้ชื่อว่า Oso ก็คือ หมี นี่แหละหมี ฮ่าๆ เห็นแบบนี้อากาศโคตรหนาวแบบน้อยกว่าสิบองศาทั้งวันอะ โอรูโร่เป็นเมืองที่หนาวมากก ถ้าเทียบกับโคชาที่อบอุ่นแต่ก็ไม่ถึงร้อน พิมยังไหวค่ะ แต่ตาเราไม่ไหวแล้วว หลับที่แสตนจนโฮสมัมต้องปลุกหลายรอบ สุดท้ายเขายอมแพ้พากันกลับบ้านเพราะอินี่ง่วง ง่วงมากนี่คืออาการเจ็ทแล็กที่ยังไม่หาย ง่วงทั้งวันเลยจ้าาาา โดนบ่นจนชินเพราะพอเขารู้เวลาว่าไทยกับที่นี่ต่างกันมากแค่ไหน เขาก็เข้าใจเราละ ฮ่าๆ

แบบสื่งมี่ประทับใจมากๆเลย เพื่อนของโฮสบรา ปล.อีกคนนึงไม่ใช่คนข้างบน เป็นดีเจละนางบอกว่า เนี่ยฉันเคยไปกรุงเทพด้วยนะ ไปเล่นท่ีๆนึง เขาก็บอกชื่อแหละแต่เราไม่รู้จัก แต่โคตรรร ปริ่มสุดๆ เพราะไม่คิดว่าจะมีคนรู้จักไทย ส่วนใหญ่พอเราบอกมาจากประเทศไทย จะอ๋อทันที อ๋ออออ ไต้หวันใช่มั้ยฉันรู้จัก5555555 บางทีเดินๆอยู่คนทักชิน่าาา (คนจีน) โคเรียย (เกาหลี) คนนิชิวะะ (ญี่ปุ่น) มาทุกประเทศของเอเชียแต่ยกเว้นประเทศไทย เรื่องปกติเด้ออออ  


มาต่อที่โรงเรียน โรงเรียนที่เราเรียนจะเน้นไปทางดนตรีมากกว่าชื่อว่า Instituto laredo ส่วนใหญ่พอมีนักเรียนแลกเปลีย่น มาก็จะมาอยู่โรงเรียนนี้กันหมด เราได้เรียนห้องเดียวกันกับเด็กเยอรมัน นางน่ารักก ชื่อเบริทคือถ้าไม่มีนางตอนแรก เราตายแน่ๆ มีอะไรนางช่วยตลอด แรกๆก็จะแปลสเปนมาเป็นอิ้งให้ ไปดูหนังด้วยกัน สอนภาษาไทยและนางก็สอนเยอให้ ซื้อขนมให้กินงี้ เป็นที่ปรึกษาในหลายๆเรื่องมากก เป็นเพื่อนสนิทมากที่สุดแต่นางต้องกลับประเทศแล้วววว ฮืออ เพราะนางมาตั้งแต่กลางปีที่แล้ว ถึงเธอจะไปแล้วแต่เธอจะอยู่ในความทรงจำของเราตลอดไปป ขอบคุณสำหรับทุกอย่างเลยย

ตัดมาที่เพื่อนๆที่นี่ เฟลนลี่มากก วันแรกที่ไปโรงเรียนตื่นเต้นมากก แบบจะมีเพื่อนมั้ย จะคุยรู้เรื่องรึป่าว มันกลัวไปทุกอย่างเลยอะแง วันแรกนั้นโฮสมัมเดินมาส่งถึงห้อง นั่นแหละแค่วันแรก ฮ่าๆ เจอเพื่อนผู้หญิงคนนึงนั่งในห้อง และนางคือเพืื่อนของเราคนแรกกกกก ปริ่มม พี่มีเพื่อนเเล้วฮ่าๆๆ ปัญหาที่หนักใจตอนนันก็คือ ชื่อเพื่อน ชื่อแบบฉันไม่สามารถจดจำได้ทั้งหมดภายในวันเดียว ฮ่าๆ แล้วเพื่อนคนแรกของเรานั้นนางน่ารักก เขียนชื่อเพื่อนทั้งห้องให้เราในกระดาษทุกคน ยูนิฟอร์มของโรงเรียนเรามันเฟี้ยวมาก มีแค่เสื้อสองตัว ก็คือเสื้อที่เราใส่คนใส่แว่นน แค่นั้นจริงๆ ฮ่าาาาา อีกตัวเป็นเสื้อพละ ส่วนกางเกงก็เเล้วแต่เราเลย รองเท้าเช่นกัน 

การเรียนที่นี่ของเรา ไม่ค่อยหนักมากออกไปทางชิวมากกว่าด้วยความเป็นโรงเรียนดนตรีด้วยแหละ แบบเรียนวิชาปกติครึ่งวัน แล้วตอนบ่ายก็จะเป็นวิชาพวกดนตรีตามที่เราอยากลง เราลงเรียน coro (ประสานเสียง)  charango (ดนตรีพื้นเมืองของโบลิเวียคล้ายๆอูคูเลเล่แต่มีสิบสาย) และ teatro (การแสดง) ก็สนุกดีประสบการณ์แปลกใหม่ ฮ่าๆ จริงๆมีออเคสตราด้วยแต่เราเล่นพวกนั้นไม่เป็นไงง อดเลยยย 

รูปแรกข้างล่างเป็นวันกีฬาสีของโรงเรียน เรียบง่ายมากกก แบบก่อนหน้านั้นไม่มีซ้อมอะไรเลย ตอนแรกจะไม่มาแล้วเพราะไม่รู้ว่ามีกีฬาสี ฮ่าๆ ประมาณแบบเข้าแถวรวมกันเป็นห้องงี้ ร้องเพลงโรงเรียน แล้วเปิดงานจากนั้นก็เดินออกทีละห้องจบพิธี และเริ่มด้วยแข่งฟุตบอล บอลเล่ วิ่ง และจบงานมีเท่านี้จริงๆ ลาเรโด้สไตล์ ฮ่าๆ

รูปที่สอง (ต่อจากข้างบน) เป็นงานวันแม่ วันแม่ของโบประมาณเดือนพฤษภาคมๆ เรามาร้องประสานเสียงกับเพื่อนๆที่น่ารักก แต่ในรูปเป็นเพื่อนของห้องเราาา เราชอบร้องประสานเสียงนะมันแบบสนุกมากก แต่เพื่อนเราที่เรียนอยู่มันบอกน่าเบื่อ ก็น่าจะเเล้วแต่ความชอบของแต่ละคนแล้วแหละ ฮ่าๆ



อันนี้เป็นวิดีโอร้องประสานเสียงลองไปฟังกันดูวว ลองหาเราๆ เจอกันมั้ยเอ่ยยย ที่ร้องเป็นภาษาสเปนเน้อออ
ชอบวันนี้สุดร้องมันส์มาก แบบดำน้ำไปแถไปงี้ แต่ก็จบลงด้วยดีนะจาาา

ทริปกับเอเอฟเอสheart



Toro toro, Cochabamba 
อันนี้เป็นทริปกับเอเอฟเอสทริปแรก ไปกับเพื่อนๆนักเรียนแลกเปลี่่ยน เพื่อนสนิทเราล่างสุดที่ถ่ายรูปคู่กันน ตอนเดินงี้ก็อยู่กลุ่มเดียวกัน จากเอเชียมีแค่ไทยและคนญี่ปุ่นฮ่าๆ นอกนั้นยุโรปหมดเลยย เยอรมัน เบลเยี่ยม อิตาลี ใครว่ายุโรปหยิ่งเย็นชา ไม่เลยจ้าาา โคตรถึงไหนถึงกัน และถึกมากๆ เดินแบบดูไม่เหนื่อยอะไรทังนั้น ฮ่าๆ ทริปนี้คือสุดๆแล้ว สุดจริง ไปครั้งเดียวพอจบ ฮ่าๆ มันไม่ได้เเย่ขนาดนั้น แต่มันเหนื่อยมากกกกก ไม่เคยเหนื่อยขนาดนี้มาก่อน แบบวันแรกเดินทั้งวัน วิวก็สวยดีนะแบบแดดแรงมากเว่ออ แต่ขัดกับอากาศที่หนาวเย็นเป็นโบลิเวียสไตล์ เพราะโบลิเวียเป็นที่ราบสูงด้วยแหละอากาศเป็นอย่างนี้ก็ปกติ กลับมานี่ดำขึ้นเลยฮ่าๆ คือเดินทั้งวันจริงๆ พักแปบนึงแล้วเดินต่อมันไกลมากกกกก จบวันแรกดูเท้าตัวเองนี่พองเลยจ้าาา วันแรกถือว่าเบๆไปเลยพอเจอวันที่สอง วันแรกก็มีแค่เดิน ปีน วันที่สองเท่านั้นแหละเข้าถ้ำจ้าาาาา ไม่ใช่เดินธรรมดาด้วยนาจาา มีครบทุกอย่างอะ แบบคลาน ปีน ไต่ สไลด์ นอน สายย่อก็มาคือมันสนุกมากกก แต่ก็อันตรายมาก ฮ่าๆ ทางมันลื่นมากเลยและบางทีก็ปีนยากเพราะมันสูงลื่นและมืด แต่พิมทำได้ค่ะ จริงๆ หมดแรงตั้งแต่เมื่อวานแล้ว แต่ตอนนี้พลังมันมาจากไหนก็ไม่รู้ มันทั้งสนุกแล้วก็ทั้งเหนื่อย แต่ก็คุ้มจริง ในชีวิตไม่น่าจะแอดเวนเจอร์ได้เท่านี้อีกแล้วฮ่าาาา กลับมาบ้านนี่สลบไปเลยแต่ถึงยังไงพรุ่งนี้ก็ต้องไปโรงเรียน ตอนไปโรงเรียนนี่ไร้วิญญาณมาก ฮ่าๆๆ ไม่มีแรงแล้ววว 



Copacabana, La Paz
ทริปกับเอเอฟเอสและผองเพื่อนเช่นกัน ตอนนี้ก็มีนักเรียนแลกเปลี่ยนจากฝรั่งเศสมาเพิ่มนางเป็นเพื่อนเราา อยู่คลาสเดียวกัน รวมๆแล้วก็น่ารัก รูปที่นางใส่แว่น ถามนางว่ามีเพื่อนฝรั่งเศสมาโบเท่าไหร่ นางบอกแค่สองคน ไอกับผู้หญิงคนนั้น ยิ่งกว่าไทยอีก ฮ่าๆๆๆ แต่ละคนน่ารักกก เป็นทริปที่แฮปปี้อีกทริปนึงเลยยย โคปาคาบาน่าอารมณ์แบบทะเลสาบ
ติติกาก้าก็อันเดียวกันๆ จะมีเกาะสองเกาะ มีเกาะพระอาทิตย์กับเกาะดวงจันทร์ ของฝากที่นี่ก็อารมณ์แบบหินแกะสัญลักษณืของที่นี่งี้ แล้วคือตอนกลับขึ้นฝั่ง ตอนแรกนึกว่าหลงทางแล้วเกือบจะหลงทางแล้วอีกนิดนึง ฮ่าๆๆ คือตอนที่เจ้าหน้าที่เอเอฟเอสพูดไม่ได้ฟังเลยไง เกือบตกรถแล้วจ้าาาาา ตอนนั้นคือไม่ขำแล้วอะ มันหลงจริงๆ ไม่เห็นเพื่อนแลกเปลี่ยนเลย บัสก็ไม่มี จะร้องก็ร้องไม่ออก คิดก่อนว่าจะกลับไง ถ้าหลงจริงๆจะเอาไงดีวะเนี่ย นึกได้ปุบ โทรหาทอมมมม ทอมช่วยเราไว้ ฮือออ นี่พูดทั้งอิ้งทั้งสเปนผสมกันจนทอมมันงงเลยขนาดตัวเองพูดยังงงกับตัวเอง ถ้าทอมเข้าใจได้นี่เก่งมาก ฮ่าๆๆ  พอเจอนางอีกทีขำเลย เธอเป็นอะไรของเธอตอนนั้น ฮ่าๆๆๆๆ เตือนอีกครั้งเวลาเจ้าหน้าที่พูดอะไรตั้งใจฟังนะลูกกก เดี๋ยวหลงทางจะแย่เอา ฮ่าๆ

และทริปที่สุดๆ อันนี้สุดจริง ที่นี่คือเหตุผลเรามาโบลิเวียเลยนะ ฮ่าาา

Uyuni, Potosi
เราเชื่อว่าน่าจะเคยเห็นผ่านตากันบ้างกับสถานที่นี้ แบบแต่ก่อนโบลิเวียเคยมีทะเล ก็คือทะเลนี้แหละ แต่ด้วยความท่พื้นยกตัวสูงขึ้นน้ำเลยหายไป ก็เหลือแต่เกลือไว้ ง่ายๆก็เรียกว่าทะเลเกลือ มันขาวทั้งหมดเลยยย สวยมากกก ชอบความเรียลของเนเจอร์ที่นี่ไม่ได้ปรุงเเต่งอะไรเลยเพราะมันเรียลจริงๆ ชอบบบบ เราชิมเกลือละ เอ้อออ รสชาติมันก็เกลือ ก็ถูกละฮ่าๆ ดาวตอนกลางคืนเยอะมากกกกก เราขึ้นไปดูบนรถจิ๊บกับเพื่อนพร้อมกับกินมาม่าไปด้วย ฟินนนน แค่นี้ก็คุ้มมากแค่ไหนแล้ววว แต่ก่อนได้แต่ไปท้องฟ้าจำลอง แต่นี่ของจริงมันสุดมากก ถ้าไปอย่าลืมไปดูดาวด้วยย ลมตอนกลางคืนของอูยูนิมันแรงมากก ระวังตัวปลิวนะ ฮ่าๆ ตัวอย่างของการไม่ทาครีมกันแดดมันก็จะดำหน่อยๆ แบบนี้ไม่หน่อยละค่ะ ดูแดดนั่นสิ ฮ่าๆ
 

ชอบแสงดวงอาทิตย์ใกล้ตกดินมากก มันสวยมากกกกกกก มากกว่าในรูปอีกเวยย มันดีมากๆเลยนะเวลาสี่วันที่ได้อยู่กับเพื่อนนักเรียนแลกเปลี่ยน มันเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดจริง แบบทุกคนรวมใจกันพูดสเปน ใช่ค่ะ พูดแค่สเปนเท่านั้น ฮ่าาาา
และเพื่อนๆก็หล่อมากๆ ฮ่าๆ แต่เขาแค่เป็นเพื่อนค่าาา พวกนางทั้งหมดน่ารักทั้งผู้หญิงทั้งผู้ชาย จริงๆช่วงที่มีน้ำ ก็ช่วง ธันวา ถึงกุมภา แต่ตอนที่เราไปน้ำยังไม่มาไงง ไปเดือนธันวาแต่ต้นเดือน ตอนนั้นน้ำยังหลับอยู่มั้งงง ฮือออ ถ้ามีน้ำมันเหมือนแบบเป็นกระจกสะท้อนพื้นกับท้องฟ้า มันฟหกด่าสววว มากๆไม่รู้ว่าจอธิบายยังไง ขนาดเราเเค่เห็นในรูปถ่ายเฉยๆมันยังสวยขนาดนี้เเล้วของจริงจะเป็นยังไงงง ฝากรุ่นน้องเอเอฟเอสรุ่นถัดไป ไปดูเผื่อพี่ด้วยจ้าาา ฮ่าๆๆๆ
รูปปกข้างบนสุดเป็นเพื่อนนักเรียนแลกเปลี่ยนเมืองโคชาบัมบาเมืองเราเองที่ได้เจอกันบ่อยๆช่วงนึงเพราะต้องทำวีซ่าจ้าาา รวมๆแล้วทุกคนน่ารัก

ภาพฮิตที่ถ้ามาอูยูนิต้องภาพกระโดดกับคู่ไดโนเสาร์ที่เหมือนกำลังจะกินเราฮ่าๆ แน่นอนภาพนี้ต้องมาเป็นกลุ่มเพื่อนๆเอเอฟเอสทั้งหมด และมาถ่ายกับกระป๋องมันฝรั่งเขียวๆ เป็นสัญลักษณ์ของที่นี่ไปแล้ววว มีเพื่อนไทย แล้วก้เพื่อนเบลเยี่ยมกับนางทอม ฮ่าๆ เป็นทริปสุดท้ายกับเอเอฟเอสโบลิเวียที่มีความสุขมากกก และเป็นครั้งสุดท้ายที่จะได้เจอเพื่อนนักเรียนแลกเปลี่ยนทั้งหมด พูดแล้วเศร้าเนอะ ฮ่าๆ


 heartheartheartheart

เราได้มีโอกาสไปเที่ยวเมืองอื่นๆ แน่นอนว่ากับเพื่อนไทยย เมืองของโบลิเวียมีแค่เก้าเมือง แต่พื้นที่ทั้งประเทศใหญ่กว่าประเทศไทย ด้วยความที่บ้านเมืองส่วนใหญ่เป็นภูเขาเลยน่าจะพัฒนายากพอควร เป็นภูเขาที่สูงมากกกกกกกกก
มากจริงๆ ฮ่าๆ ชื่อเมืองก็มี ลาปาซ โคชาบัมบา โอรูโร่ ซูเกร โปโตซี ตาริฮ่า ปันโด เบนิ และซานตาครูซ 

มีช่วงนึงประมาณกรกฎาคมเป็นปิดเทอมสั้นของที่นู้น เหตุผลคืออากาศหนาวมากก เมืองเราต่ำสุดสี่องศาเอง เมืองเพื่อนติดลบ ฮ่าๆๆๆ เราก็เลยได้โอกาสไปเที่ยวเมืองเพื่อนน แล้วก็ไปเที่ยวเมืองเพื่อนอีกคนนึงด้วยกันน

Potosi, Bolivia


เมืองแรกที่ไป โปโตซี เป็นเมืองที่อยู่เกือบสูงที่สุดในโลก ที่ใช้คำว่าเกือบเพราะเรายังไม่มั่นใจฮ่าๆ
วันแรกที่ไปถึงแบบจะตายแล้ว คือที่สูงมากก สูงกว่าลาปาซอีก พอถึงปุบปวดหัวปับเลยทีเดียว แต่ก็เป็นแค่วันสองวันก็หายย เป็นเมืองที่ยูเนสโกยกย่องให้เป็นมรดกโลกด้วยความเก่าแก่ของสถาปัตย์ ออกไปทางยุโรปเพราะเคยเป็นเมืองขึ้นของสเปนๆ โบสถ์ที่นี่คืออลังมากเว่อออ มันสวยย อากาศไม่ต้องพูดถึงหนาวทั้งวัน โปโตซีนี่หนาวทั้งปีอะ น่าจะไม่เคยมากกว่ายี่สิบองศา ปกติอยู่เลขหนึ่งตลอดดด ไปกี่ทีก็เป็นหวัดยาวๆ ชอบความเมืองเก่านี้มันคลาสสิกดีๆ พลาซ่าใจกลางโปโตซีชื่อว่า 10 de Noviembre เป็นวันก่อตั้งโปโตซีและเป็นวันเกิดเราเองงง เหมือนพลาซ่านี้ทำให้เพื่อเราฮ่าๆๆ

Sucre, Bolivia (Capital of Bolivia)


ถ้าเคยได้เรียนในภูมิศาสตร์ ม.ต้น อาจจะได้เรียนเกี่ยวกับลาตินอเมริกา และได้สอบชื่อเมืองหลวงของแต่ละประเทศในทวีปนี้ ครูจะสอนว่า ลาปาซ เป็นเมืองหลวงของโบลิเวีย แต่ไม่ใช่นาจาาา คนโบลิเวียบอกว่า คนทั้งโลกส่วนใหญ่เข้าใจว่า ลาปาซ เป็นเมืองหลวงของโบลิเวีย แต่จริงๆแล้ว ซูเกร ต่างหากที่เป็นเมืองหลวงของเรา ตอนนี้เราก็ได้ความรู้มาใหม่แล้ววว ซูเกรเป็นเมืองหลวงของโบจริงๆ ของขึ้นชื่อของซูเกรคือ ช็อกโกแลต Para ti ชอบความแพคเกจของนาง คือเป็นรูปสถานที่ของโบลิเวีย ชนพื้นเมืองที่นี่งี้ พูดถึงชนพื้นเมืองของโบ ของจะใช้ชีวิตปกติร่วมกับคนธรรมดาเลย เขาก็แต่งชุดพื้นเมืองเขาไป จะเห็นบ่อยๆเป็นปกติตามถนน รถโดยสารงี้ ที่ๆต้องไปในซูเกรคือ อุทยานแห่งชาติไดโนเสาร์แล้วแบบมันมีปล่องภูเขาไฟแบบตัดหินครึ่งซีกของจริงให้ดู คือเขาน่าจะตัดภูเขาไฟครึ่งลูก โคตรเท่เลยครับ ความสถาปัตย์ของซูเกรนั้น จะคุมโทนขาวทั้งเมือง แน่นอนว่าเมืองซูเกรได้ให้เป็นมรดกโลกจากยูเนสโกเช่นกันกับโปโตซ๊ สวยจริงๆไม่โกหกก แต่ถ้าแบบปกติบ้านของโบเขาจะไม่ชอบทาสีบ้านกันจะเห็นได้เยอะๆในลาปาซนั่นเองง


La Paz, Bolivia


ที่นี่คือลาปาซซซ ที่ได้พูดไว้ข้างบนว่า บ้านที่นี่เขาไม่ชอบทาสีจะเป็นอิฐเปลือยๆสังเกตได้จากภาพเเรกเลยจ้าาา ภูเขาที่เห็นเป็นภูเขาหิมะะะ ชื่อ อิยิมานิ เราไม่เคยไปมันอยู่ไกลฮ่าๆๆๆ คือที่โบอะมีหิมะนะ แต่บนยอดภูเขาเท่านั้น เราไม่เคยไปป ฮืออออ มีโปโตซีที่หิมะตก แต่ตกน้อยมากกก แต่ก็ยังดีที่มีให้ดู ฮ่าๆ ตัดมาเรื่องบ้าน บ้านโฮสเราทาสีนะ เหมือนบ้านปกติทั่วไปที่ไทยฮ่าๆ พูดได้ว่าเดินขึ้นลงเขาเป็นว่าเล่นเพราะที่ลาปาซส่วนใหญ่พื้นไม่ราบเรียบ จะขึ้นๆลงๆ มีภูเขาบ้าง ราบบ้าง แล้วแต่พื้นที่ในเมือง จะเห็นได้ว่ามีกระเช้าลอยฟ้าด้วยย ใช่แล้วว มันคือคมนาคมของลาปาซด้วยความเป็นภูเขาทั้งเมือง การคมนาคมทางนี้ก็ถือว่าสะดวกมากถ้าเมียบกับขึ้นรถ ฮ่าๆ แบบเก๋ๆ นั่งกระเช้ากลับบ้านงี้ และแน่นอนว่าเป็นเมืองที่ซับซ้อนมากกกกก มากสุดๆถนนตรอกซอยแบ่งออกเป็นหลายร้อยเส้น ถ้าได้โฮสเมืองนี้เราคงมึนแน่ๆ ฮ่าๆ แต่เราชอบนะเป็นเมืองที่เก๋ดี

Tarija, Bolivia


อารมณ์เมืองร้อนที่ไทย อากาศไทยเป๊ะๆ คือการเตรียมพร้อมก่อนกลับไทยมารับอากาศเดิมนั่นเอง เป็นเมืองที่ขึ้นชื่อเรื่องไวน์แต่เราดื่มไม่ได้เพราะอายุไม่ถึงสิบแปด ฮ่าๆๆๆ ได้เเต่เดินเล่น ตอนนั้นไปกับเพื่อนสองคนแบบไม่รู้ทางกันทั้งสองคน เดินกันมั่วๆแต่ก็ไม่หลงงง กูเกิ้ลแมบช่วยเราไว้ๆ น้องๆที่กลังจะไปแลกเปลี่ยนแนะนำอย่าลืมโหลดกูเกิ้ลแมบเด้อออออ

Cochabamba, Bolivia


เมืองเราเองงง รูปปั้นนั้นคุ้นๆใช่มั้ยย ไม่ใช่ ลีโอ ที่บราซิลเด้ออ อันนี้ที่โคชาบัมบาาาเรียกว่า คริสโต เป็นรูปปั้นพระเยซูเหมือนกับลีโอ ใหญ่กว่าลีโอด้วยยย มันจะมีทางให้ขึ้นไปก็จะเห็นวิวแบบภาพแรกสวยมากกก ชอบภูเขาาา นั่นคือน้องแอนดีสของเรานั่นเองง น้องดูยิ่งใหญ่และทรงพลังมากก ไม่ใช่ละๆ อีกภาพเป็นพลาซ่า 14 de Septiembre อารมณ์แบบสวนสาธารณะงี้ที่สำคัญคือมันเป็นวันก่อตั้งเมืองโคชาบัมบานั่นเองง อย่างที่บอกขึ้นชื่อเรื่องของกินนนน ไม่อ้วนให้รู้ไปป 


ปาร์ตี้เลี้ยงส่่ง // วันปีใหม่ที่จะจดจำตลอดไป smiley

จริงๆเราไม่ได้หวังเลยว่า จะมีปาร์ตี้เลี้ยงส่งเป็นของตัวเองเพราะงานวันเกิดเราก็ไม่มีอะไรเลยฮ่าๆ เพราะโฮสยุ่งๆด้วยแหละ ที่บ้านก็มีงานแต่งงานของโฮสบราด้วยเลยไม่ได้จัดเพราะงานขนกันฮืออออ ตอนเพื่อนสนิทเราถามเราว่าจะมีปาร์ตี้เลี้ยงส่งเราที่บ้านมั้ย แน่น่อนว่า ไม่มี ฮ่าๆๆๆๆ ก็นึกว่าจบไปแล้วแต่เพื่อนสนิทของเรายังไม่ยอม ไปถามกลุ่มวอทแอพห้องว่า บ้านใครว่างจัดปาร์ตี้ให้พิมได้บ้าง เราก็ไม่หวังเลยฮ่าๆ เพราะช่วงปีใหม่ด้วยแหละ แต่มีพ่อเทพบุตรคนนึงเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก ทอม นั่นเองงง นอกจากหน้าตาหล่อแล้วจิตใจยังหล่อด้วย ฮืออออ ถ้าไม่มีนางเราคงหงอยก่อนกลับไทยแน่ๆฮ่าๆๆๆ อย่าคิดไปไกลลล เราเป็นเพื่อนกันนน ถ้าให้พูดถึงทอมมียาวๆ พอแค่นี้ก่อนฮ่าๆ ตอนแรกจะจัดวันที่สอง แต่เลื่อนไปจัดวันที่หนึ่ง เอ้ออ วันปีใหม่พอดี วันนี้เราคงจะจดจำตลอดไปเท่าที่ความจำเราจะจำได้ เพื่อนที่มาก็มีทั้งเพื่อนห้องเรา เพื่อนต่างห้องแล้วก็เพื่อนนักเรียนแลกเปลี่ยน มีเพื่อนเบลเยี่ยมที่สูงๆในรูปๆ บอกว่า เอ้อ ถ้าฉันไปไทยฉันจะบอกเธอนะ ฉันอยากไปเที่ยวทะเลที่ไทยมากๆเลย  เราน่ี่แบบ มาเลยยยย รีบมาอยากเจอ ฮ่าๆ ท่องไว้เขามีแฟนเเล้วววว เพื่อนค่ะท่องไว้ ทำไมต้องน่ารักกันขนาดนี้ด้วยยย แต่ถึงเราดราม่ายังไง เราก็ไม่ร้องไห้เวยย ขอบคุณเพื่อนๆทุกคน คนที่ผ่านมาในปีแลกเปลี่ยนของเรามันทำให้เราได้เรียนรู้อะไรหลายๆอย่างขึ้นมาก ถ้าไม่มีคนพวกนี้เราคงยอมแพ้กับปีแลกเปลี่ยนเราไปนานแล้วแหละ ฮ่าๆ แฮชแท็ก มาแลกเปลี่ยนหรือมาชดใช้กรรม มันก็จะจบลงเท่านี้ ฮ่าๆๆๆๆ ขำๆนะจ้าาา


ครอบครัวที่สองอีกซีกโลกนึง


รูปนี้เป็นโฮสเราเอง ทั้งโฮสเราแล้วก็โฮสญาติๆ เป็นครั้งสุดท้ายที่จะได้เจอกัน เมื่อวานของตอนนั้นก็คือปาร์ตี้ของเราแล้วต่อด้วยปาร์ตี้เล็กๆของโฮสเราเอง เป็นวันที่สุดๆที่อีกวัน วันสุดท้ายที่อยู่ในโคชา พรุ่งนี้็บินกลับแล้วว ถึงหนูจะไม่พูดเยอะมาก แต่หนูก็รักโฮสมากๆเลยน้าาาา ขอบคุณสำหรับขุนหนูให้อ้วนๆ เอ้ยๆ ดูแลหนูตลอดเวลาหนึ่งปีที่ผ่านมาา 




ลาก่อนโคชา 

 มันรู้สึกหวิวๆยังไงก็ไม่รู้พอเลยจุดนั้น แล้วพอมองลงไปดูเมืองที่เราอยู่มาเกือบหนึ่งปี น้ำตาไหลเลย ฮ่าๆๆ 

จบการเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยน ลาก่อนโบลิเวีย
บทสุดท้าย

ถ้าเป็นหน้าหนังสือภาพนี้คงเป็นบทสุดท้าย
สิบเอ็ดเดือนที่ได้มาแลกเปลี่ยนประเทศนี้ไม่เคยเสียใจเลย
ที่ได้เลือกประเทศนี้ แต่ก่อนแค่ชื่อประเทศเรายังไม่รู้จัก
ตอนนี้ทุกๆอย่างมันชัดเจนขึ้นแล้ว ชัดเจนที่เรารู้ว่าโบลิเวียคือะไร มาทำไมประเทศนี้
บางคำถาม เราก็อธิบายเป็นคำพูดไม่ได้ อยากให้ไปลองเเลกเปลี่ยนประเทศที่ๆเราอยากไป
โดยไม่ต้องสนใจเสียงรอบข้างที่ทำให้เราเเย่หรือเขวไป ถ้าเราไปมันอาจพัฒนาตัวเราให้ดีขึ้นกว่านี้
ได้เจออะไรมากกว่านี้ โลกรอให้เราค้นหามันอยู่ตลอดเวลา
ขอบคุณคนที่ผ่านเข้ามาในชีวิตแลกเปลี่ยนของเรา

 
และสุดท้ายนี้เราขอขอบคุณคนอ่านที่อ่านได้มาถึงตอนจบ ฮ่าๆ อยากให้ลองเปิดใจกับประเทศแถบลาตินอเมริกา มันมีอะไรให้เราค้นหาเยอะแยะ ฝากโบลิเวียไว้ในใจและเก็บเป็นตัวเลือก ถึงแม้จะไม่ได้เลือกประเทศนี้ไป แต่ขอให้ประเทศนี้ได้อยู่ในใจคุณตลอดไปนะคะ เราตั้งใจเขียนมากๆ ฮ่าๆ ถ้าอยากสอบถามอะไรเพิ่มเติม ทักมาได้เลยย ยินดีตอบมากๆ
ไลน์ของเรา : pimchayanan43 ขอบคุณค่ะheart

แสดงความคิดเห็น

>