เคยติดปัญหานี้กันไหมคะ คาดหวังกับนิยายตัวเองมากเกินไป
ตั้งกระทู้ใหม่
รู้ว่าเป็นนิสัยไม่ดีของตัวเอง แต่ก็หาวิธีแก้ไม่ได้เลย
เพื่อนๆคนไหนเคยติดปัญหานี้หรือมีวิธีแก้ดีๆ ก็ช่วยแนะนำให้หน่อยนะคะ
ขอบคุุณล่วงหน้าค่าาาา
13 ความคิดเห็น
ความคาดหวังเป็นเรื่องปกติค่ะ ในการที่เราจะทำอะไรสักอย่างเราก็ต้องคาดหวังเป็นเรื่องธรรมดาค่ะ แต่หวังได้ก็ต้องเผื่อใจเป็นค่ะ ลงมือเขียนไปเถอะค่ะ ถ้ารักและได้ลงมือทำแล้วมีความสุขค่ะ ลองถามตัวเองว่าจริงๆ แล้ว เราอยากเขียนนิยายเพื่ออะไร
อยากเขียนอะไรลงมือเลยค่ะ ความเพอร์เฟคสำหรับเราแล้วคือ การที่เราได้ลงมือ และได้กล้าทำค่ะ ลองเขียนเรื่อยๆ อ่านเยอะๆ เหมือนฝึกฝีมือ พอนานๆ งานเขียนเราก็จะออกมาดีขึ้นเรื่อยๆ เองค่ะ
เราเองก็ต้องฝึกเรื่อยๆ เช่นกันค่ะ เป็นกำลังใจให้นะคะ
ชอบประโยคนี้มากเลย "ความเพอร์เฟคสำหรับเราแล้วคือ การที่เราได้ลงมือ และได้กล้าทำ"
ได้คิดกับตัวเองขึ้นเยอะเลย
ขอบคุณสำหรับคำแนะนำนะคะ
เราว่าสิ่งที่ต้องมีเป็นอันดับแรกเลยคือ 'ต้องสนุกไปกับมันค่ะ'
แต่ถ้ามันตันหรือไม่มีอารมณ์เขียนจริงๆ แนะนำให้หยุดไปก่อนค่ะ หยุดเฉยๆนะคะ แต่ไม่ได้เลิก
หาอะไรอย่างอื่นทำไปเลยค่ะ หยุดคิด หยุดกังวล แล้วไปทำสิ่งที่ชอบค่ะ
อาจจะเป็น ฟังเพลง ดูหนัง ดูซรีย์ อ่านนิยาย งานอดิเรกที่ตัวเองชอบ
แล้วพอได้แรงบันดาลใจหรือเริ่มมีฟิลลิ่งขึ้นมา ก็ค่อยกลับไปเขียนต่อ
แต่เราว่าในการเขียนนิยายแต่ละตอน มันต้องละเอียดอ่อนมากๆ เพื่อทำให้มันเพอร์เฟคจริงๆนั่นแหละ
จขกท.ไม่ต้องคิดมากค่ะ ถ้าเขียนแล้วสนุกไปกับมันก็แสดงว่านิยายของเราสนุกสำหรับเราแล้วล่ะค่ะ
และผลที่ตอบรับมันจะดีขึ้นมาเอง เพียงแค่อย่ากดดันตัวเอง และสนุกไปกับงานเขียนค่ะ *-*
พออ่านแล้วได้แนวทางแก้ปัญหาเยอะเลยย
ขอบคุณมากนะคะ
ต้องทำและยอมรับในผลที่ตามมาค่ะ เราต้องก้าวข้ามความกลัวไปให้ได้ค่ะ
คืออันที่จริงเราก็ไม่ได้เก่งอะไรนะคะ แค่อยากมาให้กำลังใจเฉยๆ
เราไม่รู้นะคะว่าอะไรคือคำว่าเพอร์เฟคของเจ้าของกระทู้ เพราะนิยายเราไม่เคยเพอร์เฟคสักที แต่แค่สนุกไปกับมันก็พอค่ะ
ยิ่งพยายามมากก็ยิ่งกดดันเราเข้าใจค่ะ แต่เพราะยิ่งพยายามเราก็ยิ่งเขียนไม่ได้ ดังนั้นพยายามแต่พอดีดีกว่าค่ะ อย่าคาดหวังมากปล่อยมันไปกับจินตนาการเราดีกว่าค่ะ เราว่าชีวิตคนเรามีขึ้นมีลงนะคะ งานเขียนก็ไม่น่าจะต่างกัน นักเขียนดังๆก็คงมีนิยายที่แป๊กบ้างแหละค่ะ ดังนั้นอย่าไปกลัว เขียนงานของเราไปค่ะ เรื่องต่อไปมันอาจจะดียิ่งกว่าเดิมก็ได้ใครจะไปรู้
ขอบคุณสำหรับกำลังใจนะคะ ได้อ่านแล้วสบายใจขึ้นเยอะเลยค่ะ
เราจะนำข้อแนะนำไปปรับใช้นะคะ อย่างแรกต้องปรับทัศนคติตัวเองก่อนเยย 5555
พวกกระหายจำนวนวิว/แฟ่บ/คอมเม้นนี่แหละ คาดหวังสูงเกินไป
พวกติดท็อปใช่ว่าจะมีคนยอมอ่านจริงกันทุกคน
เราเขียนช้าจนเป็นปรกติ 3-4 วันนั่นแหละถึงจะลงตอนหนึ่ง เขียนแล้วตรวจ ตรวจแล้วเขียน หากยังไม่ถูกใจก็ยังไม่อัพ เราค่อนข้างจะถือคติ ช้า ๆ ได้พร้าเล่มงาม
ถ้าถามว่ากดดันไหม? ก็ไม่อ่ะค่ะ เราถือหลักว่าเอาที่ตัวเองสบายใจ อะไรที่ทำแล้วเรารู้สึกดี ก็จะทำไปเลยไม่ค่อยสนเรื่องเวลาเท่าไหร่
เคยเป็นค่ะ จนกระทั่งได้มาอ่าน quotes จากนักเขียนมืออาชีพหลาย ๆ ท่าน ยกตัวอย่าง quotes ที่ช่วยทำให้เราเขียนเรื่องแรกได้จนจบนะคะ (ถึงแม้จะใช้เวลาเป็นปี ๆ ก็ตาม) ลืมชื่อนักเขียนบางคนไปแล้วล่ะค่ะ อยากรู้ลองเสิร์ชเองเนอะ
"The first draft of anything is s-h-i-t." อันนี้เหมือนจะยิ่งบั่นทอนความมั่นใจ แต่จริง ๆ เขากำลังบอกว่า first draft ของนักเขียนทุกคนนั่นแหละ ไม่ว่าจะเป็น J.K. Rowling หรือ ทมยันตีก็เถอะ คงจะมีน้อยคน (น่าจะใกล้ศูนย์) ที่เก่งกาจมากจนไม่ว่าจะลงมือเขียนอะไรก็ดีงามไปหมดตั้งแต่แรกโดยไม่ต้องขัดเกลาอะไรเลย ฉะนั้น... ทุกคนเริ่มจากจุดเดียวกันค่ะ จะต่างกันก็ตรงความพยายามว่าใครจะพยายามจนถึงที่สุดและประสบความสำเร็จในที่สุด
"The real enemy is the blank page." หรือ "You can always edit a bad page. You can't edit a blank page." อันนี้คือ quote ที่ช่วยเราได้มากที่สุด คือถ้าเรามัวแต่กังวลว่าเราจะเขียนได้ไม่ดี ไม่เปอร์เฟ็ค จนเราไม่ได้เขียนอะไร สิ่งที่เรามีคือกระดาษที่ว่างเปล่า แต่ถ้าเราลงมือเขียนทั้ง ๆ ที่รู้ว่างานของเราต้องออกมาห่วยแตกแน่ ๆ แต่อย่างน้อยเราก็จะมีอะไรบนหน้ากระดาษ (หรือหน้าคอม) แล้วถ้าเราไม่พอใจเราก็แค่ต้องกลับไปแก้ไขมันให้มันดีขึ้นแค่นั้น
ซึ่งนี่ก็จะเกี่ยวข้องกับ quotes ต่อไปที่กล่าวประมาณว่า "I'm a bad writer, but a good re-writer." หรือ "Books aren't written. They're rewritten." หรือ "Write with your heart. Rewrite/Edit with your head." ก็คือไม่ว่าจะยังไง เราก็ต้องรีไรท์งานเขียนของเราอยู่ดี (ถ้าเราอยากให้ผลงานเราดี) เพราะฉะนั้นก็เขียนมันไปเถอะค่ะ เราควรต้องมีอะไรที่มันเป็นชิ้นเป็นอันก่อนที่เราจะกังวลหรือเครียดกับมันว่าจะทำยังไงให้มันเปอร์เฟ็คที่สุดเท่าที่จะทำได้เนอะ
อ่านแล้วใจเต้นเเรงเลยยยยย งื้ออ ขอบคุณนะคะ
หวังพอดี ๆ เผื่อใจไว้ว่างานเราจะมีคนติ มีคนไม่ชอบเป็นธรรมดา เราแค่เขียนให้สนุก ทำใจว่าง ๆ เบา ๆ เขียนให้จบ จากนั้นทิ้งไว้อ่านทวน แก้ไขอีกหลาย ๆ รอบก็ได้ ไม่มีใครดีเลิศในสายตาทุกคนได้ ทำเต็มที่ตามช่วงเวลาค่ะ จากนั้นก็ปล่อยใจสบาย ๆ ดีบ้างแย่บ้างธรรมดาโลก
เคยเป็นค่ะ ที่ว่าคาดหวังมาก เป็นมากกับงานชิ้นแรก ๆ :-) ความคาดหวังเป็นดาบสองคม เราต้องใช้ดี ๆ ค่ะ
ไม่เคยค่ะ เพราะชินกับมันไปแล้ว 555555 ทำใจให้สนุกกับมันก็พอค่ะ อย่าไปคิดอะไรมาก
ถ้าทำแล้วเป็นทุกข์ จงปล่อยวางเสีย
สุขแล้วค่อยกลับมาเขียนใหม่
ถ้าเราไม่ากล้าเขียนหรือกลัว เครียดเราจะไม่แต่งนิยายตัวเองเลย เพราะจะทำให้นิยายกากจนคนอ่านรู้สึกได้
เราจะรอจนกส่าเราพร้อมจริง ไ ถึงจะเขียน
เป็นพวกรักเพอร์เฟ็คเหมือนกันแหละ
พอเราพร้อม ทุกคนจะเห็นเองในเนื้อหาของเรา ความรู้สึกเรา
คาดหวังว่าจะเขียนได้เร็วกว่านี้ สรุป เดือนละตอน แถมสั้นเป็น...
สำหรับเรานะคะ
การคาดหวังเป็นเรื่องปกติค่ะ และแน่นอนว่าไม่ใช่ทุกคนที่จะสมหวังไปหมดในทุกๆ เรื่อง การเขียนนิยายก็เช่นกัน
ซึ่งเราก็ควรจะเผื่อใจกับความผิดหวังเอาไว้ด้วยค่ะ จะได้ไม่เฟลมากๆ เพราะว่างานเขียนก็เหมือนนิสัยของคนค่ะ ไม่ใช่ว่าทุกคนจะชอบมันทั้งหมด แน่นอนว่าต้องมีคนทั้งชอบและไม่ชอบค่ะ แต่เราต้องมองว่าทำเราถึงได้เริ่มเขียนนิยายเรื่องนี้ อารมณ์ตอนนั้นของเราคืออะไร? ตอนแรกที่เราเปิดนิยายเรื่องนี้สู่สาธารณะเพราะอะไร? ซึ่งเราเข้าใจว่าน่าจะเป็นความสุขอย่างหนึ่งของเจ้าของกระทู้ ถ้าคุณมีความสุขที่จะเขียนนิยายก็ทำไปเถอะค่ะ อย่าไปกดดันตัวเองเลยว่าต้องดีที่สุด บางที 'ดีที่สุด' ก็ไม่ได้ดีเสมอไปนะคะ
เราเขียนเพราะเรามีความสุขที่จะเขียนค่ะ เราสนุกในแบบของเรา อย่าสร้างความกดดันว่าตรงนี้ต้องดีแบบนั้น ตรงนั้นต้องดีขนาดนี้ มันจะเป็นการส้รางกรอบตีรอบตัวค่ะ และเราจะรู้สึกกดดันมากๆ แถมเครียดจนปวดหัวอีก พยายามอย่าคิดมากค่ะ อยากให้ลองปล่อยตัวปล่อยใจ เข้าใจว่าไม่ใครที่จะทำอะไรได้ถูกใจทุกคนทั้งหมดค่ะ อย่างเช่นประโยคที่ว่า 'มีรักย่อมมีชัง'
ถ้าเครียดๆ จนหาทางออกไม่เจอก็ลองปล่อยวางตัวเองดูนะคะ หาความสุขเข้าตัวบ้าง ไปเที่ยวบ้าง กินของที่ชอบ หรือเปลี่ยนบรรยากาศค่ะ อาจจะช่วยให้เรารู้สึกโล่งได้บ้างนะคะ
เป็นกำลังใจให้นะคะ หวังว่าจะพอช่วยอะไรได้บ้าง แม้จะไม่มากก็ยังดีค่ะ
ตอนนี้เป็นอยู่ค่ะ แต่ก็คิดว่าไม่ลองไม่รู้ลองแต่งไปก่อน ถ้าไปโอเคก็แก้ซะ ไปหาแรงบรรดาลใจที่ทำให้เกิดนิยายเรื่องนี้ขึ้น แล้วก็จะมีกำลังใจเขียนตอนต่อไปค่ะ (คนที่ติดตามนิยายของเราก็เป็นอีก1ปัจจัยที่ทำให้มีแรงฮึดแต่งต่อนะคะ)
เหมือนกันเลยค่ะ 555 คือ คาดหวังเกินไป แล้วไม่กล้าเขียน จากนั้นปัจจุบันนี้ยังเขียนไม่เป็นชิ้นเป็นอันเลยค่ะ เคยเขียนพล็อตอยู่ดีๆ คิดขึ้นมาได้ว่า มันจะดีมั้ย มันจะแย่หรือเปล่า จากนั้นปิดหน้า word แล้วทิ้งเลยค่ะ TOT
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?