แชร์ปัญหาระบบ TCAS61 !!!

เรามีไฟลท์ต้องบินไปตปท. คืนวันที่6 ค่ะ เละไปหมด เลื่อนแบบไม่สนสี่สนแปด เลื่อนเหมือนมีตัวเองอยู่คนเดียวในโลก ตัวเองผิดก็ต้องแก้ปัญหาให้ได้ยังไงก็ได้มี่คนอื่นจะไม่ได้รับผลกระทบ ทำงานหนักขึ้นให้ข้อมูลเสรจตามเดดไลน์ ไม่งั้นจะมีตารางเวลาออกมาทำไมถ้าจะเปลี่ยนง่ายงี้ ตลก

โถ่ คนเราก็ต้องมีผิดพลาดกันบ้าง เวลาจัดการระบบก็มีไม่นานมากหรอก แก้ไม่ได้ก็แค่ขยายวันออกไป เรื่องแค่นี้เอง #ประชด

++++++++ กระทู้นี้ค่ะ ตรงกับสิ่งที่เราต้องการจะพูดมากๆๆๆ เห็นด้วยกับ จขกท. ในทุกประเด็นที่ว่ามา

นี่เครียดมากเลยค่ะ รอมาจนถึงรอบสามแล้ว รวมๆนับตั้งแต่รอบพอร์ทก็เป็นเวลาประมาณห้าเดือนได้ มันส่งผลต่อสุขภาพจิตจริงๆนะคะ ป้าข้างบ้านก็ถามอยู่นั่นมีที่เรียนยังลูก ก็ได้แต่ประทับใจในความหวังดีของผู้ใหญ่ค่ะ :)

#ประชด

เห็นด้วยเป็นระบบที่ล้มเหลวและทำให้เกิดภาระมากขึ้น และเสียเงินมากเหมือนเดิม ไม่ได้แก้ไขจากเดิมแต่เป็นการเพิ่มปัญหาให้มากกว่าเดิมอีก

จขกท.พูดทุกอย่างที่อยู่ในใจเราหมดเลยค่ะ55555 (ปล.อยากชมว่าจขกท.เขียนได้ดีมากๆเลยค่ะ)

หลักๆแล้วระบบนี้ที่วางไว้คือเพื่อลดการวิ่งสอบ(อันนี้ก็คงแล้วแต่คน เราขอไม่พูดถึง)และการไม่กันที่คนอื่นๆ แต่ในเมื่อมีคนที่ยืนยันสิทธิ์ไปแล้วและยังสามารถสละสิทธิ์เพื่อลงรอบต่อไปได้ แล้วไหนจะรอบ3ที่เป็นการติดได้ทุกอันดับและไม่มีการเรียกตัวสำรองอีก ถ้างั้นแล้วคนที่ติดทั้ง4อันดับก็จะกันที่นั่งคนอื่นไปอีก3ที่ไปโดยปริยาย สุดท้ายแล้วยอดที่นั่งที่เหลือที่ยังว่างและถูกสละสิทธิ์ทิ้งภายหลังจากรอบก่อนๆก็โดนยกไปในรอบถัดไป แบบนี้ยังจะเรียกว่าไม่กันที่คนอื่นๆได้อยู่หรอคะ

ส่วนตัวเรามองว่าถ้ามีการเรียกตัวสำรองขึ้นมาก็น่าจะสามารถลดปัญหาได้ในระดับหนึ่ง เพราะอย่างน้อยที่นั่งที่ยังว่างก็ยังสามารถดึงตัวสำรองมาแทนที่ได้ แล้วยังเป็นการลดจำนวนคนที่ต้องไปรอบถัดไปด้วย

อีกอย่างก็คงเป็นเรื่องระยะเวลาในแต่ละรอบด้วยที่ค่อนข้างจะยาวนานมากๆ แถมรอบ3นี้เว็บที่สมัครก็ยังต้องแก้ไม่เลิกจนสุดท้ายทางทปอ.ก็มาแก้ปัญหาด้วยการเลื่อนเวลารับสมัครออกไป และแน่นอนว่าเวลากำหนดการอื่นๆตามตารางก็ต้องเลื่อนออกไปด้วย

สิ่งที่อยากถามคือ ทางทปอ.ก็น่าจะรู้ว่าจำนวนคนที่ต้องการสมัครมีจำนวนมาก ทำไมไม่ทำระบบรองรับให้ดีๆตั้งแต่แรก ก่อนหน้านี้คุณทำอะไรอยู่ เหมือนไม่ได้เตรียมความพร้อมมาเลย (ใจจริงแล้วเราอยากให้ทปอ.ใช้วิธีการเลื่อนสมัครออกไปเป็นทางเลือกสุดท้าย เพราะการเลื่อนครั้งนี้มันกระทบกับกำหนดการอื่นๆ คือมันควรจะมีวิธีแก้ที่ดีกว่านี้จริงๆ)

ถ้าตามโซเชียลหน่อยจะเห็นได้ว่ามีเด็กหลายคนที่บ่นระบบมากแค่ไหน เราก็เข้าใจนะว่าการทำให้มันถูกใจทุกคนมันเป็นไปไม่ได้ แต่อย่างน้อยเราเชื่อว่าหลายๆคนก็ต้องการให้มีข้อผิดพลาดน้อยที่สุด ซึ่ง ระยะเวลา1ปีที่ประกาศมามันก็แสดงให้เห็นแล้วว่าระบบนี้มีข้อผิดพลาดเยอะขนาดไหน สุดท้ายเรามองว่าระบบนี้ยังไม่มีความพร้อมจริงๆค่ะ

คิดว่าจะมีคนที่ยอมเลือกคณะที่ได้ในรอบ3เลย ถึงแม้จะเป็นคณะที่แค่คิดว่าเรียนได้(สุดท้ายอาจจะซิ่วปีหน้า) ทั้งๆที่ถ้ารอรอบ4โอกาสที่จะได้คณะที่ตัวเองชอบมีสูงพอควร (ใช้โปรแกรมคำนวนรอบแอด) แต่ด้วยความที่เบื่อเครียดกับการรอมาตั้งแต่เดือนเมษา

ผลงานของท่านๆใน ทปอ.มันสาสมพอหรือยังกับคำว่า "ลาออก" ผลงานย่ำแย่ขนาดนี้ น่าจะมีความละอายเปลี่ยนคนอื่นเข้ามาดูแลทปอ.มั่งเถอะ สงสาร dek61 เป็นหนูทดลองไปโดยไม่รู้ตัว โลกหมุนรอบตัวท่าน360°แต่ท่านกลับไม่รับฟังปัญหา ไม่คิดที่จะป้องกันปัญหา แถลงข่าวแต่ละทีก็เหมือนมาท่องตามสคริปนั่นแหละ การแก้ปัญหาแต่ละครั้งก็ก็แบบเด็กๆที่ปลายเหต ปีนี้คงทำอะไรไม่ได้ดีไปกว่านี้ ถือซะว่าเป็นกรรมของdek61แล้วล่ะ ได้แต่ขอ ขอให้ท่านอย่าไปสร้างกรรมต่อใน dek62ต่อเลย นี่ยังไม่รู้ว่า TCAS4ยังจะมีปัญหาอะไรต่อไปอีก ดูกันต่อไป

ขอบคุณเจ้าของกระทู้ที่รวบรวมความผิดพลาดทุกอย่าง และเชื่อได้ว่าพูดแทนใครหลายๆคน +++++++1

เขียนได้ดี ทปอ ต้องอ่าน ไม่ใช่ปิดหูปิดตา

อยากได้ยินคำขอโทษจากคณะ ทีมงาน

ทปอ.ดังๆไม่ใช่เสียงที่เเผ่วๆในเเถลงการณ์ ไม่ยอมรับว่าตัวเองผิด ไม่ชอบด้วยที่ระหว่างวันที่เปิดรับสมัครคิดจะเปลี่ยนอะไรก็เปลี่ยนกะทันหัน ไม่เห็นใจเด็ก ใช่ ทปอ ไม่ได้เป็นเด็ก61 ไม่มีวันเข้าใจหรอกว่าต้องเจออะไรบ้างต้องเเก้ปัญหาหนักเเค่ไหน อย่าทำตัวเหมือนอยู่บนโลกคนเดียวสิคะ นึกถึงผลกระทบที่จะตามมาด้วย ขอบคุณค่ะ

ความเห็นในฐานะ ผปค. 1.การแก้ปัญหาเว็บล่ม ทำได้โดยการแบ่งพื้นที่(ตามโรงเรียน)แล้วกำหนดวันสมัคร...2.เกณฑ์ต่างๆ ควรประกาศล่วงหน้าเป็นปีและไม่เปลี่ยนระหว่างทาง 3 อันนี้สำคัญ..เพื่อไม่เป็นการทุ่มอ่านหนังสือเพียงบางช่วง เพราะทุกอย่างก็ต้องเตรียมตัวสอบทั้งหมด ไม่ว่า 9 สามัญ ,GatPat,Onet ควรนำทุกอย่างมาคิดหมดเป็นสัดส่วนไป ทุกรอบเลย โดยที่หากทาง ทปอ.จะให้สิทธิ์ติดทุกที่เหมือนเดิมได้..แล้วรอบต่อไปก็จะเป็นการเก็บตกสำหรับคณะและมหาวิทยาลัยที่ยังไม่เต็ม..โดยหากจะลดค่าใช้จ่ายให้เด็ก..ก็ใช้ใบสมัครเดิมเลยโดยตัดคนที่ได้แล้วออก เอามาคัดเด็กต่อหรืออาจให้เด็กลงเลือกสำหรับแต่ละรอบไปตั้งแต่ครั้งแรกเลย...เท่านี้ผมว่าก็น่าจะหมดปัญหา และเป็นธรรมนะ..(เด็กทุกคนควรสอบ gatpat,Onet,9 สามัญ หมด)และ ความถนัดแต่ละด้านตามความสมัครใจ...

ตอนนี้ทปอ.ควรจะcleariing house ตัวเองโดยด่วนคิดว่าคนส่วนใหญ่คงเห็นด้วยกับสิ่งที่น้องเขียนมา คำว่าclearing house จะไม่มึความหมายเลยถ้าสามารถสละสิทธิได้ปัญหาเกิดขึ้นได้ขยายวันสมัครแต่อยากให้คงวันประกาศเหมือนเดิมถ้าเป็นไปได้ค่ะ

อยากให้แยก กสพท ออกมาครับ อีกอย่างพอเอาไปรวมรอบ3 แล้วก็มีการเก็บค่าสมัครซ้ำซ้อนจากเดิมแค่ 800 ก็จบแต่ปีนี้ต้องมาจ่ายเพิ่มอีก

การเลื่่อนกำหนดการรอบ3ออกไป ยังส่งผลกระทบโดยตรงต่อคนที่จองตั๋วเเละวางเเผนการเดินทางล่วงหน้าอีกด้วย

จากผปค.คนนึงมีข้อสงสัย,ความเห็นและอยากให้แก้ไขถ้าเห็นว่าข้อไหนถูกต้อง

1.จำนวนรอบมากไปไหม

2.จำนวนรับนร.แต่ละรอบควรยุติธรรมเหมาะสมและจำนวนรับในรอบแอดมิชชั่นควรจะรับนร.มากที่สุดหรือไม่ เพราะเด็กนร.ส่วนใหญ่ที่เรียนเก่งน้อยกว่าหรือพลาดจากรอบต่างๆจะต้องลุ้นติดที่รอบนี้มากที่สุด

3.คณะ,จำนวนรับ,เงื่อนไขที่เปิดรับรอบ 3 รอบ 4 ควรมีเงื่อนไขเดียวกันไหม เช่นตอนนี้บางคณะเปิดเฉพาะรอบ3 แต่รอบ4 ไม่รับหรือรับแค่ไม่กี่คน หรือใช้คะแนนวิชาในการคัดเลือกต่างกัน

4. ทำไมต้องสอบหลายอย่างมาก เช่น PAT,วิชาสามัญ,O-NET ยกตัวอย่างเช่น คณิตศาสตร์ มีทั้งใน PAT1,O-NET,วิชาสามัญ ทำไมไม่ยุบเหลืออย่างใดอย่างหนึ่งให้เป็นมาตรฐานเดียวกันไปเลยและให้เป็นวิชาคัดเลือกเข้ามหาลัยเหมือนกันไปเลยทุกที่

5. ความไม่พร้อมของระบบของทปอ.จะป้องกันปัญหาอย่างไรเพื่อไม่ให้เกิดอีกตอนยืนยันสิทธิ์รอบ3 และตอนรับสมัครรอบ 4

สิ่งที่ไม่เข้าใจที่สุดคือเด็กมีเป็นแสนๆคน กลับทำให้เว็บรองรับทีละ 40000 คน อันนี้งงมากๆ. ตอนนี้เว็บสทศยังดีกว่าอีก ล่มแค่ช่วงๆวันแรก

ผู้ที่เกี่ยวข้องกับระบบ Tcas61 กรุณาออกมาแสดงสปิริต รับผิดชอบในสิ่งที่เกิดความเสียหายขึ้นเป็นวงกว้างโดยเฉพาะความเครียดของทั้งเด็กและผู้ปกครอง อย่าหน้าด้านอยู่ใช้เงินภาษีประชาชนไปวันๆ อย่าให้ต้องถึงกับออกมาเดินกลางถนนกันอีก ปฏิรูประบบราชการและการศึกษาไทยให้เด็ดขาดเสียที ข้าราชการที่ไร้ความสามารถควรจะปลดออกไป นี่หรือคือประเทศไทยยุค 4.0 พูดอย่างหรูแต่เนื้อในเละตุ้มเปะ

เห็นด้วยกับรอบ 3/2 ครับ

อยากให้ทปอ.เลื่อนวันสัมภาษณ์เป็นเหมือนเดิมค่ะ นี่เดือดร้อนจริงๆ ทปอ.เลื่อนวันสัมภาษณ์มาตรงกับวันแต่งงานของพี่สาวพอดี จะทำไงล่ะทีนี้ เครียดมากๆ อยากให้ทปอ.เห็นใจกันหน่อย เดือดร้อนไปหมดเลยแบบนี้ เลื่อนวันสัมภาษณ์เป็นวันเดิมเถอะค่ะ ขอร้อง

เรียนผู้ใหญ่ในสังคมทุกคนนะครับ การศึกษาควรไปในทางที่ดีกว่านี้ การศึกษาที่ดีไม่ควรจะมาเเลกกับการเสียเงินเกินเหตุขนาดนี้ ตอนนี้เราเครียดมากๆๆๆ คือถ้ายังไม่มีมหาลัยมันก็ยังกินไม่ได้นอนไม่หลับอ่ะเนาะ เด็กรุ่นนี้จะซึ้มเศร้าตายหมดเเล้วจริงๆครับ ระบบนี้มันเป็นระบบดีขึ้นกว่าทุกปี มีสอบเเค่ครั้งเดียว เเต่ต้องเสียเวลา เสียเงิน เสียอารมณ์ ตอนนี้ไม่รู้จะเสียอะไรเเล้วจริงๆครับ ไม่รู้จะเสียอนาคตมั้ย ที่การศึกษาไทยยังขึ้นกับการเสียเงินเกินเหตุ การสอบอะไรเยอะเเยะไปหมด

การแก้ปัญหาเว็บล่มที่เกิดทุกปี แก้ได้ด้วยหารเช่า cloud โดยที่ไม่จำเป็นต้องขยายเครื่อง server เพราะเว็บทปอเด็กเข้าใช้กันแค่ช่วงสมัครมหาลัย แต่ทปอก็ไม่เคยทำ ยกเว้นแต่ว่าจะได้งบไม่พอใช้เช่า cloud (ซึ่งก็เป็นไปไม่ได้ งบหลักล้าน กับค่าเช่าcloud ไม่กี่บาทเมื่อเทียบกับงบที่ได้ ทำไมจะไม่พอ) ประธาน ทปอ ก็จบจากสถาบันที่ชอบอ้างตัวเองว่าเป็นที่ 1 ด้านเทคโนโลยี แต่ทำไมใช้เทคโนโลยีไม่เป็นและไม่เกิดประโยชน์ ทางม.ปล่อยจบมาได้ไงหว่า

วันนี้เว็บไซต์คือดีมาก แล้วคิดว่าคงจะดีต่อไปอีกแน่ๆ ทปอทำได้ แต่ทำไมไม่ทำตั้งแต่แรก

แทนที่เราจะได้หมอรอบพื้นที่กลับไม่ได้เพราะติดเคลียริ่งเฮ้าส์นี่แหละ เรื่องมีอยู่ว่า พวกที่ติดหมอหลายที่ในรอบ 2(ชื่อพวกนี้ซ้ำกันหลายที่เลย) แต่มันก้อสามารถยืนยันได้ที่เดียว ส่วนที่เหลือที่พวกนี้ติดด้วยก้อต้องสละสิทธิไป แล้วที่นั่งว่างๆแต่ละมหาลัยก้อไม่เรียกสำรองขึ้น เพราะเรียกไม่ทัน ติดเคลียริ่งเฮ้าส์ เราที่อีกนิดเดียวจะได้กลับไม่ได้ เราเลยต้องไปเรียนคณะอื่นที่เราไม่อยากเรียน แล้วพอเราติดคณะอื่นแล้ว เราก้อไม่อยากไปรอรอบ 3 ให้เสี่ยง ทั้งๆที่คะแนนเราก้อผ่านเกณฑ์แพทย์

เลื่อนเวลาหมด..แก้ปัญหาไม่ถูกจุด!!และรอบ3ขาดแค่คำเดียว คือ..เรียงตามลำดับ..ปัญหาคนไปกองรอบ4ก็จะไม่มี..

รู้สึกเห็นด้วยกับเจ้าของกระทู้นะคะ

เป็น dek60 และก็จะเป็น dek61

......

ถามว่า ระบบปี60 ดีไหม ส่วนตัวก็คิดว่าเป็นระบบที่ไม่ดีเท่าไร ตรงที่เด็กต้องไปสอบกับมหาลัยต่างๆ เยอะๆ(วิ่งลอกสอบ) เป็นการไปกันที่คนอื่นที่อยากเรียนส่วนหนึ่ง และคนอื่นก็กันที่เราส่วนหนึ่ง

.......

แต่การแก้ไขของ ทปอ. ดูจะไม่ได้แก้ไขปัญหานี้อย่างแท้จริงเลย ยิ่งเป็นการสร้างความเหลื่อมล้ำ และกันที่กันมากขึ้นด้วยซ้ำ ในรอบ1กับ2 รอบพอร์ตกับโควต้าคือระบบที่สร้างความเหลื่อมล้ำอย่างแท้จริง ค่าสอบภาษาอังกฤษแพงมาก ถ้าไม่ใช่นักเรียนอินเตอร์ หรือบ้านรวย จะมีเด็กสักกี่คนที่กล้าไปสอบแพงขนาดนั้น พอร์ตเองก็ไม่ใช่ตัววัดความรู้ ความสามารถ อย่างแท้จริง การกันที่ก็มีกันเหมือนเดิมและอาจหนักกว่าเดิม... คนที่ติดรอบ1 สละสิทธิ์มาติดรอบ2 หลังจากประกาศคะแนนgat pat 9 วิชา ก็สละรอบ2 มาเอารอบ3 ซึ่งในรอบ3 ก็สามารถกินที่คนอื่นได้อีก3ที่ หรืออาจจะสละไปเอารอบ4 รอบ5 อีกก็ได้

.....

แบบนี้ที่บอกว่า tcas ลดความเหลื่อมล้ำ ลดการกันที่ ลดค่าใช้จ่าย ลดการเรียนพิเศษ คือ คำโกหกทั้งเพ!!

ส่วนตัวชอบระบบเอนทรานซ์ วัดจากคะแนนสอบครั้งเดียว เป็นมาตรฐานเดียวกันทั้งประเทศจบ เลือกได้ 6-7 คณะ เรียงตามอันดับ ติดอันไหนเรียนอันนั้น ไม่เหลื่อมล้ำ ไม่กันที่ วัดกันไปเลย

เราติดตั้งแต่รอบโควต้าค่ะ คิดว่ามีปัญหาน้อยสุด เพราะมหา'ลัยจัดการเองได้แบบอิสระมาก (มหา'ลัยที่เราติดเขาทำงานไวค่ะ ประกาศผลเร็ว สัมภาษณ์เร็ว ประกาศสัมภาษณ์เร็ว) คะแนนก็ดึงจากระบบเอง เรามีหน้าที่แค่รอผล ค่าใช้จ่ายก็แบบเหมาจ่ายค่ะ เลือกเยอะเลือกน้อยค่าสมัครเดียวกันหมด อีกอย่างก็ยุติธรรมเพราะใช้คะแนนกลาง ไม่ได้ใช้ผลงานในพอร์ต พอมาเจอรอบ 3 ทุกอย่างผ่านส่วนกลางทำให้การดำเนินงานล่าช้ามาก จริง ๆ ทปอ.ไม่ควรเข้ามาจัดการตรงนี้ค่ะ ปล่อยให้มหา'ลัยจัดการเองทุกอย่างจะดีกว่า เราว่ารอบโควต้าทางมหา'ลัยจัดการได้ดีกว่าเยอะ ดีที่รอบนั้นไม่ผ่านส่วนกลาง เพราะถ้าผ่านส่วนกลางคือเละไปหมด ทปอ.น่าจะเปรียบเทียบการดำเนินงานของตัวเองกับการดำเนินงานของมหา'ลัยได้แล้วว่ามันต่างกันตรงไหน

รอบพอร์ตเป็นอะไรที่เราไม่ชอบเลย อยากให้ตั้งเกณฑ์ใหม่ เพื่อนเราที่ติดรอบนี้ไม่ได้เรียนเก่ง อาศัยแค่ทำกิจกรรม เข้าเรียนก็ไม่เข้า ที่สำคัญมีที่เรียนแล้วก็ไม่มาโรงเรียน ขาดเรียน ไหนว่ามีชั่วโมงเรียนไม่ครบ 80% แล้วโดนตัดสิทธิ์ โกหกทั้งเพอะ ตั้งกฎอะไรไม่รู้มากมาย สุดท้ายทำไม่ได้สักอย่าง เราสู้เพื่อมีมหา'ลัยเรียน แล้วพวกเขามาทำแบบนี้กับเราน่ะนะ ห่วยแตกมาก โกรธมาก เกลียดมากด้วย เป็นองค์กรใหญ่แต่ทำได้แค่นี้เองน่ะเหรอ

เราเป็นเด็ก61เหมือนกันค่ะ ขอพูดในส่วนที่เราคิดเห็นด้วยคือ

1.ควรหาวิธีการจัดการระบบการสมัคร เช่นภาคเหนือสมัครวันที่9-10 กกทม.11-13 ล่าช้าและอื่นๆวันที่14เป็นต้น คือไม่จำเป็นต้องเริ่มตั้งแต่วันที่9พ.ค.เลย คุณควรเริ่มตั้งแต่1พ.ค. ส่วนรอบ2คาบเกี่ยวก็ยังได้เพราะเด็กรอบ3เยอะกว่าอยู่แล้ว นี่คือการแก้ปัญหาดีกว่าให้ทุกคนมาเข้าระบบพร้อมๆกัน หรือการแก้ปัญหาอีกวิธีคือการตั้งเว็บใหม่ให้เข้าถึงระบบฐานเดียวกันเพื่อรองรับจำนวนเด็ก

2.ระยะเวลาการรอนานเกินไป ไม่ใช่ช่วงเวลาในรอบ3นะคะ แต่ช่วงเวลาหลังประกาศผล9สามัญ คุณควรเริ่มรับสมัครหรือประกาศรอบ2ได้แล้ว มันทำให้เด็กเกิดอาการวิตก เครียด

3.อยากให้ปรับใหม่ตามนี้ค่ะ คือ

-รอบ1เป็นรอบโควต้าต่างๆนกฬ. ศิลปะ จังหวัด พวกสอบทางภาษา

-รอบ2 / 1 เป็นรับตรงทั่วประเทศ เลือกเหมือนรอบ3ครั้งนี้โดยเลือกได้4อันดับ ติดและสัมภาษ

-รอบ2 / 2 คือรอบตกค้างจากรอบ2/1 แต่กสพท.สามารถเลือกได้แค่อันดับเดียว เพราะกลัวคนสละรอบ2/1มาจะแย่ได้ แล้วรับจำนวนตามที่มหาลัยต้องการรับ และสามารถติดได้1คณะ หรืออาจจะเป็นการเลือกสัมภาษใหม่จากรอบ2/1เช่นติด3ที่ ก็จะเหลือในรอบนี้แค่2ที่เป็นต้น

-รอบ3แอดมินชั่นตามเดิม เพราะรอบ2,3ใช้คะแนนไม่เหมือนกัน คนทุ่มก็ทุ่มรอบใดรอบหนึ่ง ไม่ใช่มาหว่านว่าฉันจะเอาทุกรอบก็ไม่ใช่

-รอบ4เป็นรอบพอร์ต เด็กที่ยังไม่มีที่เรียนก็ให้สิทธิ์เขาในการรวบรวมกิจกรรมในโรงเรียน เกรด การรองรับจากโรงเรียน เข้าศึกษาต่อในมหาลัย เป็นการเพิ่มโอกาสให้เด็ก แต่มหาลัยเป็นคนเลือกว่าจะรับเข้าไหม

จะเห็นได้ว่ารอบ1รอบพอร์ตมันไม่มีความจำเป็นต้องมี2รอบเลย เพื่ออะไรกัน เพื่อมหาลัยเลือกคนเข้า แต่เด็กก็สละสิทออกมากัน นี่หนะหรอ เขามีเกรดที่ดีกว่า เขาก็มีสิทเลือกแบบนั้นหนะหรอ

4.ไม่เข้าใจการให้เด็กรอบ1สละสิทธิ์มารอบ3 มันไม่ใช่เรื่องเลย เพราะเขาสมัครสอบแกทแพทไปไง พอเขารู้คะแนนก็เลยสละมารอบ3 มันไม่ใช่เรียกว่าให้โอกาสอะ ทำแบบนี้ทำให้รู้เลยว่าประเทศไทยยังไม่รู้จักคำว่าประชาธิปไตยพอ

5.คุณมองเด็กตจว.ต้องมาสมัครถึงกทม. แต่คุณไม่ดูเลยหรอว่าเด็กกทม.ที่สมัครในกทม.เขาก็มี นี่4.0แล้ว การอำนวยความสะดวกกผ่านทางอินเตอร์เน็ตมันสูงขึ้นแล้วนะคะ ลองเปลี่ยนใหม่ไหม โดยการสมัคร ส่งคลิปแนะนำตัวเอง สัมภาษเพื่อสอบผ่านวิดีโอคอลไปเลย แล้วให้เขาลงมาสอบแค่วันเดียวแล้วประกาศผล แบบนี้ไม่โอเคกว่าหรอคะ รบกวนทปอ.และมหาวิทยาลัยต่างๆพิจารณาด้วยค่ะ

6.อยากทราบว่าทปอ.เป็นตัวกลางจิงๆรึเปล่าคะ ในเมื่อทปอ.กับมหาวิทยาลัยยังประกาศไม่ตรงกันเลย คุยกัน อัพเดรทข้อมูลให้พร้อมก่อนไหมอะคะ บางคนเขาสมัครไปแล้ว แล้วสักพักมาบอกคณะนี้รับน้อยลว คณะนี้เปลี่ยนเกณฑ์ คือไม่โอเคแทนค่ะ

7.ควรติดตามกระแสจากทางโซเชียลว่าระบบเป็นอย่างไรและรีบแก้ปัญหา หาทางออกค่ะ

8.อย่าคิดว่ารุ่นเราเป็นหนูทดลองเลยค่ะ ขอเป็นตัวจริงได้ไหม เพราะถ้ามันไม่ดี ปีหน้าคุณก็เปลี่ยนไปเรื่อยๆก็จะกลายเป็นหนูทดลองในทุกๆปี

สวัสดีครับ . ก่อนอื่นขอชื่นชมเจ้าของกระทู้นะครับ ที่แสดงความคิดเห็นโดยอาศัยเหตุผล และค่อนข้างตรงประเด็นกับปัญหาที่เกิดขึ้นจริง ๆ (เพราะเท่าที่เห็นเพื่อน ๆ หลายคนเสนอกันมาก็ไม่ค่อยจะตรงประเด็นปัญหาสักเท่าไร) . เท่าที่เห็นที่ผ่านมาตลอดระยะเวลา 1 ปี ทปอ. เขาก็ได้ทำตามหลักการ 3 ข้อของ TCAS ที่บอกว่า

1. นักเรียนควรอยู่ในห้องเรียนจนจบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6

2. ผู้สมัครแต่ละคนมีเพียง 1 สิทธิ์ ในการตอบรับในสาขาวิชาที่เลือก เพื่อความเสมอภาค

3. สถาบันอุดมศึกษาทุกแห่งสังกัดกระทรวงศึกษาธิการจะเข้าระบบ Clearing House เพื่อบริหาร

1 สิทธิ์ ของผู้สมัคร

. ซึ่งทปอ. ก็ทำตาม 3 ข้อนี้นะครับ แต่ทปอ. ดันลืม หรือมองไม่เห็น “ช่องโหว่” ที่จะเกิดขึ้นจากระบบนี้ ซึ่งผมในฐานะ #dek61 คนหนึ่ง ก็มีประเด็นที่ต้องการเสนอเพิ่มเติมครับ

. 1. การกั๊กที่ในรอบที่ 3 เคยมีคนมาตั้งกระทู้ไว้แล้วล่ะครับ https://www.dek-d.com/board/view/3833048/ ความคิดเห็นที่ดูจะมีประโยชน์ที่สุดก็คือความคิดเห็นที่ 34 (และคอมเม้นย่อยในนั้น)

ผมค่อนข้างเห็นด้วยนะครับที่ให้มีการบอก "ลำดับที่ได้จากน้อยไปมาก" แทนที่จะบอกว่า "ติด/ไม่ติด" เพราะว่า ในบางคณะ (ที่เป็นคณะดีๆ) อาจจะมีเด็กกลุ่มที่คะแนนสูงไปยื่นกั๊กไว้ทุกปี (เช่น เด็กที่ตั้งใจจะเข้าหมอก็จะไปยื่นวิศวะหรือบัญชีกั๊ก เด็กที่ตั้งใจจะเข้าวิศวะก็จะไปยื่นบัญชีกั๊ก) ซึ่งในบางคณะอาจจะมียอดสละสิทธิ์ถึง 30-40% ของยอดรับในรอบที่ 3 ทีเดียว การบอกลำดับที่ให้เด็กทราบ จะเพิ่มโอกาสให้เด็กติดคณะที่ต้องการได้ มากขึ้น และยังเป็นการให้โอกาสกับเด็กที่อยู่ลำดับเฉียดกับยอดรับ เช่น เด็กที่ได้ลำดับที่ 101 105 110 (จากคณะที่รับ 100 คน)

ถ้าถามว่า การเปิดให้เด็กเลือกแบบนี้จะใช้เวลาภายในกี่วัน ขอตอบเลยครับ "ไม่เกิน 3 วัน" ในการที่ทปอ. จะจัดการรายชื่อ และส่งให้กับทางมหาวิทยาลัย (ไม่ว่าจะเป็นในกรณีที่เด็กเลือกแล้วเกินที่นั่ง ทปอ.ก็มีลำดับอยู่แล้ว ทปอ. ก็แค่ไล่จำนวนคนจากลำดับน้อยไปมาก หรือว่าถ้ากรณีที่นั่งขาด ทปอ.ก็ทราบยอดและสามารถนำที่นั่งที่เหลือเข้าระบบได้อัตโนมัติ)

การทำแบบนี้ เด็กจะติดรอบ 3 เยอะขึ้นพอสมควรเลยนะครับ แถมมหาวิทยาลัยก็ย่อมพอใจด้วย ที่ที่นั่งของตัวเองไม่สูญเปล่า (เพราะได้เด็กเยอะขึ้น) แถมยังได้เด็กที่มีคุณสมบัติตามที่ต้องการอีก การเพิ่มเวลาแค่ 3 วันแลกกับการที่เด็กติดในรอบ 3 เยอะขึ้น ผมมองว่ามันคุ้มมาก ๆ ครับ ก็อยากฝากทปอ. พิจารณาด้วยนะครับ

.

2. ปฏิทินที่มีความยาวนานเกินไป

เหมือนพี่ลาเต้เคยพูดในไลฟ์นึงอะครับ ว่าทปอ.บอกว่ามันเลื่อนเข้ามากกว่านี้ไม่ได้แล้ว ซึ่งผมก็มองว่ามันก็ไม่ได้ช้ามากนักนะครับ เพราะช่วงเดือนเม.ย. ก็คือช่วงของการสมัครรอบที่ 2 ที่ต้องใช้คะแนน GAT-PAT และ 9 วิชาสามัญด้วยนะครับ ซึ่งในแต่ละรอบก็ใช้เวลาประมาณ 1 เดือน ผมถือว่าเหมาะสมดีครับ ไม่ได้นานเกินไป แต่ถามว่า มันมีวิธีที่จะเลื่อนเข้าได้ไหม ลองอ่านข้อ 3 ครับ

. 3. ข้อสอบกลางที่มีความซ้ำซ้อน ปัญหา:

เช่น ข้อสอบวิชา 04 คณิตศาสตร์ กับวิชา 89 คณิตศาสตร์ 2 มีขอบเขตการออกข้อสอบเหมือนกัน (บทเรียนเดียวกัน หนังสือเล่มเดียวกัน) หรือการวัดผลวิชาฟิสิกส์ เคมี และชีววิทยาที่ซ้ำซ้อนใน PAT2 และวิชาสามัญ

. ข้อเสนอแนะ:

ควรให้มีการจัดระบบการสอบใหม่ โดยแบ่งการสอบเป็น

1) การสอบรายวิชาพื้นฐาน (เทียบเคียง O-NET เดิม)

2) การสอบเพื่อวัดความรู้ความสามารถ และความถนัดในด้านนั้น ๆ (ยุบรวม 9 วิชาสามัญ + PAT เป็นสนามเดียวกัน) . ตัวอย่าง

เช่น วิชาใหม่ XX คณิตศาสตร์พื้นฐาน ก็ดึงจุดดีของข้อสอบรหัส 04 [O-NET] (วัดแนวคิดพื้นฐานของแต่ละบท) รวมกับจุดดีของข้อสอบรหัส 89 [คณิต 2 วิชาสามัญ] (วัดเทคนิคและความเข้าใจขั้นสูง) มาไว้ด้วยกัน อาจจะออกตามแนว 04 สัก 60-70% และออกตามแนว 89 สัก 30-40%

หรืออย่างวิชาใหม่ XX ความถนัดทางเคมี ก็ดึงข้อดีของวิชา 59 [เคมี วิชาสามัญ] (ที่เน้นวัดแนวคิดพื้นฐานของแต่ละบท + ความเข้าใจในแต่ละบท) กับข้อดีของเคมีที่อยู่ในวิชา 72 [PAT2] (วัดความเข้าใจขั้นสูง + การนำไปใช้ในชีิวิต + ความเชื่อมโยงระหว่างบทเรียน + คิดวิเคราะห์) มาไว้ด้วยกัน ซึ่งสัดส่วนผมคิดว่าเหมาะสมก็คือ แนวคิดพื้นฐาน 75-80% และคิดวิเคราะห์ 20-25% (เสนอเพิ่มเติมว่าให้มีการแยกฟิสิกส์ เคมี ชีววิทยา โลกและดาราศาสตร์ใน PAT2 ออกจากกันได้แล้วนะครับ ทัศนศิลป์ ดนตรี นาฏศิลป์ใน PAT6 ก็ควรแยกออกจากกันด้วยครับ เนื้อหาในระดับม.ปลาย มันมีความเกี่ยวเนื่องกันน้อยมาก จนไม่เข้าใจเหมือนกันว่าจะรวมวิชาไปทำไม) .

*เหนือสิ่งอื่นใด การปรับแบบนี้จะไม่มีประโยชน์เลย ถ้าสทศ. ยังออกแบบทดสอบที่ยังไม่ได้มาตรฐานพอครับ การออกข้อสอบที่ "ยาก" เกินไปจนไม่สามารถวัดผลอะไรได้ มันไม่มีประโยชน์เลยนะครับ สทศ. หรือ ทปอ. ก็น่าจะรู้ตัวนะครับ ว่าการที่มหาวิทยาลัยแต่ละแห่งหนีออกไปรับตรงกันมากมายมหาศาลขนาดนี้ แล้วเหลือที่นั่งใน Admission พอเป็นพิธี ก็เพราะว่าข้อสอบไม่ใช่เหรอครับ ทั้งในเรื่องจำนวนข้อที่ไม่เหมาะสมกับเวลา (บางข้อยากคือยากจริงครับ ใช้เวลา 5-6 นาทีกว่าจะหลุด แต่ข้อง่ายก็มีครับ) เนื้อหาที่ถามความจำเกินไป (แบบเปิดหน้าหนังสือแล้วโควทข้อความมาออกข้อสอบ) รวมถึงความไม่โปร่งใสในเรื่องของข้อสอบ ถ้าสทศ. เจตนาบริสุทธิ์จริง ๆ ทำไมสทศ. จึงไม่เผยแพร่ข้อสอบพร้อมเฉลยอย่างเป็นทางการล่ะครับ? (เพราะถึงสทศ. จะเผยแพร่หรือไม่เผยแพร่ โรงเรียนกวดวิชาก็มีข้อสอบฉบับนั้นอยู่ดี) การเผยแพร่ข้อสอบพร้อมเฉลยอย่างเป็นทางการเป็นการสร้างความเท่าเทียมกันในระบบการศึกษาอย่างมีนัยสำคัญเลยนะครับ แถมเด็ก ๆ ก็คงไปเรียนกวดวิชาลดลงด้วย (เพราะเด็กบางคนเขาก็สามารถศึกษาจากแนวข้อสอบได้ครับ)

.

การลดสนามสอบ นอกจากจะเป็นการลด "ค่าใช้จ่าย" ของเด็ก ๆ แล้ว ยังเป็นการลด "ภาระหน้าที่" ของสทศ. อีกด้วยล่ะครับ สทศ. ก็ทำงานเร็วขึ้น ปฏิทินการรับเด็กอาจจะเลื่อนเข้าได้ 1 - 2 สัปดาห์เลยล่ะครับ

. ก็อยากให้ทปอ. พิจารณาด้วยครับ ไหน ๆ ทาง ทปอ. (โดยท่านประเสริฐ คันธมานนท์) บอกว่าจะพิจารณาระบบการใช้แบบทดสอบ GAT-PAT ใหม่อยู่แล้วครับ . มาร่วมพัฒนาการศึกษาไทยกันนะครับ ขอบคุณครับ

ผมเชื่อว่าผู้บริหารแต่ละท่านมีความมุ่งมั่นในการที่จะพัฒนาระบบการศึกษาของเด็กไทยให้ดียิ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ทัดเทียมและสามารถแข่งขันกับนานาประเทศไ้ด้อย่างมั่นใจในยุกต์โลกาภิวัฒน์นี้

ผมขอเพียงให้แต่ละท่านใจเย็นสักนิดเถอะครับ หากจะปรับจะเปลี่ยนอะไรก็ตามบอกเด็กเขาก่อนล่วงหน้าอย่างน้อย 3 ปี เพื่อให้เขามีเวลาวางแผน เตรียมการและปรับตัว ในการตอบสนองต่อนโยบายใหม่ๆ ของท่านบ้างครับ (เด็กไทยไม่ใช่จิ้งจกนะครับ)

คือเราเป็นเด็กซิ่วแล้วเราสงสัยอ่ะค่ะว่าในประกาศของกสพท.ฉบับที่ 1 มีคุณสมบัติของผู้สมัครตรงข้อ 1.6 บอกไว้ว่า ไม่เป็นผู้ที่กำลังศึกษาเกินชั้นปีที่ 1 ..........(ผู้ที่ศึกษาเกินชั้นปีที่ 1 หมายถึง ......... ได้แก่ ผู้ที่ลงทะเบียนเรียนในรายวิชาบังคับของชั้นปีสูงกว่าปีที่ 1 หรือผู้ที่มีสิทธิ์ลงทะเบียนเรียนในรายวิชาบังคับตั้งแต่ชั้นปีที่ 2 ขึ้นไปแม้จะได้ลาพัก/ได้รับอนุมัติให้ลาพักแล้ว) คือเราสงสัยว่าถ้าเราสอบปลายภาคของมหาวิทยาลัยเสร็จแล้วนั่นหมายถึงเราก็มีสิทธิ์ลงทะเบียนเรียนในรายวิชาบังคับชั้นปีที่ 2 แล้วเราจะสมัครกสพท.ได้ยังไงคะ ถ้าเราไม่ลาออกก่อนเพราะกว่าผล กสพท. จะประกาศ เราก็สอบปลายภาคเสร็จแล้ว ถ้าเป็นปีที่แล้วเนี่ย จะประกาศผลประมาณเดือนมีนาค่ะเลยไม่มีปัญหา

อีกปัญหานึงที่เจอ คือทำให้มีเด็กจำนวนมากไม่ได้เรียนในที่ๆอยากจะเรียนจริงๆ อาจจะติดตั้งแต่รอบพอร์ต แล้วก็ต้องตัดสินใจเอาไปเลย เพราะไม่รู้ว่าอนาคตตัวเองจะเป็นยังไงถ้าสละสิทธิ์ไปแล้วรอบหน้าเราจะได้แน่มั้ยก็ไม่รู้ ทั้งๆที่คณะที่อยากจะเข้าจริง คะแนนถึงด้วยซ้ำ แต่ด้วยระบบที่มันออกมาอย่างงี้ หลายคนเลยเลือกที่จะเอาคณะที่ติดในรอบแรกๆ ถ้าคนที่รับได้ก็เรียนไป อาจจะกลายเป็นเพิ่มเด็กซิ่วอีก หรือไม่ก็กลายเป็นสละสิทธิ์รอบแรก แล้วมายื่นรอบ3-4 แลเวก็กลายมาเป็นปัญหากั๊กที่แบบเดิมๆแบบที่หลายๆท่านได้พูดไว้แล้ว

อีกอย่างเกณฑ์รอบพอร์ตกับรอบที่ต้องใช้คะแนน ก็คนละเกณฑ์กันโดยสิ้นเชิง ในบางคณะรอบแรกตั้งเกณฑ์ไว้เหมือนจะเอาไปปั้นเป็นเด็กโอลิมปิก คะแนนสูง สัมภาษณ์โหด แต่พอมาเป็นรอบ 3-4 กลับลดเกณฑ์ลง ทั้งที่เด็กที่รับไปในทุกรอบ สุดท้ายก็ไปเรียนรวมกัน เพื่ออะไร?

รอบพอร์ตนี่เป็นปัญหามากสำหรับเราเลยค่ะ อยากยื่นก็ยื่นไม่ได้ เพราะไม่มีคะแนนสอบทีเค้าต้องใช้ เพราะเพิ่งรู้กฎแล้วก็ไม่เคยไปสอบล่วงหน้า เพราะไม่คิดว่าจำเป็นต้องใช้ T T

ใช่ค่ะ เราเองก็ต้องเดินทางวันที่ 8 มาเลื่อนแบบนี้ สิ่งที่เดินวางแพลนไว้มันสูญเปล่าเลย มันก็ไม่ใช่จะวางแผนวันนี พรุ่งนีไปเลย ต้องมีเรื่องของวีซ่าที่เาาทำเรื่องไป เปลี่ยนอะไรก็ไม่ได้ซักอย่าง เหมือนต้องสูญเงินทั้งหมดไปเลย ขอบคุณค่ะ

ตอนนี้สิ่งที่วิตกอีกอย่างก็คือวันที่เปิดให้ clearing house 1-3 มิย ถ้าเข้าใจไม่ผิด เราต้องเข้าไปเคลียร์ริ่งที่เวป ทปอ ใช่มั๊ยคะ

ถ้าเป็นอย่างนั้น ทุกคนก็ต้องรุมเข้าเวปเพื่อกดยืนยันสิทธิ แล้วเวปจะล่มอีกมั๊ย เวปจะรวนมั๊ย กดรหัส log in เข้าไปมันจะเด้งออกมามั๊ย มันจะขึ้นว่ารหัสเราผิดอีกมั๊ย ฯลฯ

แค่คิดก็กลัวแล้วค่ะ

เหมือนเคยได้ยินมาว่า การเปลี่ยนแปลงใดๆก็ตาม ต้องประกาศว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงอย่างเป็นทางการล่วงหน้าอย่างน้อย 3 ปี ด้วยค่ะ //ไม่แน่ใจนะคะ ข้อมูลอาจผิดพลาด แต่ถ้าประกาศก่อนนานๆสักหน่อย ก็จะมีเวลาเตรียมตัวสอบ วางตารางติว ตารางการอ่านหนังสือ และศึกษาระบบการเข้ามหาวิทยาลัยได้ดีกว่า

สวัสดีค่ะจขกท. เห็นด้วยทุกข้อนะคะและคิดว่าการแสดงความคิดเห็นครั้งนี้คงไม่ไปถึงทปอ. ถ้าหากDek61 ไม่รวมตัวกันไปประท้วงค่ะ การศึกษาของไทยเราล้าหลังกว่าประเทศเพื่อนบ้านอย่างเวียดนาม หรืออินเดียมากๆ น่าจะมีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงทั้งคนและระบบไปพร้อมๆกันค่ะ

ทั้งนี้ ขอเป็นกำลังใจให้Dek61 ทุกๆคนที่ยังไม่รู้ชะตาชีวิต ที่เรียนที่ไหนก้อเหมือนกัน ขึ้นอยู่กับตัวเราว่ามีความตั้งใจหรือไม่

การที่เปลี่ยนแปลงระบบการตลอดเวลา เราไม่เห็นด้วยอย่างมากเลยค่ะ คำนึงถึงเด็กที่เค้าไม่มีเน็ตบ้างไหมคะ แล้วการที่เว็บคุณเป็นแบบนี้ คนที่มีเน็ตตลอดเวลายังแย่เลย แล้วคนที่เค้าต้องหาเน็ต เค้าจะแย่ขนาดไหนคะ เราคิดว่าเราอยู่ในฐานะปานกลางนะคะ ไม่ได้ขาด ไม่ได้เกิน แต่ค่าใช้จ่ายก็ยังเยอะนะคะ เพราะเราก็ต้องสมัครทุกอย่างอยู่ดีเพื่อความชัวร์ ไหนจะโควต้า ค่าสมัครสอบต่าง ๆ ที่เรากวาดสอบมาค่ะ มันเยอะจริง ๆ นะคะ และการสอบทุกอาทิตย์เครียดมากจริง ๆ ค่ะ คือถ้าจะยื่นแบบนี้ ควรสอบสนามเดียวยื่นทีเดียวแต่เพิ่มอันดับดีกว่าไหมคะ

เราให้ความเห็นเรื่องที่ จขกทบอกว่าเรื่องคะแนน ielts,toelf ว่าสร้างความเหลื่อมล้ำนะคะ คือคณะหรือภาคที่จะรับดูคะแนนพวกนี้ควรเป็นภาคอินเตอร์อยู่แล้วใช่มั้ยคะ มหาลัยคงต้องการคัดเด็กที่ครอบครัวสามารถจ่ายค่าเรียนได้โดยไม่ลำบากด้วยแหล่ะค่ะ ถ้าจ่ายค่าสอบวัดระดับภาษาอังกฤษได้แล้วเด็กๆคงจะจ่ายค่าเรียนได้โดยไม่น่าจะลำบากมากนะคะ ปล.คะแนนสอบวัดก็อีกเรื่องนะคะ

ปล. สู้ๆนะคะเข้ามหาลัยสนุกกว่าสอบเข้าแน่นอนค่ะ เป็นกำลังใจให้นะคะ

มีใครโทรเบอร์นี้ติดมั้ยครับช่วยบอกผมที 0235421202 ทำไมผมโทรไม่ติดคือบัญชีผมมีปัญหาอะครับ คือ ทปอ ให้เบอร์นี้มาทำไมทั้งๆที่โทรไปบอกไม่มีเบอร์นี้

ใช่ค่ะ เห็นด้วยกับกระทู้นี้มาก อยากให้ทางผู้ใหญ่รับทราบถึงปัญหา ตอนนี้สภาพจิตใจหนูแย่มากค่ะ และคิดว่าเพื่อนๆหลายคนก็คงไม่ต่างกัน หนูตั้งใจกับการทำGat-Pat เพื่อรอยื่นแอดมิชชั่น โดยแน่วแน่ หนูไม่ได้สนใจรอบ 1,2,3 แต่ละวันนั่งนับวันรอยื่นแอดมิชชั่น รอ รอ รอ เพื่อนทยอยติดกันไป ครอบครัวก็เริ่มกดดัน แม้ว่าหนูจะอธิบายแค่ไหน ก็ยังมีผู้ใหญ่รอบตัวอีกหลายคนที่ไม่เข้าใจ TCAS แล้วถามหนูตลอดว่าติดอะไรแล้วลูก ติดที่ไหน เจอคำถามแบบนี้ทุกวันจนจิตตก แพลนที่ตั้งใจไว้ว่าจะไปเที่ยวปิดเทอมก็ล่ม เพราะเพื่อนก็ไม่มีใครอยากไปเที่ยวกันตอนนี้ ตอนที่ใจยังว้าวุ่น ปิดเทอมนี้ เป็นปิดเทอมที่ว่างเปล่าและทรมานที่สุด หนูยังไม่มีที่เรียน ไม่มีอารมณ์ไปเที่ยวที่ไหน น้องๆมัธยมก็เริ่มเปิดเทอมกันแล้ว แล้วหนูล่ะ ตอนนี้หนุเป็นนักเรียนหรือนักศึกษา ใช้ไม่ได้ทั้งสองคำเลยค่ะ จิตตกทั้งวันเลย ยิ่งเลื่อนแอดมิชชั่นออกไป หนูยิ่งเคว้งคว้าง ตอนนี้อยากจองหอก็ทำไรไม่ได้ เผื่อจองไปแล้วไม่ติดที่ที่ตั้งใจไว้ พวกหนูทำอะไรไม่ได้นอกจากรอเลยใช่มั้ยคะ หนูทรมานกับระบบนี้มาก และเสียใจกับระบบนี้มาก หากเห็นกระทู้นี้และความคิดเห็นของหนู ฝากพิจารณาด้วยค่ะ

ตรงใจมากๆ เห็นด้วยทุกประการค่ะ ว่าแต่จะทำอย่างไรให้ข้อคิดเห็นเหล่านี้ ไปถึงผู้บริหารทปอ. ตลอดจนผู้บริหารระดับประเทศ ที่มีส่วนเกี่ยวข้องได้อ่านและใส่ใจในการแก้ไขต่อไปค่ะ

ผิดหวังกับการแก้ปัญหาของทปอมากๆ การเลื่อนตารางทั้งหมดออกไปเป็นการแก้ปัญหาที่ดีจริงๆหรอ แล้วคนยึดกำหนดการก่อนหน้านี้จะต้องรู้สึกยังไงอ่ะ เราเป็นเด็กตจวคนนึงที่จองตั๋วเครื่องบินไปแล้วสุดท้ายก็ต้องทิ้งใช่ไหม จะถามหาความรับผิดชอบจากใครได้คะแบบนี้ ผิดที่เรารีบจอง(ตามกำหนดการเดิม)ก่อนหรือผิดที่ใคร

การสอบทั้ง 5 รอบ ย่อมมีค่าใช้จ่ายจำนวนมหาศาล ที่อื้อประโยชน์ต่อธุรกิจขายอนาคตทางการศึกษามากมาย ถึงมีการสอบหลายวิชาที่ยุ่งยาก เพราะจะได้อิ่มกันทั่วหน้า

ถ้าจะบอกว่าทำเพื่อเด็ก และทำเพื่อพัฒนาคุณภาพการศึกษา ก็สมควรจัดสอบ 2 ครั้ง ในเดือนเมษายน และ ตุลาคมของทุกปี กำหนดวิชาสอบเท่าที่สอนในระดับชั้น ม.ปลายก็พอ และมีค่าใช้จ่ายต่อรอบแบบเหมาจ่ายครั้งละ 500 บาท (ไม่รวมการสอบโตวต้าประเภทต่างๆ) ส่วนการทำแฟ้มผลงานควรกำหนดเลยว่าจะใช้เป็นคะแนนกี่ % ของผลคะแนนรวมในแต่ละรอบ

เห็นด้วยกับรอบพอร์ตนะคะ แค่เราทำเองแล้วปริ้นเองก็เกือบ500แล้ว บางคนจ้างทำด้วย แถมคะแนนพวกนั้นค่าสอบแพงมากเราคิดว่าเราอาจสอบได้แต่มันแพงเกินกว่าที่เราจะจ่ายเงินสอบค่ะ แล้วเกณฑ์แต่ละรอบคือเราอ่านหลายครั้งก็ยังไม่ค่อยเข้าใจ ระบบหลายอย่างรวน รอบ2เราได้ยื่นที่สถาบันนึง ปรากฏว่าวันประกาศผลคนติดสัมภาษณ์เขายังไม่อัพสถานะว่าเราจ่ายค่าสมัครแล้วเลยค่ะทั้งๆที่เราจ่ายแล้ว จ่ายวันสุดท้ายแบบเจ้าหน้าที่ของเขาเองส่งใบจ่ายเงินมาให้ในเมลล์เองเพราะเราหาไม่เจอค่ะ คือเรารู้สึกเฟลกับการสอบรอบนี้มาก แม่ชอบถามเราว่าทำไมไม่โฟกัสกับการหาที่เรียน ทำไมถึงอยากทำนู่นทำนี่ คือมันได้แต่รออะค่ะ เราก็หานะ ไม่ใช่ไม่หา แต่ทำยังไงอะ จะให้รออย่างทรมานใจงี้หรอคะ ระบบเองเหมือนกัน เลื่อนขนาดนี้ต้องเลื่อนเปิดเทอมมหาลัยนะคะ หลายที่เปิดกลางสิงหา แต่เราว่าตอนนั้นน่าจะยังไม่เสร็จรอบ5ด้วยซ้ำอะค่ะ เราเครียดมากเลยค่ะ

จองตั๋วไปเมกาแล้ว บินวันที่6มิย สัมภาษณ์เสร็จก็บินเลย แต่เลื่อนแบบนี้ก็หมดกัน

ใครจะรับผิดชอบ

รอบใช้คะแนนภาษาอังกฤษ มีแต่จะเพิ่มความเหลื่อมล้ำที่มีมากอยู่แล้วให้มากเข้าไปอีก

ค่าสมัครสอบแพงมาก เด็กจนๆหรือฐานะกลางๆไม่มีเงินสมัครหรอก 

ค่าสมัครสอบเหมือนที่จขกทบอก ไม่ต่ำกว่าหกพัน และไม่ได้สอบแค่วิชาเดียว ไหนจะ bmat sat math sat bio sat chem sat physics ค่าสมัครสอบแต่ละอย่างไม่ถูกเลย ค่าหนังสือ sat เล่มนึงไม่ต่ำกว่าห้าร้อยบาท ยิ่งถ้าลงเรียนพิเศษอีกยิ่งแพง วิชานึงคอร์สละไม่ต่ำกว่าหมื่น

เป็นการ"ตัดคู่แข่งจำนวนมาก"ให้เด็กบ้านรวย มีเงินก็ได้เปรียบไปอีก คนรวยสบายไปเลย ลดคู่แข่งไปได้จำนวนหลักหมื่นถึงหลักแสนคน

ผมมองว่าระบบนี้มันเป็นเรื่อเงินๆล้วนๆเลยครับ เหตุอย่างเช่น ที่รอบ3แบบไม่อันดับคือทำให้มีคนหลุดเยอะ ไม่งั้นปานนี้คงทำแบบมีอันดับแล้วละ ทำให้คนเหล่านั้นต้องมาเสียค่าสมัครรอบ4มากว่าปกติซึ่งเป็นทุกๆปี(ทุกมหาลัยรับเกินระเบียบการ) หรือไม่ก็เป็นการให้เด็กเห็นความสำคัญต่อGPAX ONET ที่ไม่ได้ตั้งใจ ส่งผลต่อให้รุ่นน้องในรรเห็นความสำคัญการเกบGPA เห็นความสำคัญต่อonetที่วัดผลระดับของรร

ออยากรู้ว่าทปอ.เขารับรู้ถึงปัญหาพวกนี้ที่พวกเรากำลังเผชิญอยู่มั้ย ทำไมรู้สึกเหมือนเขาไม่รับรู้แฃะคิดว่าระบบนี้ดีมากๆเลย

ก่อนอื่น ต้องขอชมเจ้าของกระทู้ จากใจจริงค่ะ ตรงประเด็น และได้ความรู้เพิ่มด้วยค่ะ

-เห็นด้วยมากๆกับการยื่นพ็อตรอบแรกค่ะ ต้องพอมีฐานะระดับหนึ่งเลย เพราะค่าสอบแต่ละวิชาสูง และถ้าจะติวทุกวิชาก็ใช้เงินอีกก้อนหนึ่ง และเวลาเตรียมตัวซักพักหนึ่งสำหรับเด็กที่ไม่ได้มาจากภาค Inter เกรดเฉลี่ย แต่ละที่ ก็คนละมาตรฐาน

-สงสารเด็ก คนอื่นๆ ที่ควรติด. รอบ3เพราะคะแนนถึง แต่ถูกกันที่โดย พวกวิทยาศาตร์สุขภาพที่มีคะแนนสูง

(เป็นเหตุผลให้เด็กบางคนเลือกอันดับเดียวค่ะ เพราะกลัวไปกันที่คนอื่นๆ ที่ก็พยายามและเหนื่อยมาไม่น้อยเหมือนกัน แต่คนที่เลือกหลายอันดับก็ไม่ผิด เพราะเป็นสิทธิ์ และความรอบคอบใว้ก่อน)

เพราะเงื่อนไข รอบ3กับรอบ4 คนละเงื่อนไขกัน ควรหาทางออกที่ดี และยุติธรรมให้เด็กๆ

-หลายท่านในนี้ มีความเห็นดีๆ และสร้างสรรค์มากค่ะ

-ยอมรับค่ะว่าเครียดมากค่ะ กับการรอ (รอแล้วรออีก ล่มแล้วล่มอีก)และเลื่อนเวลา แค่ต้องลุ้นว่าจะติดที่ไหน ก็พอประมาณแล้ว ระบบ ที่จะเป็นมาตราฐานระดับประเทศ ยังไม่สามารถ เชื่อถือ เอาความแน่น่อนได้อีก เฮ้อออออ

1.คือถ้ามันปรับระบบได้อยากให้ปรับลดตรงรอบport ลงมาหน่อยนะ มี 1/1 กับ 1/2 คือ มันกินเวลามากเกินไป ทำให้รอบที่2 ต้องเหลื่อมล้ำออกไป รอบ 1/1 วันที่1ตุลาจน30 พฤศจิ ตลอดเวลา2 เดือน นี้ควรให้เด็กตะลอนๆไปยื่นกันให้หมดซะ (สำหรับอันนี้ก็คงต้องให้ไปเเก้ไขในdek62) เเต่ก็ยังติดที่มหาลัยต้องใช้นู้นบ้างนี่บ้างอีก อันนี้คงต้องให้ทางมหาลัยเเก้ไปด้วยล่ะ (เพื่อนของผมไปสมัครรอบ1 ของมหาลัยหนึ่งไม่มีอะไรไปเลยครับ Port ไม่มี เเต่ติด? ไม่ใช่ของเอกชนนะ) ส่วนรอบ1/2 เนี่ย ควรเอาออกไปเลย กินเวลามากกกกกกกก ประกาศผล มีนา...เหอะ

2.รอบโควต้าเนี่ย ควรปรับให้ไปอยู่เเทนรอบ 1/2 ซะ เวลาจะได้เลื่อนขึ้นมาไวๆขึ้น ส่วนพวกคะเเนนต่างๆก็ให้ใช้ตามความเหมาะสมมีการสอบเข้าเพื่อวัดผลเด็ก จะได้ไม่ต้องมีการเหลื่อมล้ำเเบบใช้คะเเนนเกรดเยอะก็ติดเลย เเต่ช่วงนี้ถ้าเลื่อนมาต้องไปสอบ มันก็ต้องเสียเวลาเรียนอีก ก็ตรงนี้อยากให้ทางโรงเรียนอีกหลายๆที่ปรับเร่งให้เรียนให้หมดในม.6เทอม1 ไปซะ เทอม2 ก็จัดติวที่โรงเรียนเอา แล้วเกรดก็ให้ปรับลงมาใช้5เทอมเเทน (เเต่ก็เทอม2 ต้องมาประมานนี้ ห้ามโดด) เพราะที่โรงเรียนผมเองในปีก่อนก็ใช้หลักสูตรแบบนั้น

3.รอบที่3 อะ ถ้าเลื่อนมาพอดีกับรอบ2 มันก็จะยังไงๆอยู่ เลื่อนมาสัก หลังจากประกาศพวกgat pat onet 9วิชา (อยากให้เอารวมในแบบที่ จขกท.บอกอะเเหละ เเต่เดี๋ยวกระทรวงศึกษาจะไม่ได้ดูดตังเด็ก) ก็จะประมาณ หลังจบสงกรานต์ สักวันที่ 17-18 ก็เปิดให้สมัครไป(อันนี้ใครห่วงไปเล่นสงการน์ก็เเล้วเเต่คุณเลยครับ) ยาวไปจนสัก 25-26 จากนั้นก็ประกาศ สัก 9-13 พ.ค.ให้ไปเคลียริ่งตอน 17-21 พ.ค. ประกาศ 31 พ.ค. แบบนี้ มันน่าจะไวกว่า

4.รอบ4 อะ เลื่อนมาสัก 28 พ.ค ให้ไปสมัคร ไม่ก็ให้ไป1มิ.ย. เลย เพราะอันนี้ไม่มีเคลียริ่ง ก็ประกาศสัก กลางเดือน 20 มิย.ไป

5.รอบ5 ก็เปิดให้สักก่อนประกาศรอบ4 วันที่ 15 มิ.ย.ยาวๆไปจนจบเดือน ก.ค. ตามเดิม

ส่วนเรื่องการเปลี่ยนแปลงเอาคนเข้าไปไรงี้ก็ตามที่ จขกท. เลย ในที่นี้อยากให้เปลี่ยนทามไลน์เวลามากกว่า

จากใจdek61

เราเห็นด้วยว่าทปอ.ประกาศรายละเอียดการเปลื่ยนระบบใหม่ช้าเกินไป(หัวข้ออื่นก็เห็นด้วยหมดแต่เราขอพูดถึงอันนี้) โอเคเราพอรู้มาบ้างแล้วว่ารุ่นเราเค้าจะเปลี่ยนระบบใหม่นะ แต่ระหว่างก่อนถึง 31 พ.ค 60 เราเคว้งมากๆ เราไม่รู้ว่าเราควรจะเตรียมตัวยังไง ต้องเจอกับอะไร แล้วเราจะเตรียมตัวทันมั๊ย ในเมื่อทปอ.ยังไม่ประกาศซักที

และการรับรอบพอต เราคิดว่ามันเหมาะสมแค่บางคณะ อย่างเช่นพวกสายสถาปัต สายนิเทศ ที่มันต้องใช้ผลงานที่แสดงให้เห็นถึงความถนัดด้านนั้นจริงๆ แต่บางคณะเราก็เห็นว่าเขาไม่ได้วัดกันที่ความสามารถที่สายงานนั้นควรมีเลย แค่มีเกรดที่ถึง(อย่างที่รู้ว่ารร.แต่ละรร.มาตราฐานไม่เท่ากันตามที่จขกท.บอก)กับพอตดีๆก็เข้าได้

ในความเห็นของเรา

๑.เราเห็นด้วยกับการจัดสอบหลังเรียนจบแล้ว แต่ควรจัดให้มีการสอบสองรอบเหมือนรุ่นพี่ปีก่อนๆ ยิ่งปีเราเป็นปีแรกที่เปลี่ยนระบบ

๒.รอบพอร์ต เราเห็นด้วยที่เอามาไว้รอบแรก คนที่มีผลงานการแข่งหรือการเข้าร่วมกิจกรรมที่มหาลัยต้องการจะได้ใช้ผลงานนั้นๆ แต่เราว่าทปอ.ประกาศช้าไป เพราะในการเตรียมตัวรวบรวมข้อมูลต่างๆเราใช้เวลานานมาก และเราเหนื่อยกับการทำพอร์ตมากเช่นกัน ซึ่งมันไม่ได้ช่วยให้เราประหยัดขึ้นเลยค่ะ ค่าสมัคร(ที่ขึ้นอยู่กับมหาลัย)ก็ไม่ใช่ว่าจะถูกทุกคณะ ที่สำคัญเราหมดค่าปริ้นพอร์ตไปพันกว่าบาท เรามีสิทธิ์สัมภาาณ์ค่ะ ต้องเสียเงินจ่ายค่าตรวจร่างกายอีกเกือบพัน แต่เราหลุดค่ะ55555

๓.เนื่องจากเราสอบทุกสนามหลังจบการศึกษา เราก็เข้าใจว่ามันก็จะช้ากว่าปีก่อนๆ แต่ถ้าย่นเวลาให้เร็วกว่านี้ได้จะดีมาก

๔.การสมัครรอบสาม กว่าจะเปิดสมัคร กว่าจะประกาศต่างๆนา เราต้องรอนานมากๆค่ะ ย้ำว่ามาก ซึ่งในระหว่างนี้มันทำให้เด็กอย่างเราเครียดมากกกกกกก ญาติผู้ใหญ่เราถามทุกวันเลยค่ะ ว่าติดที่ไหน มีที่เรียนรึยัง(ซึ่งเราเข้าใจนะคะว่าถามเพราะอยากรู้และเป็นห่วง แต่การถามแบบนี้เป็นการทำร้ายจิตใจเรามากค่ะ เพิ่มความเครียดความกดดัน เราไม่อยากเจอหน้าญาติคนไหนเลยค่ะ) ทั้งในตอนนั้นยังต้องอัพโหลดไฟลต่างๆเองอีก พอประกาศสมัครเว็บก็ล่ม ซึ่งเราก็เข้าใจว่าทปอ.คงพยายามแก้ปัญหาเชนกัน จนในที่สุดก็ประกาศขยายเวลา ซึ่งกระทบกับรอบที่สี่และรอบที่ห้าด้วย เราคิดว่าคนที่รอบรอบที่สี่(เพราะใช้คะแนนไม่เหมือนกัน)ก็ยิ่งเครียดกับการรอเข้าไปใหญ่ และการที่ให้คนที่ "เคลียร์ริงเฮ้าส์" รอบพอร์ตไปแล้ว สามารถสละสิทธิ์แล้วมาสมัครได้นี่มันไม่แฟร์มากๆเลยค่ะ เพราะนอกจากเขาจะกันที่ในรอบที่หนึ่งแล้ว เขายังมาแบ่งโอกาสในการติดมหาลัยในรอบนี้ด้วย อีกเรื่องคือการที่สามราถติดได้ทั้งสี่อันดับ คือมันกันที่ค่ะ ถ้าเกิดติดทั้งสี่อันดับ และสามรถเลือกได้เพียงอันดับเดียว อีกสามที่ที่ติดก็ต้องเสียไป และยังไม่มีการรันลำดับสำรองอีก ปัดที่ว่างไปให้รอบสี่โดยที่ใช้คะแนนไม่เหมือนกันอีก ถ้าหากคนที่คะแนนเก้าวิชาสูงพอที่จะเข้าคณะที่ตัวเองชอบได้ แต่ถูกกันที่โดยการติดสี่อันดับ แล้วต้องรอยื่นรอบสี่ที่ใช้แกทแพท แต่แกทแพทนั้นทำได้ไม่ดีเท่าเก้าวิชาสามัญ เราก็หลุดอีก โดยส่วนตัวแล้ว รอบสามนี้เราเฟลมากๆค่ะ

๕.รอบสี่ ก็ต้องรอหลังรอบสาม มันเครียดมากแน่ๆค่ะ เด็กจะต้องทนกับแรงกดดันและคำถามของพวกผู้ใหญ่ ไหนจะกังวลเรื่องคณะ มหาลัย หอ และ ค่าใช้จ่ายต่างๆที่เสียไปแต่ยังไม่มีที่เรียน คนที่เคลียร์ริงเฮ้าแล้วสละสิทธิ์แล้วมาสมัครรอบนี้ได้อีกรึเปล่า

๖.รอบที่ห้า ก็ไม่รู้จะเปิดทุกคณะรึเปล่า คณะที่อยากเรียนจะเปิดมั้ย แล้วมันต้องรออีกหลีงรอบสี่ ซึ่งก็ไม่รู้ว่าจะติดมั้ย ถ้าเกิดหลุดก็คงเตรียมตัวซิ่วไม่ทัน และปัญหาอีกหลายอย่างที่เราต้องกังวล

ซึ่งเราหวังว่าทปอ.จะแก้ไขปัญหานี้ได้นะคะ จริงๆเราว่าระบบนี้ดี แต่ยังไม่พร้อม สุดท้ายนี้ก็อาจจะยาวและงงๆหน่อย และเป็นความคิดเห็นส่วนตัว ถ้าผิดพลาดอะไรก็ขออภัยนะคะ

เห็นด้วยกับจขกท.ทุกประการเลยค่ะ เราว่าถ้ารวบรวมความคิดเห็นหรือข้อเสนอแนะไว้ครบถ้วนหรือมากพอแล้วก็มาช่วยกันลงชื่อแล้วเสนอแนวทางแก้ไขให้ทปอ.ก็ดีนะคะ ไม่ก็ส่งอีเมล์หรือจดหมายไปทางนั้นเลย บอกว่าเราเจอปัญหาอะไรและอยากให้เปลี่ยนยังไง ถ้าปีนี้ไม่ทันอย่างน้อยจะได้ให้เขาแก้ไขในปีต่อๆไป เพราะแสดงความคิดเห็นบนนี้ทปอ.อาจจะไม่ได้มาเห็น หรือเห็นแล้วไม่ได้สนใจก็ได้ค่ะ ทางที่ดีควรทำเป็นเรื่องเป็นราวและให้เป็นทางการเลย ที่ไม่ใช่แค่พูดบนอินเตอร์เน็ต เขาอาจจะมองว่าเราแค่บ่นเฉยๆไม่จริงจังได้ค่ะ

Ripการศึกษาไทย

เพื่อให้เป็นไปตามหลักการที่ ทปอ.กำหนดไว้จริงๆ (ไม่ใข่กำหนดไว้สวยๆแล้วทำจริงอีกอย่างตรงข้ามกับหลักการโดยสิ้นเชิง) ขอเสนอให้ ทปอ.ปรับปรุงระบบ ดังนี้ :

1.ยกเลิกการสละสิทธิ์ของคนที่ติดในรอบ 1 และ รอบ 2 เพราะถ้าให้สละสิทธิ์ได้จะเปิดโอกาสให้คนที่ไม่ตั้งใจจะเรียนคณะนั้นลองสมัครเล่นเพื่อดูว่าตนจะติดหรือไม่เป็นการกีดกันเด็กอื่นที่อยากเรียนจริง(ขัดหลักการทปอ.) และทำให้เพิ่มจำนวนผู้สมัครทั้งในรอบ 1,2 และรอบต่อๆไปอีกจากจำนวนผู้สละสิทธิ์ ซึ่งเป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้การสมัครรอบ3 เวปล่มไปแล้ว

2.ยกเลิกการให้เด็กเก่งมากๆติดได้ 4 คณะ(ส่งผลให้ขัดหลักการทปอ.อย่างแรง) เสนอให้มีสิทธิ์ติดได้คณะเดียวตามลำดับที่เด็กเลือกคณะที่อยากเรียนมากไปหาน้อย เพื่อให้จัดเด็กเข้าเรียนให้ได้มากและเร็ว ลดจำนวนเด็กที่จะสมัครในรอบต่อไป และที่สำคัญคือให้ความเป็นธรรมแก่เด็กที่มีคะแนนรองๆลงไปในรอบ3 ซึ่งควรจะได้เรียนแล้ว

ดังนั้นถ้าทปอ.ยังยึดหลักการที่ประกาศไว้และเห็นแก่ประโยชน์ของเด็กๆส่วนใหญ่ (โดยไม่หวังประโยชน์จากค่าสมัครสอบที่เพิ่มขึ้นจากการให้เด็กสมัครและสอบหลายๆรอบ) ช่วยประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายของเด็ก ผู้ปกครอง รวมทั้งผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด ก็ขอให้รีบแก้ไขระบบโดยเร็วด้วย ทปอ.ก็จะได้รับการยกย่องสรรเสริญโดยทั่วกัน

ผมขอบคุณน้องมากที่แสดงความรู้สึกที่ตรงกับความเป็นจริง ในสถานการณ์ของ เด็ก # 61 ผมเป็นผู้ปกครองคนหนึ่ง ซึ่งผ่านในระบบ Entrance มาก่อน และเฝ้ารอการเปลี่ยนแปลงของระบบการรับเด็กเข้าศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษามาในช่วงหลาย ๆ ปี ที่ผ่านมา เห็นการเปลี่ยนแปลงในทางที่แย่ลงของระบบการศึกษาของคณะกรรมการผู้มีส่วนได้เสียกับการรับเด็กเข้าศึกษาต่อระดับ อุดมศึกษา สร้างความยุ่งยาก ในเด็กในระดับเตรียมอุดม

สร้างผลประโยชน์มากมาย ให้กับ สถาบันกรวดวิชาต่าง ๆ ทำลาย สุขภาพจิตของเด็ก ๆ ใน ระดับนี้มากมาย

จะเห็นได้ว่า การเปลี่ยนแปลงระบบ การรับเด็กเข้าเรียนต่อในสถาบัน อุดมศึกษาทั้งของรัฐฯ และ เอกชน ไม่ตอบโจทย์ การคัดเลือกบุคคลเข้าศึกษาต่อ ทั้งไม่เหมาะสม สำหรับ เด็กที่ฐานะยากจน เด็กที่ไม่ได้เรียนในห้องพิเศษ เด็กที่ไม่มีเวลาด้วยเหตุผลอื่น ๆ อีกมากมาย การทำให้เด็กต้องทุ่มเทเพื่อจะใช้ชีวิตจริง ๆ ที่ต้องหาประสบการณ์ในการบ่มเพาะ จิตใจ สมอง ร่างกาย และการสร้างวุฒิภาวะของตนให้เหมาะสมกับสภาพชีวิตจริง ๆ ของสังคม เพราะต้องเฝ้าที่จะไปเรียนพิเศษ เสียทุกอย่าง ในการหาประสบการณ์ชีวิต ต้องเฝ้าแข่งขันตลอดเวลา

ืืืืื ส่วนเด็กที่สามารถเข้าไปศึกษาต่อในคณะที่ตนต้องการ พอจบออกมาก็ไม่สามารถนำความรู้ มาใช้ได้อย่างเหมาะสม ทั้งจรรยาบรรณ และจิตสำนึกของการทำงานเพื่อตนเอง ก็ไม่ได้มีประโยชน์ต่อสังคม พึงสร้างความเห็นแก่ตัวให้สังคมนี้ มาก มาก มากขึ้น จากการจัดระบบการรับนักศึกษาที่มีปัญหามากมาย

ในระบบ #TCAS 61 ในรอบ 3 ทาง ทปอ. กำหนดให้เด็กเก่งติดได้ถึง 4 อันดับ ซึ่งไม่มีเหตุผลมาแย้งได้เลยว่าไม่ได้กันที่ให้เด็กอื่น ๆ ขอร้องเรียนไปยัง ทปอ. ว่าเด็กส่วนใหญ่ค่อนข้างเครียดกับระบบนี้ ไม่สามารถวางแผนการเรียนต่อในระดับอุดมศึกษาได้ เพราะยังไม่รู้จะติดคณะไหน เมื่อไหร่ อยากให้ทาง ทปอ. กลับมาใช้ การรับเด็กเข้าศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษา ในระบบ Entrance เช่นเดิม คือ มี โควต้าของแต่ละพื้นที่ , Entrance กลาง

และตามด้วยการรับรอบ 2 ก็น่าจะเพียงพอ และลดปัญหาความยุ่งยากต่าง ๆ ได้

สุดท้ายนี้ต้องขอแสดงความรู้สึกเป็นห่วงเด็กปีนี้บางคนที่ต้องรอคณะที่ตัวเองต้องไปเรียนในอนาคต ไม่รู้จะได้วันไหน พอไปช้าก็จะเจอปัญหาอีกมากมายในสถานศึกษาแห่งใหม่ จึงจำเป็นต้องอดทน และมีสติมากมากนะครับเพราะวันหนึ่ง ทุกคนต้องเป็นพลังที่สำคัญที่จะพาประเทศนี้ให้รอดพ้นจากทุกสิ่งอย่างในอนาคตครับ

สวัสดีคัปผมเข้าระบบtcasทำไมพอเข้าอีกทีมันบอกว่าuseนี้กำลังเข้าใช้งานในระบบเข้าในคอมก็เปนแบบนี้ลืมรหัสก็เป็นแบบนี้แล้วต้องเข้ายังใงคัป

มีคนที่สมัคร tcat แล้วขึ้นว่า

ขออภัยไม่พบข้อมูลของคุณในฐานข้อมูลของศูนย์พัฒนาระบบข้อมูลการศึกษา i CAS ภายใต้การดูแลของสำนักงานคณะกรรมการศึกษาชั้นพื้นฐาน