Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

หมดไฟเมื่อนิยาย 'ไม่มีคนอ่าน'

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
มาแล้วค่ะกับ SmolMety นักเขียนสายดราม่า (ที่ไม่ใช่ประเภทนิยาย) วันนี้เรามีเรื่องที่อยากจะมาถามทุกคนที่กำลังเขียนนิยายลงเว็บไม่ว่าจะเป็นเว็บไหนก็ตามแต่

ใครหมดไฟบ้างคะเมื่อนิยายไม่มีคนอ่านเลย

โอเค เรารู้ค่ะว่ามันฟังดูเหมือนเป็นอาการน้อยใจ แต่ช่วยอ่านก่อนนะคะว่าที่ไปที่มามันเป็นอย่างไร คืออย่างแรกเลยเราเขียนนิยายตามความชอบและความต้องการส่วนตัว เราอยากแชร์เรื่องราวที่แต่งในสมองให้คนอื่นได้รับรู้ แต่เมื่อเราแชร์ออกมาแล้วก็เป็นปกติของมนุษย์ที่ต้องการคนรับฟังใช่มั๊ยคะ? การที่นิยายเราไม่มีคนอ่านนั้นมันทำให้เรารู้สึกว่าเหมือนถูก 'เมิน' ไม่ต่างจากการที่เราพูดเล่าอะไรให้ใครฟังแล้วไม่มีคนสนใจเลยนี่แหละค่ะ

อย่างที่สองคือเมื่อเราถูก 'เมิน' สิ่งที่ตามมาคือการที่เราจะตั้งคำถามกับตัวเองว่า 'ถ้าไม่มีคนอ่านแล้วเราจะเขียนต่อทำไม?' อะ อันนี้คือประเด็นที่ทำให้ไฟหมดแล้ว การที่ไม่มีคนอ่านคือการที่ทำให้นักเขียนอย่างเราหมดความมั่นใจในฝีมือ เราจะตั้งคำถามมากมายในสมองว่า 'เราเขียนไม่สนุกใช่มั๊ย?' 'นิยายเรามันห่วยแน่ๆ' หรือแม้กระทั่ง 'เพราะตัวเองเป็นหน้าใหม่ที่ไม่มีใครไว้ใจในฝีมือ' ขึ้นมา มันดูเป็นเหมือนการเรียกร้องความสนใจนิดๆ แต่เราก็ไม่สามารถเรียกร้องคนอ่านให้มาอ่านได้เพราะนั่นจะทำให้ดูเหมือนเป็นการเรียกร้องความสนใจมากเกินไปจนกลายเป็นความหมั่นไส้เอามากกว่า

เราขอเบรกคนที่กำลังจะเม้นท์ว่า 'เขียนต่อไปเรื่อยๆ โดยไม่ต้องไปสนอะไรทั้งสิ้น' ก่อนนะคะ ทุกคนไม่เหมือนกันค่ะ บางคนเจอเรื่องแย่ๆในชีวิตจริงแล้ว การมาถูกเมินในสังคมแบบนี้อีกยิ่งทำให้แย่ลงไปอีก ยิ่งนักเขียนคนไหนที่มีภาวะซึมเศร้า เมื่อไม่มีคนอ่านเขาก็ยิ่งจะคิดหนักไปอีก แต่ถ้าคนที่สามารถเขียนต่อได้โดยไม่สนอะไรนั้นเราขอชื่นชมค่ะที่จิตใจของคุณเข้มแข็งไม่ย่อท้อมาก

อย่างไรก็ตามสำหรับคนที่กำลังหมดไฟนั้น...เราคือเพื่อนกันค่ะ 555555 วิธีแก้นั้นอาจจะเป็นเปลี่ยนไปทำอะไรอย่างอื่นสักพักเพื่อรักษาจิตใจตัวเองไม่ให้ฟุ้งซ่านกับเรื่องนี้ไปก่อน การที่ไม่มีคนอ่านมันดีอย่างหนึ่งตรงที่เราสามารถเปิดไหดองโดยไม่ต้องมากังวลกับคนที่จะมาท้วงนิยายเรา (พยายามมองโลกในแง่ดีสุดๆ) ขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนรวมถึงตัวเราเองด้วยนะคะ ฮืออออ

แสดงความคิดเห็น

>

41 ความคิดเห็น

เด็กหญิงจากโลกอดีต 31 มี.ค. 62 เวลา 21:57 น. 2

เราว่านักเขียนทุกคนย่อมต้องผ่านจุดนี้กันทั้งนั้นค่ะ ความรู้สึกท้อไม่ว่าจะด้วยเพราะไม่มีคนอ่าน หรือเพราะสาเหตุอื่น แต่มันก็จะผ่านไป พอรู้สึกแบบนี้เราก็จะเริ่มตระหนักว่าเขียนนิยายเพราะอะไรกันแน่


บางคนก็จะเลิกเขียน เพราะเขียนเพราะต้องการให้คนมาอ่านเยอะๆ แต่บางคนก็จะฮึดสู้ เพราะเขียนด้วยใจรัก อยากจะพัฒนาให้ดี คนอ่านไม่เยอะก็หาจุดปรับปรุง พยายามแก้ไขงานและเขียนเพื่อฝึกทักษะไปเรื่อยๆ


เราไม่ได้อยากว่าหรือซ้ำเติมคุณจขกท. หรือใครก็ตามที่กำลังท้อ เพราะใครๆก็ต้องการกำลังใจ และนิยายเราก็ไม่ได้คนอ่านเยอะมากมายอะไร แต่ในโลกความเป็นจริงมันโหดร้ายค่ะ คุณอยากเขียนให้ดี อยากให้มีคนอ่านมากๆ คุณก็ต้องมุ่งมั่นพยายาม ตอนแรกอาจจะทำใจยาก แต่เดี๋ยวมันก็ผ่านไปเอง เรื่องแบบนี้ทุกคนเจอกันหมด คุณก็ต้องผ่านไปให้ได้ สู้ๆค่ะ


2
SmolMety 31 มี.ค. 62 เวลา 22:00 น. 2-1

เราสายคิดมากอยู่แล้วค่ะเลยแอบน้อยใจหน่อยๆ แต่มันก็ไม่ได้มีผลกระทบอะไรมาก อย่างน้อยก็แต่งจบเรื่องหนึ่ง พยายามคิดเสมอว่ามันต้องมีนักอ่านสักคนที่ตามงานเราตลอด ถ้าเราเทงานไปแล้วเขาเสียใจขึ้นมาจะทำยังไง 55555555

0
บุปผาหิมะโปรย 31 มี.ค. 62 เวลา 22:11 น. 5

นิยายบางเรื่องของเรา ก็ไม่มีคอมเม้นนะคะ เปิดทีไรก็0 ทุกที เราไม่เห็นเป็นไร สบายมาก ไม่มีคนอ่านไม่เป็นไร เราอ่านเองก็ได้

6
บุปผาหิมะโปรย 31 มี.ค. 62 เวลา 22:14 น. 5-1

กดเปิดแอปอ่านนิยาย แล้วเข้ากดไปอ่านนิยายตัวเอง สนุกดีออก คนเขียนนี่มันสนุกจริงๆ5555 เขียนเองขำเอง สนุกเองสบายมาก555

0
SmolMety 31 มี.ค. 62 เวลา 22:15 น. 5-2

ถ้าอ่านเองแล้วสนุกเองนั่นแปลว่าเราเขียนดีค่ะ 5555555

0
บุปผาหิมะโปรย 31 มี.ค. 62 เวลา 22:19 น. 5-4

คิดเสียว่า เขียนเพื่อตัวเองดีกว่าเนาะ เหมือนกับการเขียนแล้ว เราก็อ่านเองอย่างนั้นแหละ เพราะทุกวันนี้ พอเราเขียนเสร็จเราก็ต้องมาไล่อ่านนี่นะ

0
玉兰 1 เม.ย. 62 เวลา 09:14 น. 5-5

เราของก็มีนะที่ไม่มีคอมเม้นต์น่ะ เป็นรวมเรื่องสั้นแนวสยองขวัญ มียอดวิว กำลังใจ เฟบ มีกระทั่งการแชร์เกิดขึ้น ทว่าไร้เม้นต์ (ฮ่า)

0
Evirdkung 31 มี.ค. 62 เวลา 22:19 น. 6

ไม่มีคนอ่านก็ต้องโปรโมท จำไว้งานที่ตัวเราแต่งไม่มีงานไหนแย่ งานที่ตัวเราแต่งไม่มีเรื่องไหนไม่สนุกขอแค่เราใส่ใจไปกับมัน ที่คนอ่านน้อยเพราะไม่มีใครรู้จักถึงความยอดเยี่ยมของตัวเรา ที่เราคิดว่ามันห่วยเพราะไม่มีใครมาชื่นชมงานของเราซึ่งมันก็แน่อยู่แล้วก็ไม่มีคนรู้จักไงต้องโปรโมท


จงโปรโมทกันเข้าไป โปรโมทจนคนอื่นต้องรู้สึกผิดเลยถ้าไม่อ่าน และ เขียนเรื่องที่ดีจนคนที่ไม่ได้อ่านต้องเสียใจไปตลอดชีวิต //อาการหนักแล้วนะเรา สั้นๆ เป็นกำลังใจให้

1
31 มี.ค. 62 เวลา 22:21 น. 7

ของเราก็ท้อจนไม่รู้จะท้อยังไงแล้ว บางคนอาจจะบอกว่าไม่มีคนอ่านก็ไม่เป็นไรแค่ได้เขียนเรื่องที่เราชอบก็พอแล้ว เราก็เคยคิดแบบนี้นะแต่พอเอาเข้าจริงมันก็คิดแบบนั้นไม่ได้จริงๆเพราะยังไงคนเรามันก็ย่อมมีความคาดหวังเสมอ ตอนนี้เราเลยพยายามพัฒนาฝีมือของเราต่อไปเรื่อยๆดีกว่า เราเชื่อนะถ้ามันดีจริงยังไงก็ต้องมีคนมาอ่านอยู่แล้วซึ่งมันอาจจะต้องใช้เวลาสักหน่อยไม่ช้าก็เร็วอันนี้ก็ขึ้นอยู่กับความสามารถของเราเอง และถ้าเราไม่ถอยซะก่อนซักวันมันจะต้องเป็นวันของเราค่ะ


เป็นกำลังใจให้ จขกท. นะคะ สู้ๆค่ะ ท้อได้แต่อย่าถอย เพราะเราก็ผ่านความรู้สึกแบบนั้นมาแล้วเหมือนกัน จากที่มีคนอ่านไม่ถึงร้อย จนตอนนี้......ก็ยังไม่ถึงเหมือนเดิม 555+

0
อดทนไว้คุณแรมโบ้ 31 มี.ค. 62 เวลา 22:22 น. 9

เราเข้าใจความรู้สึกนี้เลยค่ะ เรื่องท้อหมดแรงใจจะเขียน คิดเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่น เราก็เป็นค่ะ เป็นบ่อยมากๆ เคยเลิกเขียนไปหลายปี แต่เพราะมันเป็นความฝัน และยังค้างคาอยู่ในใจ สุดท้ายก็ต้องกลับมาค่ะ อยากให้กำลังใจนะคะ วันไหนหมดไฟก็ไปพักก่อน พอมีความคิดดีๆ อยากเอามาเขียนต่อค่อยกลับมาก็ได้ ขออนุญาตยกคำพูดของคุณกิ่งฉัตร ที่บอกไว้ว่า ทุกคนมันมีเวลาของตัวเองเพียงแต่บางที เราอาจจะไปช้า แต่เมื่อวันที่มันมาถึง เราจะมีความภาคภูมิใจและมีความสุขกับสิ่งที่เรายอมกัดฟันทำมาถึงทุกวันนี้นะคะ เราเชื่อว่ามันเป็นแบบนั้นแหละค่ะ บางคนใช้เวลา 3 ปี 4 ปี หรืออาจมากกว่านั้น แต่สิ่งที่เราสะสมตั้งแต่วันนี้ไม่เสียเปล่าแน่นอนค่ะ

0
BackHand 31 มี.ค. 62 เวลา 22:23 น. 10

เข้าไปดู iD เจ้าของกระทู้ แล้วพบว่า...


นิยายที่เป็นที่นิยมที่สุดของคุณ ยอดวิว 1,714 แฟนคลับ 59 คอมเม้นท์ 8


นี่ไม่เรียกว่าน้อยแล้วนะครับ ใช่มันอาจจะเทียบกับคนที่ยอดวิวหลักหมื่น คนตามเป็นพันไม่ได้ แต่นี่ถือว่าเยอะมากแล้วนะ

ส่วนเรื่องอื่นๆ อาจจะเป็นเพราะเพิ่งเขียนไปแค่ตอนสองตอน อันนี้ยังตัดสินอะไรไม่ได้ครับ

2
Tdeuy 31 มี.ค. 62 เวลา 22:35 น. 11

โห คนเข้าอ่านเยอะนะคะ

เป็นเรานี่พอใจแล้ว

คือ ทุกอย่างมันต้องใช้เวลาในการสั่งสมค่ะ

บางเรื่องเขียนออกมาอาจเปรี้ยง

บางเรื่องอาจแป้ก

มันก็ธรรมดาไหมอ่ะ

เราว่านักเขียนทุกคนต้องผ่านมันไปให้ได้ค่ะ

เพื่อที่จะเติบโตขึ้น

ทุกคนเขาผ่านมันมาทั้งนั้นแหละค่ะ

กระทู้แบบนี้มีบ่อยมาก

สักวันคุณจะเข้าใจมันเอง

เมื่อผ่านพ้นไปแล้วลองย้อนกลับมาดู

คุณจะรู้ว่าคุณโตขึ้นและมีจิตใจที่เข้มแข็งขึ้น

0
Andy Ryu 31 มี.ค. 62 เวลา 22:41 น. 12

ออกตัวก่อนครับว่าผมไม่ใช่นักเขียน แต่เมื่อผมเริ่มเขียนนิยายลงเว็บเลยทำให้รู้จักกับ ยอดวิว ยอดเฟบ ยอดคอมเมนต์ ที่มันไม่เคยสุดยอดเลยสำหรับผม ก็เคยคิดนะครับว่าจะเขียนไปเพื่ออะไรในเมื่อไม่มีใครอ่าน

แต่ลองมองย้อนกลับไป ที่เริ่มเขียนนิยายตอนนั้น ไม่มียอดวิว ยอดเฟบ ยอดคอมเมนต์ มีแต่ความชิลเมื่อได้เขียน ผมเขียนเพื่ออะไรล่ะ ก็เขียนเพื่อตัวเองล้วนๆ

ผมเลยพังความคาดหวังซะเพื่อไม่ต้องพบกับความผิดหวัง

เมื่อปรับเปลี่ยนความคิด การไม่มีใครอ่านสำหรับผมเลยกลายเป็นสิ่งที่ดีครับ เพราะนั่นคือการชี้ให้เห็นจุดผิดพลาดที่ต้องแก้ไข ตอนนี้ผมพยายามแก้ไขการเขียนบทบรรยายที่น้อยกว่าบทสนทนา ซึ่งมันยากเอาการครับ

และที่ยอดที่สุด คือแฟนคลับที่มีไม่ถึง 30 (รวมญาติผมด้วย)ผมต้องขอขอบคุณความใจดีของแฟนคลับทุกคน ที่เป็นกำลังใจให้ผมตลอดระยะเวลา 1 ปี ครับ

0
แมวขี้เกียจบนฟูกนุ่มv.2 31 มี.ค. 62 เวลา 22:56 น. 13

เมื่อสมัยยังละอ่อนต่อโลกของนักเขียน เรามักจะตัดพ้อต่อว่าทุกอย่าง มีทัศนคติฝังหัวโดยที่ไม่รู้ตัวว่า ต้องคนต่างตอบแทน เช่น เราตั้งใจเขียน ทำไมถึงไม่มีคนอ่านเลยนะ, เราพยายามขนาดนี้ ทำไมถึงไม่มีใครสนใจเราเลย, ทำไมมีแต่ยอดวิว ทำไมอ่านแล้วไม่เมนต์กันล่ะ, นี่เราอุตส่าห์เขียน ทำไมไม่เมนต์ตอบแทนเราบ้าง ทั้งที่จริงแล้ว ทุกอย่างมันเป็นแค่การเอาความคาดหวังของตัวเอง ไปวางไว้กับคนอื่น นั่นแหละ สิ่งนั้นมักจะทำให้เราเป็นทุกข์เสมอ


เมื่อก่อนเรามักจะไล่ตามคนอ่าน ทำบทวิเคราะห์ต่างๆ นาๆ เปิดเรื่องแบบไหนถึงจะเรียกคนอ่านได้มากที่สุด ต้องเขียนด้วยสำนวนแบบไหน ตอนนี้คนอ่านชอบฉากแบบไหน แนวเรื่องแบบไหน พระเอกแบบไหน นางเอกแบบไหน กำลังเป็นที่นิยม ไขว่คว้าตามมันไป แน่นอนว่าคนอ่าน ยอดวิว คอมเมนต์ทุกอย่างถล่มทลาย ตอนแรกเราดีใจกับผลลัพธ์พวกนั้นมาก แต่ตัวตนของเราเริ่มหายไปเรื่อยๆ ในงานไม่มีอะไรบอกว่านี่คืองานของเราเลย ความรู้สึกตอนนั้นคือ ถ้ามีทางให้เลือกแค่ งานที่มีแต่คนรัก กับ งานที่เรารักแต่คนมองข้าม เราคงเลือกอย่างหล้งแล้วพัฒนาเติบโตไปด้วยกันมากกว่า การไขว่คว้าแบบนั้นมันเหนื่อยมากจริงๆ


แล้วก็กรณีคนเป็นโรคซึมเศร้าแล้วไม่มีคนอ่านงาน คุณกลัวว่าคนจะซึมเศร้าไปกว่าเดิม อยากถามว่าเป็นความผิดของนักอ่านเหรอคะ ที่ไม่กดเข้าไปอ่านงานที่ไม่น่าสนใจมากพอ คำตอบก็คือไม่ หากคุณกดเข้าไปอ่านงานทุกงานของทุกหมวดมาแล้ว ค่อยมาคุยกัน แต่ถามว่านักเขียนผิดไหม ก็ไม่ผิดค่ะ เพียงแต่ว่า คุณยังไม่พร้อม ยังไม่พร้อมที่จะรับแรงกดดันจากด้านต่างๆ บนโลกของนักเขียน อาจจะดูโหดร้ายไปบ้าง แต่ถ้าตรงส่วนนี้กระตุ้นด้านลบในตัวคุณ เพื่อสุขภาพแล้ว อย่าเขียนลงบนสื่อออนไลน์เลยค่ะ หรืออาจจะเขียนแล้วลงในกลุ่มที่แลกกันอ่านได้ยังดีเสียกว่า อย่างน้อยงานก็มีคนอ่าน ส่วนคนเป็นโรคซึมเศร้าที่ยังเขียนนิยายอยู่ได้เพราะการที่ไม่มีคนอ่าน ไม่ได้ทำให้เขาดาวน์ (อาจจะเป็นที่ส่วนอื่นๆ ของนิยายแทน) และรู้เท่าทันอารมณ์ตัวเองมากพอ เขาถึงได้ยืนหยัดเป็นนักเขียนอยู่ได้

0
玉兰 31 มี.ค. 62 เวลา 22:59 น. 14

คนอ่านขนาดนี้ก็ถือว่าเยอะแล้วค่ะเมื่อเทียบกับนักเขียนทั่ว ๆ ไป

3
ItsFreakingCool,man! 31 มี.ค. 62 เวลา 23:03 น. 15

ลองเปลี่ยนการเขียนคำโปรยให้น่าสนใจสิ

เพราะเวลามีจำกัด แถมยังมีนิยายให้เลือกอ่านอีกมาก ถ้าคำโปรยน่าสนใจ (วิธีการบรรยาย การใช้คำอธิบายเนื้อเรื่องของเราให้ชัดเจน) โอกาสที่นักอ่านจะคลิ๊กเข้ามาอ่านนิยายของเราก็มีมากกว่า

ลองเปลี่ยนเป็นเอาประโยคคำพูดเด็ด หรือฉากเด็ด มาใส่แทนคำโปรยที่เคยเขียนไว้ดีมั้ย?

ปล. เนื้อเรื่องธรรมดาๆมักถูกมองข้าม

1
ItsFreakingCool,man! 31 มี.ค. 62 เวลา 23:12 น. 15-1

ส่วนเรื่องที่คุณเป็นซิมเศร้า แทนที่จะสร้างภาระให้ตัวเองด้วยการคาดหวังผลลัพธ์ เปลี่ยนเป็นเขียนนิยายเพื่อคลายเครียดหรือเพื่อค้นหาคุณค่าในตัวเองดีกว่ามั้ย

คุณเหนื่อยอยู่แล้ว อย่าทำให้ตัวเองเหนื่อยเพิ่มเลย ถ้าอาการดีขึ้นแล้ว ค่อยตั้งเป้าหมายที่ใหญ่ขึ้นดีมั้ย?

แทนที่จะโฟกัสที่ความนิยม โฟกัสที่คุณภาพดีกว่ามั้ย ถือเป็นการพัฒนาตัวเองไปด้วย

0
!~...KniFE...~! 31 มี.ค. 62 เวลา 23:24 น. 16

นิยายเรื่องล่าสุดของเรา ลงไป 10 ตอน

ยอดวิวรวม 115 แฟนคลับ 11 คน

แต่ละตอนคนอ่านไม่ถึง 10 คนด้วยซ้ำ


ได้ยอด fav. มาตอนละคนก็ดีใจแล้วค่ะ


แต่เอาจริงๆ ไม่มีคอมเมนท์มันก็เหงาๆ จริงๆ นะ


เราคิดว่าถ้าจะพัฒนางานเขียน คอมเมนท์ก็สำคัญนะคะ

บางทีก็อยากได้ฟีดแบ็คจากคนอ่านเหมือนกันว่านิยายเราโอเคไหม ควรปรับปรุงอะไรรึเปล่า

จะได้พัฒนาตัวเองต่อไปด้วย


นี่ก็พูดไม่เก่ง ไม่รู้จะโปรโมทยังไงให้คนสนใจแล้ว ฮา

ก็เลยได้แต่พยายามอัพไปเรื่อยๆ ค่ะ

สักวันต้องไม่ถูกเมินบ้างล่ะน่า


จขกท. ก็สู้ๆ นะคะะ เป็นกำลังใจให้ในฐานะเพื่อนค่ะ

2
ItsFreakingCool,man! 31 มี.ค. 62 เวลา 23:27 น. 16-1

คนอ่านส่วนใหญ่เน้นอ่านสนุกๆมากกว่าค่ะ คนอ่านที่อ่านเป็น วิจารณ์ได้ไม่ค่อยมี ส่วนมากก็เป็นนักเขียนด้วยกันที่มีประสบการณ์พอสมควร

0
!~...KniFE...~! 1 เม.ย. 62 เวลา 22:36 น. 16-2

เรื่องนั้นทราบอยู่ค่ะ แต่จริงๆ ก็คือถ้าได้ฟีดแบ็คบ้าง เราก็พอจะเห็นทางแล้วแหละว่าจะปรับปรุงยังไง

ที่จริงคือก็อยากรู้ด้วยค่ะ ว่าที่แต่งไปสนุกไหม


ถ้าสนุกจะได้มีกำลังใจ

ถ้าไม่สนุก เราจะได้ปรับปรุงให้สนุกยิ่งขึ้น


หลังๆ เราเองก็พยายามปรับปรุงตัวให้คอมเมนท์มากขึ้นเหมือนกัน ฮา


เข้าใจเลยนะคะประเด็นหลัง เพราะตัวเองก็เป็น

เขียนมานาน ยังไม่ค่อยกล้าวิจารณ์เลยค่ะ 55

0
โมจิย่างร้อนๆ 31 มี.ค. 62 เวลา 23:28 น. 17

ง่ายๆ ค่ะ 'เขียนตามกระแส'


อย่าคิดว่ามันเป็นการไหลตามกระแส ผลที่ตามมาไม่ได้เลวร้ายอย่างเดียว เพื่อสุขภาพทางจิตใจอันเข้มแข็งของเรา บางทีต้องแลกด้วยแนวที่เขียน ลองเปิดใจเขียนสิ่งนักอ่านต้องการ แล้วทุกอย่างจะสบายเอง เพราะเราเคยอยู่จุดนั้นเลยเข้าใจ ขอยอมแพ้ให้กับทิฐิเล็กน้อยของตัวเองเพื่อความชื่นใจ เรายอมเขียนพล็อตตลาด แต่มีความสุขดีค่ะ แน่นอนว่าถ้าสำนวนไม่ได้น่าปวดหัวเข้าขั้นหนัก แนวนี้ย่อมมีคนมาแวะเวียนอ่านอยู่แล้ว #มีความสุขในโลกส่วนตัว แม้ว่าแพ้ใจตัวเอง ฮ่าๆ

16
ItsFreakingCool,man! 31 มี.ค. 62 เวลา 23:44 น. 17-2

ความคิด ความชอบใช่ว่าจะเปลี่ยนกันได้ง่ายๆ ยกเว้นคนที่สนใจผลลัพธ์จริงๆ

เราเป็นคนที่เขียนเรื่องแรกตามแนวกระแส ต่อมาเริ่มใส่ความเป็นตัวเองเข้าไป และก็ไม่ค่อยมีคนอ่านจริงๆ แต่ก็มีความสุขกว่า เพราะมันเป็นตัวเรา เป็นสิ่งที่เราต้องการจะสื่อจริงๆ

ระหว่างได้รับความนิยมกับรักษาตัวตน เราเลือกรักษาตัวตนนะ

0
31 มี.ค. 62 เวลา 23:47 น. 17-3

ใช่ๆเราเห็นด้วยกับ คห.17-1นะ ถึงแม้จะไม่มีคนอ่าน แต่เราก็อ่านเอง ขำเองได้เนาะ

0
แมวขี้เกียจบนฟูกนุ่มv.2 31 มี.ค. 62 เวลา 23:52 น. 17-5

เราคิดว่าถ้าจขม.ยอมรับได้มีความสุขกับมันก็ไม่ใช่เรื่องผิดอะไร คนเรามีเหตุผลในการเขียนนิยายต่างกันอยู่แล้ว บางคนต้องการเอกลักษณ์ บางคนต้องการแค่เขียน บางคนต้องการคนอ่าน บางคนต้องการแค่เงิน ในเมื่อสามารถหาหนทางการเขียนที่ตอบสนองความต้องการของตัวเองได้ก็น่าจะเพียงพอแล้ว

0
31 มี.ค. 62 เวลา 23:53 น. 17-6

พูดอีกก็ถูกอีกค่ะ เราก็ไม่ได้แย้งอะไร คนเราต่างกันทุกคนอยู่แล้ว

0
โมจิย่างร้อนๆ 1 เม.ย. 62 เวลา 00:16 น. 17-7

โลกนี้อยู่ยากนะคะ ไม่ใช่แค่เรื่องนิยาย แต่หลายๆ เรื่องเราต้องเดินไปตามทางของมัน เราชอบมีจุดยืนเป็นของตัวเองค่ะ แต่ยอมรับแล้วว่าการทำสิ่งแตกต่างหรือมีเอกลักษณ์ไม่ได้ช่วยให้อยู่รอดเสมอไป ชินแล้วค่ะที่จะกลมกลืนไปกับสภาพสังคม หรือการตามกระแส ส่วนคนที่ชอบแบบมีจุดยืนเราขอชื่นชมค่ะ แต่เข้าใจได้เลยว่าคงเหนื่อย พักกันบ้างนะคะ555

0
FreudM 1 เม.ย. 62 เวลา 00:55 น. 17-8

ใช่ครับ เหนื่อย แต่คนเขียนเท่านั้นที่จะรู้ดีว่ารู้สึกอย่างไรกับงานเขียนของตัวเอง


ผมจึงคิดว่า ไม่แน่สิ่งที่คุณกำลังเขียนอยู่นั้น อาจเป็นสิ่งที่คุณชอบอยู่แล้วก็ได้ คุณอาจจะชอบเป็นผู้ตามมากกว่า

0
โมจิย่างร้อนๆ 1 เม.ย. 62 เวลา 10:51 น. 17-9

เอ๊ะ เราเองก็ไม่รู้ใจตัวเองด้วยสิ แต่ที่แน่ๆ ปัจจุบันมีความสุขดีนะ ถึงจะมีปัญหาเรื่องโรคคลั่งเพอร์เฟคต์ก็เถอะ https://www0.dek-d.com/assets/article/images/sticker/yy-02.png

0
FreudM 1 เม.ย. 62 เวลา 13:15 น. 17-11

แค่เข้าใจตัวเองยังไม่รู้เลย อย่างนี้ก็ไม่มีความสุขหรอก


ผมอยากเห็นคุณมีความสุขนะ อยากให้เข้าใจในตัวเอง ลองเขียนนิยายที่คิดว่าเป็นตัวของตัวเองด้วยเถอะ สักเรื่องหนึ่ง แล้วคุณจะขอบคุณตัวเองนะ^^

0
SmolMety 1 เม.ย. 62 เวลา 18:28 น. 17-14

เขาคุยอะไรกันทำไมย๊าวยาว เจ้าของกระทู้อย่างเราตามไม่ทันแล้ว 55555


เราไม่ค่อยชอบเขียนตามกระแสค่ะ รึถ้าพูดตรงๆคือเราไม่รู้ด้วยซ้ำว่ากระแสตอนนี้มันกำลังนิยมอะไร 55555 เขียนตามมีตามเกิด เขียนที่ตัวเองอยากเขียนไป

0
peiNing Zheng 31 มี.ค. 62 เวลา 23:32 น. 18

เล่าเรื่องหนึ่งให้ฟังแล้วกันนะคะ


สมัยที่เราวัยรุ่น มีอยู่ครั้งหนึ่งเราเคยบอกพ่อว่า เราอยากเขียนหนังสือเกี่ยวกับประสบการณ์ของตัวเอง พ่อถามว่า ทำไมถึงคิดว่าจะมีคนซื้อหนังสือเราอ่าน เราตอบพ่อไปแบบมั่นใจมากว่าเราเชื่อว่าประสบการณ์ที่เราเจอน่าสนใจมากพอ


พ่อเราย้อนกลับมา เราไม่ใช่ดารา ไม่ใช่คนมีชื่อเสียง ประสบการณ์น่าสนใจแค่ไหน แล้วยังไง ตราบเท่าที่ไม่มีคนรู้จักก็จบ


เรานึกไปถึงแผงหนังสือในตอนนั้น คนที่เขียนหนังสือแล้วมีคนอ่านประสบการณ์ชีวิตพวกเขา ถ้าไม่เป็นดาราก็ต้องมีตำแหน่งอะไรบางอย่างที่ดึงดูดพอที่จะขายได้ เราเป็นใคร ต่อให้มีเนื้อเรื่องน่าสนใจแค่ไหน แต่หน้าปก หรือตัวคนเขียนที่จะเป็นสิ่งดึงดูดให้คนหยิบมันขึ้นมาอ่านก่อน เราจึงยอมรับความคิดนี้ของพ่อ


เมื่อเวลาผ่านไป ในตอนที่ทำงาน มีครั้งหนึ่ง บริษัทเราจัดสัมมนาให้ลูกค้า และเชิญนักพูดสร้างแรงบันดาลใจไฟแรงที่อายุไม่ถึงสามสิบขึ้นมาพูดถึงประสบการณ์ชีวิตและการทำงานของเขา ผู้ฟังในที่นั้นแต่ละคนเป็นผู้ประกอบการที่ฝ่าฟันชีวิตจนสามารถมีกิจการตั้งแต่ทุนจดทะเบียนสิบกว่าล้านยันหลายร้อยล้าน ตัวเราเองเป็นพนักงานต๊อกต๋อยที่มีชีวิตแสนจะราบเรียบยังยิ้ม เราดีใจด้วยที่เขาประสบความสำเร็จและไต่เต้ามาในจุดที่เป็นที่สนใจตั้งแต่อายุยังน้อยอย่างนี้ แต่น้องเอ๊ย ชีวิตมันเพิงเริ่ม หนทางยังอีกยาวไกลนัก


นี่เองทำให้เราฉุกคิดถึงสถานการณ์ในตอนนั้น เรามองว่าพ่อพูดถูกแล้ว (ในบริบทของสังคมสมัยนั้นนะคะ) แต่อีกสิ่งที่พ่อไม่ได้บอกเรา (เราเชื่อว่าพ่อเลือกที่จะไม่พูด) คือ ตอนนั้นเราอายุยังไม่ถึงยี่สิบปี ประสบการณ์ที่เราคิดว่ายิ่งใหญ่มันก็แค่เรื่องเล็กน้อยสำหรับผู้ใหญ่คนหนึ่งเท่านั้นเอง มันไม่ได้น่าตื่นตาตื่นใจมากพอที่คนจะหยิบมันขึ้นมาอ่านขนาดนั้นหรอก


สิ่งที่เราเขียนอาจทำร้ายจิตใจคุณจขกท เพิ่มขึ้น แต่เราอยากจะบอกว่า ต่อให้มีเรื่องอยากบอกมากแค่ไหน ส่งเสียงตะโกนให้ตายยังไง ในบางครั้ง มันก็เป็นเสียงเล็กน้อยของคนอื่นเท่านั้นเองค่ะ ไม่ได้ยิ่งใหญ่หรือน่าสนใจมากพออย่างที่เราคิดหรอก


แล้วแบบนี้ควรต้องทำยังไงดี เราไม่มีทางเปลี่ยนให้คนอื่นมามองว่าเรื่องของเรายิ่งใหญ่ได้หรอกตราบเท่าที่เรื่องของเรามันไม่ได้ยิ่งใหญ่อย่างนั้นจริงๆ หรือกาลเวลายังไม่ได้พิสูจน์มากพอว่าเรื่องของเรานั้นยิ่งใหญ่เพียงใด


คุณจขกท มีทั้งสองสิ่งนี้พอหรือยัง เรื่องที่ยิ่งใหญ่ หรือกาลเวลาที่มากพอในการพิสูจน์ความคิดของตัวเอง


ถ้ายังมีไม่พอ คนอื่นเขาก็ไม่สนใจหรอกค่ะ


สิ่งที่ทำได้คือ พัฒนาฝีมือของตัวเองให้ดีขึ้นไป อ่านหนังสือที่ดีเอาให้เลือดตาแทบกระเด็น เราไม่รู้ว่าคุณจขกท อายุเท่าไหร่ แต่ถ้าอ่านหนังสือที่ดีได้ปีนึงอย่างน้อยหนึ่งร้อยเรื่องขึ้นไป (เรื่อง ไม่ใช่เล่มนะคะ เป็นขั้นต่ำที่เราคิดว่าทำได้ไม่ยาก) ใช้เวลาไม่เกินห้าปี จะมีความสามาถในการเขียนที่ดีขึ้นเอง นอกจากนี้อ่านอย่างเดียวไม่ได้ค่ะ ลองหัดสังเกต หัดวิเคราะห์ด้วย ลอง Search หาความรู้เกี่ยวกับการเขียนแล้วนำมันมาลองหัดใช้ ในระหว่างนี้ต้องพากเพียรฝึกเขียนแล้วลองหาคนช่วยวิจารณ์ไปด้วย


ถ้าพยายามให้ได้ระดับนี้ แล้วยังไม่ได้ในสิ่งที่ตัวเองต้องการ ถึงตอนนั้นค่อยโอดครวญค่ะ


แต่ให้ง่ายกว่านั้นก็คือ อย่างที่หลายคนในที่นี้พยายามแนะนำ (และตัวคุณจขกท ก็รู้ดีว่าคนอื่นจะพูดยังไง แต่แค่ยังทำใจไม่ได้เท่านั้น) มันคือการเปลี่ยน Mindset ตัวเอง เปลี่ยนจากความคาดหวังในตัวคนอื่น มาสนใจคุณค่าของตัวเอง เพราะสิ่งนี้จะทำให้เรายังเป็นนักเขียนต่อไปได้ มีความสุขที่จะเขียนต่อไป


หากทำไม่ได้ ก็เกมโอเวอร์ เส้นทางนักเขียนจะกำจัดผู้เล่นคนนั้นออกไปจากทางเองค่ะ

0
Whiteflower Ri 31 มี.ค. 62 เวลา 23:38 น. 19

ช่วงนี้เงียบ ๆ เหมือนกัน ไม่มีคอมเม้นท์ ไม่มียอดวิว เลยพักเรื่องที่ยังไม่จบไว้ก่อน หันไปรีไรท์เรื่องเก่า เผื่อจะไปลองส่ง สนพ. อีกซักเรื่อง แต่พอได้นั่งหน้าจอก็ง่วง จะหลับก่อนทุกที เขียนได้ทีละบรรทัดสองบรรทัดเอง


4
Whiteflower Ri 3 เม.ย. 62 เวลา 18:43 น. 19-2

ขอบคุณมากจ้า....^____________^


สบายดีนะจ๊ะ สงกรานต์ได้หยุดรึเปล่า

0
ปีศาจหัวโต 4 เม.ย. 62 เวลา 08:40 น. 19-3

ได้หยุดฮับ... หยุดเอาแบบมาแก้ต่อที่บ้าน555555


พี่ริสบายดีนะครับ คิดถึงเสมอเลย หนีน้ำไปเที่ยวไหนมั้ยครับ

0
1 เม.ย. 62 เวลา 00:31 น. 20

เรื่องของเราคนอ่านน้อยค่ะ เราเข้าใจคุณจขกท.นะคะ พอไม่มีคนอ่านหรืออ่านน้อยก็จะรู้สึกว่าเราเขียนไม่สนุกอะไรแบบนี้


อาจจะเจาะกลุ่มหรือโปรโมทไม่ตรงกลุ่มหรือเปล่าเราก็ไม่แน่ใจนะคะ แต่เราน่ะไม่เล่นเฟส คนก็อ่านน้อย แต่เราว่าถึงเราจะเล่นเฟสคนก็อ่านน้อยค่ะฮ่าๆ


เรื่องไหนที่คนอ่านน้อยเราจะไม่ค่อยลงค่ะ แต่แต่งจนจบนะคะ แล้วเหมือนพอมีคนเพิ่มเข้าชั้นอ่าน แค่1คน เรานี่แบบน้ำตาจะไหล เราต้องไม่ทำให้นักอ่านที่กดใส่หนังสือเราไว้อ่านผิดหวัง กำลังใจมาจากแค่นั้นจริงๆค่ะ แค่1คนที่กดเราก็มีความสุขที่สุดค่ะ

0