เทคนิคการแพทย์กับความต้องการในตลาดการทำงาน
ตั้งกระทู้ใหม่
พี่เป็นคนนึงที่เรียนจบเทคนิคการแพทย์มาได้ 5 ปีแล้ว ถ้าย้อนกลับไปตอนนั้นพี่จะไม่คิดเลือกเรียนวิชาชีพนี้เด็ดขาด บอกเลยว่าพังมาก พี่อาจโชคร้ายกว่าคนที่โชคดี พี่ไม่ได้มาตั้งกระทู้สปอย แต่พี่กำลังเอาความจริงมาพูด และกำลังจะบอกว่าก่อนเลือกเรียนอะไร ลองค้นหาข้อมูลตลาดงานตามเว็บไซต์ต่างๆก่อนลงเรียนไปจะได้ไม่ต้องทุกข์ทรมานแบบนี้
สิ่งที่เกิดขึ้นหลังพี่เรียนจบ
1. รายได้แย่มาก ฐานเงินเดือนเฉลี่ยอยู่ที่ 15000 ขั้นปกติเอกชลทั่วไป + ใบประกอบแค่ 3000-5000 ถ้ารัฐบาลไม่ต้องพูดถึงให้แบบเศษเงินเหมือนคนทำงานกวาดขยะ แต่ความรับผิดชอบมากกว่าคนนั่งเถียงกันในสภาเงินเดือนเป็นแสน (ขอใช้คำแรงนิดนึงแต่มันจริง) แถมชอบเอาตำแหน่งลูกจ้างชั่วคราวมาให้เราทำอีก เงินก็ออกช้า บรรจุก็ยาก
2. หางานที่ใกล้ที่อยู่อาศัยยากมาก เพราะงานมันต้อง ร.พ. ศูนย์แล็บ สภากาชาดไรงี้ มันเลยมีสถานที่แคบ ผิดกับสาย IT บัญชี และอื่นๆ ทีมีหลากหลายให้เราเลือก เช่น ราชการก็มีตำแหน่ง IT เยอะเยะ ห้างน้องก็ทำได้ บริษัททุกที่ต้องมีคอม ต้องมีการเงิน โรงพยาบาลก็ทำได้ เป้นต้น ซึ่งถ้าเทียบฐานเงินเดือนแล้วเขาอาจได้มากกว่าเรา แถมเวลาเข้างานยืดหยุ่นกว่าเรามาก สมมุติน้องเป็นคน ตจว. มีรพศูนย์ที่เดียวในจังหวัดที่น้องอยู่แล้วโอกาสที่เขาจะคนเต็มมันก็สูง แถมเงินเดือนที่ได้ก็อย่างที่บอกไปแล้วถ้าเป็นรัฐบาล สุดท้ายก็ต้องลงมากรุงเทพ เช่าหอเปลืองค่าใช้จ่ายต่างๆ สรุปไม่มีเงินเก็บ ทำงานไปวันๆ ไม่ได้อะไรเลยแถมสุขภาพจิต สุขภาพกายเสียด้วย
4. OT ส่วนใหญ่มาจากเวรดึก ก็จะเข้าช่วงบ่าย 3 ถึงเช้า แต่บางที่ก็เข้างานตั้งแต่ 7.00 ยัน เช้าอีกวันเลย แต่ถ้าเป็นระบบราชการก็จะเลวร้ายกว่านั้น สมมุติน้องเข้างานตามเวลาราชการ 8.30-16.30 แล้วน้องอยู่เวรดึกต่อก็คือตั้งแต่ 16.30-24.00 น. น้องได้พักครึ่งคืน แล้วทำงานตามเวลาราชการต่อนะจ๊ะ แล้วเงินที่ได้ถ้าเทียบกับสายคอม สาย บัญชีที่เขาไม่มีเวรแบบเรา ก็ไม่ต่างกันมากถ้ารวมโอทีแล้ว
5. ถ้าคิดว่าทำงานในแล็บแล้วไม่เจอใครคิดผิดมาก เพราะจริงๆเราต้องเจาะเลือดซึ่งต้องมีสักวันที่ต้องเจอคนไข้ป่วนแน่นอน พยาบาล หมออีก รวมไปถึงถ้าน้องได้ไปทำในแล็บที่มีระบบเจ้าแม่ เจ้าพ่่อ หัวหน้างานที่ไม่ดี แบ่งพรรค แบ่งพวก ไม่ถูกชะตาเรา เจอมนุษย์ป้าปากหนัก แล้วอยู่ในห้องสี่เหลี่ยมที่หลบกันไม่ได้ น้องก็จะกดดันไปอีก 10 เท่าตัว สุดท้ายก็ต้องลาออกไปในที่สุด เสียเวลาทำฟรีๆแถวไม่ได้ความก้าวหน้าอะไร แถมมีหน้ามาหาว่าเราไม่ทนงานแต่ไม่เคยหันดูตัวเอง ทนงานพี่เชื่อว่าทนหมดแต่ทนคนไม่ดี พี่ว่ามันยากกว่างานจริงๆ แต่พี่ก็ทนมาได้นะตั้งแต่ 4 ปี แต่พี่เชื่อว่าเด็กรุ่นใหม่ไม่ทนแน่ๆ
6.เสี่ยงติดเชื้อ แต่ไม่ม่ีค่าความเสี่ยงต่างหากแยกออกมา จากใบประกอบ
7. เราถูกมองว่าไม่มีค่าเสมอ ทุกคนจะชอบพูดถึงแต่สหวิชาชีพอื่ก แต่ของเราถูกมองข้าม แถมคนวิชาชีพเดียวกันยังมาตีกันเองอีก
----- สำหรับเงินเดือนเฉลี่ยพี่ตอนนี้รวมทุกอย่างทำงานมา 4 ปีละ ได้อยู่ที่ 29500 -32000 ไม่เกินนี้แต่กว่าจะได้มากนะน้อง แทบลากเลือด หักค่าเดินทาง หักค่ากินอยู่ ค่าห้อง ค่าน้ำ ไฟ ค่าบ้าน ภาษี ประกันสังคม เหลือเก็บแค่เดือนละ 5000 กว่าบาท เท่ากับ 4 ปีที่ผ่านมาพี่เงินเก็บแค่ 5000*48 240000 บาท ถ้าใครมีลูกมีสามีพี่ว่าไม่เหลือนะ ------
สำหรับคนที่หลงทางเรียนมาจน ปี3-4 ก็ไม่ต้องหันหลังกลับแล้วนะ เรียนให้จบแล้วไปต่อโทสะถ้ามีเงิน ถ้าไม่มีเงินก็ทำงานสัก 2 ปี เก็บตังให้ได้สัก 100000 แล้วไปเรียนสายอื่นสะ เช่น สายบัญชี คอม อะไรงี้ แล้วไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ยังทันนะ จริงๆ แต่สำหรับคนที่ชอบงานโรงพยาบาลจริงๆ พี่แนะนำรังสีเทคนิค กับ เภสัชกร เท่านั้น ถ้าเราคิดว่าเราไหวแค่ระดับนี้ ถ้าเก่งกว่านั้นไปหมอ ทันตะเลย แต่ขออย่างเดียวเทคนิคการแพทย์อย่าเรียน พี่เตือนเพื่อเป็นกุศลจริงๆ แล้วอีกอย่างไม่เข้าใจว่าสถาบันต่างๆจะเปิดผลิตนักเทคนิคการแพทย์อะไรเยอะเยะ ทั้งๆที่ห้องแล็บทั่วไทยก็มีแค่นี้ งานก็น้อย ควรจะเปิดรังสีเทคนิค เพื่มดีกว่าไหม งงไทยจริงๆ ควรจะปิดและเลิกผลิตได้แล้ว ถ้าไม่เชื่อพี่ไปค้นหางานเทคนิคการแพทย์ตอนนี้ดูนะ มีแต่งานด้าน Sale ด้าน Spe. ทั้งนั้นถ้าน้องไม่ชอบขายของ พี่บอกเลยว่าเตรียมตกงาน ถ้าน้องไม่มีดวงอย่าเลือกเรียนจริงๆ
MT52
19 ก.พ. 63 เวลา 17:46 น.
40,008
views
10 ความคิดเห็น
นึกถึงซีรีส์เกาหลี poem a day
อายุการทำงาน 4 ปี ได้เงินเดือน 30,000 บาทก็เยอะอยู่นะ ถ้าเป็นพนักงานออฟฟิตหน้าใหม่ทั่วไปให้ 25,000 บาทก็ไม่ค่อยอยากจ้างแล้ว แสดงว่านี่ให้เงินเดือนตามวิชาชีพด้วย
เท่าที่อ่านข้อเสียจริง ๆ มีแค่เรื่องหาที่ทำงานยากแค่นั้นเอง ส่วนข้ออื่นก็มีกันหลายอาชีพ เช่น เรื่องกะดึกก็มีหมอกับพยาบาลบ่นกัน ส่วนเรื่องเลิกงานช้างานบริษัทก็เจอเหมือนกัน บางทีถ้างานต้องอยู่ถึงสองทุ่มก็มี เรื่องการเมืองภายในแบ่งพรรคแบ่งพวกก็มีหมดทุกที่นั่นแหละ แค่ที่ไหนจะแรงหรือจะเบาต่างกันแค่นั้น
หางานยากไม่ควรใช้คำว่าแค่นะ....
ทำ*** พิมผิด
ก็เรียนมาแล้วทำงานยากก็ต้องทำได้สิ
อย่าลาออกนะ
ตอนนี้หางานยากจริง ๆ
ปริญญาโทจาก nida สายบุคคล เริ่มงานแค่ 16000 บ.ยักษ์ใหญ่ด้วยนะ
ทำงานมา 4 ปี ตอนนี้ 23000 เอง แง ๆๆ
ส่วนเรื่องมนุษย์ป้า..เป็นปกติ..ที่ทำงานไหนไม่เจอ ..หรือ เจอคนดี
ถือว่าถูกล็อตเตอรี่ก็แล้วกันนะ เรื่อง ot..ไม่ต้องพูดถึง
แต่ทำงานเลยเวลาแทบทุกวัน อย่างน้อยก็ครึ่งชั่วโมงขึ้นไป
เหนื่อยจริง ๆ
เงินเดือนก็ได้อยู่นะ ถือว่ามากแล้วในสมัยนี้ เราว่าเทออ่ะ อีโก้สูงเองมากกว่า กลับไปปรับตัวเองดีกว่านะ
เดี๋ยวนะ ก็มุมมองเค้า ถ้าไม่เคยทำไม่เคยเจอเองไม่รู้หรอกว่าเป็นยังไง ใครๆก็อยากให้ชีวิตตัวเองดีไหม เค้าแค่มาเล่าปสก. นี่คิดว่าทุกอย่างที่เค้าพูดมีเหตุผลคุณละมีเหตุผลบ้างไหมตรงไหนที่อีโก้สูง??
https://www.dek-d.com/board/view/3900936/
อันนี้ของจริงมันอยู่ที่การใช้จ่ายและความขยัน คนขยันคนตั้งใจไม่อดตายหรอกครับ ใช้จ่ายให้เป็นไม่ใช่มาบ่นว่าไม่เหลือๆๆๆ ไร้สาระ
คอนเฟิม ไร้อนาคตมาก คิดผิดจริงๆ
ใช่ครับ ประสบการณ์ตรง
Tcas64คะแนน Mt สูงมาก จำนวนผู้สมัครก็สูง บ่งบอกถึงคนสนใจเรียนเเยอะ
เห็นด้วยค่ะ คะแนนสูงมากจริงๆ
ถึงกับต้องล็อคอินมาคุย มายืนยันอีกเสียงนะคะว่าเทคนิการแพทย์(MT) เงินเดือนน้อยจริงและคนไม่เห็นคุณค่าจริง ไม่ว่าจะผ่านมากี่ปีจนตอนนี้โควิดระบาดคนถึงจะเริ่มรู้กับเค้าแล้วบ้างว่ามีอาชีพที่เรียกว่าเทคนิคการแพทย์ทำงานอยู่ในแลปตรวจโควิดให้แกนะ แต่โดยทั่วไปแล้วถ้าถามคนส่วนใหญ่คนก็ยังไม่รู้ว่าดีว่าคนที่ตรวจแลปให้คุณๆเวลาคุณไปรพ.เนี่ยมีชื่อเรียกอาชีพนี้กับเค้าด้วยนะ ในแง่ตัวตน/จุดยืนในสังคมเรียกได้ว่าเลือนลางมาก ส่วนจุดยืนในสหวิชาชีพก็น่าสงสารแทบจะไม่มีปากมีเสียงกับเค้า
ส่วนในเรื่องเงินเดือนขอพูดจากมุมคนทำงานรพ.เอกชนนะคะ จากที่รีวิวมาส่วนใหญ่มักจะstartที่ 15k ให้ค่าใบประกอบเบื้องต้นก็ 3k(บางที่อาจจะให้มากกว่านั้นให้ 5k แต่ไปลดค่าอื่นเอา เช่นชั่วโมงทำงานหรือ OT) ถ้าทำเอกชนก็จะมีค่าครองชีพให้ประมาณ 2k รวมๆ start ก็อยู่ที่ 20kต้นๆ แล้วใครจะได้มากได้น้อยทีนี้ก็จะขึ้นอยู่กับค่าชม.ล่วงเวลา(OT)แล้ว รพ.แต่ละที่ก็มีเรทOTไม่เท่ากัน ที่เคยเห็นมามีตั้งแต่ ชม.ละ 60-150 บาท ถ้าขยันขึ้นเวรก็ได้เยอะ หลายคนที่ได้เงินจากOTเยอะกว่าเงินเดือนตั้งต้นอีกนะ แต่บางรพ.ก็จะให้เป็นเวร เวรละ 500-700 (เวรนึงก็อาจจะประมาณ 7-8 ชม. หรืออาจจะมากกว่านั้น ระบบให้เป็นเวรนี่ไม่ค่อยแม่นเท่าไหร่เพราะปกติของเรานับชม.เอา) แล้วการจะได้ขึ้นเวรมากหรือน้อยก็ขึ้นอยู่กับว่าแลปคุณมีเทคอยู่กี่คน ถ้าเทคน้อย 3-4 คน ก็ได้ขึ้นเวรเยอะสลับกันมาขึ้นอยู่แค่นั้น ก็ได้ค่าเวรหรือOTเยอะ แต่ถ้าเทคมีเยอะเวรก็จะโดนจัดเฉลี่ยกันไปเงินที่ได้จากการขึ้นเวรก็จะลดลงมาอีก อย่างเราทำงานมาได้ 1 ปี (จบปี 63) ที่ทำงานเราเงินเดือนstartที่ 21k (รวมค่าใบประกอบ+ค่าครองชีพ) OT ชม.ละ 110 มีเทคแค่ 4 คน เดือนนึงOTเราจะอยู่ที่ประมาณ +150ชม. *110 ก็จะตกที่ +16k เบ็ดเสร็จเงินเดือนขั้นต่ำเราจะอยู่ที่ 36k ถัาขยันขึ้นเวรมากๆใครขายเวรให้เราเอาหมดบางเดือนก็ได้ +40k แต่ก็นั่นแหละบอกเลยว่าทำงานเหนื่อยมากมันคืองานที่เราไม่ได้หลับไม่ได้นอ อยู่เวรดึกละมาต่อตอนเช้าก็คือสะโหลสะเหลมาก มันเสียสุขภาพเทียบกับบางอาชีพที่ทำงานอีกลักษณะนึงแต่ได้เงินเยอกว่านี้ อันนี้เราว่าเราโชคดีที่เราได้ที่ทำงานที่ให้ค่าแรงสูงกว่าที่อื่นหน่อย แต่ที่อื่นส่วนใหญ่เลยนะ เรทต่ำกว่านี้เยอะ แล้วพวกจังหวัดที่อยู่ห่างไกลยกตัวอย่างของเรา เราจบจากสถาบันแห่งนึงในภาคเหนือที่มีช้างชูป้ายไฟ บอกเลยว่างานเทคนิคการแพทย์โซนเหนือคือหายากมากกกก รอไปเถอะ จบมาจะ6เดือนบางคนที่รองานโซนเหนือยังไม่ได้งานเลย ต้องระเห็ดไปทำที่ไกลบ้านอย่างภาคกลางภาคตะวันออกงี้ ยิ่งโซนกรุงเทพคือรับเยอะนะแต่ก็ปัญหาไกลบ้านค่าครองชีพอีก แล้วถ้าทำพวกรพ.โซนต่างจังหวัดบอกเลยว่าถ้าไม่ทำในรพ.ศูนย์หรือรพ.ใหญ่เงินเดือนคือต่ำเตี้ยเรี่ยดินมาก ไม่คุ้มค่าที่อยู่ค่าเดินทางเลยนอกจากจะเป็นคนพื้นที่มีบ้านอยู่แถวนั้น
สรุปแล้วถ้าถามเราว่าจะแนะนำอาชีพนี้ให้น้องๆมั้ย พูดในฐานะรุ่นพี่เลยว่า ไม่ค่ะ ถ้าให้พี่แนะนำสายงานในคณะเทคนิคการแพทย์หรือสหเวช พี่แนะนำน้องไปเรียนรังสีเหมือนกัน เพราะจากเพื่อนพี่ที่มันเรียนรังสี ตลาดต้องการเยอะมาก เงินเดือนสูง และมีคนแคร์ เพื่อนพี่ที่จบรังสีมันมีรพ.มาจองตัวตั้งแต่ยังไม่จบกันหมดนะคะ ไม่ต้องมาเจอฟีลจบมาเป็นคนว่างงานเตะฝุ่นไล่สมัครงานแบบพี่ที่จบMT (ย้อนเวลากลับไปได้ตอนเลือกคณะพี่ก็อยากจะเลือกเภสัชไว้ก่อนเหมือนกัน อย่างน้อยค่าใบประกอบเค้าก็ได้เยอะกว่า สภาเค้าก็ดูแลดีกว่า พี่บอกเลยว่าเครดิตวิชาชีพเค้าดีกว่าเราเยอะ ใบประกอบเค้าสามารถเอายื่นกู้ไว้วงเงินสูงกว่าและสามารถเอาไปใช้ทำอะไรได้หลายอย่างในการทำธุรกรรมการเงิน ในขณะที่ใบประกอบเราเค้าไม่ขอดูด้วยซ้ำ ไม่รู้ด้วยซ้ำมั้งว่าอาชีพชั้นนี่เป็นวิชาชีพนะว้อย 55555 พูดแล้วก็ช้ำใจ)
จริงๆจะเตือนเด็ก64ก็คงไม่ทันแล้ว ก็ขอเตือนเด็กปีต่อๆไปที่หลงมาอ่านกระทู้นี้ละกันนะว่าอาชีพที่หนูๆกำลังสนใจน่ะในโลกแห่งความจริงมันเป็นยังไง บางทีการฟังคนอื่นromanticizeให้ฟังว่ามันเป็นอาชีพปิดทองหลังพระแค่นั้นอาจทำให้เราหลงผิดคิดถึงภาพสวยหรูของอาชีพการงาน สำหรับพี่ พี่สนุกกับการทำงานเทคนิคการแพทย์นะ แต่ตัวพี่ก็คิดว่าถ้าทำงานแค่นี้ก็จะมีกินมีใช้แค่นี้ ถ้าไม่หางานอื่นเสริมหรืออัพสกิลตัวเองให้สูงขึ้นเราก็ไม่มีทางรวย ถ้าใครคิดจะรวยจากการทำงานแค่อาชีพนี้อาชีพเดียวพี่บอกเลยว่าหนูไม่รวยจ้ะ
ขอบคุณคห.นี้มากๆเลยค่ะ ส่วนตัวกำลังลังเลใจว่าจะเอาMTหรือRT แต่เจอคห.นี้เข้าไปขอตรงดิ่งไปที่RTเลยค่ะ ขอบคุณค่ะ
เห็นด้วยทุกอย่างครับ ผมทำ รพ.เอกชน ที่พูดกันว่า 3 หมื่น คือ เงินเดือน 15000 ใบประกอบ 3000
โอที 12000 แต่โอทีที่ว่า ชมละ110 คือทำงานทุกอย่างคนเดียว ไม่ได้หลับไม่ได้นอน เพื่อนผมงานธนาคาร เริ่ม 22,000 ไปเช้าเย็นกลับบ้าน โบนัส 3-5 เดือน ค่าโอที 200 ถ้าวันเสาร์อาทิตย์ ค่าโอที*1.5
ผ่านไป 7 ปี เงินเดือนผมขึ้นปีละ 450 เพื่อนปีละ 1000
ปัจจุบันเพื่อน 29,000 รวมโบนัสวันหยุดเงินพิเศษรวมแล้ว 3 ต้นทำงาน จ-ศ หยุด ส อา ชีวิตดีมาก
ผม 21,150 นี้ขนาด รพ ปรับฐานเพิ่มให้อีก 3,000
และใช้การย้ายงาน ตอนนี้ฐาน 23500 ไม่รวมโอที
อายุเข้าเลข 3 ตัดสินใจลาออกครับ เปลี่ยนสายงาน
เวลาคุยกันให้เน้นคุยที่ฐานเงินเดือน รูปแบบงานครับ
แนะนำเลยเรียนสายอื่น จบวิทย์ คณิตมาไปได้หลายทางเลยครับ เหมือนที่พี่ๆคนอื่นบอก
มีหลานสอบติดรังสีของม.ธรรมศาสตร์ หลานไม่เอาค่ะไปเลือกเรียนเทีนิคการแพทย์ของ ม. รังสิต ค่าเทอมก็แพง เจอกระทู้นี้ถึงกับอึ้ง
ทำงานสายนี้มา 8 ปี เห็นด้วยกับโพสต์ทุกอย่างค่ะ ซิ่วทันก็ซิ่วนะ
อยากสอบถามจังเลยค่ะ ว่าจะซิ่วไปเทคนิคการเเพทย์ เเต่มาเห็นโพสนี้เเล้วลังเลเลยค่ะ ทำงานมามีเวลาพักผ่อนหรือไปเที่ยวบ้างไหมคะ
สายอื่นเลยครับ ถ้าอยากทำ รพ จริงแนะนำเภสัช ไม่ก็ ทันตแพทย์
ถ้าหนูเรียนพยาบาลอยู่ปี1ซิ่วไปรังสียังงี้จะดีกว่ามั้ยคะ
ถ้า/ม่อยากขึ้นเวรได้มั้ยคะ ทำงานเช้ากลับเย็นเหมือนงานทั่วไปได้มั้ยคะ
ถ้าเราไม่อยู่ก็ต้องมีคนอยู่แทนค้ะ (ถ้ามีก็ดีไป ถ้าไม่มรก็ต้องอยู่เองจ้า)
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?