ดาบกับกระบี่ต่างกันตรงไหน
ตั้งกระทู้ใหม่
ขอแถมนิด จังหวัดกระบี่เป็นอะไรกับอาวุธกระบี่
7 ความคิดเห็น
ดาบใช้ฟาดฟัน ดาบเน้นดุดัน ฟันหัวแบะ
กระบี่ เน้นรวดเร็ว พลิกแพลงสุดจะหยั่ง
ต้องหาอ่านนิยายกำลังภายในสมัยก่อนเยอะๆครับ แล้วจะเข้าใจในคำอธิบาย
แล้วก็ลืมดูชื่อ ผมเอง ตัวก๊อปปี้ที่เท่าไรวะเนี่ย นานๆจะเจอตัวก๊อปปี้ที่ตั้งกระทู้ไม่พาให้กุโดนด่า
ต่างค่ะ เพราะว่าดาบมันไม่มีฟักส่วนกระบี่เค้ามีฟักกระบี่ค่ะ. เราตอลอย่างคงไม่โดนคนอื่นด่าหรอกนะ555555
ดาบคมแค่ด้านเดียว ถ้าจะฟันเฉือนเนื้อต้องฟันให้ถูกด้าน เพราะดาบจะมีสัน สันดาบมันไม่คม
กระบี่คมทั้งสองด้าน ไม่มีสัน ฟันด้านไหนก็เฉือนเนื้อได้ ปลายแหลมกว่าดาบ
กระบี่ อาวุธประจำประเทศจีนในสมัยโบราณ
กระบี่ โบราณจริง ๆ ใหญ่ หนา หนัก
ส่วนกระบี่ในหนังจีน นิยายจีน บางเบา ยาว
ดาบ คือชื่อเรียกอาวุธที่มีด้ามจับและตัวใบดาบยาว ไม่ว่าจะทรงโค้ง หรือรูปทรงแปลกขนาดไหน ก็มักจะเรียกว่าดาบ
ไม่ต้องซีเรียสเรื่องชื่อเรียกมากนัก ถ้าไม่ใช่นิยายจีน ให้ใช้ดาบไปเลย แค่อธิบายรูปลักษณ์เพิ่มเติม หากดาบดังกล่าวมีความแตกต่างจากดาบทั่วไป
ตามความเข้าใจนะ ไม่ได้เปิดวิกิ หรือเคยอ่านหนังสือเกี่ยวกับอาวุธ
ดาบใช้ฟันศัตรู มีคมทั้งสองด้านหรือด้านเดียวครับ(มันก็คือดาบแบบทั่วไปนะแหละ)
กระบี่ มีลักษณะเรียวแหลม ใบดาบอาจจะมีคมด้านเดียว หรือทั้งสองด้าน หรืออาจจะคมแค่ครึ่งปลาย โกร่งดาบมักจะมีลวดลายสวยงามสลับซับซ้อน ใช้ต่อสู้โดยการแทง จิ้ม (อาจจะใช้ฟันได้บ้างในบางองศาแต่ไม่ค่อยสะดวกนัก เพราะใบดาบบาง ) ปล. ผมเรียกกระบี่ว่าเรเปียร์มาตลอด ถ้าผิดก็ขอโทษด้วย
ส่วนกระบี่ของจีนเราไม่รู้หรอก555 ศึกษาแต่ของยุโรป แต่โดยรวมอาจจะคล้ายกัน.... มั้งนะ
เอาแบบฝรั่ง แขก จีนหรือไทยล่ะ
มันแยกออกได้เป็นสิบชนิดเลย
เอาเป็นว่า ผมจะจำแนกให้อ่านประเทืองปัญญาเล่นๆแล้วกัน
"ดาบ" (sword) เป็นอาวุธหนักสำหรับฟาดฟัน ทางฝรั่งจะมีสองคมหรือคมเดียวขึ้นอยู่กับการใช้งาน เล่มตรง ยาว 80-140 ซม. ผู้ที่จะใช้ดาบเล่มใหญ่ๆได้ต้องมีการฝึกฝนอย่างดีจึงจะสามารถใช้ดาบได้ ดาบใช้ได้ทั้งฟาด ฟัน แทง ทุบ
ทางจีน ไทย และอาหรับ เป็นดาบคมเดียวโค้งงอ โดยความโค้งงอจะมีองศาตั้งแต่ 15-40 องศา ความสามารถคือการฟาด ฟัน และแทงได้หากดาบถูกออกแบบมาให้แข็งปลาย แต่ดาบชนิดนี้จะถูกออกแบบสำหรับการ "ตัด" โดยเฉพาะ
"กระบี่" (Repier) หรือ (Espadaropara) เป็นอาวุธปลายแหลมใบบางตรง มีโกร่งสำหรับกันมือ ซึ่งกระบี่มีจุดกำเนิดที่สเปนในยุคสเปนเป็นจักรวรรดิ จึงเรียกว่า "เอสปาด้าโรเปร่า" หรือ Espada "ดาบสเปน" (Espada เป็นภาษาสเปนแปลว่าดาบหรือนักดาบที่เขียนว่า Espadachin) ซึ่งต้นกำเนิดนี้แยกย่อยออกไป หากเป็น Espada จะเป็นกระบี่ที่ใบกว้างมีคมเดี่ยวยาว (ลูกครึ่งดาบผสมกระบี่) แต่ถ้าเป็น Espadaropara จะเป็นกระบี่ใบเรียวเล็กคมครึ่งเล่ม
ทั้งนี้ ในปัจจุบันจะมีกระบี่อีกแบบหนึ่งคือ "กระบี่ทหารเรือ" (เรียกขานแบบนั้น) เพราะเป็นวิวัฒนาการของอาวุธทางการในช่วงยุคแห่งการเดินเรือ การใช้กระบี่บนเรือนั้นไม่เป็นที่นิยมเพราะใบบางเล็ก และใช้งานไม่ได้ทุกสถานการณ์ ส่วนการใช้ดาบนั้นก็ไม่เป็นที่นิยม เพราะดาบมีความยาว ต้องการพื้นที่ในการเหวี่ยงมาก ซึ่งบนเรือไม่มีพื้นที่การให้เหวี่ยงดาบได้ขนาดนั้น
การออกแบบจึงออกแบบให้ดาบมีโกร่งกันมือ ใบดาบใหญ่ และสะบัดปลาย เพื่อให้เกิดพื้นที่ในการฟาดฟันน้อยลง ใบดาบที่กว้างขึ้นเพื่อให้สามารถตัดเชือก ไม้ หรือใช้สับได้อย่างถนัด ซึ่งกระบี่ลูกครึ่งนี้ได้รับความนิยมไปทั่วโลกและใช้ในราชการทหารถึงปัจจุบัน
ในยุคปัจจุบัน การแยกดาบกับกระบี่จึงแทบแยกไม่ออกเพราะการผสมกันของวิวัฒนาการการสร้างอาวุธ แต่กระนั้น เราจะแยกออกได้ง่ายๆดังนี้
ใบดาบโค้งไม่เกิน 12 องศา ใบดาบหนาไม่เกิน 1 นิ้ว (มาตราเมตริก) มีโกร่งกันมือ เราเรียก "กระบี่" ซึ่งยังคงใช้ในราชการทหารปัจจุบัน
ใบดาบโค้งเกิน 12 องศา ใบดาบหนาเกิน 1 นิ้ว แม้ว่าจะมีโกร่งกันมือ เราจะเรียก "ดาบ" ซึ่งปัจจุบันหาดูยากกว่าดาบไทยธรรมดาเสียอีก
ตามภาพ 1 กระบี่ 2 ดาบผสมกระบี่ 3 ดาบฝรั่ง(ดาบยาว) 4 ดาบฝั่งเอเชีย(รูปลักษณ์คล้ายกัน)
ยุคปัจจุบัน 1 ดาบทหารม้า(แบบยุโรป) 2 ดาบทหารม้า(แบบอังกฤษ) 3 กระบี่ทหารม้า(สากล) 4 กระบี่ (ทหารไทย)
ในกรณีพี่จีน ซึ่งกระบี่กับดาบไม่เหมือนกัน กระบี่จีนจะใบเล็ก ตรง และปลายสะบัด ส่วนดาบจีนใบกว้าง โค้ง และแข็ง
ตามภาพ 1,2,3, ดาบจีน 4 กระบี่จีน
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?