ค่าตอบแทนแพทย์จบใหม่(อินเทอร์น1) ร.พ.รัฐ
ตั้งกระทู้ใหม่
แต่ละคนอาจจะต้องใช้เวลาหางาน ประมาณ 3 ปีขึ้นไป ถึงจะหางานทำได้ ไม่ตกงาน
แต่ถ้าเรียนจบใหม่ แพทย์สถาบันของรัฐ จะไม่ตกงานเลย มีงานทำในโรงพยาบาลรัฐ เป็นข้าราชการแน่นอน ไม่ตกงาน ไม่ต้องไปตระเวณสอบแข่งขัน เข้าบรรจุเป็นข้าราชการของรัฐในหน่วยงานอื่นๆ ทั่วประเทศเหมือนสายงานอื่นๆ เพราะเด็กเรียนแพทย์สถาบันของรัฐ ก่อนเข้าเรียนแพทย์ต้องทำสัญญาทำงานใช้ทุนไว้กับสถาบันแพทย์นั้นๆ หากจบแล้ว ไม่ไปทำงานใช้ในโรงพยาบาลรัฐ จะต้องถูกปรับเป็นเงินประมาณ 4 แสนบาท หากไปทำงานตามสัญญา แพทย์จบใหม่ สถาบันรัฐ (อินเทอร์น1) จะได้รับเงินค่าตอบแทนดีพอสมควร และยังเป็นงานที่มีเกียรติในสังคม ด้วย ลองมาดูรายละเอียดกัน
ค่าตอบแทนแพทย์จบใหม่(อินเทอร์น1) ร.พ.รัฐ
1.เงินเดือน เดือนละ 18,000 บาท
2.เงินเพิ่มตำแหน่งพิเศษของปฏิบัติงานสาธารณสุข(พ.ต.ส.) เดือนละ 5,000 บาท
3.เงินไม่ทำงาเวชปฏิบัติส่วนตัว(เงินไม่ทำคลินิก) เดือนละ 10,000 บาท
4.เงิน P4P ค่าหัตถการทางการแพทย์ เดือนละประมาณ 7,000 บาท
5.เงินเวร ค่าเวรวอร์ด วันธรรมดา 16.00-08.00 น.ครั้งละประมาณ 1,400 บาท
ค่าเวรวอร์ด วันเสาร์-อาทิตย์ วันหยุดราชการ 24 ชั่วโมงทั้งวัน ครั้งละประมาณ 2,000 บาท
โดยปกติแพทย์จบใหม่ จะต้องอยู่เวรวันธรรมดา 6 เวร เวรวันเสาร์-อาทิตย์ประมาณ 2 เวร รวมเดือนละประมาณ 8 เวร เป็นเงิน 12,000 บาท
ค่าเวรห้องฉุกเฉิน(ER) ทำงาน 8 ชั่วโมง ครั้งละ 1,100 บาท โดยปกติเดือนละ 3 เวร เป็นเงิน 3,300 บาท
รวมค่าตอบแทนแพทย์จบใหม่(อินเทอร์น1) ร.พ.รัฐ เฉลี่ยเดือนละประมาณ 55,000 บาท
รวมทำงานเดือนละประมาณ 370 ชั่วโมง ตกชั่วโมงละ 150 บาท
ค่าตอบแทนแต่ละโรงพยาบาล จะไม่เหมือนกัน บางแห่งอาจจะได้เงินมากกว่านี้ เช่น โรงพยาบาลในถิ่นทุรกันดาร โรงพยาบาลใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้
อยู่เวรโรงพยาบาลจังหวัด จะได้เงินค่าเวรน้อยกว่าโรงพยาบาลอำเภอ(โรงพยาบาลชุมชน)
อายุงานมาก จะได้เงินค่าตอบแทนมาก หรือถ้าจบแพทย์เฉพาะทาง จะได้รับเงินค่าตอบแทนมากขึ้น
ช่วงอยู่เวร จะมีอาหารให้รับประทานฟรี ช่วยประหยัดเงินได้อีก ส่วนมากจะสั่งอาหารข้างนอกมารับประทานเอง
ช่วงอยู่เวรจะเครียดมาก ก็จะกินมาก ซื้อสินค้ามาก
ที่มา https://www.youtube.com/watch?v=6zIimFurNUA
กัลย์
24 ก.ย. 63 เวลา 10:58 น.
57,607
views
14 ความคิดเห็น
ค่าตอบแทนแพทย์(อินเทอร์น 2-3) ร.พ.เอกชน ประมาณเดือนละ 100,000 บาท
ลาออกก่อนครบสัญญา ทำงานในโรงพยาบาลรัฐไม่ครบ 3 ปี ยอมเสียค่าปรับ ผ่อนได้
ทำงานแพทย์เอกชน เพื่อรอเรียนต่อแพทย์เฉพาะทาง
แล้ว ทันตแพทย์ ละครับ. คุณกัลย์
ทันตแพทย์ ไม่รู้รายละเอียดข้อมูลที่แท้จริง จึงไม่อาจรับรองข้อมูลได้
เพราะลูกเป็นแพทย์ทั้ง 2 คน กำลังเรียนแพทย์เฉพาะทาง 1 คน กำลังทำงานใช้ทุนอยู่ 1 คน จึงมีประสบการณ์แค่แพทย์ ไม่มีประสบการณ์ ข้อมูลเกี่ยวกับค่าตอบแทนทันตแพทย์ ร.พ.รัฐ
ลองค้นหาข้อมูล ค่าตอบแทนทันตแพทย์ ร.พ.รัฐ ในกูเกิ้ล หรือใน ยูทูป ก็อาจจะรู้ได้
เรียนสอบถาม คุณกัลย์ ครับ
พอดีลูกเรียนที่ รร แพทย์ แห่ง นึง แถวๆ เขตพระราชวัง อยากสอบถามเกี่ยวกับ การเรียนต่อเฉพาะทาง ว่ามีหลายแบบ เช่น ใช้ทุนแบบ fixed ward หรือ จับฉลาก ส่วนตัวทราบมาพอสมควร แต่อยาก ถามผู้รู้จริงๆ เช่น คุณกัลย์ ดังนี้
1. เกณฑ์ในการพิจารณาในการรับสมัครแพทย์เฉพาะทาง มีเกณฑ์พิจารณาไม่ตายตัว แต่อยากทราบจริงๆว่าใช้ เกรด, พอร์ต, รร.แพทย์ที่จบ หรือ reference ต่างๆ อันไหนมีน้ำหนักในการพิจารณามากที่สุดครับ แต่ละรร.แพทย์ มีเกณฑ์ ต่างกันมั้ยครับ
2. แพทย์เฉพาะทาง วุฒิ อว. กับ วว. ต่างกันอย่างไรครับ
3. ตามความคิดเห็นส่วนตัวของคุณกัลย์ เป็น แพทย์ สังกัด สธ. กับ อ.แพทย์ สังกัด รร.แพทย์ เปรียบเทียบ รายได้ สวัสดิการ ความก้าวหน้า อันไหนดีกว่ากันครับ
4. ตามความคิดเห็นของคุณกัลย์ แพทย์เฉพาะทางที่ขาดแคลน โดยเฉพาะ จิตแพทย์ กับ แพทย์เวชศาสตร์ครอบครัว ถ้าลูกจะศึกษาต่อ 2 สาขานี้ คุณกัลย์คิดว่า career path จะดีมั้ยครับ
รบกวนคุณกัลย์ แค่นี้ครับ
ขอบคุณมากๆ ครับ
1. เกณฑ์รับสมัครแพทย์เฉพาะทางของแต่ละสถาบัน ขึ้นอยู่กับแต่ละสถาบันกำหนด โดยปกติสถาบันฯ จะคัดเลือก เกียรตินิยม เกรดดี สถาบันแพทย์ที่จบ(ลูกหม้อ) อาจารย์ ผู้บังคับบัญชารับรอง ผลงานการปฏิบัติงาน ความประพฤติ ขยันอดทน สู้งาน รับผิดชอบดี พอร์ตทำพอผ่าน ซึ่งสถาบันจะพิจารณาจากหลายส่วนประกอบกัน แต่ถ้าให้เลือกส่วนใดมีน้ำหนักในการพิจารณามากที่สุด ความเห็นส่วนตัว เกียรตินิยม เกรดดี
คำรับรองของผู้บังคับบัญชา ผลงานการปฏิบัติงาน ความประพฤติ ขยันอดทน สู้งาน รับผิดชอบดี
2.ลองศึกษาจากเว็บนี้ http://topicstock.pantip.com/library/topicstock/2010/10/K9856730/K9856730.html
3. ความเห็นส่วนตัว แพทย์ สังกัด สธ. กับ อ.แพทย์ สังกัด รร.แพทย์ ดีเหมือนกัน
ขึ้นอยู่กับตัวเด็กที่จะเลือก ถ้าไม่ชอบงานสอน ชอบงานเวชปฏิบัติหรือรักษาคนไข้ ก็เลือกแพทย์ สธ.ทำงานอยู่ในโรงพยาบาลต่างจังหวัด หรืออำเภอ
ถ้าชอบงานสอน ก็เลือก อ.แพทย์สถาบัน ทำงานอยู่ตามโรงพยาบาลมหาวิทยาลัย ซึ่งเจริญมากแล้ว
-แพทย์ สธ.เป็นข้าราชการ รายได้ สิทธิ สวัสดิการแบบข้าราชการ
-อาจารย์แพทย์สถาบัน ไม่ได้เป็นข้าราชการ เป็นลูกจ้าง พนักงานของมหาวิทยาลัย รายได้ สิทธิ สวัสดิการแบบลูกจ้าง พนักงานมหาวิทยาลัย
4. การเลือกเรียนต่อแพทย์เฉพาะทาง ขึ้นอยู่กับแพทย์จบใหม่ว่า ชอบสนใจเรียนต่อทางด้านใด เพราะทุกคนเคยเรียน ฝึกงาน ปฏิบัติงานตามวอร์ดต่างๆ แล้ว ย่อมรู้ว่าชอบอะไร
บางคนชอบงานน้อย ไม่ชอบงานหนัก ก็เลือกเรียนเฉพาะทางที่งานน้อย ไม่เลือกอายุรกรรม ศัลยกรรม โดยปกติแพทย์จบใหม่ชอบเลือกเรียนต่อแพทย์เฉพาะทาง 5 สาขาหลัก เช่น ศัลยกรรม สูติ-นรีเวชกรรม อายุรกรรม กุมารเวชกรรม ออร์โธปิดิกส์
ความเห็นส่วนตัว ให้แล้วแต่ดุลยพินิจของแพทย์จบใหม่จะพิจารณาเลือกทางเดินทางเอง
ที่บอกมา แพทย์เฉพาะทางที่ขาดแคลน เช่น จิตแพทย์ กับ แพทย์เวชศาสตร์ครอบครัว ก็ดีทั้งนั้น เรียนเร็ว จบเร็ว เรียนระหว่างทำงานใช้ทุนด้วย
ไหนๆก็ดั้นด้นแข่งขันจนเรียนแพทย์ และพยายามจนจบ แล้วรายที่ลาออกยอมเสียค่าปรับการใช้ทุน 4 แสน รัฐหรือประชาชนผู้เสียภาษีให้รัฐคงไม่อยากได้ อยากให้ทำงานตามสัญญาจะดูดีกว่าครับ เหมือนตั้งแต่เกิดมาได้ตอบแทนส่วนรวมสักครั้ง ครบกำหนดแล้วอยากทำอะไรก็ทำ
แต่กว่าจะสอบให้ติดแพทย์ กสพท. และเรียนให้จบแพทย์ 6 ปี ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ
ตามประสบการณ์ที่เห็นๆมา เด็กเก่งปานกลางอาจจะสอบติดแพทย์ กสพท.ได้หรือไม่
ขึ้นอยู่กับการเตรียมตัวมาดีหรือไม่ เช่น วางแผนเตรียมพร้อมจะเรียนแพทย์มาตั้งแต่ ม.3 จะขึ้น ม.4 แล้ว มีความขยัน อดทน และมีความสามารถระดับหัวๆของโรงเรียนดังไม่มากใน กทม. หรือ ดังมากในระดับจังหวัด ส่วนโรงเรียนที่ไม่ดัง อาจจะไม่มีนักเรียนลุ้นติดแพทย์ กสพท.แม้แต่คนเดียว นานหลายปี
ความเห็นส่วนตัว เด็กเก่งปานกลาง ประมาณว่า เด็กโรงเรียนเตรียมอุดมฯ เกรดไม่ถึง 3 เด็กโรงเรียนดังใน กทม.เกรด 3 ขึ้นไป เด็กโรงเรียนดังไม่มาก 3.8 ขึ้นไป
เด็กเก่งปานกลาง ก่อนสมัครสอบแพทย์ กสพท.อย่าไปตั้งเป้าหมายไว้สูงมาก คือ แพทย์หัวตาราง เช่น แพทย์จุฬา ศิริราช รามา จุฬา(ทอ.) รามา(จุฬาภรณ์) วชิระ วชิระ(ตากสิน) มธ.
ควรตั้งเป้าหมายไว้แค่แพทย์กลางตาราง และท้ายตาราง จะได้ไม่กดดันตัวเองมากไป รอผลคะแนนรวมออกมาก่อนดีกว่า ค่อยเปลี่ยนเป้าหมายใหม่ ก็ได้
โดยปกติ เด็กเก่งปานกลางจะมีโอกาสแค่ลุ้นติดหรือไม่ แพทย์/ทันตะ สถาบันรัฐ หรือเอกชน ท้ายตาราง
เด็กเก่งปานกลาง จะสอบให้ติดแพทย์ กสพท.ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ
ต้องผ่านด่านหลายด่านมาก คือ
1.โอเน็ต คะแนนรวมทุกวิชาต้องไม่ต่ำกว่า 60%
2.วิชาสามัญ คะแนนแต่ละวิชาต้องไม่ต่ำกว่า 30% (ฟิสิกส์ เคมี ชีวะ รวมเป็น 1 วิทย์)
3.วิชาเฉพาะ คะแนนต้องดีพอสมควร ถ้าได้คะแนนน้อย ก็มีโอกาสลุ้นติดยาก
เด็กเก่งปานกลาง เกรด 3.8 ขึ้นไป ในโรงเรียนดังไม่มาก สอบไม่ติดแพทย์ กสพท.เยอะแยะไป ส่วนเด็กในโรงเรียนธรรมดา ไม่ดัง เกรด 3.8-4 ส่วนมากไม่มีลุ้นเลย
เห็นด้วยครับกับคุณกัลย์ครับ เกรดของ รร. แต่ละ รร. เปรียบเทียบกันไม่ได้เลยครับ ลูกสาวเรียนอยู่ ม.3 ซึ่งเป็น รร.ม.ต้นที่ดีที่สุดของประเทศ แถวๆสยาม วิทย์กับเลข ยากมากกกก บอกเลยว่าเลขเกรด 4 มาจาก รร.อื่นๆ แต่มา รร.นี้ สอบย่อยตกเฉยเลยครับ ดังนั้น เด็กจาก รร.ดัง ได้เกรด 2.xx แต่อาจจะไ้ด้ 3.xx ในรร.ทั่วไป ก็ได้ ทั้งนี้ ลูกชายผมก็สอบติดแพทย์แถวๆซังฮี้ ก็มาจาก รร.สังกัดมหาลัยแถวย่านอโศก ถึงแม้เด็กเก่งจะไม่เยอะเท่าเตรียมฯ หรือ มหิดลฯ แต่ ผมเห็นเลยว่าหลักสูตรต่างๆ สอนได้ตรงและใกล้เคียงกับข้อสอบที่จะต้องสอบจริงในแต่ละวิชาจริงๆ ซ้ำยัง ทางรร. อาจารย์ผู้สอน ก็เป็น ผศ, รศ, ดร. ทั้งนั้น มีการติว 7 วิชาสามัญ และ ความถนัดฯ ให้ก่อนสอบจริงๆ (ทำตัวเหมือน รร.ติวนั่นแหละ) กอรปกับ เทอมสอง อาจารย์ จะสอนน้อยมากให้เด็กๆ ไปเตรียมอ่านหนังสือ กับ ติวมากกว่า ดังนั้น ผลสัมฤทธิ์ ค่อนข้างดีมากๆ เด็กวิทย์ 2 ห้อง 70 คน ติดแพทย์,ทันตะ กว่า 20 คน ไม่ต้องพูดถึง วิศวะจุฬา ติดเยอะมาก (งงเหมือนกันใน สมัยผมที่เป็นเอ็นทรานซ์ วิศวะจุฬาฯ เทพฯมาก แต่ทำไมในสมัยลูกผม เห็นเค้าบอกว่า ใครๆก็สอบติด) ดังนั้น ถ้าจะเอาเกรดของแต่ละโรงเรียน คงลำบากว่าเกรดเท่านี้น่าจะติดแพทย์หรือทันตะ ทั้งนี้ จริงๆ แล้วผมว่าขึ้นอยู่กับการเตรียมตัวของเด็ก ติวก็สำคัญ แต่ไม่สำคัญเท่าการทำโจทย์เยอะ บวกกับประเมินตัวเองให้ถูกซึ่งสำคัญมาก
เท่าที่ทราบสูตรตายตัวสำหรับสอบแพทย์ ทันตะก็คือ ม.4 เก็บเนื้อหา ม.5, ม.5 เก็บเนื้อหา ม.6, ม.6 เทอม1 ทบทวน เนื้อหาทั้งหมด เทอม2 ตะลุยโจทย์
Remark : เด็กส่วนใหญ่จะมีการวางแผนสอบนะครับ ตัวอย่างเช่น เน้นเก็บคะแนนความถนัดแพทย์ให้ได้มากที่สุด เพราะเป็นวิชาที่ไม่เป็นวิชาการและเวลาในการอ่านมาก นอกจากนี้ จะต้องเน้น เลข กับ อังกฤษให้มากที่สุด เพราะ weight สูงมาก บางคนอาจจะเลือกทิ้งวิชา สังคมฯ เลย แต่ต้องไม่ต่ำ 30% เป็นต้ัน
เท่าที่เล่ามาจะบอกว่าในสายงานแพทย์ยอ่งอยู่อัตคัดยิ่งเงินเดือนดีเหรอครับ
ข้อ 4 โรงพยาบาลส่วนใหญ่ไม่ให้ครับ
ข้อ 5 อยู่ 1 วันต้องพัก 1 วัน เพราะไม่ได้นอน
รพ.เรา ปกติค่าเวรต่อวันได้แค่ 1,100 เองค่ะ (16.00-08.00) ค่า P4Pก็ไม่มีเหมือนคนอื่นเค้า
หมอสาวววววว วี๊ดวิ้วว
อาหารฟรีแล้วแต่รพ.
รพ.เราคืออาหารคนไข้ กินแล้วได้อารมณ์ dm low salt diet
อร่อยไม่มาก แต่ฟรีนะ555
จบจากไหนครับ ทำงานเอกชนแล้วต่อแพทย์เฉพาะทางได้ ในไทยต้องเข้าเงื่อนไขก็ใช้ทุน 3 ปีนะครับถึงจะต่อเฉพาะทางได้
การเรียนต่อแพทย์เฉพาะทาง สถาบันแพทย์รัฐที่รับจะกำหนดคุณสมบัติ เช่น
แพทย์ผู้สมัครจะต้องมีประสบการณ์ในการทำงานในโรงพยาบาลรัฐ
1 ปี หรือ 2 ปี หรือ 3 ปี แล้วแต่ละสถาบันจะกำหนด
นักศึกษาแพทย์เอกชน จึงเรียกร้องให้มีสิทธิ์จับสลากเหมือนแพทย์สถาบันรัฐ
ตามโครงการแพทย์เพิ่มพูนทักษะ
เคสทำงานแพทย์เอกชน เงินเดือน ๆ ละ 100,000 บาท
คนนั้นจบแพทย์ มศว เกียรตินิยม ทำงานใช้ทุนที่โรงพยาบาลรัฐจังหวัดอุทัยธานี
ระหว่างทำงานใช้ทุน ก็หาสมัครเรียนต่อแพทย์เฉพาะทาง
พอรู้ผลติดแพทย์เฉพาะทาง สูติ-นรี ศิริราช (ใช้ทุนส่วนตัว)
มีเวลาว่างรอเรียนประมาณ 6 เดือนกว่า ก็ขอลาออกก่อนครบ 3 ปี
ยอมเสียค่าปรับ ระหว่างรอเรียนศิริราช ไปทำงานแพทย์โรงพยาบาลกล้วยน้ำไท เอกชน
ได้เดือนละ 100,000 บาท ทำ 6 เดือน ได้ 600,000 บาท
เอาเงินนี้ส่วนหนึ่งไปเสียค่าปรับได้สบาย แต่ใช้สิทธิ์ผ่อนชำระค่าปรับดีกว่า
ยังเหลือเงินอีกส่วนหนึ่งเป็นทุน ใช้ระหว่างเรียนศิริราชได้
จบแพทย์เฉพาะทางแล้ว ก็เรียนต่อแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้าน มะเร็งมดลูก
ตอนนี้จบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญแล้ว
ปัจจุบันเป็นอาจารย์แพทย์ สอน ทำงานอยู่ที่ ร.พ.เจริญกรุงประชารักษ์ ถนนตก
แพทย์จบใหม่บางคน ตอนไปทำงานใช้ทุน พ่อแม่ก็ซื้อรถเก๋งให้ใช้ขับไปทำงานแล้ว
พอทำงานใช้ทุนได้ระยะหนึ่ง ก็วิ่งรอกออกไปรับงานโรงพยาบาลเอกชนในท้องถิ่น
หรือจังหวัดใกล้เคียง โดยไม่รับเงินค่าไม่ทำคลินิก รับนอกเงินดีกว่า
เท่าที่เห็นหมอๆในรพชใน3จชต อินเทิร์น1-2ทำงานอยู่รพจังหวัดหรือจับฉลากโดนรพช.ครบทุนก็เวียนอยู่ในจังหวัดนั้นๆรอทุนเฉพาะทาง มีทุกปีค่ะ ยิ่งอยู่จชต.ได้ไม่ยากคือหมอมาอยู่แค่ปีเดียวปีต่อไปก็ไปเรียนต่อจบออกมาถ้าเป็นคนต่างถิ่นส่วนมากก็ย้ายกลับ ถ้าคนท้องถิ่นจชตอยู่แล้วก็อยู่รพ.จังหวัด เก็บประสบการณ์ต่อ ส่วนใหญ่เจอหมอน้องเก่งๆหลายคนมาจากฬ รามา มาใช้ทุนปีสองปี ไปเรียนต่อเรียนจบก็ทำงานส่วนกลางเลย เพราะคนขาดทั้งประเทศ ไม่เข้าใจหมอจบใหม่ทุกปีทุกมหาลัยมันน่าจะมีจำนวนเยอะ แต่ก็มีหมอๆที่เกษียณด้วยแต่อีกทีหมอก็ยังขาดแคลน หมอหายไปไหนค๊าาาาาา อยากให้หมอๆที่เรียนต่อจบเฉพาะทางแล้วไม่ลาออกหรือย่้าย (อยากให้มีหมอเฉพาะทางอยู่ในรพชบ้าง กระจายๆรพละอย่างใกล้ๆกันจะได้ให้คนไข้หรือถ้าเคสด่วน เดินทาง หรือรีเฟอร์ไม่ไกล ไม่อันตราย รักษาทัน ปลอดภัย แต่ กระทรวงนั้น... ค่ะ) เพราะหมอจชตที่รายได้ดีเพราะมีคนน้อยค่ะ หลายๆปีที่ผ่านมารพชขนาด60ต รับจริงเกือบถึง120 หมออยู่เวรคืนละ(16.30-8.30)2 คน ward/ER (รวมๆเดือนละ60เวรหารจำนวนหมอ(ที่อยู่เวรจริงๆอายุไม่มากหรือมีครอบครัวแล้วก็ไม่ค่อยรับเวรแลกให้หมอน้องอยู่ฯลฯ)ที่เหลืออยู่ประมาณ5คน รายได้คือคูณไปค่ะ และค่าเวรแต่ละรพไม่เท่ากัน รายได้เลยเยอะ ส่วนเรื่องอาหารเดี๋ยวนี้ไม่ค่อยมีแจกอาหารแล้วค่ะหรืออาจมีเป็นบางรพไม่แน่ใจเท่าไหร่
ที่จะบอกคือ รพชเงินเยอะกว่ารพทั่วไปหรือรพศูนย์เพราะต้องอยู่เวรจำนวนมากกว่าค่ะ ส่วนหมอฟันอันนี้ในรพชต่างจังหวัดเล็กๆนะคะ รายได้อาจไม่เท่าหมอจีพีเพราะไม่มีเวรตรวจนอกเวลามากเท่าค่ะ(แต่มีเวรคลินิคอยู่จนสองสามทุ่มคือครึ่งเวรนะคะ)
ขอให้สิ่งที่เล่านี่เป็นส่วนประกอบในการเลือกรพ.ตอนใช้ทุนนะคะ นี่เป็นพยาบาล อยากใช้ความรู้อยากพัฒนาความรู้แต่พอไม่มีใครเล่นด้วย หน.ไม่ค่อยจะเป็นใจ ทำอะไรก็ยากค่ะ
ขอบคุณมาก ที่เข้ามาให้ข้อมูล
งุ้ยยย หมอสาว อิอิ
ลืมบอกไป เวลาแพทย์จบใหม่ไปทำงานใช้ทุน ในโรงพยาบาลต่างจังหวัด หรือ
โรงพยาบาลชุมชน(ร.พ.อำเภอ) ไม่ต้องห่วงเรื่องที่พัก
โรงพยาบาลจะมีที่พักของทางราชการ ให้พักฟรี ประหยัดค่าใช้จ่ายได้มาก
ที่พักบางแห่งอยู่ในโรงพยาบาล บางแห่งอยู่นอกโรงพยาบาล สะดวก สบายมาก
เกือบทุกแห่งมี เฟอร์นิเจอร์ เช่น โต๊ะ เก้าอี้ ตู้ เตียง ที่นอน
และมีอุปกรณ์ เครื่องใช้ไฟฟ้าครบ เช่น พัดลม ตู้เย็น ทีวี สัญญาณอินเตอร์เน็ต
แต่ไม่มีแอร์หรือเครื่องปรับอากาศ
ถ้าแพทย์จบใหม่ขาดแอร์หรือเครื่องปรับอากาศไม่ได้ ก็ให้ติดตั้งแอร์
หรือเครื่องปรับอากาศได้เลย โดยจะต้องเสี่ยค่าเใช้จ่ายส่วนตัวเอง
ทำไม? ถึงอยากรับราชการ
เปิดสถิติคนสมัครสอบภาค ก. เป็นข้าราชการ ปีนี้(63) พุ่งสูงกว่า 6 แสนคน (617,333 คน) ล้นจำนวนที่นั่งสอบ และล้นจำนวนที่บรรจุได้จริง 28,900 ตำแหน่ง ล้นหลายเท่าตัว อาจจะเนื่องมาจาก พิษเศรษฐกิจทำให้หลายคนตัดสินใจเลือก ที่จะทำอาชีพนี้
อาชีพที่มีสวัสดิการดีที่สุดในประเทศไทย คือ รับข้าราชการ
ที่มา https://www.youtube.com/watch?v=hYUeAuJfElo
ไทยเจอวิกฤตโควิด รอบนี้รู้เลยว่าทำราชการดีที่สุดแทบไม่กระทบเลย แพทย์เอกชนเท่าที่ทราบหลายที่คนไข้ลดลง ต่างชาติเข้ามาไม่ได้ รายได้โรงพยาบาลลดจึงลดรายได้แพทย์ลง แพทย์ประจำลดการเวลาทำงาน ลดค่าตอบแทน จ้างแพทย์นอกเวลามาแทนโดยมีค่าตอบแทนถ้ามีคนไข้ได้ค่าตอบแทนเท่านี้ ถ้าไม่มีคนไข้ได้เท่านี้
ประวัติศาสคร์กลับมาซ้ำรอยอีกแล้ว แพทย์ที่จบรังสิตีนี้ 25564 เป็นต้นไปไม่มีสิทธิจับฉลากเหมือนแพทย์ที่จบจาก ม. รัฐ และที่แย่คือ ให้เข้าเพิ่มพูนทักษะที่ ม รัฐได้แต่เป็นลูกจ้างรายวัน วันละ 784 บาท แต่ละเดือน ได้ค่าจ้างกี่วันขึ้รอยู่กับว่าทาง รพ. เขากำหนดให้ ยางเดือนได้ 15 วัน บางเดือนได้22 วัน ได้ค่าเวรวันละ 800 ประมาณ15 เวรต่อเดือน นอกนั้นไม่ได้อะไร เลย พตส ,p4p,ค่าไม่ทำเวช ไม่ได้ แต่ต้องไป riund ward ทุกวันแถมกระทรวงไม่มีเกณฑ์กำหนดว่าแต่ละรพ.จะต้องจ่ายยังไง ทำให้แต่ละโรงพยาบาลจ่ายไม่เท่ากัน เพื่อนแพทย์คิดว่าพวกเราจะเอายังไวกันดี เป็นการละเมิดสิทธิรึเปล่า แค่ที่แย่ ตอนเข้าเรียน ม. รังสิตบอกมีสิทธิรับราชการ พอจบกระทรวง สธ ไม่รับเข้าบรรจุเป็นราชการ ม. รังสิตไม่ออกมารับผิดชอบอะไร เลย เท่ากับแพทย์โดยหลอกรึเปล่า แพทย์ท่านใดเดือดร้อนบ้าง เรามาเลียนแบบรุ่นพี่กันอีกรอบดีมั๊ย รวมตัวกันทำหนังสือถึงกระทรวงสาธารณสุขกันดีกว่าเรียกร้องสิทธิอันชอบธรรมคืนคะ ติดต่อ 0815956909ได้นะยินดีเป็นหลักให้คะ
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?