คุยกับพ่อแม่และพี่ยังไงดีในเมื่อ..
ตั้งกระทู้ใหม่
คือตอนนี้ เรากำลังจะขึ้น ม.4 โรงเรียนหนึ่ง คือเราต้องอยู่หอ ซึ่งพ่อแม่ก็จะให้เราอยู่กับพี่ แต่พี่อยู่กับแฟน แต่พ่อแม่ไม่รู้ว่าพี่อยู่กับแฟน แล้วเป็นแฟนคนใหม่เราก็ไม่รู้ว่าเขาเป็นคนอย่างไง เราจะอยู่หอกับเพื่อนพีอแม่ก็เหมือนจะไม่ไว้ใจเอามากไป ทั้งๆ ที่ผ่านมาเราอยู่บ้านคนเดียวมาตลอด พอเราบอกอยู่คนเดียวก็ได้ เขาก็ห่วงมากแม่ตะมาเฝ้าด้วยซ้ำ เราก็เลยบอกไปว่าทำไม ตอนนั้นยังให้เราอยู่บ้านคนเดียวตั้งแต่ ม.1 ได้ เขาให้เหตุผลว่า ตอนนี้เราโตแล้ว
เราก็คิดว่าเหตุผลนี่มันไม่เหมาะมากๆ อะ เขาเหมือนไม่ไว้ใจเราเลย ทั้งๆ ที่เราไม่เคยทำให้เค้ากังวลใจเรืีองชู้สาวเลย ที่ผ่านมาก็อยู่คนเดียวมาตลอด แบบไม่มี ผู้ปกครองตั้งแต่ ม.1 แล้วถ้าไปอยู่กับพี่เราแล้วแฟนพี่อีกล่ะ แฟนเก่าพี่เราก็ตามรังควานอยู่ พี่เราก็ปากพล่อย บอกว่าเราจะเรียน รร.อะไร บอกหมดเลย แบบนี้เราจะปลอดภัยหรอ เพราะทุกครั้งที่เค้าทะเลาะกับเเฟนเก่า แฟนเก่าเค้าจะโทรมาหาเราคิดว่าเราช่วยพี่เราปกปิด พี่เราก็ไม่เลือกใครคนหนึ่ง มันทำให้เรารู้สึกว่าแล้วถ้าไปอยู่กับพี่ พี่เราจะคบกับคนปัจจุบันได้นานแค่ไหนกัน ถ้าเค้าเลิกกันเราก็ต้องย้ายอีกหรอ เราอยากบอกพ่อแม่มากเลยว่าพี่อยู่กับแฟน แต่เราก็เห็นใจพี่เรา อีก เราจะทำไงดีคะ
ขนมหวานของนิวา
16 ก.พ. 64 เวลา 21:20 น.
6,876
views
19 ความคิดเห็น
เอาในมุม ผญ ก่อนนะ อยู่ที่บ้านกับอยู่ที่หอต่างกันค่ะ แม้จะอยู่คนเดียวเหมือนกัน
สิ่งแวดล้อมต่างๆ ของที่บ้าน เป็นสภาพที่แม่คุ้นเคย และรุ้ว่ามันปลอดภัย จึงปล่อยให้อยู่คนเดียวได้ แต่ที่หอเป็นยังไงไม่ารู้ ข้างบ้านเป็นยังไงไม่รู้ คนที่หอดีไหมไม่รู้ เกิดมีคนมาเดินตาม ใครจะช่วยส่องสองไรงี้ ความอำนวยสะวดกมีพอไหม เป็นต้น ถ้าน้องตอบคำถาม ประเด็นของแม่ได้ แม่อาจจะเข้าใจนะคะ คืออยู่กับพี่ก็มีพี่อะ ไรงี้ แต่คุณบอกเหตุผลด้วยว่าทำไมอยากอยู่คนเดียว และหอปลอดภัยแค่ไหน ไรงี้
เห็นใจตัวเองดีที่สุดครับอย่าเอาเรื่องคนอื่นมายุ่งกับตัวเองดีกว่า เปิดอกคุยกับพี่เลย ว่าเราไม่สบายใจเวลาอยู่กับพี่ แล้วเปิดอกคุยกับพ่อแม่ก่อนเลยว่า อะไรที่ท่านกังวลใจเวลาเราอยู่คนเดียว เราต้องพิสูจน์ว่าเราสามารถอยู่คนเดียวได้ และไม่มีเรื่องผู้ชายมาเกี่ยวข้อง และจะได้มีสมาธิกับการเรียนมากขึ้น อยู่2คนไม่มีทางที่จะมีสมาธิได้หรอบอกพ่อแม่ไปตรงๆเลย สิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิตคือความฝันของเรา เรายุหอคนเดียวนั้นละเวลาทอง ส่วนมากพ่อแม่กังวลเรื่องเดียว เรื่องผู้ชาย เราต้องทำให้ท่านเชื่อใจ และถามท่านว่าอะไรคือสิ่งที่ท่านต้องการ มีอีกอย่างเขียนแผนการให้ท่านดูเลย ว่าแต่ละวันทำอะไรบ้าง
ประสบการณ์ตรงในกรณีนี้ แต่ของเราคือพี่เราไปอยู่หอก่อนแล้วไปนอนบ้านแฟนบ้าง อันนี้ทุกคนรับรู้ พอเราไปอยู่ด้วยเราก็โอเคที่แฟนพี่เราจะมานอนที่หอเราบ้างเราไม่ติด แต่ทีนี้หลังจากเลิกกับคนนี้ไป พี่เราก็มีคนคุยใหม่ พี่เราติดมากกก ติดถึงขนาดไปนอนห้องคนคุยเกือบทุกวันทิ้งเรานอนหอ เอาจริงๆก็สบายและแต่มันคือพี่เราไง แล้วไปไม่ได้ไปทุกวัน เราเลยคุยแบบเปิดอกไปเลยว่าทำไมไม่นอนห้องตัวเอง ทุกคนอาจจะคิดว่าสมัยนี้แล้วเนอะ แต่เราค่อนข้างที่จะหัวโบราณหน่อยๆ แต่ถ้าเป็นแฟนเราไม่ว่า แต่นี่เป็นไรกัน อะมาต่อ เราควรคุยกับพี่แบบตรงๆเลย ว่าไม่โอเคตรงไหน ไม่ต้องกังวลความรู้สึกพี่ถ้าพี่ไม่แคร์ความรู้สึกเรา เราเป็นคนในครอบครัวเราย่อมพูดได้ คุยกันตรงๆ ดีเบตกันไปเลย ถ้าไม่คุยกันตรงๆมันก็ไม่เคลียร์ ให้จำไว้ว่าแกเป็นพี่น้องที่คลานตามกันมาไม่ใช่คนอื่น
ปล.พี่เราเป็น ผช
ปล.อาจจะไม่เหมือน แต่อยากให้ลองปรับใช้นะ
สู้ๆค่ะ พูดตรงๆไม่ต้องอ้อม เป็นกำลังใจให้ค่ะ :)
เอางี้ค่ะ ถ้าไม่อยากบอกพ่อแม่ ก็บอกพี่ไปตรงๆว่าเราไม่สบายใจกับแฟนใหม่เขา และขอให้เขามาอยู่แค่ในวันที่คุณกำหนดเท่านั้น ถ้าพี่คุณห่วงคุณเขาจะยอมเข้าใจนะคะ เพราะมันก็คนละครึ่งทางสุดๆแล้ว แต่ถ้ายังไงเขาก็จะเอาแฟนมาอยู่ให้ได้ คุณก็ขู่ไปเลยว่าจะบอกพ่อแม่ เพราะความส่วนตัวคุณจะไม่มี คุณไม่ไว้ใจเขา และถ้าเขา(อาจจะ)อยากทำกิจกรรม 18+ คุณก็ไม่ยินดีที่จะให้มันเกิดขึ้นในห้องนี้ค่ะ คุณต้องหนักแน่นนะคะ เพราะถ้าคุณยอมเลยตามเลย สุดท้ายปัญหามันจะมามากกว่านี้แน่นอน แล้วมันจะแก้อะไรไม่ได้เลย นอกจากบอกพ่อแม่ค่ะ เป็นกำลังใจนะคะ :)
คุยกับพี่ก่อนคับ ว่าจะเอาไง พี่โอเคมี้ยถ้าจะบอกพ่อแม่ ถ้าไม่ให้บอกพี่ต้องช่วยคิดแล้วแหละเรื่องนี้เกี่ยวกับพี่เต็มๆเลย ไม่คุยกันไม่ได้น๊า
ทางที่ดี อยู่หอเดียวกันกับพี่คุณแต่คนละห้องค่ะ(เพื่อให้พ่อแม่สบายใจ) อาจจะบอกว่าพี่มีรูมเมทแล้วหรือคุณทำงานโปรเจคหนักต้องการสมาธิ ต้องอยู่คนเดียวก็ได้ ทั้งนี้มันเพิ่มค่าใช้จ่ายเรื่องค่าห้องเข้ามาแม่คุณโอเครึเปล่า ส่วนเรื่องพี่ เป็นหาในครอบครัว แต่มันก็คือสิทธิ์ของพี่ที่เขาโตแล้วมีอิสระที่จะทำตามใจเขาแต่ไม่นึกถึงน้องที่ต้องมานั่งรับสายแฟนเก่าหรือตัดสินใจแทนนี่ ไม่ดีเลย เราจัดการตัวเองดีกว่า ไม่อยู่กับเขาก็อย่าไปอยู่และอย่าไปบอกเรื่ิองอะไรของเขากับใคร แต่บอกพ่อแม่ให้เขาเข้าใจว่าเราต้องการอยู่คนเดียวเพื่อพัฒนาเรื่องเรียนจริงๆ
หอพักหญิงล้วนค่ะ เป็นทางออกที่ดี มีแต่ผญ. สบายๆ อยู่คนเดียว ตอนมหาลัยปีแรกแม่ให้ไป-กลับ กรุงเทพ-อยุธยา ปี1เทอมแรกไม่เท่าไหร่ พอมีกองเชียร์ต้องอยู่มหาลัยถึง2ทุ่มเท่านั้นแหละเหนื่อยมากกก ขออยู่หอพักหญิงล้วน พอพ่อแม่ไปดูสถานที่เขาก็ให้อยู่นะเพราะรู้สึกปลอดภัย หอพักหญิงล้วนจ้า อย่า!อยู่กับเพื่อนนะ อยุ่คนเดียวพอ เพราะถ้าอยู่กับเพื่อนน้องไม่มีความสุขแน่ บางคนสนิทกันขนาดไหนยังตัดเพื่อนกันได้เลยเพราะอีกคนงานบ้านไม่ทำเลย ล้างจานก็ไม่ล้าง
คุยกับพ่อแม่ก่อนเถอะ เรื่องของพี่กับพ่อแม่ก็คือเรื่องของพี่กับพ่อแม่ ให้พี่เขาจัดการเอง หรืออีกวิธีก็หาหอใหม่ บอกหอเก่าไม่ดีบลาๆ ทำเหมือนจะอยู่หอใหม่กับพี่ แต่พี่ยังอยู่กับแฟนเหมือนเดิม แต่ต้องเลือกหอดีๆนะ หอหญิงได้ยิ่งดี
ทำไมไม่ให้พี่ไปอยู่หอแฟน เราก็อยู่หอพี่ไป ไม่ใช่หน้าที่เราต้องมาเดือนร้อนเพราะคนอื่น ไปบอกให้พี่พาแฟนไปอยู่ที่อื่นเนอะ
คุยกับพี่ไปตรงๆ ค่ะ ว่าไม่สะดวกใจที่จะอยู่กันสามคน แล้วให้พี่ไปคุยกับพ่อแม่เองว่าจะเอายังไง ถ้าจะอยู่กับแฟน แฟนพี่ต้องย้ายออกไม่ใช่มาอยู่ด้วยแบบนี้ ไปเช่าห้องอยู่เองแล้วพี่จะไปกะอยู่กับเขาบ้าง หรือกลับมาอยู่กับน้องบ้างก็ตามสะดวก ถ้าพี่ไม่จัดการอะไรก็ต้องบอกพ่อแม่ไปตรงๆ ว่า พี่มีคนอื่นมาอยู่ด้วย อยู่กัน 3 คนไม่ไหว ขอไปอยู่หอหญิงล้วนได้ไหม
ที่สำคัญที่สุดคือต้องคุยกันค่ะ อย่าคิดจะช่วยพี่ปกปิดอะไรเลย เพราะสุดท้ายพ่อแม่ก็รู้อยู่ดีนั่นแหละ ไม่รู้จากปากเราก็รู้จากปากคนอื่น ทั้งคนดูแลหอ หรือแม่บ้าน ยังไงก็ต้องทักหรือบอกเรื่องแฟนพี่อยู่ดีนั่นแหละค่ะ ยิ่งตอนย้ายน้องย้ายเข้า เจ้าของหอหรือคนดูแลหอต้องมาดูแน่นอน เพื่อคุยรายละเอียดกัน ความแตกแน่นอนอยู่แล้ว
จากคอมเม้นในเฟส เห็นว่าเข้าท่าดีเลยเอามาบอกในนี้เผื่อไม่เห็น ให้แฟนพี่กับพี่คุณไปเช่าห้องใหม่ ส่วนคุณย้ายเข้าไปอยู่ห้องพี่ ถ้าพ่อแม่มาหาก็ให้พร่กลับมาอยู่กับตัวเอง ทีนี้ถ้าเลอกกันก็ไม่มีไรให้ห่วงละ แต่เรื่องเงินก็ต้องยอมลงทุนเพิ่มหน่อย
รัััััััััััััััััััััับฟังข้อมูลทั้งสองฝ่าย
ระยะทางพิสูจย์ม้า
กาลเวลาพิสูจย์คนครับ
เลือกไปอยู่หอหญิงค่ะ ดีที่สุด คุยกับพี่ว่าให้ข่วยพูดกับพ่อแม่ เพราะเราไม่อยากบอกเรื่องที่พี่พาแฟนมาอยู่ด้วย ดึงตัวเองออกมาค่ะ อย่าไปอยู่กับพี่สาว เคยเจอมาแล้วค่ะ ถ้าย้อนกลับไปได้ ก็จะแยกตัวออกมาค่ะ
ปกติค่ะที่เวลาเราอยู่บ้านกับอยู่หอแล้วแม่จะห่วง เพราะด้วยสภาพแวดล้อมอะไรมันก็ไม่เหมือนกันแล้วอยู่ไกลสายตา ในที่นี้ไม่ใช่ว่าเขาไม่ไว้ใจหรอก แต่เขาเป็นห่วงเราเท่านั้นเอง ถ้าในกรณีที่เราต้องอยู่กับพี่จริง ๆ แบบเลี่ยงไม่ได้ แม่ไม่ยอม ก็คุยกับพี่เลยค่ะ ถ้ายังอยากใช้ชีวิตสงบสุขกับแฟนก็ต้องทำข้อตกลงกันคือไม่เอาแฟนมานอนที่ห้อง ไม่งั้นน้องจะไปนอนไหน ถ้ายังไม่ฟังก็บอกเลยว่าจะฟ้องพ่อกับแม่ว่าพี่เอาแฟนมานอนที่ห้องจนหนูไม่มีที่นอน เลือกเอา
ความเกรงใจเราต้องมีทั้งสองฝ่ายไม่ใช่มีแค่ฝ่ายเดียว ง่าย ๆ เลยเวลาเรากลับมาจากโรงเรียนเหนื่อย ๆ แล้วอยากไปนอนเล่นที่ห้องเงียบ ๆ แต่ต้องมาเจอแฟนกับพี่อยู่ด้วยกัน กลายเป็นว่าเราต้องโดนเตะออกจากห้อง จะให้นั่งจุ่มปุ๊กด้วยก็ไม่ได้อีก โดนด่าอีก ในเมื่อเราก็ต้องใช้ห้อง ค่าห้องก็ที่บ้านออกให้ (อันนี้ไม่แน่ใจว่าใครออก จขกท.ไม่ได้บอกเนอะ แต่เราคิดว่าไม่น่าใช่พี่ที่ออกคนเดียว) แล้วแฟนมาก็ไม่ได้ช่วยออกค่าห้อง ค่าน้ำไฟ ถ้ามาแบบครั้งคราวช่วงที่เราไม่อยู่ มาแล้วกลับก็ว่าไปอย่าง ไม้อ่อนใช้ไม่ได้ก็ไม้แข็งเลยค่ะ ถึงจะเป็นพี่ยังไงก็ต้องมีขอบเขต
อืมเรื่องพี่มีแฟนแล้วเอามานอนห้องแถมไม่บอกพ่อแม่ก็ไม่ค่อยถูกนะ แต่จะให้ฟ้องพ่อแม่ก็ไม่ได้ยังไงก็พี่เรา เริ่มแรกคุยกับพี่ไปก่อนเลยว่าพ่อแม่จะให้มาอยู่ด้วยแต่หนูไม่โอเคถ้ามาอยู่แล้วแฟนพี่ก็จะมานอนห้องด้วย เพราะงั้นถ้าพี่อยากอยู่กับแฟนก็ต้องช่วยคุยกับพ่อแม่ให้เราได้อยู่คนเดียว ส่วนเรื่องความปลอดภัยความคุ้นเคยบลาๆ เราว่าเจ้าของกระทู้สามารถหาที่อยู่ที่ตัวเองรู้สึกว่าอยู่แล้วดีปลอดภัยเองได้ อยู่แรกๆก็จะแปลกที่หน่อยเดี๋ยวก็ชิน เราว่าคนที่อยู่บ้านคนเดียวตั้งแต่เด็กได้โตมาก็รับผิดชอบตัวเองได้ แต่พ่อแม่เขาอยากลดค่าใช้จ่ายรึเปล่าค่ะ ถ้าเช่าหอเพิ่มอีกทีค่าใช้จ่ายก็จะเพิ่มอีก แต่ถ้าไม่มีเรื่องเงินก็พอคุยกันได้ค่ะ เรื่องแฟนเก่าถ้าพี่สาวหลุดปากพูดไปแล้วก็คงทำอะไรไม่ได้แต่คงต้องคุยกับพี่ตรงๆนั้นแหละว่าไม่ต้องเอาเรื่องเราไปพูดให้ใครฟัง ถ้าพูดแล้วพี่ก็ยังไม่เข้าใจก็คงต้องเล่าเรื่องตัวเองให้พี่ฟังน้อยลง เรื่องพื้นฐานทั่วไปก็ทำใจหน่อยละกัน
ค่าหอของพี่ใครเป็นคนจ่ายคะ ถ้าพี่จ่ายเองก็คุยกับพี่ ให้พี่ไปบอกพ่อแม่ว่าอยากอยู่คนเดียว แต่ถ้าพ่อแม่จ่ายก็ต้องเข้าใจพ่อแม่ด้วยว่าต้องการประหยัดค่าใช้จ่าย ส่วนเรื่องแฟนพี่ที่อยู่ด้วย ต้องให้พี่จัดการคุยกับพ่อแม่เอง จะอ้างอะไรก็อ้างไปค่ะ แล้วก็ถ้าจะอยู่คนเดียวแนะนำให้หาหอที่สภาพแวดล้อมดีๆ หอหญิงก็จะปลอดภัยกว่า ถ้าพ่อแม่ไม่มีปัญหาเรื่องค่าใช้จ่ายก็ลองคุยดีๆดูอีกทีค่ะ
ถ้าอยากให้อยู่กับพี่ ให้พ่อแม่ไปคุยกับพี่ก่อนเลยถ้าพี่ยอมเอาแฟนออกจากบ้านให้น้องอยู่เรื่องก็จบต้องยอม แต่ถ้าไม่ก็ให้พี่คุยอยู่ดี ว่าเราโตแล้วควรมีพื้นที่ส่วนตัวกันทั้งคู่เพราะเรื่องความเป็นส่วนตัวยุคนี้เรื่องใหญ่มาก
แต่ที่สำคัญคืออย่าบอกแม่เด็ดขาดว่าพี่อยู่กับแฟน บอกว่าเราเองก็โตแล้ว พี่ก็โต เราต้องการพื้นที่ส่วนตัว ความเป็นส่วนตัวกันทั้งคู่แต่ถ้าพี่ยอมให้อยู่ก็ต้องโอเคนะ ดีกว่าอยู่คนเดียว อันตรายถ้าแฟนเก่าพี่บุกมาหาตัวเองเดี๋ยวไม่มีคนช่วย อย่างน้อยอยู่กับพี่แฟนเก่ามันน่าจะมีประเด็นกับพี่มากกว่า
ขอแยกเป็นข้อๆ ประมาณนี้นะครับ
1. กรณีที่ทางบ้านไม่มีปัญหาเรื่องค่าใช้จ่าย แค่ห่วงเรื่องความปลอดภัยของเรา ให้เราบอกท่านไปว่า เราจะเข้าไปอยู่ในหอหญิงล้วนที่ผู้ชายเข้าไม่ได้ จะได้ปลอดภัย
2. กรณีที่ทางบ้านมีประเด็นเรื่องค่าใช้จ่าย คือทำยังไงก็จะให้อยู่กับพี่ให้ได้ อันนี้ก็คุยกับพี่ไปตรงๆ เลยครับ ว่าไม่พาแฟนมาห้องได้ไหม เพราะรู้สึกไม่ปลอดภัย แต่ถ้าคุยกับพี่ไม่ได้จริงๆ อันนี้ก็คงต้องบอกพ่อแม่ เรื่องพี่ของตัวเองแล้วแหละครับ ว่าพี่อยู่กับแฟน ยิ่งหนูไปอยู่ ยิ่งจะไม่ปลอดภัย
คือเท่าที่อ่านมา ก็ดูเหมือนน้องจะไม่ได้มีปัญหาเรื่องจะพักคนเดียว หรือพักร่วมกับคนอื่นเท่าไหร่ แค่ติดตรงที่รู้สึกไม่ปลอดภัยจากทั้งแฟนเก่าและแฟนใหม่ของพี่เป็นหลัก
ปัญหาหลักๆ มันเลยไม่ได้อยู่ที่ตัวเรา แต่มันอยู่ที่พี่ของเรานั่นละครับ
อย่าไปสงสานพี่ว่าจะไม่ได้อยู่กับแฟน แต่ให้ห่วงความปลอดภัยของเราเป็นหลักครับ ถ้าคุยกับพี่แล้วยังไม่สำเร็จ ให้เราบอกพ่อแม่ไปเลย
แฟนของพี่ สุดท้ายแล้วก็ไม่ใช่คนในครอบครัว มันอาจจะเกิดอะไรขึ้นกับเราก็ได้ อันนี้คือสำคัญสุดครับ
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?