ชอบเรียนแต่ไม่ชอบสอบ

ถ้าไม่ชอบการสอบพี่ขอแนะนำหลักสูตรของ British Collegeของมหาวิทยาลัยศรีปทุมเลยค่ะ หลักสูตรนี้ไม่มีการสอบ100% จะเน้นไปที่การทำงานส่งทำกิจกรรมในคลาส สไตล์การเรียนก็ไม่ใช่แบบไทยๆเรานะคะ เรียนแบบอังกฤษด้วยเลยค่ะ ลองเอาไปเสนอคุณพ่อคุณแม่ดูน้าาา

เราว่าน่าจะมีหลักสูตรอินเตอร์ในไทยนะคะ พี่จบจุฬาสอบแบบเป็นบ้าเป็นหลัง ทุกวันนี้ใครถามยังตอบเรื่องที่เรียนตอนปริญญาตรีได้ แต่สอบออกมาไม่ค่อยดีเหมือนกัน แล้วมาเรียนต่อที่โทออสค่ะ ที่ออสเตรเลียอันนี้คือทำรายงานเยอะมาก ของเพื่อนที่เรียนปริญญาตรี เรียนเซอร์ หรือดิปก็สอบนิดเดียว พี่สอบเทอมละตัวหรือไม่สอบเลย แต่รายงานคือเยอะจริงเยอะจัง

ลองเลือกคณะเกี่ยวกับศิลปะมั้ยคะ วิชาส่วนมากไม่มีสอบค่ะ จะใช้วิธีทำงานส่งแทน แบบนี้จะไม่ต้องเครียดตอนสอบด้วย เพราะเวลาอจ ให้ทำงานส่งก็ให้เวลาเป็นสัปดาห์เลยค่ะ

นี่ก็เป็นคนที่ไม่ชอบสอบเอามากๆเหมือนกัน แต่เป็นคนที่ทำ coursework โอเค

ตอนเรียนป.ตรี พยายามเลือกเรียนวิชาอะไรก็ได้ที่ไม่มีสอบ เป็น 100% coursework แต่มันก็ยังมีบางวิชาที่ยังต้องเข้าสอบบ้างค่ะ แต่ก็ไม่ได้เป็น 100% ของเกรด ตรงนั้นก็ช่วยได้เหมือนกัน

อันนี้เรียนที่ Australia นะคะ มหาลัยท๊อปด้วยค่ะ เวลา Search วิชาทีอยากเรียน เราจะสามรถดู ได้เลยว่าจะต้องทำงานอะไรส่งบ้าง บางวิชาเป็น 20% exam, 80% coursework ค่ะ ลองๆหาดูนะคะ เราจบป.โทแล้ว ตอนป.โท เรียนที่อังกฤษค่ะ เลือกเรียนวิชาที่เป็น 100% coursework ค่ะ ไม่ต้องสอบเลย มีความสุขมาก :D

แนะนำลองดูมหาลัยต่างประเทศมั้ยคะ ส่วนใหญ่จะใช้แค่คะแนนภาษายื่นกับจดหมายแนะนำตัวค่ะ

เราขอป้ายยาประเทศไต้หวันเลยค่ะ คะแนนภาษาที่ใช้ไม่ต้องสูงมาก ใช้TOEICยื่นได้ แถมมีทุนเยอะด้วยนะคะ! เกือบทุกมหาลัยจะมีทุนให้นักศึกษาต่างชาติ

แต่ถ้าในไทยมหาลัยที่ไม่ต้องสอบเลยส่วนใหญ่ก็จะเป็นมหาลัยเอกชนค่ะ ลองดูม.กรุงเทพก็ได้นะคะ นี่คิดว่าเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่มีคุณภาพเลย สมัครง่ายด้วย

เราที่ชอบสอบแต่ไม่ชอบอ่าน

ไม่ชอบสอบเหมือนกันค่ะ เป็นยันเรียนจบมหาลัย คิดว่าไม่ควรวัดความรู้กันแค่ข้อสอบ ชอบบางวิชาที่ให้ทำงานแทนสอบเพราะเหมือนได้ประยุกต์ใช้ความรู้จริงๆ ที่เรียนมามากกว่า แถมได้รีเสิชเพิ่มเติมด้วย ได้ทั้งเพิ่มพูดความรู้ แถมยังน่าตื่นเต้นกว่าตั้งเยอะ555

ขอคอนเฟิร์ม British College ที่ศรีปทุมอีกเสียงจ้า ไม่มีสอบจริงๆๆ ด้วยตัวหลักสูตรเค้าจะไม่วัดผลตอนจบอย่างเดียวอยู่แล้ว แต่จะวัดผลระหว่างทางผ่าน research project และ assignment แทนค่ะ เหมือนน้องๆ ได้นำความรู้มาใช้จริงเลย จำลองสถานการณ์จริงที่น้องจะได้เจอเวลาทำงานจริง น้องๆจะได้ฝึกสกิลไปพร้อมๆกับคณาจารย์ของเรา

ไม่ต้องเสียเงินไปต่างประเทศเยอะ เพราะเค้ายกหลักสูตรมาไว้ที่ไทยเลยจ้าาา ค่าเทอมก็ไม่แพงหูฉี่เหมือนไปต่างประเทศด้วยนะ

พี่ก็ชอบเรียน แต่ไม่ชอบสอบของบางวิชา

พี่กว่าจะเรียนจบปริญญาตรีจากรามมาได้ 2 ใบเลือดตาแทบจะกระเด็น

บางวิชาต้องลงทะเบียนมากกว่า 1 รอบและลงสอบซ่อมมากกว่า 1 รอบถึงจะสอบผ่านได้

บางวิชามีทำงานเก็บคะแนนด้วยและเอามารวมกับคะแนนสอบ

คนส่วนใหญ่ชอบคิดว่าเรียนรามมีแต่ไปเรียนและไปสอบอย่างเดียว

เรียนรามไม่ต้องเข้าเรียน ไม่มีทำงานส่ง และไปสอบอย่างเดียว

ขอโทษนะคะ บางคณะและหลายวิชาในรามที่เป็นของปี 2 ขึ้นไป

ก็มีการบังคับเข้าเรียน เช็คชื่อ และทำงานเก็บคะแนนด้วยจ้า

ถ้าเป็นพวกภาษาต่างประเทศที่ไม่ใช่ภาษาอังกฤษเจอการบ้านตั้งแต่ปี 1 แล้ว

บางวิชามีทั้งบังคับเข้าเรียนและทำงานส่ง บางวิชาไม่ได้บังคับเข้าเรียนและทำงานส่ง

คนที่ทำงานส่งก็จะได้คะแนนเก็บครึ่งหนึ่ง 50 คะแนนไปแล้ว

ส่วนคะแนนอีก 50 คะแนนมาจากการทำข้อสอบอัตนัย

บางวิชาอาจารย์จะบอกว่าคนทำงานส่งให้เลือกทำข้อสอบ 2 ข้อ

ส่วนคนที่ไม่ได้ทำงานส่งให้ทำหมดทั้ง 4 ข้อ

บางวิชาที่ไม่มีทำงานส่งให้ทำข้อสอบทั้ง 4 ข้อ

บางวิชาจะมีคำถามในข้อสอบมากกว่า 4 ข้อ แต่ให้เลือกทำแค่ 4 ข้อ

บางวิชามี 4 ข้อ แต่ให้เลือกทำแค่ 3 ข้อ

บางวิชาไม่ได้บังคับเข้าเรียนและไม่ได้บังคับว่าต้องทำงานส่งก็ต้องสอบอย่างเดียว

ก่อนเข้าห้องสอบมาแบบดีมาก มั่นใจว่าทำได้

แต่พอเจอข้อสอบตายสถานเดียว

เมื่อเดินออกนอกห้องสอบก็ลืมแล้วล่ะว่าตอบอะไรไปบ้าง