แฟนขอซื้อกิน ควรรู้สึกยังไงดี

พอได้ซื้อครั้งแรก ก็จะมีครั้งที่สอง สาม สี่ ถ้าจะให้หยุดไปเลยมันยากมากจ้า หาคนใหม่ง่ายกว่า แล้วด้วยอายุแค่นั้นอีก ไม่ธรรมดาเด้อ

จุดเริ่มต้นของการเป็นโรคหนองใน ซิฟิลิส เอดส์ ฯลฯ เราอายุน้อยกว่าควรเลิกก่อนจะติดเชื้อหรือมีปัญหามากกว่านี้ ผู้ชายบนโลกมีมากมาย

ซื้อกินแล้วจบๆกันไปดีกว่ามีเมียน้อย แล้วเทคแคร์ ใส่ใจ ให้ความรู้สึก ซื้อกินคือแค่ชั่วคราว แฟนคุณบอกคุณแสดงว่ารักคุณมากกว่า

ไม่ใช่ควรรู้สึกยังไง แต่คบไปสักระยะตกลงยังไง เช่น จนกว่าจะแต่งเราไม่ยอมมีอะไรกับเธอ และ เธอต้องได้กับมือตัวเองเท่านั้น กี่ปีก็ต้องรอให้เราตัดสินใจเลือกสิ่งที่ดีที่สุดก่อน ถ้าคนนั้นไม่ใช่เธอก็ช่วยไม่ได้นะ

งี้ เงื่อนไขที่บอกมาค่อนข้างจะทำให้ต่างคนต่างไป

ก็ลองเลือกเงื่อนไขที่ยอมรับได้กัน

ถ้าคุณบอกว่าเขารักเดียวใจเดียวและไม่เคยมีความประพฤติไม่ดี ผมก็มองว่าคำตอบของเขาเป็นเพียงนามธรรม และลองคิดมุมกลับ ถ้าเขาตอบว่า ไม่อยาก คุณก็อาจจะไม่เชื่อและอาจกลายเป็นกระทู้ถามว่าผู้ชายตอบแบบนี้โกหกหรือไม่แทน ส่วนประโยคอื่น ๆ ที่เขาพูดมา ผมว่ามันแปลก ๆ ครับ เพราะตามหลักแล้วคนคิดจะทำจริง ๆ มักไม่บอก ที่เขาเล่าไปทั้งหมดมันดูจงใจในคำพูดจนดูคล้ายเขาแค่แกงคุณหรือเปล่า

คือบางครั้งแฟนก็ชอบถามคำถาม Senstive คำถามที่ชวนให้ทะเลาะ ชวนให้ดราม่าคิดมาก พอผมตอบ Yes ก็โดนด่า ตอบ No ก็โดนด่า ไหน ๆ ก็โดนทั้งขึ้นทั้งร่อง บางครั้งเลยเลือกตอบแบบกวนประสาทไปเลย เช่น เธอจะนอกใจฉันมั๊ย ก็ตอบไปเลยว่า ใช่ อะไรประมาณนี้ แล้วก็ยิ้ม ๆ อันนี้คือกวนประสาทเฉย ๆ แต่จริง ๆ คือไม่คิดจะทำครับ

เอาเป็นว่าแนะนำว่า คำถามอะไรที่ถามแล้วตัวเองจะคิดมากก็อย่าถามจะดีกว่า แล้วก็โฟกัสที่การทำปัจจุบันให้ดี และหากอนาคตไม่เป็นไปดั่งที่คาดหวังก็เผื่อใจว่าจะสามารถ move on ได้ด้วยเองครับ

ถ้าคุณถือเรื่องนี้มาก อาจจะกลัวโรคติดต่อหรืออื่นๆ แต่ก็ยังรักเขา คุณก็อาจจะ คุยกับเขาว่า ถ้าจะไปซื้อกินเมื่อไหร่ให้บอกด้วยนะ แล้วตั้งแต่นั้นไป ก็จะไม่มีอะไรกัน แต่ยังเป็นสามีภรรยากันเหมือนเดิม เพราะว่าตัวเอง กลัวโรค อะไรก็บอกเขาไป

แต่ส่วนตัวแล้ว ไม่แนะนำให้ภรรยา ทุกคน ยอมรับให้สามีไปซื้อกิน เพราะว่ามันจะเสียเงินมาก แต่ละครั้งใช้เงินหลายพันบาท และคนที่ใช้บริการแล้วจะติดใจจะไปใช้บริการเรื่อยๆ หลายปีเข้าก็อาจจะหมดเงิน เป็นแสนหรือเป็นล้าน

แต่ถ้าครอบครัวไหน ที่สามีหารายได้เข้าครอบครัวเป็นรายได้หลักและมีจำนวนมาก ส่วนภรรยาแทบจะไม่มีส่วนในการหารายได้เลย และเงินที่สามีแบ่งไปเที่ยวมีความชัดเจน เป็นแค่เพียงส่วนน้อย และเงินส่วนมากที่เขาหาได้ ก็ให้ภรรยาเก็บ ถ้าเป็นแบบนี้ ผมว่า พอจะยอมรับได้อยู่นะ ดีกว่าเลิกกัน แล้วจากไปโดยที่ไม่ได้เงินอะไรเลย

ผมเข้าใจความรู้สึกของ จขกท. นะ รู้สึกไม่ดีอยู่แล้วเป็นปกติ

ขนาดร้านข้าวตามสั่งร้านประจำบางร้าน เห็นลูกค้าประจำเดินไปกินร้านอื่นยังเคืองเลย

ลูกค้าเบื่อรสเดิมๆ อยากไปกินร้านอื่นเปลี่ยนอารมณ์บ้าง แต่ก็มากินร้านประจำบ่อยที่สุดอยู่ดี เรื่องนี้มันแล้วแต่มุมมอง จะมองมุมดีก็คือ ซื้อกินจบเป็นครั้งๆ ไป ถ้ามุมแย่ๆ ก็คือการนอกกาย คุณอยากจะมองมุมไหนล่ะ

ยุคนี้ผู้หญิงเท่าเทียมกันกับผู้ชาย ถ้าผู้ชายซือกินได้ คุณพอโตก็ไปเที่ยวพวกบาร์โฮสต์ได้ เปย์ผู้ชายหรือจะมีเซ็กกับผู้ชายคนไหนก็ได้ตามใจ แล้วแบบนี้ความสัมพันธิ์พวกความรักอะไรพวกนี้ก็เป็นเรื่องไร้สาระหลอกลวงทั้งนั้น ในเมื่อทุกคนไปกินตับกับใครก็ได้ ยิ่งถ้าติดเชื้ออาจจะตายหรือแพร่ไปครอบครัว ไม่ตายก็สิ้นเปลืองค่าใช้จ่ายไปจนตายไม่มีทางโงหัวได้

ถ้าไม่โอเคก็เลิกครับ

โชคดีที่คบมานาน 2 ปีแล้ว 

การคบหาดูใจในช่วงแรก ๆ เป็นช่วงโปรโมชั่น เราไม่รู้หรอกว่านิสัยจริง ๆ เขาจะแสดงออกให้เราเห็นมากแค่ไหน // พอเวลาผ่านไปนานขึ้น เขาจะเริ่มแสดงตัวตนออกมาให้เราเห็นมากขึ้น ถ้ารับไม่ได้ก็แค่

1) คุยกัน

2) ถ้าคุยกันแล้วไม่เวิร์ค ก็เดินออกมา

บอกให้เลิกคบกับเพื่อนแย่ๆ ที่พาไปทำเรื่องแย่ๆ่ ให้เขากลับไปคิดครับ เราต้องยืนหยัดในสิ่งที่ถูกต้อง มันไม่ใช่เรื่องอนุญาติหรือไม่อนุญาติ แต่เป็นเรื่องความถูกต้องและความซื่อสัตย์ต่อตัวเขาเองที่มีให้กับคุณ และคุณก็ควรจะต้องแสดงให้เขาเห็นว่าอะไรคือสิ่งที่ดี คือ คำพูดของคุณแสดงความถูกต้อง พาไปทำในสิ่งที่ดีๆ เช่น ทำบุญใส่บาตร อะไรก็ได้ที่คุณสองคนทำร่วมกันแล้ว นำพาซึ่งสิ่งดีๆ แล้วให้เขาเปรียบเทียบกับคนที่เขาคบเป็นเพื่อน จะช่วยได้มากกว่า คิดว่านะ

ผมไม่คิดว่าคุณควรง่าย คือ การยอมมีอะไรกับเขาเพราะไม่อยากให้เขาไปซื้อกิน คุณอย่ายอม ถ้าคุณยอมก็เท่ากับว่าคุณก็มีค่าพอๆกับคนที่เขาจะไปซื้อกิน ทำให้เขาเห็นความแตกแต่างครับ จงดูแลและรักตัวเองให้มากๆ