มีเพื่อนนักเขียน toxic ต้องทำไง แล้วเส้นบาง ๆ ของคำว่าสอดกับให้การช่วยเหลือคืออะไร? ในกรณีที่มีคนมาขอความช่วยเหลือ
คือเรามีเพื่อนนักเขียนอยู่คน วันนึงนางอินบ้อกมาบอกว่าเขียนเรื่องใหม่แล้วแป้ก อยากให้ช่วยสับงานนางหน่อยว่าทำไมแป้ก เราก็หวังดีช่วย ๆ กันอธิบายไป พยายามใช้คำพูดดี ๆ กลัวนางจะเฟล แต่ห่าน หลังจากนั้นกลายเป็นเจอหน้ากันนางต้องคอยแซะเราประจำว่าเราเขียนไม่ดีอย่างงั้นเขียนไม่ดีอย่างงี้ทั้ง ๆ ที่เราไม่ได้ร้องขอ แล้วก็ชอบมาข่มว่างานนางดีกว่าเราอย่างงั้นอย่างงี้ทั้ง ๆ ที่เราไม่ได้ถาม ตอนแรกก็คิดว่าคงคิดไปเองเรื่องนางมาข่ม หลัง ๆ ไม่น่าใช่ละ เราควรทำไงกะนางดี คือรำคาญมาก ๆ ตอนนี้ ในหัวนี่คิดเลยว่าตอนนั้นนางคงไม่ได้ตั้งใจมาให้ช่วยดูอะ คงอยากเอางานมาขิงเราตั้งแต่แรก แต่เราดันซื่อบื้อตามนางไม่ทัน กลายเป็นว่าเราเหมือนไปสอดเรื่องของนางทั้งที่นางเป็นฝ่ายร้องขอ คือเราอยากถามมากว่านางปสดอะไรนักหนา แต่ยังยั้งใจไว้ คิดในแง่ดีว่านางอาจไม่ตั้งใจเพราะรู้จักกันมานาน จะตัดกันก็น่าจะปัญหาเยอะ นางชอบโฆษณาตัวเองว่าใสซื่อ ไม่ทันคน ชอบเป็นเจ้าทุกข์ ชอบเป็นผู้ถูกรังแก น่าสงสาร คือเราเห็นภาพในอนาคตเลยว่าปัญหามาแน่ ช่วงหลังวิธีพูดของนางนี่เหมือนกับว่าเอางานเราไปปู้ยี่ปู้ยำในกลุ่มแชทที่ไม่มีเรา เพราะนางจะหลุดใช้คำว่า คนอื่นก็เห็นด้วยกับนาง
12 ความคิดเห็น
คุยกันตรง ๆ ยังคะ ถ้าคบมานาน อาจคุยยาก แต่ แนะนำให้คุยถ้ายังอยากรักษาความสัมพันธ์นี้
เหมือนสะสมมานานรอวันระเบิด เดี๋ยวคุณทนไม่ไหวก็ระเบิดเอง ถึงตอนนั้นอาจเป็นจุดแตกหักจนมองหน้ากันไม่ติดได้ และถ้านางเป็นอย่างที่คุณว่าจริง หึ หึ บันเทิงแน่นอน
หากเป็นเรา ถ้าเจอแบบนั้น เราคงเงียบเมื่ออีกฝ่ายพูดเรื่องนี้ เป็นการสร้างกำแพงขอบเขตขึ้นมาให้รู้ว่า ถ้าเธอพูดเรื่องนี้ ฉันไม่โอ ไม่คุย
แต่ถ้ารู้สึกว่า ฉันพอแล้วกับคน ๆ นี้ ก็ตัดจบให้สิ้นเรื่องไปเลย บอกไปตรง ๆ ถึงสิ่งที่ไม่พอใจ และไม่สามารถคบต่อได้
เราแค่รู้สึกว่า การที่เรารู้จักใครสักคน คบเป็นเพื่อน คำว่า จริงใจ สำคัญมาก มันแฝงไว้ด้วยความปรารถนาดี แต่ถ้าเจอคนที่จริงใจเกินเหตุ และทำเกินกว่าขอบเขตที่ควรจริงใจ เราว่าไม่ใช่ละ
สำหรับกรณีคุณ เราได้แค่ฟังความข้างเดียว ออกจะไม่ยุติธรรมสำหรับอีกฝ่าย รอใจเย็น ๆ แล้วตั้งสติใหม่ อาจจะได้คำตอบที่ใจต้องการ เลือกสิ่งที่จะทำให้คุณมีความสุข
ก็จริงค่ะที่เป็นความข้างเดียว บอกตรง ๆ ตอนนี้เรายังไม่รู้เลยว่าใจอยากจะเลิกคบกับคนคนนี้หรือยังไงต่อดี แต่ก็คงไม่ลากเค้ามาให้คนรุมด่าในที่สาธารณะแน่นอน ไม่ใช่นิสัย
ขอบคุณนะคะ คุณทำให้เรารู้สึกตัวว่า เราก็ยังมีเยื่อใยแหละ แต่เราแค่ไม่โอเคกับสิ่งที่เค้าทำ รู้สึกว่าไม่โอเคที่เค้าเป็นแบบนี้ ถ้าเลือกได้คงไม่มายุ่งเกี่ยวกับคนแบบนี้ แต่เหมือนมันรู้จักมีเยื่อใยไปแล้ว เราคงต้องลองคิดทบทวนตัวเองดูดี ๆ ว่ายังไงต่อ
ประเด็นคือโดนวิจารณ์งานแล้วรับไม่ได้
ถ้าอยากมีภูมิต้านทานต่อคำวิจารณ์ให้อ่านนิยายของนักเขียนเก่ง ๆ ให้มากและหัดวิเคราะห์ข้อดีข้อเสีย มันจะทำให้เราชั่งน้ำหนักคำพูดของคนที่มาวิจารณ์ได้ว่าควรเก็บมาใส่ใจมากน้อยขนาดไหน
มันค่อนข้างคลุมเครือ ช่วยระบุเพิ่มได้ไหมคะว่าหมายถึงตัวเรา หรือเพื่อนเรา เราจะได้เข้าใจและตอบรับได้อย่างถูกต้อง ขอบคุณค่ะ
นี่....ไม่รู้จักนิสัยด้านนี้ของเพื่อนเหรอ
นิสัยขี้อิจฉาน่ะ
ก็ไม่มีใครดีไปหมด มุมไหนคบได้ก็คบ คบไม่ได้ก็ดีดตัวออกมา
อย่าทำแบบนาง เพราะจะกลายเป็นว่า ///ก็....ไม่ได้ต่างกัน
ตอนแรก ๆ เค้าเหมือนคนปกติค่ะ ถ้าเรารู้ว่าเค้าเป็นแบบนี้คงไม่ยุ่งด้วยแต่แรก อีกอย่างเป็นเพื่อนนักเขียน ความจริงไม่ได้รู้นิสัยใจคอกันขนาดนั้น
ขอบคุณที่เตือนเราค่ะ เราไม่ได้เอาเค้าไปพูดกับคนใกล้ตัวเลย เพราะคิดว่ามันไม่เหมาะถ้าหากคนใกล้ตัวจะเปลี่ยนทัศนะคติต่อนางเพราะสิ่งที่เราพูดลับหลัง มันคงไม่ควร
แนะนำได้ดังนี้
- อย่าใส่ใจ หากมั่นใจว่าเราไม่ได้เป็นอย่างที่เขาพูด คุณภาพวัดกันที่ผลงาน ยอดวิว ไม่ต้องโต้ตอบ เพียงแค่หากเขาให้มาช่วยดูงานให้อีกก็บอกผ่านให้เขาเอามาลงในบอร์ด ในนี้นักเขียนระดับเทพมีเยอะ หรือถ้ายังตื้อ หากดูจากนิสัย คนแบบนี้คืออยากฟังคำชมมากกว่าคำติ แก้ไขย้อนหลังไม่ได้ ก็ให้เป็นบทเรียน
หลับตาข้างลืมตาข้างไปก็แล้วกัน
ขอบคุณค่ะ โดนติงานเราเฟลแหละ แต่ไม่มากค่ะ เพราะตัวเราก็ไม่ได้มั่นหน้าขนาดนั้น แต่ที่รู้สึกรับไม่ได้คือ มันมีความอิหวังวะ มันมีคำถามว่าเราสมควรได้รับการตอบแทนแบบนี้เหรอ? แล้วการตอบแทนแบบนี้คือมาจากคนที่สนิทกันมาก่อน มันมีคำถามอะไรที่แปลก ๆ ผุดขึ้นในหัวเราเต็มไปหมด ประมาณนั้นค่ะ
ถ้าเป็นเรื่องติงานเรา เราไม่มีปัญหานะคะ อะไรปรับได้มันก็ดีกับตัวเรา แต่ประเด็นมันเริ่มมาจากเรื่องที่เราเล่า เรารับมือได้ไม่ถูกในความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น เราพยายามทำเป็นไม่ใส่ใจแล้วค่ะ แต่บางทีมันมีโมเม้นต์ที่เราไม่อยู่ในสภาวะที่จะรับมือได้แบบมีวุฒิภาวะ มันมีความน้อยใจ ผิดหวัง ปนกันมั่วไปหมด
แก้ไขได้เพียงทำตัวเป็นป้าเฉย ค่ะ ใจก็ของเรา ความรู้สึกก็ของเรา ต้อง สงบเพื่อสยบทุกสิ่ง ถ้าเขาเห็นเราเฉย คนสั่นไหวจะกลายเป็นเขาเองแหละ
เอาง่ายๆ เขาโยนของเหม็นมาเราจะรับไว้ทำไม เหม็นมือซะป่าวๆ
หากยังนอยด์ น้อยอกน้อยใจ แวะไปเล่นเกมส์มันๆ สักเกม ระบายอารมณ์ สู้ๆจ้า
ตอนที่เราเฉยใส่ เค้าขำใส่เราค่ะ แบบ ไม่อยู่อีกแล้วเหรอ 555 พักนี้ดูไม่ค่อยว่างเลยนะ 555 มันเหมือนเค้าสนุกสนานที่เราไม่ตอบโต้และทำตัวเป็นป้าเฉย
คือมันรู้สึกว่า สรุปเราคือคนที่เกลียดกันใช่ไหม หรือเป็นศัตรูคู่อาฆาตกันมาเหรอ แบบนั้นค่ะ
ข้อแนะนำ
-Fade ตัวออกมาค่อยเป็นค่อยไป ทำเป็นไม่ว่างห่างเหิน เรียกไม่ตอบ แช็ตไม่อ่านเดี๋ยวนางคงเบื่อไปเอง
-ถ้านางยังไม่หยุด เวลานางข่มอะไรคุณ ให้คุณพูดอวยนางไปค่ะ เช่นว่าตัวละครของคุณมันแย่ คุณก็ตอบไปว่านั่นสิคงไม่สู้ตัวละครนางหล่อรวยการศึกษาสูงส่งแต่โง่ในเรื่องไม่เป็นเรื่อง เวลานางเอาคุณไปว่า ก็บอกว่าคุณเกิดมาเพื่อเป็นนางร้ายแต่เดี๋ยวนี้เขาฮิตนางร้ายเป็นนางเอกนี่ หรือเธอชอบทำตัวเป็นร้าสต้า แม่แบบคนอ่อนแอน่าสงสารและไร้สมอง...
พยายามอวยนางไป แต่ในคำอวยแฝงคำด่าไปค่ะ แล้วก็แกล้ง ๆเหน็บนางไปด้วย ถ้ายังไม่เลิกก็พูดไปตรง ๆ ว่าไปหาจิตแพทย์ไหม ไม่รู้เหรอว่าตัวเองทำตัว toxic ใส่คนอื่น พูดอ้อม ๆ แล้วไม่เข้าใจอีกก็พูดตรง ๆ ไม่ไหวก็เลิกคบหัวจะปวด
ขอบคุณค่ะ เราพยายามกันตัวเองออกมาค่ะ แต่นางเริ่มมีโมเม้นต์คล้ายสนุกสนานเวลาเราทำแบบนั้น นางเริ่มทำเป็นขำใส่เราแบบไม่มีเหตุผลให้ขำ แบบ ไม่อยู่อีกแล้วเหรอ 555 อะไรแบบนี้ ส่วนเรื่องที่จะตอบโต้นางแบบนั้น เราคิดว่าเราคงทำไม่ได้ค่ะ เราเหนื่อยล้ากับเรื่องนี้มาก ๆ อยากหาทางออกและพาตัวเองออกมาให้พ้น ๆ ปัญหาสักที เพราะในชีวิตก็มีปัญหารุมเร้าอยู่แล้ว ไม่ว่ายังไงก็แล้วแต่ ขอบคุณค่ะ
ขำใส่แบบไม่มีเหตุผล: เราจะถามกลับทันทีว่า ตลกตรงไหนเหรอ บอกทีจะได้ช่วยหัวเราะ
ถ้านางบอกไม่อยู่อีกแล้ว?: ถามนางว่าเป็นคนจ่ายเงินเดือนให้หรือถึงต้องอยู่ฟังนางตลอด ชีวิตใครชีวิตมันเปล่า?
เรื่องตอบโต้ให้คิดเสียว่าเป็นความบันเทิงเหมือนเจอแก๊งคอลเซ็นเตอร์ค่ะ เป็นสีสันของชีวิต เพื่อนเรานี่เล่นสนุกกับแก๊งคอลฯจนฝ่ายนั้นวางหูไปเอง เสร็จนางก็มาเล่าให้ฟังว่าวันนี้เล่นอะไรไป สนุกสนานมาก แก้เครียดกับงานได้ดี
ขอบคุณค่ะ เราจะพยายามใจเย็นแล้วหาทางออกดูในตอนที่สมองปลอดโปร่งกว่าตอนนี้
ไม่ใช่ว่าเป็นเรือ่ง double talk พูดจาสองความหมาย
ประมาณว่า วิจารณ์งานหน่อย ไม่ใช่ต้องการให้วิจารณ์ แต่ต้องการกำลังใจ
เหมือนกับจะถามว่า
"ชั้นสวยไหม?"
เพื่อนเราไมไ่ด้ต้องการบอกว่า
เธอใส่ชุดและมาสคาร่าไม่เท่ากัน ตาสองข้างไม่เท่ากัน ลิปสีไม่เข้าใบหน้า หน้ามีสิวและหลุมบ่อ ฯลฯ
แต่ต้องการฟังว่าเธอสวยงามเพริดแพร้วดั่งนางฟ้ามาสู่ดิน
จิตใจคนมันเปราะบางครับ ผมเคยภูมิใจตนเองในการที่พูดความจริงตลอด แต่ผมเริ่มคิดแล้วว่ามนุษย์มันไม่สามารถยอมรับความจริงได้
ขอบคุณค่ะ เราไม่รู้จะตอบรับคำแนะนำของคุณยังไงดีเลยค่ะ มันคงกลายเป็นความจริงที่ทุกคนควรยอมรับกันแล้ว แต่เราน่าจะนอกคอกเองที่ยังทำใจรับเรื่องนี้ไม่ค่อยได้ ขอบคุณอีกครั้งนะคะ
ไม่ได้หมายความวว่าให้ยอมรับครับ ฮา ถ้าเราเชื่อว่าการพูดความจริงดีกว่าก้ควรพูดไปเลย แต่อย่างว่าล่ะคนเรามันไม่เหมือนกัน สามารถกระทบกระเทือนจิตใจกันได้ง่าย โตขึ้นมากขึ้นก็ต้องพิจาณามากขึ้นในเรือ่งเหล่านี้ครับ เอาจิตใจเราไปวัดคนอื่นนั้นไม่สามารถทำได้ คนเรามีเงื่อนปมในใจต่างกันอย่างมาก
มนุษย์ส่วนมากมักจะมองเข้าข้างตัวเองค่ะ พอพูดตรงๆวิจารณ์แบบจริงใจแล้วรับไม่ได้นี่มีเยอะมาก ไม่ได้จะมองโลกในแง่ร้ายนะ แต่ทุกคนมีอีโก้เป็นของตัวเอง และขึ้นอยู่กับว่าจะรับฟังความเห็นคนอื่นได้มากน้อยแค่ไหน (เวลาวิจารณ์ใครถึงควรมีวาทศิลป์) ในกรณีของคุณนี่ขนาดเป็นคนใกล้ตัวตักเตือนยังยอมรับความจริงไม่ได้เลย แล้วถ้าคนนอกวิจารณ์จะเหลืออะไร (เราฟังความข้างเดียวก็ไม่ค่อยอยากสรุปแบบนี้เท่าไหร่หรอกค่ะ) แต่เขาก็ควรปรับปรุงตัวเองนะ ส่วนคุณเราว่าควรอยู่ให้ห่างจากความtoxicของเขาถ้าคุยเปิดใจกันไม่ได้
ปล.คอมเมนต์ของคุณโอเมนเปิดโลกมากเลยค่ะ แต่เราก็เคยได้ยินเรื่องพวกเนิร์ดจักรวาลมาเวลเถียงกันในแนวนี้อยู่บ้าง555
เว็บบอร์ดงานเขียนฝรั่งมีคำว่า constructive criticism การติเพื่อก่อและพวกเขาว่ากันแรงพอสมควร เช่นบรรยายเย้อเกินไป ทำไมตัวละครไม่ทำอย่างนั้น อย่างนี้ ทำผิดกฎของจักรวาลสตาวอส์ฯลฯ
เถียงกันสารพัดตามสไตล์พวกเนิร์ดน่ะครับ ฮา
พวกเนิร์ดจะเถียงกันรได้หลายสิบหน้ามากกว่า แต่แนวนิยายรักหรืออะไรต่างๆอาจจะไม่บ้าคลั่งเท่าพวกเนิร์ด เลยตำหนิกันมากไปจะผิดธรรมเนียมอารมณ์ความรู้สึกของคนทั่วไป ก็มีการติดว่า ไม่ใช่ personal soapbox ไม่ใช่ที่ปลอบใจ ว่าหากกล้าลงเรื่องในเว็บนี้ก็ต้องเตรียมตัวโดนวิจารร์สารพัดอย่างไปด้วย
ขอบคุณค่ะ เราจะลองพักเรื่องนี้ไว้สักสามสี่วัน แล้วค่อยหาคำตอบตอนที่ใจเย็นกว่านี้ดูค่ะ
เลิกคบแล้วก็บล็อก ในเมื่อเขาต้องการแต่คำชม แล้วยอมรับไม่ได้ที่ตัวเองสื่อสารผิดพลาด และเลือกที่จะตามระรานเราแบบนี้ เลิกคบ มันไม่ใช่เพื่อนแล้ว
ขอบคุณค่ะ ตอนแรกเราคิดว่าเค้าคงแค่หัวร้อน แต่ประเด็นมันเหมือนที่คุณบอก ความสัมพันธ์มันเปลี่ยนแปลงกลายเป็นเหมือนคนเกลียดกันจากเรื่องไม่เป็นเรื่อง เหมือนที่คุณบอกเลยค่ะ ประเด็นมันอยู่ที่เค้ามีตัวเลือกเยอะแยะมากมาย แต่เค้ากลับเลือกทำเหมือนว่าเป็นคนที่เกลียดกันถึงขั้นต้องตามระรานไม่เลิก เราอัดอั้นตัวเลือกของเค้ามาก ๆ
ถ้าไม่ยอมรับว่าสื่อสารผิดพลาด งอแงในพื้นที่ตัวเอง ไม่ได้ไประรานเราหรือพาดพิงถึงเรา ก็พอจะอะลุ่มอะล่วยกร้อมแกร้มคบแบบห่างๆ อย่างไม่ห่วงได้อยู่ แต่ลักษณะนี้คือไม่ไหวแล้ว อย่าปล่อย toxic กับเรานานเกินไป
ขอบคุณค่ะ เราจะลองทำหัวให้เย็นกว่านี้แล้วค่อยหาทางออกตอนนั้นดู จะได้ไม่เสียใจทีหลัง
อ่านแล้วเห็นใจมาก ถ้าเป็นเราคงไม่ทน ไม่รู้จะรักษามิตรภาพต่อไปเพื่ออะไร ทั้งที่อุตส่าห์ช่วยด้วยความบริสุทธิ์ใจ
เราคงจะชนค่ะ เรื่องอะไรต้องยอมถอยไปเฉยๆ 555
ไปบ่นๆกับเพื่อนคนอื่นเป็นเชิงว่า “เบื่อจัง เขาชอบมาแซะนิยายเราตลอดเลย ทั้งที่เราไม่ได้ขอให้เขาอ่าน จะจิกไปถึงไหน งงมากแม่ 5555”
แคปตรงที่เขามาแซะเราไปโชว์ด้วย พูดแบบตลกๆนะ
เช่นแซวเขาเป็นเครื่องสับ ตามสับฟรีตลอดเลย เสร็จแล้วก็บล็อกเขาไปค่ะ ใครถามก็บอกว่ารำคาญเครื่องสับน่ะ เดี๋ยวเรามีอะไรจะคุยกับเขาค่อยอันบล็อกแล้วกัน
ไม่รู้จะแนะนำยังไงดี แต่เอาเป็นว่าเมื่อไปถึงจุดนึ่ง คุณจะรู้ว่าเราไม่สามารถรักษาคนรอบ ๆ ตัวได้ทุกคนหรอกคับ บางคนก็ปล่อยทิ้งไว้กลางทางแบบนั้นล่ะ ไม่ต้องสนใจ ตัดใจไปเลยไม่ต้องเสียดาย
คือถ้าเป็นเราทนไม่ไหวเราก็ไม่ทนเราจะถามจะคุยจริงจังไปเลยว่าเธอเป็นอะไรถ้าเขาตอบว่าเขาไม่เป็นไรเราจะตอบว่าเราเป็นเรารู้สึกแย่นะที่เธอทำแบบนี้ถ้าเธอยังมีความสุขที่ยังทำแบบนี้อยู่เราว่าเป็นเพื่อนกันต่อคงไม่รอดนะเสียสุขภาพจิต
แต่คำพูดด้านบนเราอาจจะแรงไปหน่อยแต่แค่เป็นตัวอย่างให้ดูเฉยๆ ยังไงก็คิดถึงใจตัวเองนะคะถ้าไม่ไหวเราก็ต้องถอยออกมา และอย่าใส่ใจว่าเขาจะมีความสุขที่เราทำแบบนั้นเพราะที่เขาทำคงหวังแบบนั้นแต่แรก
การอยู่กับความสัมพันธ์toxic อาจจะส่งผลแย่ค่ะ เลยเคยผ่านมาแล้ว และก็เคยระเบิดการจากสะสมมาแล้ว เราจะคิดเสมอว่าถ้ายังอยากเป็นเพื่อนกับเขาอยู่ เราจะทน แต่ถ้าเราไม่อยากเป็นแล้ว เราจะพูดออกไปตรง ๆ คือบอกเลยว่าไม่ชอบอะไรบ้าง ถ้าเขาขอโทษเรา ก็ยังเป็นเพื่อนกันต่อ แต่ถ้าไม่ ก็แค่ถอยออกมาและจบความสัมพันธ์นั้น คุณต้องเลือกว่าอยากจะให้จุดจบมันออกมาเป็นแบบไหน
และคุณต้องแยกด้วยว่าคำวิจารณ์ที่เขาพูดกับคุณ เป็นคุณที่รับไม่ได้หรือเพราะวิจารณ์ไม่เป็น ลองดูสองประโยคนี้นะ
"ทำไมเขียนไม่สนุกเลย ตัวละครไม่สมเหตุสมผล นางเอกโง่ พล็อตกลวง"
กับ
"ตัวละครตัวนี้ทำไมถึงทำแบบนี้ เขามีเหตุผลของการกระทำรึเปล่า ได้วางแผนไว้ไหม พื้นเพและนิสัยนางเอกเป็นยังไงทำไมถึงทำแบบนี้ บลาๆ"
จะเห็นว่าความหมายเหมือนกัน แต่การใช้คำพูดต่างกัน คนเราพูดดีๆกันได้ค่ะ ไม่ว่าจะคนสนิทหรือไม่สนิท เราก็ไม่มีเหตุผลให้ต้องทำร้ายจิตใจกัน หากเขาทำให้คุณรู้สึกแย่ เดินออกมานะคะ
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?