ลงนิยายบทแรกเมื่อ 9 ปีก่อน ห๊ะ ป่านนี้ยังไม่อัพบทที่ 2 ใครเป็นแบบนี้บ้างครับ
ตั้งกระทู้ใหม่
ตามหัวข้อเลยนะครับ
เป็นคนชอบอ่าน(นิยาย) นะครับ เวลาอ่านจะอินมาก หากเป็นแนวที่ชอบและนักเขียนที่ใช่
เลยตั้งคำถามกับตัวเองมาตลอดว่า หากเราเขียนได้อย่างนี้สักครึ่งนึงของนักเขียนที่เราชอบอ่านก็คงดี ทำไมเค้าถึงเขียนได้ดีขนาดนี้ ให้เรามีอารมณ์รู้สึกไปด้วย ราวกับดูภาพยนต์แน่ะ เลยลองหัดเขียนดูสักตอน หูว..มันไม่ง่ายเอาซะเลย กว่าจะได้แต่ละประโยค แต่ละบทสนทนา กว่าจะได้แต่ละย่อหน้า
ตอนนี้อยากทำแบบนั้นอีกครั้งนึง คิดจะเอามาปัดฝุ่น แล้วรีไรท์ต่อ ค่อยๆอัพไปเรื่อยๆ เมื่อมีเวลา ..
ยอดวิวไม่ใช่เป้าหมายหลัก ขอแค่เขียนให้จบได้ก็พอครับ
ใครมีความรู้สึกแบบนี้บ้าง และ เคยเป็นเหมือนกัน คือ แบบดองนานมากกๆๆ จนลืม มาแชร์กันครับ
เอ๊..! ว่าแต่จะมีใครที่ยังไม่นอนบ้างน๊า
ปล.จขกท.ตอนนี้ อายุ หลัก 4+ แล้วครับ
7 ความคิดเห็น
ของเราเกือบ 15 ปี ตอนนี้เรื่องนั้นลบไปแล้วค่ะ ลงฟิคแต่งไม่จบอายุไล่เลี่ยกันไว้แทน
หูวว..นานกว่าผมอีกแน่ะ มาเปิดอ่านตอนเช้าได้เห็นเมนต์นี้มาคนแรก รู้สึกว่าไฟติดเลยครับ ขอบคุณมากๆจ้า
เมื่อก่อนก็เคยอัพลงเด็กดีเมื่อ 10+ ปีที่แล้ว แต่ลบทิ้งหมดก่อนเลิกเล่นเลยไม่มีอะไรตกค้าง และต่อให้มีก็คงลบทิ้งเหมือนกันเพราะตอนนั้น edgy มาก อ่านแล้วคงอยากโดดต่อยตัวเอง 55+
เรื่องเขียนนิยาย เท่าที่อ่านจากกระมู้ นะครับ ผมมีความเห็นดังนี้
1. เรื่องเขียนยาก อันนี้ผมว่า จขกท ควรปล่อยวางครับ แล้วอัดให้เต็มสูบเลย เอา first draft ออกมาให้ได้ก่อนแล้วค่อยทำการ edit ทีหลัง ผมลองแล้ว วิธีนี้ช่วยให้เราเขียนง่ายขึ้นเพราะมันจะช่วยลดความ perfectionist เวลาเขียนงาน ซึ่งตามความเป็นจริงไม่ว่าจะเก่งแค่ไหนก็เป็นไปได้ยากที่จะทำให้ first draft ดีพอขนาดนั้น
2.ถ้ารู้สึกว่าเขียนไม่จบ ลองตั้งโครงสร้างพล๊อตคร่าวๆ เพราะมันจะเป็นตัวนำให้เราเห็นความคืบหน้า ไม่ต้องตั้งให้ทั้งเรื่องจบก็ได้ เอาแค่ให้ arc นั้นจบได้ก็พอ เราจะได้รู้สึกว่าทำเสร็จไปส่วนนึงละ
ได้ความรู้อีกแล้ว ขอบคุณมากครับ
มีกำลังใจขึ้นมามากกว่าเดิมเยอะเลย
ฮึ่บๆ
เคยดองไว้ 5-6 ปี เพราะตอนนั้นคิดจะเลิกเขียนนิยาย และลบบางเรื่องไปแล้ว เนื่องจากตอนนั้นทั้งเรียนทั้งทำงานแบบไม่มีเวลามาเขียนเลยค่ะ นิยายก็ไม่ค่อยได้อ่านด้วย
ดองโคนันไว้เกือบสิบปีเลยค่ะ
สุดท้ายพอเปลี่ยนงาน ก็เริ่มอยากเขียนนิยาย แต่ต่อไม่ติด เลยเปิดเรื่องใหม่ แล้วเขียนมาเรื่อย ๆ ค่ะ ตอนเขียนจบดีใจมากค่ะ ขอให้สู้ต่อไปนะคะ เพราะตอนนี้เราเจอความสุขของตนเองแล้วค่ะ
ถ้าเขียนแล้วไม่ลื่น แนะนำอ่านหนังสือเยอะๆ ให้หลากหลายค่ะ
ส่วนตัวรู้สึกว่า ทักษะการเขียนดีขึ้น เพราะเขียนข้อสอบอัตนัยค่ะ
ใจฟูขึ้นมาทันที ขอบคุณมากค้าบบ
ทีนี้ตั้งใจจะลองเขียนทุกวัน ได้วันละหน้ากระดาษก็ยังดี
เอาทีละบทให้ได้ก่อน
อันนี้เรื่องจริงเลยค่ะ หนึ่งประโยคที่คิดขึ้นมาได่ได้ง่าย และการจะเขียนออกมาให้ดีนั้น ต้องมีองค์ประกอบ สิ่งแรกที่คนอยากเป็นนักเขียนต้องมีคือ การรักการอ่าน อ่านอะไรก็ได้ อ่านๆ ไป เพราะนั่นคือการสั่งสมประสบการณ์ สมองของคนเราก็เหมือนกับลิ้นชัก เวลาเราเริ่มเขียนลิ้นชักต่างๆ ที่เราเก็บเรื่องราวความประทับใจในหนังสือที่เคยอ่านไว้ก็เริ่มทำงาน มันจะเริ่มมีประโยชน์ก็ตอนนี้แหละ สำหรับตัวเองก็เคยเป็นเหมือนกันค่ะ เริ่มงานเขียนชิ้นแรก เปิดเรื่อง 2-3 บท ก็แป็ก!!! ตีบตัน ทำให้เบื่อหน่ายเลยทิ้งไว้เกือบ 5 ปี วันหนึ่งเปิดคอมฯ มาเจอ เห้ยยย....เราก็เขียนสนุกนี่นะ....5555 ให้กำลังใจตัวเองไปก่อนเลยค่ะ ปลอบตัวเองไปค่ะ อย่าท้อ ไม่มีคำว่าสายสำหรับการเริ่มต้น...จากนั้นก็เริ่มเขียนๆ เขียนไปค่ะ แค่ใจรัก ทุกๆ อย่างจะตามมา ขอเป็นกำลังใจให้คนที่เริ่มลงมือเขียนนะคะ
ขอบคุณมากเลยค้าบ ได้กำลังใจมาเต็ม100เล้ย
ดองนานแต่ไม่เคยลืมนะคะ
ดองไว้ 9+ ปี ก็ยังหาโอกาสกลับมาเรื่อยๆ เลย
️️️เหมือนกันเลยครับ เพิ่งมีโอกาสได้กลับมาอ่านเเรื่องที่ตัวเองเขียนแล้ว เฮ้ยรู้สึกดีอ่ะ อยากเขียนต่อ
อยากรีไรท์ใหม่ให้หมดเลย แต่พอดูแล้ว...อืม เหนื่อย ดองต่อเนอะ
ไม่อยากนับปีเพราะเดี๋ยวรู้ว่ามันนาน แต่เคยบอกนักอ่านว่าจะเขียนให้จบ ทุกวันนี้ก็ดองเรื่องนั้นไปแล้วลบเรื่องแล้วด้วย อื้อ
งื้ออ งืออ ดีนะที่ผมยังไม่ลบ
ของผมยังไม่ยอมแพ้ นักอ่านก็ไม่ยอมแพ้รอคอยเหมือนกัน ถ้าไปดูนิยายของผมจะเห็นชัดมากว่า ลงปี 55 ตอนนี้ปี 66 ก็ยังลงอยู่ เว้นระยะหลายครั้ง เลิกสนใจมันไปหลายครั้ง แต่ว่าครั้งนี้ผมมีพลังใจมากที่จะไปจนถึงจุดจบ ผมอยากให้มองว่า มันคือบันไดที่เราต้องค่อยๆ ก้าวไป การผลิตผลงานออกมา 1 ตอน ก็คือก้าวเล็กๆของนักเขียนอย่างเรา แต่มันจะสั่งสมพลังความสำเร็จเอาไว้ มีหนังสือพัฒนาตัวเอง ชื่อ Atomic Habits กล่าวถึง ทฤษฏี 1 เปอร์เซ็นต์ สำหรับงานเขียน งานประพันธ์ งานศิลปะ เช่นนิยายมันเป็นแบบนั้น เราไม่สามารถสร้างประติมากรรมภายในวันเดียวได้ (อาจมีคนทำได้แต่นั่นคงเป็นสุดยอดคนจริงๆ) รู้ไหมว่า นักเขียนเช่น เจ.เค โรวลิ่ง ใช้เวลา 7 ปี ในการประพันธ์แฮรี่ พอตเตอร์ 2 ปี ในการตามหาสำนักพิมพ์ที่ยอมลงทุนกับเธอ รวมแล้วอาจใช้เวลา 8 ปีในการสร้างผลงานเรื่องนี้ที่เป็นมาสเตอร์พีซที่สุดออกมา อย่ายอมแพ้ สู้ต่อไปครับ ผมเองก็จะไปให้ถึงจุดหมายเหมือนกัน 10 ปีแล้ว ที่เริ่มต้น 10 ปี ไม่มีคำว่าสายหากใจเรายังไหว หาแรงบันดาลใจให้เจอแล้วคุณจะมีพลังสร้างสรรค์ในงานเขียนครับ
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?