นักเขียนทุกคนคิดยังไงกับคำว่า "เอาพล็อตเก่ามาเล่าใหม่"?
ตั้งกระทู้ใหม่
เอาพล็อตเก่ามาเล่าใหม่ ก็เหมือนการยืมพล็อตหรือโครงเรื่องหลักๆ ของเรื่องที่เคยเขียนขึ้นมาแล้ว เอามาเขียนใหม่ซ้ำ ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ดีเท่าไหร่ เพราะถ้าทำไม่ได้ดีเท่าของเก่าจะแย่เอา
แต่ถ้ายืมพล็อตเก่าเอามาใช้ก็จริง แต่ปรับเปลี่ยนรายละเอียดภายในเรื่องให้ไม่เหมือนของเก่าล่ะ ก็เหมือนปลูกบ้านสองชั้นแบบเดียวกันเป๊ะๆ แต่ภายในบ้านกลับตกแต่งเฟอร์นิเจอร์ต่างกัน วางแพลนบ้านต่างกันออกไป นักเขียนทุกคนคิดว่ามันจะน่าเกลียดไหมที่ทำแบบนี้? การเอาพล็อตเก่ามาเล่าใหม่ มันเป็นสิ่งที่น่าเกลียดหรือเปล่า?
17 ความคิดเห็น
ผมตื่นเต้นเสมอเวลาเห็นคนเอาพล็อตเก่ามาบิดหาวิธีเล่าใหม่ ๆ
แล้วสาปส่งเช่นกันกับของผลิตซ้ำ
คิดว่าหากทำบ่อย จะกลายเป็นคนกู่ไม่กลับ อีโวลเป็นนักฆ่า ตั้งกระทู้ชวนคนมาค่ากาน ค่ากาน ทุกวันยกเว้นวันหยุดยาว
เราก็เอาพล็อตมาจาก แบลร์ วิช โปรเจ็ค มาเขียนดัดแปลงเหมือนกัน
เค้าโครงเรื่องเหมือนกันเป๊ะๆ คือมีคนที่เข้าไปในป่า แล้วหายสาบสูญไป ตามหาไม่เจอ เหลือแต่กล้องวิดีโอเอาไว้เป็นหลักฐาน ว่าพวกเขาหายไปได้ยังไง?
แต่เราก็ปรับเปลี่ยนให้เนื้อเรื่องไม่เหมือน แบลร์ วิช โปรเจ็ค นะ กลายเป็นแนวล่าท้าผีแทนตามหาแม่มด
ไม่รู้สิ ลองฟังคอมเม้นท์อื่นละกัน
เขาเรียกว่า REMAKE แต่ของใหม่ดีขึ้นหรือกากลงอยู่ที่ฝีมือคนเขียนล้วนๆ แต่ถ้าเอาพล็อตของคนอื่นมาเล่าเอง เขาเรียกว่า FAN FICTION ต่างหาก (ยกเว้นลิขสิทธิ์หลุดกลายเป็นสมบัติสาธารณะ)
กำลังทำอยู่เลยค่ะ เรื่อง อ้อนรักพยัคฆา เป็นนิยายเรื่องแรกๆที่พยายามจับทาง กระทั่งเขียนจบแล้ววางขาย แต่ผู้ซื้อ(เกือบทุกคน)รีวิวว่าเขียนไม่ค่อยโอเค เราทิ้งมาหลายปีจน กระทั่งปีนี้มีเวลา แล้วก็รู้สึกว่าการเขียนโตขึ้น มองเส้นพล็อต แนวทางการเขียน ได้ชัดเจนขึ้น เลยเอามารื้อเขียนใหม่ ซึ่งพอกลับมาอ่านมัน ณ เวลานี้ ก็ยอมรับเลยค่ะ ว่าตอนนั้นเราเขียนอะไรออกไป แล้วกล้าวางขายได้ไงเนี้ย!
มันเหมือน Gonjiam Haunted Asylum ของเกาหลีหรือเปล่า? เนื้อเรื่องเหมือนมาจาก Grave Encounter เลย?
พล็อตเก่า? แค่หยิบมาบางส่วน ไม่ใช่ยกมาเกือบทั้งหมด ดังนั้นคำว่า เอาพล็อตเก่ามาเขียนใหม่ จึงไม่ใช่เรื่องผิด หรือเป็นเรื่องไม่ได้ดี แค่เวลาเขียนต้องมีมุมมองที่ต่างไปจากเดิม หรือวิธีการนำเสนอในแบบของตัวเอง เช่น เขียนนิยายแนวซอมบี้ ก็หยิบแค่ซอมบี้มาเขียน ไม่ลอกระบบ หรือรายละเอียดที่เป็นเอกลักษณ์ของนิยายอีกเรื่องมา ไม่อย่างนั้นมันจะกลายเป็น พล็อตเก่าเอามาเล่าใหม่ หรือมองว่าเป็นการลอกชาวบ้านเขามาอีกที
ได้รับแรงบันดาลใจ กับลอกพล็อต มันต่างกันมาก อ่านแล้วเห็นเค้าโครงโดยรวม หรือมีเอกลักษณ์เหมือนนิยายเรื่องอื่นที่เขาเขียนไปแล้ว อันนี้เป็นสิ่งที่รับไม่ได้ และแสดงให้เห็นว่า คนๆ นั้นไม่มีความคิดสร้างสรรค์เอาซะเลย ทำได้แค่ลอกงานคนอื่น (ยกเว้นกรณี แฟนฟีค หรือมีหลักฐานว่า ขออนุญาติจากนักเขียนต้นฉบับแล้ว)
ไม่ได้มีปัญหาอะไรคับ เคยดูหนังจีนไหมล่ะคับ มังกรหยก ไซอิ้ว สามก๊ก อะไรพวกนี้ ทำซ้ำมาเป็นสิบๆ รอบละ เนื้อหาเหมือนเดิมเป๊ะๆ แต่ทุกภาคก็ยังมีความสนุกของมันต่างๆ กันไป
อันนั้นเขาซื้อลิขสิทธิเพื่อผลิตซ้ำ มีบางเวอร์ชั่นที่เขาขออนุญาตนักเขียนต้นฉบับ เพื่อเปลี่ยนพล็อต เช่น กระบี่เย้ยยุทธจักร ที่เปลี่ยนบทให้ตงฟางปุ๊ป้ายต่างไปจากเดิม
หลายปีก่อนชอบอ่านนิยายรักมาก (ตอนนี้ก็ยังชอบแต่ไม่ใช่ทุกเรื่อง)
แล้วนักเขียนคนที่ชอบในขณะนั้นก็ติดท็อปบ่อยซะด้วย
แต่วันหนึ่งรู้สึกเอียนนิยายของเขา (บางทีอาจจะเอียนนิยายรักเดิมๆมากกว่า)
เพราะมันเหมือน ๆ เดิมเลยอะ พล็อตสูตรสำเร็จ ไม่แปลกใหม่
"เหมือนจับเอาทุกอย่างมาใ่ส่ขวด เขย่า ๆ แล้วเทออกมาใหม่"
แล้วเราก็เหมือนจะคอมเม้นไปแบบนี้ด้วย ไม่รู้จะโดนโกรธมั้ย T-T
หลังจากนั้นเราก็ไปเจอนิยายจีนซึ่งเป็นรสชาติที่แปลกใหม่
แล้วก็ติดยาวมาจนถึงทุกวันนี้ เราชอบอ่านจีนแปลที่ สนพ เอามาพิมพ์เล่มขาย
แต่ก็เริ่มจะรู้สึกเบื่ออีกแล้ว
สำหรับเราเห็นได้ทั่วไปค่ะ เช่น พล็อตโรมิโอจูเลียต(รักที่มีอุปสรรคขวาง) พล็อตนิทานกริมม์(ดัดแปลงกันเป็นล้านๆ เวอร์ชั่น) พล็อตวันสิ้นโลก ฯลฯ
ซึ่งใช่ค่ะมันสามารถออกมาแย่กว่าได้ เพราะ มันมีต้นฉบับให้เปรียบเทียบ เป็นอะไรที่ต้องเสี่ยงเอาค่ะ
ไม่เห็นน่าเกลียดเลยค่ะ
เคยมีคนบอกเราว่า "ไม่มีอะไรที่ไม่เคยมีใครคิดมาก่อน"
บางทีเราเขียนเองแท้ ๆ แต่อาจไปซ้ำกับคนอื่นก็ได้ เป็นเรื่องปกติค่ะ
พล็อตซ้ำ เป็นเรื่องที่ธรรมดามาก ๆ อย่าคิดมากเลยค่ะ
หมู่บ้านจัดสรร บ้านเหมือนกันทั้งโครงการ ทำไมลูกบ้านถึงจำบ้านตัวเองได้คะ
ก็เพราะว่าเขามีรายละเอียดตกแต่งไม่เหมือนกันไงคะ
ไม่เห็นเป็นไรเลย
ทำได้ค่ะ เรายังเอานิทานมาตีความเขียนเป็นนิยายใหม่ได้เลย (แต่ผลงานที่มีลิขสิทธิ์อยู่ไม่ได้นะ) เพียงแต่เวลาเขียน อย่าเขียนโดย "ตั้งใจ" ยืม มาจะดีกว่า คือ เราเขียนอะไรคล้าย ๆ กันได้ รับแรงบันดาลใจมาได้ ว่า เออ ฉันอยากเขียนแนวตัวเอกสุดเทพย้อนเวลากลับมาแก้แค้น อยากเขียนแนวสืบสวนสอบสวนที่สุดท้ายแล้วคนร้ายคือตัวเอกที่เล่าเรื่อง อะไรแบบนี้ แต่ไม่ใช่ไปตั้งใจถอดโครงนิยายเขามา 1 2 3 4 แล้วไล่เขียนแบบเขาต้นจนจบ แล้วเปลี่ยนแค่นิด ๆ หน่อย ๆ เวลาเขียนให้มองที่แก่นเรื่องกับตัวละคร ว่าเรื่องของเรามันควรเดินทางไปในทิศทางไหน แล้วเนื้อเรื่องมันจะกลมกลืน มันจะเหมาะสมกับเรื่องราวของเรา ถึงมันจะไปคล้ายกับเรื่องที่มีอยู่แล้ว แต่มันจะมีความต่างในแนวคิดของเราเองค่ะ
มันมีสองแบบ ยืมแบบหน้าเกลียด เคยเห็นอยู่
จึงสรุปให้ไม่ได้ ว่าคำนี้น่าเกลียดหรือไม่ อยู่ที่คนใช้มัน ว่าเจตนาเป็นแบบไหน
ก็แค่พวกขี้เกียจ ไม่มีปัญญาคิด
ผมมองว่า ถ้าดูแค่พล็อต 1อย่าง แล้วให้คนหลายคน เขียน มันก็ต่างกันตามจำนวนที่คนให้ดู
สำหรับผมคิดว่าแนวคิดแบบนี้ ค่อนข้างคล้ายกับว่าใช้ความคิดสร้างสรรค์สิ่งใหม่จากสิ่งเดิมมากกว่า สิ่งสำคัญมากที่สุด อย่าลอกมาทั้งดุน แค่นั้นเอง ส่วนของใหม่จะดีเท่าของใหม่ไหม มันก็ขึ้นอยู่กับอ่านครับ ถ้าเราคิดจะเอามาเล่าใหม่ ก็จัดให้เต็มที่เลยครับ
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?