ประเพณีและวัฒนธรรม - ไอซ์แลนด์

ตั้งกระทู้ใหม่

ขณะผู้ชายไวกิ้งออกท่องทะเล ผู้หญิงและเด็กที่อยู่เบื้องหลังจะทำนาไร่และเลี้ยงสัตว์ แต่ความชำนาญการเดินเรือเป็นเรื่องชวนทึ่ง เขารู้จักอ่านทิศทางลมทำให้สามารถข้ามแอตแลนติกได้โดยไม่ต้องใช้เข็มทิศ แต่ใช้วิธีดูความสูงของดวงอาทิตย์ และตำแหน่งของดาวบนฟ้า และใช้นกกาเหว่าค้นหาแผ่นดินใหม่ โดยปล่อยนกจากเรือทุก 2-3 วันปกตินกจะบินย้อนทิศที่เรือเดินทางมาเพื่อกลับสู่แผ่นดินเดิม ครั้นเมื่อมันบินนำเรือ ไวกิ้งก็รู้ทันทีว่านกเห็นแผ่นดินใหม่แล้ว

ชุมชนเล็กๆ ของไวกิ้งในศตวรรษที่ 8 ค่อยๆ ขยายกลายเป็นรากเหง้าสำคัญของการปกครองของโลกปัจจุบัน มีการริเริ่มใช้สภาที่เรียกว่า Atthing เมื่อปี 930 นับเป็นที่ประชุมสภาที่เก่าแก่ที่สุดในโลก

สนิทชิดใกล้ขั้วโลกเหนือ เป็นเพื่อนเกาะกับกรีนแลนด์แห่งมหาสมุทรแอตแลนติกเหนือ คือ "ไอซ์แลนด์" เกาะใหญ่อันดับสองของทวีปยุโรปรองจากเกาะอังกฤษ พื้นที่มีอยู่ประมาณ 103,000 ตารางกิโเมตร กว้างขวางผกผันกับจำนวนประชากรซึ่งทั้งประเทศมีราว 28,000 คน ส่วนใหญ่อาศัยอยู่ในเมืองหลวง กรุงเรย์จาวิค ใช้ภาษาพื้นเมืองคือไอซ์แลนด์ดิกเป็นภาษาประจำชาติคู่กับภาษาไวกิ้งโบราณ

สภาพภูมิประเทศที่เป็นเกาะอันเกิดจากการระเบิดของภูเขาไฟใต้ทะเลทำให้เกิดเกาะใหญ่ 1 เกาะ รายล้อมด้วยเกาะเล็กเกาะน้อย ไอซ์แลนด์ถูกขนานนามว่า "ดินแดนแห่งน้ำแข็งของไฟ" เนื่องจากตั้งอยู่บนเส้นอาร์กติกอันหนาวเย็น ไวกิ้งคือชนกลุ่มแรกที่เข้าครอบครองในช่วงศตวรรษที่ 8-11 แม้ภาพที่คนอื่นมอง ไวกิ้งเป็นคนป่าเถื่อน ดุร้าย แต่ด้านหนึ่งของพวกเขา X วชาญอ่อนไหวไปกับงานศิลป์ ทำเครื่องปั้นดินเผา หล่อโลหะ ทอผ้า และเล่นหมากรุก

มีความเชื่อในเทพเจ้า เทพผู้ทรงอำนาจสูงสุด 3 พระองค์คือ โอดิน เฟรย์ และธอร์ เชื่อในความร้ายกาจยักษ์มาร และเชื่อในคนแคระที่ช่วยเทพเจ้ายามสงคราม เชื่อในนางไม้ผู้มีหน้าที่ควบคุมการตั้งครรภ์ของสตรี

ชาวไอซ์แลนด์มีประเพณีการฝังศพแบบไวกิ้ง มีการค้นพบเรือบรรทุกศพที่มีความยาว 24 เมตร ภายในมีศพสตรีสูงศักดิ์ ศพม้าที่ถูกฆ่า และศพคนใช้ (ซึ่งถูกฆ่า หรือฆ่าตัวตายตามนายก็ไม่มีใครรู้) ติดตามไปในภพหน้า แต่บางครั้งไวกิ้งก็เผาศพเมื่อต้องการจะให้วิญญาณไปสวรรค์เร็วๆ แทนที่จะฝังดินให้หนอนแทะกินซากศพของคนที่ตนรักและบูชา

ขณะผู้ชายไวกิ้งออกท่องทะเล ผู้หญิงและเด็กที่อยู่เบื้องหลังจะทำนาไร่และเลี้ยงสัตว์ แต่ความชำนาญการเดินเรือเป็นเรื่องชวนทึ่ง เขารู้จักอ่านทิศทางลมทำให้สามารถข้ามแอตแลนติกได้โดยไม่ต้องใช้เข็มทิศ แต่ใช้วิธีดูความสูงของดวงอาทิตย์ และตำแหน่งของดาวบนฟ้า และใช้นกกาเหว่าค้นหาแผ่นดินใหม่ โดยปล่อยนกจากเรือทุก 2-3 วันปกตินกจะบินย้อนทิศที่เรือเดินทางมาเพื่อกลับสู่แผ่นดินเดิม ครั้นเมื่อมันบินนำเรือ ไวกิ้งก็รู้ทันทีว่านกเห็นแผ่นดินใหม่แล้ว

ชุมชนเล็กๆ ของไวกิ้งในศตวรรษที่ 8 ค่อยๆ ขยายกลายเป็นรากเหง้าสำคัญของการปกครองของโลกปัจจุบัน มีการริเริ่มใช้สภาที่เรียกว่า Atthing เมื่อปี 930 นับเป็นที่ประชุมสภาที่เก่าแก่ที่สุดในโลก

ชาวไอซ์แลนด์ชาตินิยมอย่างยิ่ง พวกเขาภูมิใจในท้องถิ่นของตนที่สุด แต่กระนั้นก็ชอบท่องเที่ยวต่างแดน ใช้ชีวิตแบบสมัยใหม่และชื่นชอบอิเล็กทรอนิกส์โดยที่ไม่ทิ้งรากเหง้าเชื้อสายไวกิ้งของตน การสู้รบเพื่อความอยู่รอดนานนับศตวรรษทำให้ชาวไอซ์แลนด์ชินกับการทำงานหนักในเวลายาวนาน แต่ก็ยังมีสุขภาพดีและอายุยืนยาวที่สุดชาติหนึ่งในโลก อาจเป็นเพราะอากาศดี ปลอดมลภาวะ ทั้งอาหารส่วนมากก็เป็นอาหารทะเลอุดมโปรตีนแต่คอเลสเตอรอลต่ำ