Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

ยานอาวกาศ Galileo

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่

เมื่อเวลา 6.55 นาฬิกาของเช้าวันที่ 21 กันยายนที่ผ่านมานี้ ยานอวกาศชื่อ Galileo ได้ถูกบังคับให้พุ่งดิ่งลงสู่ดาวพฤหัสบดีผ่านชั้นบรรยากาศที่หนาแน่นของดาวด้วยความเร็วสูง ทำให้แรงเสียดทานเผาผลาญยานจนลุกไหม้เป็นจุล ทั้งนี้เพราะ NASA ไม่ต้องการให้ยานมีโอกาสพุ่งชนดวงจันทร์ชื่อ Europa ของดาวพฤหัสบดี ซึ่งจะทำให้ดวงจันทร์ดวงนั้นปนเปื้อนด้วยจุลินทรีย์และปฏิกูลต่างๆ จากโลก

โครงการยานอวกาศชื่อ Galileo นี้ อาจถือได้ว่าเป็นโครงการที่ประสบความสำเร็จสูงมาก ทั้งๆ ที่ในระยะแรกโครงการประสบปัญหามากมายเช่น หลังจากยานอวกาศที่หนัก 223 กิโลกรัม และมีราคา 6 หมื่นล้านบาท ได้พุ่งตัวจากกระสวยอวกาศชื่อ Atlantis ในเดือนธันวาคมปี 2532 แล้ว ขณะเดีนทางสู่ดาวพฤหัสบดี นักวิทยาศาสตร์ได้พบว่า เสาอากาศหลักที่ยานใช้ในการติดต่อกับโลก ทำงานได้ไม่เต็มที่ ทำให้เจ้าหน้าที่ในหอควบคุมได้ใช้สัญญาณวิทยุจากโลกบังคับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์บนยาน จนเสาอากาศดังกล่าวสามารถทำงานได้ดีเกือบ 100% เต็ม และถึงแม้ NASA เดิมคาดหวังว่า โครงการนี้จะใช้เวลานาน 5 ปี แต่ไปๆ มาๆ ยาน Galileo ก็ทำงานได้ดีทั้งที่เวลาผ่านไปเกือบ 15 ปี

ผลงานชิ้นสำคัญที่ Galileo พบคือ ขณะยานโคจรผ่านใกล้ดาวพฤหัสบดี ยานได้วิเคราะห์องค์ประกอบของบรรยากาศเหนือดาว และพบว่า บรรยากาศมีออกซิเจนและกำมะถันน้อยกว่าปกติ แต่มีฮีเลียมมากกว่าที่คิดไว้ ส่วนปรากฏการณ์ฟ้าแลบ ฟ้าร้องนั้นมิได้มีบ่อยครั้งนัก และลมพายุก็พัดรุนแรงและนานมาก

ในเดือนตุลาคม พ.ศ. 2534 ขณะยาน Galileo โคจรผ่านดาวเคราะห์น้อยชื่อ Gaspra กับ Ida ยาน ได้พบว่า Ida มีดวงจันทร์น้อยเป็นบริวารที่โคจรรอบๆ นี่คือการเห็นดวงจันทร์น้อยของดาวเคราะห์น้อยเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของมนุษย์


เหตุการณ์ดาวหาง Shoemaker-Levy 9 พุ่งชนดาวพฤหัสบดี เมื่อเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2537 ก็เป็นเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ครั้งสำคัญ เพราะขณะนั้นทั้งๆ ที่ ยาน Galileo อยู่ห่างจากโลก 240 ล้านกิโลเมตร แต่ยานก็ได้เห็นและได้บันทึกภาพการชนดังกล่าวเรียบร้อย ทำให้เรารู้ว่า ถ้าโลกถูกดาวหางชนบ้าง ความหายนะจะบังเกิดมากหรือน้อยเพียงใด

การค้นพบที่ยิ่งใหญ่ของยาน Galileo อีกชิ้นหนึ่งคือ การพบความรู้ใหม่ๆ เกี่ยวกับดวงจันทร์ 4 ดวง ของดาวพฤหัสบดีอันได้แก่ Europa (ซึ่งมีขนาดเล็กกว่าดวงจันทร์ของโลกเพียงเล็กน้อย) Callisto, Ganymede และ Io เพราะดวงจันทร์ทั้ง 4 นี้ ถูกอิทธิพลแรงโน้มถ่วงของดาวพฤหัสบดีดึงดูด ทำให้เนื้อดินและหินภายในดาวบิดเบี้ยวเสียรูปทรง จนต้องปล่อยพลังงานความร้อนออกมาในรูปแบบต่างๆ กัน เช่น ดวงจันทร์ Io จะมีภูเขาไฟที่ยังมีชีวิตอยู่ และภูเขาไฟเหล่านั้นระเบิดบ่อยกว่าภูเขาไฟบนโลกประมาณ 100 เท่า นอกจากนี้ ยาน Galileo ยังพบอีกว่า ดวงจันทร์ที่ชื่อ Ganymede มีสนามแม่เหล็กด้วย ซึ่งก็เป็นเรื่องที่ไม่เคยมีใครคิดมาก่อน ส่วน Europa นั้น ก็มีน้ำแข็งปกคลุมเต็ม การศึกษาโครงสร้างของ Europa ทำให้เรารู้ ณ วันนี้ว่า ใต้ผิวน้ำแข็งมีทะเลที่ลึกประมาณ 100 กิโลเมตร การที่ทะเลมีความลึกมากเช่นนี้ นั่นหมายความว่า Europa มีน้ำมากกว่าโลกและไม่เพียงแต่ Europa เท่านั้นที่มีทะเลยาน Galileo ยังพบอีกว่า Callisto ก็อาจมีทะเลใต้ดาวเช่นกัน

เพราะทะเลบนโลกคือ แหล่งกำเนิดสิ่งมีชีวิต ดังนั้น การพบทะเลบนดวงจันทร์ Europa จึงชวนให้นักวิทยาศาสตร์สงสัยว่า ดวงจันทร์ดวงนี้อาจมีสิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่ได้เหมือนโลก

เหล่านี้คือ ผลลัพธ์ที่ได้จากการส่งยาน Galileo ไปสำรวจพฤหัสบดีจักรวาล ซึ่งประกอบด้วยดาวพฤหัสบดี และดวงจันทร์บริวารของมัน ตลอดระยะเวลาร่วม 14 ปีที่ผ่านมา และเมื่อ NASA ได้พบว่า เชื้อเพลิงที่ใช้ในการบังคับยาน Galileo ใกล้จะหมดอยู่รอมร่อแล้ว ดังนั้น ถ้าปล่อยให้ยานใช้เชื้อเพลิงจนหมด ยานก็จะตกอยู่ภายใต้อิทธิพลแรงโน้มถ่วงของดาวพฤหัสบดี และดวงจันทร์ใหญ่น้อยของมัน ซึ่งจะทำให้ยานมีวงโคจรที่ NASA ไม่สามารถควบคุมได้อีกต่อไป และนั่นก็หมายความว่า ยานอาจพุ่งชนดวงจันทร์ชื่อ Europa ได้ ดังนั้น เพื่อเป็นการป้องกันมิให้ยานมีโอกาสพุ่งชน Europa NASA จึงตัดสินใจบังคับให้ยานใช้เชื้อเพลิงหยดสุดท้ายในการพุ่งชนดาวพฤหัสบดีแทนเหมือนเมื่อครั้งที่ยานอวกาศ Magellan พุ่งชนดาวศุกร์ในปี พ.ศ. 2537 ทั้งนี้เพราะ NASA หวังว่าก่อนที่ยาน Galileo จะดับสลาย มันจะต้องทำงานจนหมดลมหายใจเฮือกสุดท้ายเช่น ให้ยานจับตาดูดวงจันทร์ชื่อ Amalthea ซึ่งประกอบด้วยหินและน้ำแข็งอยู่รวมกันและมีแนวโน้มว่า ดวงจันทร์ดวงนี้กำลังจะแตกสลายเพราะถูกแรงโน้มถ่วงของดาวพฤหัสบดีทำลาย นอกจากนี้ NASA ก็ได้กำหนดให้ยาน Galileo สำรวจดูว่า ดาวพฤหัสบดีมีชั้นบรรยากาศที่หนาเพียงใดด้วย

ซึ่งยานก็ได้ทำหน้าที่ที่ NASA ได้กำหนดให้อย่างสมบูรณ์ และขณะนี้ NASA กำลังวิเคราะห์ข้อมูลชุดสุดท้ายที่ได้รับจาก Galileo อยู่

เมื่อ Galileo ได้สลายไปแล้วเช่นนี้ งานชิ้นต่อไปที่ NASA มีแผนจะดำเนินการคือ จัดตั้งโครงการ JIMO ซึ่งย่อมาจากคำว่า Jupiter Icy Moons Orbiter ยานในโครงการนี้จะขับเคลื่อนด้วยพลังงานนิวเคลียร์ โดยจะออกเดินทางในปี 2554 ไปโคจรรอบดวงจันทร์ชื่อ Europa, Callisto และ Ganymede และ NASA ได้ระวังว่า ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ยาน JIMO จะต้องปลอดจุลินทรีย์ 100% เพราะถ้ายานมีเชื้อจุลินทรีย์แปลกปลอมติดไป เวลายานทะยานลงหรือชนดวงจันทร์ จุลินทรีย์จากโลกอาจไปแพร่พันธุ์บนดวงจันทร์เหล่านั้น ซึ่งจะทำให้มนุษย์อวกาศที่ไปเยือนดวงจันทร์นั้น ในอนาคตสับสน เพราะเจอจุลินทรีย์โลกเต็มไปหมด

ด้วยเหตุนี้ เราจึงเห็นได้ว่า การสำรวจดวงจันทร์ชื่อ Europa ของดาวพฤหัสบดีจะเป็นการสำรวจที่สำคัญในอนาคต เพราะนักดาราศาสตร์เชื่อว่า ดวงจันทร์ดวงนี้เป็นดาวเคราะห์อีกหนึ่งดวง นอกเหนือจากดาวอังคารที่มีสิทธิ์จะมีสิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่ ทั้งนี้เพราะมันมีน้ำนั่นเอง

นอกจากนี้ นักวิทยาศาสตร์ก็ได้พบอีกว่า ไม่เพียงแต่น้ำเท่านั้น ดาวเคราะห์ยังต้องมี CHNOPS (C = carbon, H = hydrogen, N = nitrogen, O = oxygen, P = phosphorus และ S = sulpur) มีบรรยากาศและมีอุณหภูมิโดยเฉลี่ยประมาณศูนย์องศาเซลเซียส เพราะได้มีการพบว่า แม้แต่ใต้ดินที่ลึกมากบนโลก ถ้ามีแหล่งพลังงาน สิ่งมีชีวิตก็อุบัติได้ และที่ใต้ทะเลลึก ถ้ามีแหล่งน้ำพุร้อนจากท้องมหาสมุทรสิ่งมีชีวิตก็สามารถถือกำเนิดได้เช่นกัน และถ้าในอนาคต NASA มีการสำรวจพบว่า บน Europa มี sulphur dioxide มี tholin ซึ่งเป็นสารอินทรีย์ที่มีกรด amino เป็นส่วนประกอบและทำหน้าที่เป็นอาหารให้จุลินทรีย์ Europa ก็จะเป็นดาวที่มีสิ่งมีชีวิตแน่นอน

แต่ปัญหาก็คือ เรา ณ วันนี้ไม่รู้ว่ามี thotin บน Europa หรือไม่ และถ้ามีมันจะมีมากหรือน้อยเพียงใด และนี่ก็คือหน้าที่ของยานอวกาศในโครงการ JIMO ที่จะต้องหาคำตอบครับ


PS.  55555555555 ชั่วชีวิตของฉันจะมีแต่รอยยิ้มและเสียงหัวเราะ 55555555555

แสดงความคิดเห็น

>

11 ความคิดเห็น