เรื่องของ เดจาวู ( Deja vu )
เรื่องของ เดจาวู
เดจาวู เป็นภาษาฝรั่งเศส ( deja vu ) แปลว่า เคยได้พบเห็นมาแล้ว
เดจาวู ไม่ใช่เรื่องใหม่ เป็นปรากฏการณ์ที่มนุษยชาติพบพาน ทุกเพศวัย ทุกชนชาติแห่งหน
คำอธิบายที่เรามักอ้างให้ตัวเองคือ "คิดไปเองน่า" เราคิดไปเองจริงหรือ ?
คุณเคยบ้างไหมที่อยู่ๆก็แวบเข้าขึ้นมาว่า เหมือนเคยเกิดเหตุการณ์แบบนี้มาแล้ว แต่จำไม่ได้ว่าในฝันหรือในอดีต
มาฟังคำอธิบาย หรือประสบการณ์ของคนที่เจอเหตุการณ์ แบบนี้กันดูดีกว่า เช่น ไปเที่ยวต่างจังหวัดที่ไม่เคยไปมาก่อน เดินไปยืนที่ระเบียง เอ๊ะ คุ้นๆว่าระเบียงนี้ มุมนี้ เรายืนแบบนี้..
หรือมีคนเล่าว่า เขานั่งรถทัวร์กลับต่างจังหวัดตอนดึก ระหว่างทางเห็นอุบัติเหตุข้างทาง แล้วก็ผ่านไป สักพักก็เห็นอีก เห็นอยู่เรื่อย ที่สำคัญเป็นคันเดิม คนเดิม บางทีกำลังหันมามองเขาด้วย
โดนที่ไม่ใช่ฝันแน่นอน พอรู้สึกตัวอีกที รถจอด ปรากฏว่ามีอุบัติเหตุเกิดขึ้นเหมือนเปี๊ยบ
เดจาวู อย่างเดียวกับ ฝันบอกเหตุ หรือไม่ บ้างก็บอกว่า เดจาวู ต่างจาก ฝันบอกเหตุ แต่บ้างก็ว่า ฝันบอกเหตุ เป็นเดจาวูชนิดหนึ่ง ที่แน่นอนคือ ฝันบอกเหตุ เกิดตอนฝันเท่านั้น เป็นฝันพยากรณ์
แต่ เดจาวู เกิดตอนตื่นก็ได้ และส่วนใหญ่มักจะหมายถึงตอนตื่น และถ้าเกิดตอนฝัน มักจะไม่เรียก เดจาวู
เดจาวู เป็นประสบการณ์ทางจิต ที่เกิดได้กับทุกคน และทุกเวลา อาจเป็นอดีตชาติ อาจเป็นโลกคู่ขนาน อาจเป็นพลังจิต หรืออาจเป็นแค่ภาพลวงตาทางสมอง
ทฤษฎีแรก อดีตชาติ
สิ่งใดก็ตามที่เคยเกิดไปแล้วในอดีต จะย้อนกลับมาเกิดซํ้าอีก เหมือนกับการที่เรากลับชาติมาหลายชาติ นั่นแหละ เราจะผ่านประสบการณ์มากมาย และบางสิ่งอาจหลงเหลือในความทรงจำ แล้วย้อนกลับมาเกิดอีก ทำให้รู้สึกว่าเคยเห็นมาก่อน
เดจาวู เป็นประสบการณ์ทางจิตวิญญาณ..
ศัพท์ทางวิทยาศาสตร์ เรียกว่า เดจาวู มันเกิดจากการที่ขณะหลับ จะมีการหลับอยู่หลายขั้น (ประมาณ 5ขั้น) ถ้าเห็นอนาคตที่เคยทำ ก็จะอยู่ประมาณขั้นที่ 3 ยิ่งขั้นมากขึ้น ความสัมพันธ์กับร่างกายและวิญญาณ จะยิ่งห่างไกลกันออกไป ถ้าหลับลึกถึงขั้นที่ 5 ก่อนหลับจะรู้สึกชาตามร่างกายทั้งตัว ขยับตัวเองไม่ได้ พูดไม่ได้ (ลักษณะที่คนทั่วไปเรียกว่าถูกผีอำ) ถ้าหลับในสภาพนี้ อัตราค่าซิงโครกับร่างกายจะลดต่ำ ลงจนเหลือ 0 แล้ววิญญาณก็จะหลุดออกจากร่างกาย.. (จะเป็นไงก็ไม่รู้เพราะยังไม่มีใครเคยลองทำ)
ทฤษฎีที่สอง พลังจิต
บ้างว่า เดจาวู เป็นพลังจิตรูปหนึ่ง บ้างเรียกว่า ตาทิพย์ หรือ กสิณ ในตำราพราหมณ์ แบ่งเป็น 10 แบบ เช่น เพ่งในเปลวเทียน หรือ เตโชกสิณ หรือเพ่งไปในน้ำ อย่างที่เราเรียกว่า อาโปกสิณ ฯลฯ
เราทุกคนมีพลังจิต เพียงแต่จะอ่อนจะเข้ม บางทีเพราะเราไม่ได้ฝึก จะเก็บกดไว้ภายใน วันดีคืนดีก็ล้นออกมา ตามตำรา ถ้าได้ฝึก เราสามารถควบคุมได้
มีนักพยากรณ์หลายคน พยากรณ์ได้จากการเพ่ง ว่ากันว่า มีผู้หนึ่งมีเดจาวูแรงกล้ามาก หาใครเปรียบ เขาชื่อ นอสตราดามุส
ทฤษฎีที่สาม จักรวาลคู่ขนาน
อธิบายเกี่ยวกับ โลกคู่ขนาน หรือ จักรวาลคู่ขนาน ก่อน หมายถึง จักรวาลที่ดำเนินไปพร้อมกับจักรวาลที่เราอยู่นี้ ทฤษฎีนี้นักฟิสิกส์ริเริ่มคิดขึ้นมา
เคยไหม มีเหตุการณ์ที่เราลังเลอยู่ 2 ทาง แต่เราก็ตัดสินใจไปทางหนึ่ง แล้วคิดไหมว่า ถ้า ณ วันนั้นเราติดสินใจเป็นอย่างอื่น อะไรจะเกิดขึ้น
ในโลกนี้ที่เรามีตัวตนอยู่ในขณะนี้ ขณะเดียวกันก็มีเราอีกคนหนึ่งในอีกโลกหนึ่ง และมีโลกคู่ขนานมากมายนับไม่ถ้วน..
เช่น ขณะนี้เราได้ตัดสินใจบางสิ่ง ซึ่งนำไปสู่ความสำเร็จ ขณะที่อีกคนของเราได้ตัดสินใจไปอีกทางทำให้ชีวิตตนเอง และผู้อื่นเสียหาย ก็เป็นได้ อีกตัวอย่าง บางครั้งคุณอยากฆ่าตัวตายแต่คุณล้มเลิก บางทีคุณในโลกคู่ขนานอาจฆ่าตัวตายไปแล้วก็ได้ อะไรประมาณนี้
ตัวอย่าง ปัญหาทางทฤษฎีมิติเวลา สมมติคุณเดินทางย้อนเวลาได้ เมื่อวานคุณ
ทฤษฎีเกี่ยวกับโลกคู่ขนาน จึงถูกคิดขึ้นเพื่ออธิบายปรากฏการณ์ความผันผวนของมิติเวลาเหล่านี้ ทุกๆเหตุการณ์ที่เรามี 2 ตัวเลือก จะเกิดโลกคู่ขนาน 2 โลก และจาก 2 โลก ถ้าเราเจอเหตุการณ์อื่นที่ต้องตัดสินใจ 2 ทาง แต่ละโลก จะเกิดโลกคู่ขนานอีก 2 โลก โลกคู่ขนานจึงมีจำนวน นับไม่ถ้วน
จากตัวอย่างเรื่องหุ้น ทฤษฎีอธิบายว่า คุณไม่อาจเปลี่ยนอดีตของตัวได้ เมื่อคุณเดินทางไปบอกตัวเองให้เลิกหุ้นนั้น คุณในอดีต ที่ตัดสินใจไม่เอาหุ้นนั้น จะเกิดอนาคตที่วันนี้คุณไม่ล้มละลาย.. จริง แต่เป็น คนละอนาคต กับวันนี้ของคุณ ที่คุณ
( ถ้าใครเคยดูการ์ตูนดราก้อนบอลแซดคงเข้าใจมากขึ้น ทรังค์ย้อนเวลาจากโลกที่ถูกหมายเลข17,18 ทำลาย มาในปัจจุบัน ในที่สุดโลกที่เขามา ไม่ถูกทำลาย แต่เขากลับไป โลกของเขาก็ยังเป็นโลกที่ถูกทำลายอยู่ดี ไม่เช่นนั้นเขาจะมาได้อย่างไร )
มีคนผูกทฤษฎีเดจาวู กับทฤษฎีจักรวาลคู่ขนาน กล่าวว่า การที่เรารู้สึกหรือเห็นภาพที่คล้ายว่าเคยทำมาก่อน นั่นแหละ คุณเคยทำจริง แต่เป็นคุณในอีกโลกหนึ่งต่างหากที่ได้ทำ คุณในทุกๆโลก ถูกผูกกันด้วยสายใยบางอย่าง อาจเป็นเพราะ สมองมีคลื่นตรงกัน ก็เป็นคุณคนเดียวกันนี่นา
ในบางจังหวะที่เหมาะสม กระแสประสาทจูนกัน คุณก็ได้รับรู้ถึงกระแสความคิดจากคุณในอีกโลก
ทฤษฎีสุดท้าย คิดไปเอง
ดูแนวคิดของหลักวิทยาศาสตร์กันบ้าง ทางวิทยาศาสตร์อธิบายว่า เกิดจากสมองแปลข้อมูลผิดพลาด พูดง่ายๆก็คือ ไม่ได้เห็นมาแล้วหรอก แต่คิดไปว่าเห็นมาแล้ว
ทางการแพทย์เรียกว่า การไหลของคลื่นกระแสไฟฟ้า ในสมองเกิดการผิดปกติ ทำให้การกระทำที่กำลังทำอยู่ ณ ขณะนั้น คลับคล้ายว่าเคยเกิดมาก่อนหน้านี้มาแล้ว แต่ไม่สามารถจำเวลาได้..
สมองคนเราก็เหมือนเครื่องจักรย่อมเกิดข้อผิดพลาดบ้าง อธิบายว่า เดจาวู เกิดจาก เมื่อสมองรับภาพมาจากประสาทตา ก็นำมาแปลความหมาย สมองมี 2 ซีก ตามี 2 ข้าง ประสาทตาซ้ายเข้าสมองซีกขวา ประสาทตาขวาเข้าสมองซีกซ้าย
ฉะนั้นสมองทั้งสอง ต้องทำงานประสานกันและกันอย่างมาก
เมื่อเกิดสมองข้างหนึ่ง เกิดส่งข้อมูลมาช้าไปเพียงนิดเดียว ทำให้สมองแปลความหมายของภาพนั้นว่า เป็นภาพจากความจำไม่ใช้ปัจจุบัน ทำให้รู้สึกว่าเหตุการณ์ที่เจอนั้นเคยเห็นมันมาก่อน..
มีหลักฐานว่า โดยส่วนมาก คนที่เป็นลมบ้าหมู หรือมีประวัติคนในครอบครัวเป็น จะมีโอกาสเกิดบ่อยกว่า และมีโอกาสเกิดบ่อยมากขึ้น ก่อนที่จะมีอาการชัก
สรุปว่า เดจาวู เกิดขึ้นได้อย่างไร
นี้คือ ปริศนา ที่เราทุกคนใคร่หาคำตอบต่อไป
แล้วคุณ
ข้อมูลจากเว็บคะฉิ่น
แก้ไขครั้งที่ 1 เมื่อ 24 พฤศจิกายน 2549 / 16:55
PS. ความรักเป็นสิ่งที่เราปราถนาจะเก็บเกี่ยวความสุขจากมัน.......แต่เมื่อมีแล้วมันกลับทำให้เราเป็นทุกข์.......สู้ไม่มีซะดีกว่า
57 ความคิดเห็น
แด จา วู
คือ
นาง บียอนเซ่
แต่ก้อยังงงงงอยู่อ่ะ
อ่านแล้วไม่ค่อยเข้าใจอ่ะ
แก้ไขครั้งที่ 1 เมื่อ 24 พฤศจิกายน 2549 / 16:43
อ่า เคยเปนแหละ อาการเนี้ย
และก้อเป็นกันหลายคนนะ รู้สึก
ไอ แดจาวู เนี่ย
ทฤษฎี จักรวาล คุ่ขนาน อ่านแร้ว รุสึกแปลกๆ แฮะ เหอๆ
แต่ คิดไปเองก็ไม่น่าจะใช่อะ -*-
เราก็รู้สึกบ่อยนะ
บางครั้ง ก็รู้สึกว่า เหตุการณ์แบบนี้เคยเกิดขึ้นมาแล้ว
ณ ที่ตรงนี้ เราทำแบบนี้
มันเหมือนกับสิ่งที่เราเคยฝันไว้
แล้วมันเป็นแบบนั้นจริงๆ
PS. ว่างๆแวะมาไอดีเราได้ตลอดเลยน้า ไอดีเราน่ารักนะ~อิอิ^O^
เปนบ่อยอะ  แต่ไม่รู้ว่าเพราะอะไร
เดจาวู หลายรอบมาก
ตั้งแต่ ป..6 มั้งที่รุสึกได้
งี้..เราก้อหลับถึง ขึ้น 3 แล้วอะดิ เหอๆ
เปนปรากดการที่อัศจรรพิลึกดีเนอะ
PS. $$...bloody-F...$$ [+ need to... still be love U +]
แปลกดีเนาะ
ได้ความรู้ดี
ขอบคุณมากๆเลยค่ะ
ได้ความรู้เพิ่มจริงๆ
PS. [[ Freeze* ]] ,,n3TiieZ # ขอแอบรัก...ดีกว่า...อกหักอย่างนี้ #
เค้าว่าเด็กๆน่ะ มักจะเป็นมากกว่าคนอายุมาก
เป็นความรู้ดี โหวตๆ ^ ^
PS. ~~กรูม่ายรู้.......................กรู เ ม า~~
De ja vu  Beyonce'  Feat.  Jay - Z
  555+
เออ..ง่ะ เต้น แนว มากเพลงนั้น ตูเหนื่อยแทน บียอนเซ่  ...คิดได้ไง???...
เค้าบอกว่าช่วงเด็กๆจาเปนบ่อยเพราะจิตเราว่าง
ถ้าเรามัวแต่คิดถึงเรื่องที่กังวลเดจาวูก้อจาไม่เกิดขึ้น
ฉะนั้น....จาเกิดเดจาวูได้  จิตเราต้องว่างจิงๆ
ช่ายมะ  บิยองเซ่ 55+
จิงๆๆนะ เป็นบ่อยมากเลย ช่วงก่อนๆๆอะ รุ้สึกว่า ไอ่ตอนเนี่ยเคยทำมาก่อน แต่ไม่รุ้ว่าทำเวลาไหน แต่รุ้ว่าทำที่ไหน และก้ที่เดิมๆๆด้วย รู้สึกซำกันประมาณ 3 ครั้งได้อะ แต่บางครั้งก็รุ้สึก2ครั้งอะ งงเหมือนกาน
เราสนใจเรื่องนี้มานานและ แระก็อยากรู้ว่าตกลงมันคืออะไรกันแน่
ขอบคุณที่เอามาให้อ่านค่ะ
ตอนแรกเรานึกว่าเปนคนเดียว ถามเพื่อนๆมันก็เคยยย .........55+
เคยคิดแบบว่า เห้ย เหมือนมันเคยเกิดแล้วอ่ะแบบนี้ >> แต่ตอนนี้ไม่เปนแล้วอะ
เคยค่ะๆๆๆ บ่อยมากๆๆตอนแรกได้ฟังเพลงเลี้ยงส่งอ่ะ ก้อคิดว่าเฮ้ย เพลงเก่าเอามาร้องใหม่นี่หว่า เพื่อนก้อบอกว่า มานเพิ่งออกมาใหม่ เราก้องงเลยอ่ะ รู้สึกว่าเคยฟังแล้วนะ ตอนแรกนึกว่าตัวเองจิตหลอนพอมารู้อย่างนี้ค่อยโล่งใจหน่อย
ใช่ ตอนเด็กๆเป็นบ่อยมากมาย เป็นประจำ เพราะว่าการบ้าน้อย ไม่ค่อยยุ่ง
พอโตมางานเยอะ ยุ่งเชียว เดจาวูน้อยมาก
PS. ความตาย...ไม่น่ากลัวหรอกนะ... อยากลองดูมั้ย? *~มาเยี่ยมกันบ้างนะคะ แล้วจะไปเยี่ยมบ้างค่ะ~*
ผมเคยบ่อยมากเลย รู้สึกว่าเราเคยทำอย่างนี้มาแล้ว แต่จริงๆไม่เคย หรือรู้สึกว่าเคยเห็นภาพนี้มาแล้ว ทั้งๆที่เพิ่งได้เห็น แปลกดี!
PS. YOU'LL NEVER WALK ALONE. LIVERPOOL FC http://my.dek-d.com/liverbird หงส์แดงตะแคงฟ้า
ข้อมูลของคุณ หลากหลายดีนะคะ
เราเป็นบ่อยมากเลย เราคิดว่ามันเกี่ยวกับจักรวาลคู่ขนานมากกว่า
ส่วนพวกนักวิทยาศาสตร์น่ะ อย่ามาแสดงความคิดเห็นนักเลย รำคาญ
เราก็เคยเป็นนะ
เป็นบ่อยมากเลย
~จบ~
PS. เข้ามาเยี่ยมกังมั่งน้า อุจส่ามาเยี่ยมถึงที่แร้นส์ง่า
Thanks ^^~
PS. miss and love My friend ( M.T.L)
เราก็เคยเป็นนะ
ก็เลยสงสัยว่าเป็นเพราะอะไร
เลยมาหาข้อมูลค่ะ
ขอบคุนมากนะคะ
แต่ก็ยังสรุปไม่ได้แน่ชัดอยู่ดีอ่ะเนอะ
เชื่อว่าทฤษฏีที่  4 น่าจะมีความเป็นไปได้สูงสุด คือกระแสไฟฟ้าในสมองเกิดการผิดพลาดอะไรนั่นอ่ะ เราะทฤษฏคู่ขนานไม่น่าจะใช่เลย เป็นไปไม่ได้ที่จะมีเราสองโลกในคนเดียวกัน...งิงิ
PS. waพักตร์`รักหuou
ช่ายเลย
มานรุสึกเกิดขึ้นมาแล้ว
แล้วมานก้อจะหยุดนิดๆๆๆ
แบบอึ้งๆๆๆๆๆ
เอ๊ะอีกแล้วว่ะเราเปงราย
แต่ไม่เคยบอกคาย
เพิ่งรุว่ามีคนเปงเยอะ
ผมเห็นด้วยอย่างยิ่งเลยครับ เพราะเกิดขึ้นกับตัวผมอยู่บ่อย ๆ แล้วก็มีแนวคิดคล้าย ๆ กับที่ผมคิดไว้ด้วย โดนมาก ๆ เลยครับ... ^^
ผมเคยเปนครั้งหนึ่งเหมือนกับว่าผมได้งาน ณ งานศพของใครก้อไม่รุ้(ประมานว่าในฝัน)แล้วอยู่มาประมานซัก1เดือนพ่อของเพื่อนผมเสียชีวิตก้อไปที่งานศพนั้นแต่มีอยุ่ภ่พนึงที่ติดตาเลยว่าเคยเห็นที่ไหนอย่างนี้น่าจารุ้นะคับว่าในเดจาวูเป็นงานของคัยผมจาด้ายเตือนเพื่อนของผมทัน
อืมมม
เข้าใจแล้ว
งั้นอาการที่เป็นอยู่ก็เรียก เดจาวู
มันไม่ได้คิดไปเอง  เพราะทุกครั้งที่ฝันถ้าไม่ไร้สาระเช่นฝันเห็นการ์ตูน
ฝันนั้นก็จะเป็นจริง  เพียงแต่ตอนตื่นข้นมาจะจำไม่ได้  แต่พอเกิดเหตุการณ์ที่เหมือนในฝัน สมองของเราก็คิดออกทันที
8
อืมมม
เราเป็น อาการนี้แหละ
ประจำ
ผมก็เคยเป็น
    พอตื่นขึ้นก็ไปโรงเรียนพอถึง ก็เห็นเพื่อนมันคุยกันอยู่ก็เลยเข้าไปคุยด้วย แล้วก็รู้สึกว่าเคยเห็นภาพนี้มาก่อน เคยเดินเข้าไปหาเพื่อนอย่างนี้ เคยเห็นเพื่อนยืนคุยอย่างนี้ เคยคุยกันเรื่องนี้ แล้วตอนที่รู้สึกก็จะรู้สึกตอนกลางเหตุการณ์ ตอนที่รู้สึกภาพเหตุการณ์นั้นมันจะวิ่งเข้ามาในหัวเร็วมาก แล้วเราก็จะรู้สึกว่าเหตุการณ์นี้เคยเกิดขึ้นมาแล้ว แต่เราก็ไม่สามารถหยุดเหตุการณ์นั้นได้ ไม่สามารถไม่เดินไปหาเพื่อนได้ ไม่สามารถไม่คุยกับเพื่อนได้ ไม่สามารถหยุดคุยกับเพือนได้ ถึงตอนนั้นจะรู้สึกว่าเคยเกิดขึ้นแล้วแต่ก็ไม่สามารถหยุดได้ แล้วพอมารู้ตัวอีกทีมันก็จบไปแล้ว แล้วพอมานั้งคิดอีกทีก็เหมือน เคยเจอ หรือเคยฝันมาก่อนเมื่อนานมาแล้ว แต่จำไม่ได้......
555+
หนุกดี ชอบ แต่ไม่ค่อยน่ากลัวเลย แต่รู้สึกว่าเคยเป็นอยู่น่าแต่ไม่รูเป็นเองอะป่าว แต่ถ้าเป็นเดจาวูจริง คงเปฌนมาาเป็น 10 แล้ว
คือ เคยเปนคล้าย ๆ อ่าน่ะ เเต่ ความฝันกลายเปนความจิง - -+
เราเคยเกิดแบบนี้บ่อย ๆ แต่ก็ไม่รู้มันเกิดได้อย่างไรเหมือนกัน
PS. มาเพิ่มเพื่อนกันเยอะ ๆ นะคะ อยากมีเพื่อนเยอะ ๆ ค่ะ
เรามีอาการแบบเดจาวูเป๊ะ !' เห่นเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้น แล่วก่เอ่ะใจ ?
เฮ้ยยย ! เหตุการณ์นิ่เคยผ่านมาแล่วนิ่ , เราเจอเรื่องแบบนิ่เยอะมาก ><'
แต่ก่ใม๋รู้เหือนกัลว่าทัมมัยถึงเกิดขึ้นกับเรา ?'
เคยเป็นค่ะ บ่อยๆมากๆเลย บางครั้งเราก็ว่าเดินผ่านที่นั่นมาแล้วแน่นอนแต่ ความจิงเราไม่เคยเดินผ่านเลย  (ส่วนใหญ่เป็นที่การกระทำกับสถานที่)
เราก็เป็นนะ เราเป็นคนฝันล่วงน่าเราคิดอย่างนี้ เราฝัน แล้วตอนกลางวันเราเห็นภาพแบบในฝัน เราจำไม่ได้ แต่พอเหตุการณ์นั้เกิดขึ้นในชีวิตเราจะบอกคนอื่นว่าภาพนี้เห็นในความฝัน เราเคยบอกพี่เราว่าเราฝันเห็นล่วงน่า แต่พี่เราบอกว่าเราเป็น dejavu เราก็เถียงว่าเราฝันล่วงหน้า พี่เราก็บอกให้เรามาเปิดหาคำว่า dejavu พอเราอ่าน เราอยากบอกว่า เหมือนที่เขาบอกมาทั้งหมด เราเป็นแบบนี้ เราเป็นแบบนี้ไม่บ่อย เเต่เกิดเหตุกาณ์หลายครั้ง
เราเป็น เดจาวู บ่อยมาก
ทฤษฎีสุดท้าย น่าจะใช่สำหรับเรานะ
เพราะตอนเด็กๆเคยเป็นลมบ้าหมู
เราเป็นบ่อยมากเลยตั้งแต่เด็กแล้วแหละตอนนี้ก็ยังเป็นอยู่แต่รู้สึกว่ามันชินแล้วเหมือนรับรู้ถึงสิ่งที่เกิดไปแล้วอะไรงั้น อยากช็อคโลก =[]=
PS. ไปตายซะไอน่อไอพวกหน่อทั้งหลาย!!!!
เคยเหมือนกันค่ะยกตัวอย่าง เช่น เวลาไปซื้อขนมรู้สึกเหมือนว่าเราวิ่แบบเดิม
PS. หากโลกนี้แหลกสลาย...ความวุ่นวายบนโลกก็จบลง ง่ายๆ แค่นี้เอง...
เป็นบ่อยจนทำให้รู้เลยว่าจะเกิดอะไรขึ้น ต่อจากนี้อะ
เฉพาะ ที่ สำคัญๆ ด้วยน๊ะ เเต่เรื่องไร้สาระอะไรประมาณนี้ก็เป็นอยู่มั้ง
บ่อย มากๆ อาการที่เรียกว่า "เดจาวู" น่ะ เหมือนกับฝันไป
ว่า เราทำไปแบบนั้น
ว่า ที่ตรงนั้น
พอเราตื่นขึ้นมา ถึงเวลานั้น
มั น ก็ จ ะ เ กิ ด ขึ้ น!!!
ต า ม ที่ ฝั น!!!
ราวกับว่า มันเป็น เ รื่ อ ง จ ริ ง!!!!!
ฉันเป็น บ่อยมากๆ!!!       
เป็นมากสุดคือบอกหวยถูกอ่ะ
ผมก็เคยเป็นนะ มันเหมือนอย่างกับว่าเราเคยเจอมาแล้วแต่ไม่รู้ว่าเคยเจอตอนไหน?แต่มันเหมือนเคยผ่านตามาครั้งหนึ่งจะว่าฝันไปรึป่าวก็ไม่แน่ใจทุกครั้งที่เจอก็มักคิดว่าคิดไปเองรึป่าวแต่พักหลังๆเป็นหนักกว่าเก่าเลยรู้สึกว่าเราคงไม่ได้คิดไปเอง แต่ก็อย่ารู้มากกว่านี้คงต้องศึกษากันต่อไป
เป็นบ่อยค่ะ เหมือนเคยเห็นมาแล้วแต่จำไม่ได้ว่าเห็นตอนไหน?
เชื่อทุกทฤษฏี ไม่รู้สิ มันสอดคล้องกันหมออ่ะ
เราก็เป็น......ไม่บ่อยแต่หลายครั้ง
เราได้อ่นหนังสือเล่มนึงอธิบายได้เกี่ยวกับปรากฎการณ์แดจาวู และเรารู้สึกว่าเขาอธิบายด้วยเหตุผลที่ถูกต้องมากที่สุด.....และเราชอบหนังสือเล่มนี้มาก...
อันนี้เค้าเปนบ่อย มันทรมานมาก จิงๆๆ
ข้อสุดท้าย วิทยาศาสตร์ แค่ อธิบาย กระบวน การ ทางความผิดพลาด ของ คลื่่นไฟฟ้า..
..โอเค ไม่เถียง..แต่ทำไม วิทยาศาสตร์ ไม่อธิบายต่อ ว่า ..หลังจาก วินาทีนั้น
เหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น ด้วยปรากฏการณ์แดจาวู เกิดขึ้นได้ยังไง..??
หรือ ความบังเอิญ งั้นเหรอ ที่ คลื่นไฟฟ้า ที่ผิดเพี้ยนที่ว่า ในคาบ เวลา ปัจจุบัน
ดันไปตรง กับ อนาค ที่ยังมาไม่ถึง...น่าคิดม่ะ??
โอ..บทความนี้ เหมือนเคยเข้ามาอ่านนะเนี่ย เดจาวูแน่ๆเรา
เมื่อก่อนทุกๆครั้งที่ ได้เจอเหตุการ์ณ ร้ยๆในชีวิต
และมีสภาพจิตใจที่ย่ำแย่ หรือกำลังไปเที่ยวกับเพื่อนตามที่พัก เผื่อผ่อนคลายให้กับจิตใจ
จะเห็นเดจาวูบ่อยมาก ประมาณว่า เดินกับเพื่อนๆอยุ แล้ว คุ้นตามากกับเราเคยเดินข้ามถนนทางม้าลายกับใครสักคนที่ใส่เสื้อดำ แต่ไม่รู้ว่าเป็นผู้ชายหรือผู้หญิง แล้วก็จะเอะใจหลายๆครั้งว่า ทำไมเราเห็นว่าเราเคยมาแล้ว ทั้งๆที่ วันนั้น เราเองพึ่งเคยเดินไปกับเพื่อน แล้ววันนั้นเพื่อนก็ใส่เสื้อสีดำเหมือนกัน
ขอบคุณคอลัมดีๆ ที่แยกเรื่อง เดจาวูกับ ฝันพยากรณ์ให้ค่ะ ^^
ทำไงดีหน่อ
เอิ่ม........คือแบบเป็นบ่อยมากๆ ทำงัยดี
เราเป็นบ่อยมาก เหมือน คห. บน ในช่วงที่ เจอแต่ปัญหาชีวิต เครียดสุดๆ
จะเป็น เดจาวูบ่อยมากๆ จนคิดว่าตัวเองคงบ้าไปแล้ว 555555
ปกติไม่เครียด ก็ยังเป็น
บางทีเรา ฝันคืนนี้ พรุ่งนี้เกิดเหตุการณ์ขึ้นในแบบที่เราฝันเป๊ะๆเลย
แล้วเหมือนแบบ วูบนึงเหมือนเดจาวูและสตั้น 5555555
ก็เค ปกติดำเนินต่อไป
ผมเคยฝันเห็น(ไม่ค่อยแน่ใจว่าฝันเปล่านะครับ)สิ่งที่ยาวนานมากแต่ตอนสุดท้ายความรู้สึกเหมือนตกเหวแล้วผมก็สะดุงขึ้นมาแต่ผมไม่รู้เลยว่าผมนอนตอนไหนผมก็ไปถามพ่อแม่เขาก็บอกผมว่าผมบอกว่าจะนอนแล้วนะแล้วผมก็นอนทั้งที่ผมไม่รู้สึกว่าผมนอนความรู้สึกตกเหวไม่ได้เป็นเพราะผมนอนตกเตียงแน่ๆแล้วผมก็ไปอาบน้ำแต่งตัวไปโรงเรียนผมถามเพื่อนว่าแบบฝึกหัดนี่ครูสั่งเป็นการบ้านไหมทั้งๆที่ผมจำได้ว่าครูสั่งแต่เพื่อนเค้าก็บอกว่าไม่นิแล้ววันนั้นผมเรียนไปจนถึงคาบคณิตแล้วครูก็สั่งการบ้านตามที่ผมได้ถามเพื่อนทั้งวันผมเห็นแทบทุกสิ่งเป็นสีเทานะครับ
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?