ช่วยบอกสารในเปลือกไข่หน่อยครับ

ตั้งกระทู้ใหม่

ผมต้องทำโครงงานวิทยาศาสตร์ครับ

ใคร ช่วยบอกผมทีว่าในเปลือกไข่มีสารอะไรบ้าง

แล้วไข่ไก่หรือไข่เป็ดมี แคลเซียมมากกว่ากัน

*ขอบคุณครับ

Boss

14 มิ.ย. 50 เวลา 22:03 น.

3,613

views

แสดงความคิดเห็น

17 ความคิดเห็น

ผู้หวัง D 7 ก.ค. 50 เวลา 14:03 น. 1

ไข่ ถือว่าเป็นอาหารที่สมบูรณ์ บริสุทธิ์ และเป็นแหล่งอาหารที่ดีอย่างยิ่ง ส่วนประกอบสำคัญของไข่โดยรวมคือโปรตีนที่มีคุณค่า ซึ่งมีกรดอะมิโนที่สำคัญต่อการเจริญเติบโตอยู่ถึง 10 ชนิด โปรตีนในไข่ถูกใช้เป็นมาตรฐานในการวัดปริมาณโปรตีนจากอาหารอื่นๆ ไข่ขนาดกลางให้โปรตีนได้ถึง 12-14% ซึ่งผู้ใหญ่สมควรจะบริโภคต่อวัน ยิ่งไปกว่านั้น ไข่ยังอุดมด้วยวิตามินและเกลือแร่ที่สำคัญต่อร่างกายถึง 13 ชนิด แต่ไม่พบวิตามินซีในไข่ไก่ เพราะไก่สามารถสร้างวิตามินซีเองได้จากสารอาหารที่กินเข้าไป
สีของเปลือกไข่ไม่ว่าจะเป็นสีขาวนวล หรือสีน้ำตาล ก็ไม่มีข้อแตกต่างกันในด้านคุณค่าทางอาหาร เพราะสีของเปลือกไข่ขึ้นกับพันธุ์ของแม่ไก่ ส่วนสีของไข่แดงขึ้นกับการกินอาหารของแม่ไก่ แต่ขนาดของไข่จะให้พลังงานที่ต่างกันออกไป ขนาดที่ใหญ่กว่าให้พลังงานกว่า
ในองค์ประกอบของไข่ไก่ ไข่แดงเป็นแหล่งอาหารที่สำคัญที่สุดอุดมไปด้วยวิตามิน เกลือแร่ และมีไขมันอยู่ประมาณ 1.6 กรัม ซึ่งไม่ถือว่าเป็นอาหารที่มีไขมันสูง โดยกว่า 50% เป็นไขมันไม่อิ่มตัว ประมาณ 29% เป็นกรดไขมันอิ่มตัว ยิ่งไปกว่านั้นไข่แดงยังมีวิตามินดีซึ่งพบในอาหารเพียงไม่กี่ชนิดเท่านั้น ในไข่ยังอุดมไปด้วยแร่ธาตุต่างๆ ได้แก่ฟอสฟอรัส เหล็ก แคลเซียม และมีสังกะสี ไอโอดีน และเซเลเนียมอยู่เล็กน้อย
ส่วนประกอบของไข่
เปลือกไข่ ประกอบด้วยสารแคลเซียมเป็นส่วนใหญ่ ที่ผิวของเปลือกไข่มีรูเล็กๆ อยู่มากกว่า 17,000 รู ช่วยระบายความชื้นและรับอากาศเข้าไป ซึ่งสำคัญมากต่อการพัฒนาการของลูกไก่ และมีสารเคลือบที่สามารถป้องกันเชื้อแบคทีเรียไม่ให้เข้าไปในตัวไข่ได้ ความแข็งแรงของเปลือกไข่ขึ้นกับอายุและการกินอาหารของแม่ไก่ ส่วนใหญ่แม่ไก่ที่ตัวใหญ่จะให้ไข่ไก่ขนาดใหญ่และมีเปลือกบาง
ช่องอากาศ จะอยู่ภายในเปลือกตรงส่วนหัวของไข่ ในเปลือกไข่มีเยื่อหุ้มเซลล์บางๆ 2 ชั้น ซึ่งจะอยู่ห่างออกจากกันเล็กน้อยเพื่อให้มีช่องว่างเกิดขึ้นสำหรับให้อากาศเข้าไปได้ เมื่อไข่อายุมากขึ้นช่องอากาศจะขยายใหญ่ขึ้นเนื่องจากความชื้นและคาร์บอนไดออกไซด์ระเหยออกไป และถูกทดแทนด้วยอากาศ ไข่จะเบาขึ้นและสามารถลอยน้ำได้ เราจึงสามารถทดสอดความสดของไข่ได้โดยการนำไปใส่น้ำ ไข่ที่สดจะจมอยู่ก้นภาชนะ
ไข่ขาว มีน้ำหนักประมาณ 67% และมีโปรตีนมากถึงครึ่งหนึ่งของน้ำหนักโดยรวมของไข่ มีลักษณะข้นและใสมีความเข้มข้นมากในบริเวณที่อยู่ใกล้กับไข่แดง แต่เมื่อไข่มีอายุมากขึ้นความเข้มข้นของไข่ขาวในบริเวณดังกล่าวจะลดลงจนไม่มีความแตกต่างจากไข่ขาวในส่วนอื่น ในไข่จะมีเกลียวเส้นใย เรียก คาลาเซ วิ่งผ่านไข่ขาวตั้งแต่ส่วนบนไปถึงส่วนล่างของไข่ ทำหน้าที่พยุงให้ไข่แดงอยู่คงที่ ช่วยรองรับแรงกระทบกระเทือนเพื่อไม่ให้ไข่แดงแตกตัว ถ้าตอกไข่ออกมาแล้วยังสังเกตเห็นเส้นใยนี้ได้แสดงว่าไข่ยังสดอยู่
ไข่แดง มีน้ำหนักประมาณ 1 ใน 3 ของน้ำหนักโดยรวมของไข่ มีคุณค่าอาหารสูงประกอบไปด้วยไขมัน โปรตีนปริมาณเล็กน้อย วิตามิน เอ ดี อี และเกลือแร่ต่างๆ ที่สำคัญ ไข่แดงจะมีเยื่อหุ้มเซลล์ อาจสังเกตเห็นเกล็ดเลือดเป็นจุดๆ ติดที่ผิวเยื่อหุ้ม แสดงว่าไข่นั้นยังสดอยู่ สีของไข่แดงขึ้นอยู่กับการกินอาหารของแม่ไก่ ไข่แดงที่มีสีเหลืองแสดงว่าแม่ไก่กินข้าวโพดเป็นหลัก ถ้าต้องการให้ไข่แดงมีสีแดงสดต้องให้อาหารที่มีแคลเซียมสูงกับแม่ไก่ เช่นเปลือกหอย หรืออาจผสมสีธรรมชาติจากดอกไม้ลงไปในอาหารก็ได้เช่นกัน
หลายปีที่ผ่านมา ไข่ถูกกล่าวขานว่าเป็นอาหารต้องห้าม โดยเฉพาะสำหรับผู้สูงอายุ ผู้ป่วยโรคหัวใจ และผู้ที่มีปัญหาด้านสุขภาพอื่นๆ เนื่องจากมีปริมาณคอเลสเตอรอลสูง ซึ่งคนส่วนใหญ่เข้าใจว่าคอเลสเตอรอลจากอาหารเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดโรคความดันโลหิตสูง แต่จากผลการวิจัยต่างๆ ที่กระทำต่อเนื่องกันมาหลายปีโดยนักวิจัยทางโภชนาการ พบว่าผู้ที่บริโภคอาหารจำพวกไขมันต่ำเป็นประจำสามารถรับประทานไข่ได้ถึงวันละ 1-2 ฟอง โดยไม่มีผลต่อการเพิ่มขึ้นของปริมาณคอเลสเตอรอลในเลือด คอเลสเตอรอลที่เราพูดถึงในทางโภชนาการแตกต่างกันกับคอเลสเตอรอลในเลือด คอเลสเตอรอลทางโภชนาการได้รับจากอาหารประเภทต่างๆ ได้แก่เนื้อสัตว์ อาหารทะเล ไข่ ผลิตภัณฑ์ประเภทนมและเนย เมื่อรับประทานอาหารเหล่านี้เข้าไป คอเลสเตอรอลที่ได้รับจะไม่ถูกเปลี่ยนเป็นคอเลสเตอรอลในเลือดโดยทันที เพราะคอเลสเตอรอลในเลือดถูกผลิตโดยร่างกายที่ตับ ซึ่งร่างกายของแต่ละบุคคลก็มีความสามารถในการผลิตคอเลสเตอรอลในเลือดได้ไม่เท่ากัน แต่การเพิ่มขึ้นของคอเลสเตอรอลในเลือดมาจากการบริโภคอาหารที่มีไขมันประเภทอิ่มตัวสูง ได้แก่ น้ำมันหมู เนื้อสัตว์ติดมัน นมและผลิตภัณฑ์นมส่วนใหญ่ น้ำมันมะพร้าว และน้ำมันปาล์ม ที่สำคัญนักวิจัยยังได้เรียนรู้ถึงความสัมพันธ์ระหว่างโภชนาการที่ดีกับวิถีการดำเนินชีวิต และการอยู่อย่างมีสุขภาพดี คือความสมดุลทางโภชนาการ ซึ่งประกอบไปด้วยอาหารที่มีโปรตีนสูง เช่น ไข่ นม และเนยที่มีไขมันต่ำ เนื้อสัตว์ที่มีไขมันติดน้อยที่สุด และอาหารทะเล อาหารจำพวกนี้ประกอบไปด้วยวิตามินและเกลือแร่ที่สำคัญทั้งสิ้น นอกเหนือจากการได้รับจากผัก และผลไม้ต่างๆ ซึ่งต้องรับประทานเป็นประจำทุกวันอยู่แล้ว
คนไทยบริโภคไข่ค่อนข้างมากการบริโภคไข่ดิบ หรือไข่ที่เน่าเสีย จะทำให้เกิดอาการอาหารเป็นพิษได้ จากเชื้อแบคทีเรียซัลโมเนลลา (salmonella) เราสามารถหลีกเลี่ยงจากการติดเชื้อนี้ได้จาก
1. ควรเก็บไข่ไว้ในตู้เย็นที่มีอุณหภูมิต่ำกว่า 5 องศาเซลเซียส เพราะสามารถยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อจุลินทรีย์ทั้งที่อยู่ในไข่และเปลือกไข่ได้
2. ควรบริโภคไข่ให้หมดภายใน 2 สัปดาห์หลังจากซื้อมา
3. ล้างมือทุกครั้งทั้งก่อนและหลังแตะต้องไข่
4. เช็ดเปลือกไข่ที่สกปรกให้สะอาด และควรทิ้งไข่ที่เปลือกแตกหรือมีรอยร้าว
5. อย่าบริโภคไข่ที่หมดอายุ หากไม่แน่ใจให้ทดสอบโดยนำไข่ไปลอยในน้ำ หากไข่จมแสดงว่าไข่นั้นยังสดอยู่ แต่ถ้าลอยหรือมีกลิ่นให้ทิ้งไข่นั้นเสีย
6. หลีกเลี่ยงการปรุงอาหารด้วยไข่ดิบ และรับประทานอาหารที่ทำเสร็จใหม่ๆ มิฉะนั้นควรนำไปแช่ตู้เย็นแล้วนำมาอุ่นก่อนรับประทาน
สำหรับหญิงมีครรภ์ เด็กทารก ผู้ป่วย หรือผู้ที่มีความเสี่ยงต่อโรคอาหารเป็นพิษ ไม่ควรบริโภคไข่สุกๆ ดิบๆ ควรรับประทานไข่ที่สุกทั้งไข่แดงและไข่ขาวเท่านั้น