Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

วรรณกรรมที่ดี ต้องเป็นแบบนี้

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
มีความสมเหตุ สมผล
ภาษาสวย
มีข้อคิด ปรัชญา
เน้นความจริง อิงประวัติศาสตร์
ให้ความรู้แก่ผู้อ่า
วางแนวเรื่อง ให้เป็นไปตามที่ตนเองตั้งไว้
เปิดเผยความลับให้ถึงลูกถึงคน
ไม่ลอกเลียนของใคร

แสดงความคิดเห็น

>

32 ความคิดเห็น

พศวัต 12 ส.ค. 50 เวลา 08:32 น. 3

เน้นความจริง ความเหตุการณ์ วรรณกรรมบางเรื่องอาจจะย้อนยุคไปสมัยไหนก็ได้ อาจจะอิงประวัติศาสตร์อย่างเนี่ย

0
Anze & Aizy 12 ส.ค. 50 เวลา 09:33 น. 4

ของอันภาษาไม่ค่อยจะสวย...ถ้าอ่านจากคำว่าภาษาสวย อืม ว่าไงดีล่ะ แนวๆ สำนวนแปลอ่ะค่ะ อันคิดว่า เรื่องภาษาสวยนี่เขียนให้กระจ่างไปเลยดีกว่ามั้ยคะว่าเป็นแบบไหน ประมาณว่า เป็นภาษาที่อ่านง่าย เข้าใจง่าย รวบรัดหรือภาษาที่บรรยายเพริศพริ้ง เพราะใช้แค่คำว่าภาษาสวย ก็ไม่รู้สิคะว่าต้องสวยแบบไหน

อันนี้แค่ในมุมมองของอันนะ ^^"


PS.  Anz. "โลกของสีขาว...ที่สีดำเข้าไม่ถึง" Aiz. "โลกของสีดำ...ที่สีขาวเข้าไม่ถึง"
0
จักรพรรดิ_หน่อง 12 ส.ค. 50 เวลา 09:55 น. 5

อืมมมมมม

อย่างนั้น นิยายในฝันเลยแหะ

เห็นด้วย !


PS.  http://my.dek-d.com/writer/story/view.php?id=296721 นิยายอิปิคแฟนตาซีผสม ที่อยากแนะนำและอยากให้ติดตามครับ...ขอบคุณมาก
0
KennyHass 12 ส.ค. 50 เวลา 10:01 น. 6

มีความสมเหตุ สมผล
ภาษาสวย << ฟังเหมือนยาก แต่ถ้าใช้เวลาฝึกเขียน ก็ทำได้
มีข้อคิด ปรัชญา
เน้นความจริง อิงประวัติศาสตร์ << ไม่จำเป็นเสมอไป
ให้ความรู้แก่ผู้อ่าน << ไม่จำเป็น ถ้าเป็นหนังสือประเภทอ่านเล่น แต่มีได้ก็ดี (วรรณกรรมที่ดีควรเป็นเพื่อนกับผู้อ่าน ไม่ใช่เป็นพ่อแม่ของผู้อ่าน)
วางแนวเรื่อง ให้เป็นไปตามที่ตนเองตั้งไว้
เปิดเผยความลับให้ถึงลูกถึงคน << แต่ต้องค่อยๆเป็นค่อยๆไป
ไม่ลอกเลียนของใคร << สำคัญที่สุด (แต่ก็เซ็งเป็ดเหมือนกันนะ เขียนมาแทบตาย ดันไปซ้ำกับที่คนอื่นทำไว้ก่อนแล้ว)


PS.  ปลงกับสังคมออนไลน์ไปนานแล้ว
0
ขนมขิง 12 ส.ค. 50 เวลา 10:04 น. 7

เห็นด้วยค่ะ  แต่บางเรื่องไม่จำเป็นต้องอิงประวัติศาสตร์  ขอแค่ตั้งอยู่บนพื้นฐานความเป็นจริงก็พอ


PS.  รักแฟน ห่วงชู้ เอ็นดูกิ๊ก=รักบอมๆ ห่วงคยูกี้ เอ็นดูซุงมิน รักนะ...จ๊วบๆ >3
0
TandJ 12 ส.ค. 50 เวลา 10:14 น. 8

ก็มีบางข้อเห็นด้วยและไม่เห็นด้วยค่ะ

แต่ที่เห็นด้วยแบบแน่นอนที่สุดเลยนะ คือ ไม่ลอกเลียนแบบคนอื่น

0
Rose Rosemary 12 ส.ค. 50 เวลา 11:03 น. 9
ความสมเหตุสมผลกับไม่ลอกใคร

ผมว่าก็พอเพียงแล้วครับ

PS.  "ก็ผมป่วยทางจิตอยู่นี่ครับ..จะเอาอะไรมากมายกับผู้ชายบ้าๆคนหนึ่ง"
0
อาชาทะเลทราย 12 ส.ค. 50 เวลา 11:28 น. 10

เห็นด้วยทุกข้อยกเว้นข้ออิงประวัติศาตร์มันจำเป็นด้วยหรือครับ


PS.  ฝากเรื่องDeath! Devil Island ยมทูตล่าวิญญาณ ภาคเกาะพิศวงด้วยขอรับhttp://my.dek-d.com/Writer/story/view.php?id=314888
0
จักรพรรดิ_หน่อง 12 ส.ค. 50 เวลา 11:57 น. 11
วรรณกรรม  หมายถึง   หนังสือ   เอกสารที่มีลักษณะเป็นศิลปกรรม   มีสาระเนื้อหาที่ผู้เรียนสื่อความมายังผู้อ่านซึ่งหมายถึง  งานเขียนทุกชนิด 

วรรณกรรมจึงเป็นผลงานที่เกี่ยวกับหนังสือที่มีรูปแบบต่าง ๆ  มีภาษาและเนื้อหาสาระเหมาะกับวัยที่ศึกษาจุดประสงค์ก็เพื่อให้ผู้อ่านได้ฝึกทักษะในการอ่าน  ได้แนวคิดในการประพฤติปฏิบัติและได้รับความเพลิดเพลินจากการอ่าน

                 วรรณกรรมสำหรับเด็กแต่เดิมเรามักเรียก    “ คติชาวบ้าน ”   ซึ่งหมายถึงแนวทางในการดำเนินชีวิตประจำวันของชาวบ้านที่นิยมปฏิบัติสืบทอดกันมาหลายชั่วคน  ภาษาที่ใช้เหมาะกับวัยของเด็ก  เมื่อเด็กสนใจแล้วก็จะค้นหามาอ่านเอง   หรือมิฉะนั้นก็อ่านโดยการจูงใจของครู  ผู้ปกครอง

                 กล่าวกันว่ายุคทองของวรรณกรรมเด็กนั้นเริ่มตั้งแต่  พ.ศ. 2501 – 2515  หลังจากนั้นก็หยุดชะงักลง  เพราะเราหานักเขียนอาชีพทางนี้ได้ยาก  เพราะระบบเศรษฐกิจและสังคมที่เปลี่ยนแปลงไป

                 ในยุคปัจจุบันเราจึงมุ่งที่จะรวมพลังความคิดหาทางที่จะส่งเสริมงานวรรณกรรม  งานส่งเสริมภาษา  เช่น สมาคมส่งเสริมภาษาและหนังสือเด็กแห่งประเทศไทยตั้งขึ้นเพื่อความเข้าใจอันดี  เกี่ยวกับวรรณกรรมเด็กและวรรณกรรมผู้ใหญ่   แต่อย่างไรก็ตาม  ผลงานบางเรื่อง    เด็กก็อ่านได้ผู้ใหญ่ก็อ่านดี    เป็นวรรณกรรมที่เหมาะทั้ง 2  วัย     เช่น   หนังสือชุดสามเกลอของ   ป. อินทรปาลิต    เป็นต้นวรรณกรรมสำหรับเด็กโดยทั่วไป  มักมุ่งสอนเด็กให้แนวคิดต่าง ๆ  ทั้งทางตรงและทางอ้อม  มุ่งปลูกฝังแนวประพฤติปฏิบัติ  เช่น

1.  บทกล่อมเด็ก  บทปลอมเด็กและบทเด็กเล่น
                 เด็กจะเคยได้ยินได้ฟังมาตั้งแต่ทารกโดยไม่รู้ความหมาย  แต่ท่วงจังหวะทำนองทำให้เด็กได้รับความเพลิดเพลิน  เป็นลักษณะร้อยกรองง่าย ๆ  ที่ว่ากันจนคล่องปากและถือว่าเป็นประเพณีอันดีงาม  ในด้านการให้ความอบอุ่นแก่เด็ก  และผลพลอยได้ก็คือ  ได้รับความรัก  เกิดความนิยมในร้อยกรองโดยไม่รู้ตัวบทกล่อมเด็กในแต่ละท้องถิ่นจะไม่เหมือนกัน  แต่ใจความเนื้อหาสาระแสดงให้เห็นถึงความรัก  ความอบอุ่นที่ได้จากผู้ใหญ่  พ่อ  แม่  ปู่  ย่า  ตา  ยาย  เป็นอย่างมาก

2.  นิทานชาวบ้าน
             นิทานชาวบ้าน  เป็นเรื่องที่เล่าถ่ายทอดมาช้านาน    ต่อมาได้มีการเขียนตามเรื่องราวที่เล่ากันมา    ซึ่งอาจแบ่งตามลักษณะนิทานชาวบ้าน  ได้หลายประการคือ
            -  นิทานปรัมปรา  เป็นนิยายเกี่ยวกับอิทธิฤทธิ์ที่แฝงคุณธรรม  บางเรื่องก็ยืดยาว  สลับซับซ้อน  มักไม่มีแหล่งที่มา  เช่น  เรื่องนางสิบสอง  เจ้าหญิงนิทรา  ปลาบู่ทอง  ฯลฯ
            -  นิทานประจำถิ่น  เป็นเรื่องเล่าที่แฝงความเชื่อเกี่ยวกับกำเนิดของสัตว์  ธรรมชาติ  และประวัติวีรบุรุษ  เช่น  เรื่องดาวลูกไก่  ท้าวแสนปม  ขอมดำดิน  ผีสางนางไม้  เจ้าพ่อเจ้าแม่  ปู่โสมเฝ้าทรัพย์  ฯลฯ
            -  เทพนิยาย  เป็นนิทานเกี่ยวกับเทพเจ้า  นางฟ้า  ผู้คุ้มครองโลก
            -  นิทานชวนเพ้อฝัน  สัตว์  ต้นไม้  หรือสภาพแวดล้อมทั้งหลายพูดได้  เช่น  นิทานอิสป
            -  นิทานชวนขัน  เป็นนิทานที่ดูแล้วไม่ค่อยจะเป็นเรื่องเป็นราวไม่น่าเป็นไปได้เช่นตาบอดกับหูหนวก   หัวล้านนอกครูชายขี้ลืม    เป็นต้น

            นิทานพื้นบ้าน  นอกจากจะเป็นตำนานและมีประโยชน์ต่อผู้อ่านแล้ว   ยังเป็นประโยชน์ทางประวัติศาสตร์อย่างมาก    เช่น  ตำนานเขาวงพระจันทร์  ตำนานพระพุทธชินกร  ไกรทอง  พญาวงพญาทาน  เป็นต้น

เครดิต http://www.thaigoodview.com/library/teachershow/bangkok/pajongjit_t/nitarn/sec02p01.html
PS.  http://my.dek-d.com/writer/story/view.php?id=296721 นิยายอิปิคแฟนตาซีผสม ที่อยากแนะนำและอยากให้ติดตามครับ...ขอบคุณมาก
0
The Eye:Master นางมารร้าย 12 ส.ค. 50 เวลา 12:46 น. 13

อิงประวัติศาสตร์นี่ทำไม่ค่อยได้แฮ่ะ= =" เพราะมันเป็นเหตุการณ์ในอนาคต มันต้องอิงอะไรล่ะ?


PS.  จิตใจมนุษย์ยากที่จะหยั่งถึง แม้แต่จิตใจของตัวเอง คำตอบของมันหายากราวกับงมเข็มในมหาสมุทรและง่ายดั่งหาซากกระดูกในทะเลทราย
0
RachachA 12 ส.ค. 50 เวลา 13:45 น. 14

เห็นด้วยกับข้อสุดท้ายที่สุด


PS.  ถ้าคนพูดไม่เห็นความสำคัญ คำพูดนั้นก็เป็นเพียง "ลมปาก"
0
Gaderiel 12 ส.ค. 50 เวลา 14:41 น. 15

ที่สำคัญที่สุด คงเห็นจะเป็น "ไม่ลอกเลียนของใคร"

นอกนั้นมันอยู่ที่ฝีมือ และใจจริงของผู้เขียนว่าอยากจะสื่ออะไรให้ผู้อ่าน

ถ้า เขียนออกมาแล้วสร้างสรรค์สังคม นี่แหล่ะ ที่เรียกว่าวรรณกรรมดีๆที่แท้จริง


PS.  หากเรายังเดินตามรอยเท้าของคนอื่น แล้วเมื่อไรจะมีรอยเท้าเป็นของตัวเอง
0
moony (ชฎาพร,มุนีรัตน์) 12 ส.ค. 50 เวลา 15:03 น. 16

เข้าไปอ่านได้เลย ว่าพอมีส่วนไหนที่ตรงกับหลักการบ้าง

เอ้า! ชู๊ด!





เล่นโฆษณานิยายกันหน้าด้านๆแบบนี้เลยเรอะ ท่าน! 0[]0

แหม ที่อย่างอื่นยังทำกันได้ แค่นี้ เล็กๆ เนอะ (พูดเองเออเองนะคนเรา)

โหวตหนึ่งจึ่ก


PS.  ลมหายใจของเอลฟ์ หยาดเลือดของมนุษย์ ความตายของเทพ วิญญาณของยักษ์ และมนตร์จากโอษฐ์ของผู้ไร้ชีวิต คือกุญแจปลดปล่อยให้ข้าเป็นอิสระ :-มันตราธนาการ-:
0
พศวัต 12 ส.ค. 50 เวลา 15:29 น. 17

ภาษาสวย

คำว่า สวย แปลออกมาทีละพยางค์สิ

อิงประวัติศาสตร์ มีก็ได้ ไม่มีก็ได้ แล้วแต่สิ ใครจะเขียนแนวไหน

ให้ความรู้ ส่วนสำคัญ แม้แต่เพื่อนก็ยังให้ความรู้แก่เพื่อน เป็นเกร็ดเล็กเกร็ดน้อย

0
๐-SouL-๐ 12 ส.ค. 50 เวลา 18:24 น. 18

อืมดีครับ

แต่บางครั้งออกนอกกรอบบ้างก็ได้

ที่สำคัญหากเขียนด้วยใจ แม้จะออกมาไม่ดี  ก็ไม่เป็นไร

แค่พยายามต่อไปเท่านั้น


PS.  มีคนเคยบอกว่าจินตนาการ เป็นได้เพียงแค่ความฝันที่ไม่อาจเป็นจริง แต่ข้าคือผู้สร้างความจริงให้กลายเป็นจินตนาการอันยิ่งใหญ่ที่พวกเจ้าไม่อาจเชื่อ
0
faery 12 ส.ค. 50 เวลา 18:36 น. 19

เน้นความจริง อิงประวัติศาสตร์ บางพวกที่เสกขึ้นมาทั้งเรื่องจะทำอย่างไร


PS.  .....สิ่งที่ดูเหมือนจริง.....บางครั้งอาจไม่ใช่ความจริง...
0
ใครจะรู้ 12 ส.ค. 50 เวลา 21:43 น. 20

การเก็บเรื่องบางเรื่องเป็นความลับ แล้วให้ผู้อ่านได้เก็บไปคิด...บางทีก็เป็นเสน่ห์ของงานเขียนเหมือนกันนะ

0