Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

มาเพิ่มเสน่ห์ให้ตัวเองด้วยมารยาทแบบไทย ๆ กันเถอะ

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
เพิ่มเสน่ห์ด้วยมารยาทแบบไทยๆ

สูตรไม่ลับ...
กับการเพิ่มเสน่ห์วิธีเข้าสังคมด้วยมารยาทแบบไทยๆ
 


"ไปลา-มาไหว้" มารยาทไทยที่เป็นวัฒนธรรมการทักทาย เวลาพบปะกันหรือลาจากกัน "การไหว้" เป็นการแสดงถึงความมีสัมมาคารวะ และการให้เกียรติซึ่งกันและกัน นอกเหนือจากการกล่าวคำว่า "สวัสดี" แล้วยังแสดงออกถึงความหมาย "การขอบคุณ" และ "การขอโทษ" การไหว้เป็นการแสดงมิตรภาพ มิตรไมตรี ที่เป็นขนบธรรมเนียมประเพณีอันดีงาม ซึ่งนับวันจะค่อย ๆ เลือนลางออกไปจากสังคมไทย ด้วยเยาวชนไทยส่วนใหญ่ รับเอาวัฒนธรรมต่างชาติมายึดถือปฏิบัติ เช่น การทักทายกันด้วยการจับมือ  ด้วยการผงกหัวหรือพยักหน้าต้อนรับกัน  โดยปกติความอ่อนน้อมถ่อมตน เป็นวัฒนธรรมไทยที่แสดงความเคารพด้วยการไหว้ผู้อาวุโส หรือการรับไหว้ผู้อาวุโสน้อย ปัจจุบันกลาย


ด้วยสาเหตุที่เยาวชนไทย มองข้ามวัฒนธรรมไทยที่ดีงามถูกต้อง มารยาทในสังคมไทยจึงผิดเพี้ยนไป สำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ ได้จัดการเผยแพร่ความรู้เรื่องมารยาทไทยอย่างต่อเนื่อง และได้หยิบยกมารยาทในการพบปะสมาคม ในสังคมที่สำคัญมีดังนี้

1. การรู้จักวางตน ต้องเป็นคนมีความอดทน มีความสงบเสงี่ยม ไม่แสดงกิริยาก้าวร้าว อวดรู้ อวดฉลาด อวดมั่งมี และไม่ควรตีตัวเสมอผู้ใหญ่ แม้ว่าจะสนิทสนมหรือคุ้นเคยกันสักปานใดก็ตาม

2. การรู้จักประมาณตน มีธรรมของคนดี 7 ได้แก่ รู้จัก เหตุผล ตน ประมาณ กาล ชุมชน และบุคคล โดยไม่ทำตัวเองให้เด่น เรียกร้องให้คนอื่นสนใจ หรือสร้างจุดสนใจในตัวเรามากเกินไป ตัวอย่าง คำเตือนของหลวงวิจิตรวาทการที่กล่าวไว้ว่า "จงทำดีแต่อย่าเด่นจะเป็นภัย ไม่มีใครเขาอยากเห็นเราเด่นเกิน"

3. การรู้จักการพูดจา ต้องไม่ทักทายปราศรัยกับคนด้วยคำพูด ที่จะทำให้คนเขาเกิดความอับอายในสังคม และไม่คุยเสียงดัง หรือยักคิ้วหลิ่วตาทำท่าทางประกอบจนทำให้เสียบุคลิกภาพได้
 
4. การรู้จักควบคุมอารมณ์ คือ รู้จักข่มจิตของตน ไม่ใช่อารมณ์รุนแรง เพื่อไม่ให้ล่วงสิ่งที่ไม่ควรล่วง ได้แก่ การข่มราคะ โทสะ โมหะ ไม่ให้กำเริบเป็นคุณลักษณะที่สำคัญ อย่างหนึ่ง คือ รู้จักข่มอารมณ์ต่าง ๆ ไม่ทำลายข้าวของ ไม่พูด และแสดงกิริยาประชดประชัน หรือส่อเสียด
 
5. การสำรวมกิริยาเมื่อเดินผ่านผู้ใหญ่ ขณะที่เดินผ่านผู้ใหญ่ให้ก้มตัวพองาม หรือหากผู้ใหญ่กำลังเดินไม่ควรวิ่งตัดหน้า ควรหยุดให้ผู้ใหญ่เดินไปก่อน หรือไม่ควรเดินผ่านกลางขณะที่ผู้ใหญ่กำลังพูดกัน
 
6. การรู้จักควบคุมอิริยาบถ ถือเป็นคุณสมบัติที่ดี เช่น เมื่อเราได้ยินเสียงเพลงก็ไม่ควรเขย่าตัว กระดิกเท้า หรือเคาะจังหวะโดยไม่เลือกสถานที่ ซึ่งการกระทำดังกล่าวนี้ ถือว่าเป็นอาการของคนที่ไม่ควบคุมอิริยาบถ และไม่เหมาะสมกับกาลเทศะ
    
7. ความมีน้ำใจไมตรีอันดีต่อกัน การอยู่ร่วมกันในสังคมอย่างมีความสุขด้วยความรักและเข้าใจกัน ควรมีความเอื้ออาทร มีน้ำใจไมตรีต่อกัน มีความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่กัน มีความเห็นอกเห็นใจ เอาใจใส่ทุกข์สุขของผู้เกี่ยวข้อง มุ่งดีมุ่งเจริญต่อกัน ที่สำคัญคือมีน้ำใจในการช่วยเหลือ หรือช่วยทำประโยชน์ให้แก่สังคม
 
8. การช่วยเหลือผู้อื่น เป็นคุณธรรมชั้นสูงของการอยู่ร่วมกันในสังคม ลูกเสือ เนตรนารี ยุวกาชาด ผู้บำเพ็ญประโยชน์มีอุดมการณ์สำคัญคือ "การช่วยเหลือผู้อื่น" พระพุทธเจ้าทรงแสดงธรรมเป็นปัจฉิมโอวาท ความว่า "จงยังประโยชน์ตน และประโยชน์ผู้อื่นด้วยความไม่ประมาทเถิด" การยังประโยชน์แก่ผู้อื่น ก็คือ การช่วยเหลือผู้อื่น หรือการปฏิบัติเพื่อประโยชน์แก่ผู้อื่น เพื่อประโยชน์ส่วนรวม สังคมจะมีสันติสุข คือ มีความสงบสุข ถ้าบุคคลในสังคมรู้จักการช่วยเหลือผู้อื่น มีความเสียสละเพื่อประโยชน์ส่วนรวม

                                      
ลักษณะการแสดงความเคารพด้วยการไหว้ ที่เป็นมารยาทในสังคมที่ควรปฏิบัติกัน คือ
- การประนมมือ (อัญชลี) เป็นการแสดงความเคารพ โดยการประนมมือให้นิ้วมือทั้งสองข้างชิดกัน ฝ่ามือทั้งสองประกบเสมอกันแนบหว่างอก ปลายนิ้วเฉียงขึ้นพอประมาณ แขนแนบตัวไม่กางศอก ทั้งชายและหญิงปฏิบัติเหมือนกัน การประนมมือนี้ ใช้ในการสวดมนต์ ฟังพระสวดมนต์ ฟังพระธรรมเทศนา ขณะสนทนากับพระสงฆ์ รับพรจากผู้ใหญ่ แสดงความเคารพผู้เสมอกัน และรับความเคารพจากผู้อ่อนอาวุโสกว่า เป็นต้น

- การไหว้ (วันทนา) เป็นการแสดงความเคารพ โดยการประนมมือ แล้วยกมือทั้งสองขึ้นจรดใบหน้าให้เห็นว่า เป็นการแสดงความเคารพอย่างสูง การไหว้แบบไทย แบ่งออกเป็น 3 แบบ ตามระดับของบุคคล

            - ระดับที่ 1 การไหว้พระ ได้แก่ การไหว้พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ รวมทั้งปูชนียวัตถุ ปูชนียสถาน  ที่เกี่ยวกับพระพุทธศาสนา ในกรณีที่ไม่สามารถกราบแบบเบญจางคประดิษฐ์ได้ โดยประนมมือแล้วยกขึ้น พร้อมกับค้อมศีรษะลง ให้หัวแม่มือจรดระหว่างคิ้ว ปลายนิ้วแนบส่วนบนของหน้าผาก

- ระดับที่ 2 การไหว้ผู้มีพระคุณและผู้อาวุโส ได้แก่ ปู่ ย่า ตา ยาย พ่อ แม่ ครู อาจารย์ และผู้ที่เราเคารพนับถือ โดยประนมมือ แล้วยกขึ้นพร้อมกับค้อมศีรษะลง ให้หัวแม่มือจรดปลายจมูก ปลายนิ้วแนบระหว่างคิ้ว

- ระดับที่ 3 การไหว้บุคคลทั่ว ๆ ไป ที่เคารพนับถือหรือผู้มีอาวุโสสูงกว่าเล็กน้อย โดยประนมมือแล้วยกขึ้นพร้อมกับค้อมศีรษะลงให้หัวแม่มือจรดปลายคาง ปลายนิ้วแนบปลายจมูก
อนึ่ง สำหรับหญิงการไหว้ทั้ง 3 ระดับ อาจจะถอยเท้าข้างใดข้างหนึ่งตามถนัดไปข้างหลังครึ่งก้าว  แล้วย่อเข่าลงพอสมควรพร้อมกับยกมือขึ้นไหว้ก็ได้ 

                                            

โดยปกติวัฒนธรรมการไหว้เป็นวิถีชีวิต ที่ถูกปลูกฝังให้รู้จักกาลเทศะ รู้จักการเคารพผู้อาวุโส กตัญญูรู้บุญคุณ มีความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ การมีมารยาทในสังคมดังกล่าวข้างต้น โดยเฉพาะในเรื่องการเคารพผู้อาวุโส ต้องมีความอ่อนน้อมถ่อมตน การแสดงความเคารพในโอกาสต่าง ๆ การรู้จักจัดลำดับการวางตนที่ถูกต้อง ตามประเพณีที่วางเอาไว้ ทำให้เกิดความสงบสุขในสังคม เพราะการปฏิบัติขัดกับประเพณีที่วางไว้ จะทำให้เกิดความขัดแย้ง ขัดเคืองความรู้สึกซึ่งกันและกัน การมีกฎเกณฑ์มารยาทในสังคม เป็นบรรทัดฐานให้บุคคลดำเนินชีวิตได้อย่างสันติสุข

*** เอกสารอ้างอิง หนังสือคู่มือวัฒนธรรมวิถีชีวิตไทย โดยอาจารย์กนก จันทร์ขจร

ขอขอบคุณข้อมูลข่าว : กฤษณา พันธุ์มวานิช กลุ่มประชาสัมพันธ์ สำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ    





 


แก้ไขครั้งที่ 1 เมื่อ 24 สิงหาคม 2550 / 18:09

แสดงความคิดเห็น

>

16 ความคิดเห็น

^ ^ Fabulous Girl ^ ^ 24 ส.ค. 50 เวลา 21:05 น. 1

ดีจังเลย ที่มีกระทู้แบบนี้ เพราะเราว่าเดี๋ยวนี้คนเราไม่ค่อยจะยกมือไหวกันเท่าไหร่
เป็นคนไทยต้องรักษาวัฒนธรรมไทยกันไว้นะ
วันข้างหลังจะได้ไม่เสียใจ


PS.  Though miles may lie between us, we’re never far apart, for friendship doesn’t count the miles, it’s measured by the heart.
0
[R]ice [S]traw 25 ส.ค. 50 เวลา 17:15 น. 4

ดีมากๆๆๆๆๆๆ

ดีมากเลยค่ะกระทู้แบบนี้

อืมๆ วัฒนธรรมไทยควรรักษา
PS.  น้ำใจ... เป็นสิ่งเดียวที่ให้โดยไม่ต้องเสียอะไร แต่ทำไมคนรุ่นกลับไม่ค่อยสนใจคำว่า น้ำใจนี้เล่า
0
hatung 25 ส.ค. 50 เวลา 20:55 น. 5

ดีจังมีกระทู้แบบนี้

ง่ะ  ทำได้แต่ คงไม่ทำ เพราะผู้ใหญ่เด๋วนี้ส่วนใหญ่ไม่ค่อยน่าให้ความเคารพ - -

ฝากด้วยนะคะ สำหรับคนอยากหาเงิน  ทุกเพศทุกวัย ไม่ต้องอบรม ไม่เสียค่าใช่จ่าย

http://my.dek-d.com/hatung/ 

0
DavilDew 26 ส.ค. 50 เวลา 13:36 น. 9

เราควรอนุรักษ์วัฒนธรรมไทยให้คงอยู่
เพราะคนที่เกิดรุ่นหลังเริ่มที่จะรุ้จักวัฒนธรรมของชาวตะวันตกมากกว่าวัฒนธรรมไทย


PS.  ~ถึงเวลาที่จะต้องลิกจำในสิ่งที่ไม่ควรจะจำแล้ว ลบความทรงจำเก่าๆให้อยู่ในก้นบึ้งของหัวใจ แล้วเริ่มใหม่ กับความทรงจำที่ดี กลับมาสดใสร่าเริงเหมือนเดิมดีก่า คิดถึงนายตัวร้าย ~
0
S€NoRITa A. Wong 27 ส.ค. 50 เวลา 17:35 น. 10

ก็จริงอยู่ที่เราควรเคารพผู้ใหญ่
แต่ถ้าเราไม่ชอบ (เกลียดขี้หน้า) ผู้ใหญ่ คนไหน
แล้วเรายังฝืนทำความเคารพ
ทั้งๆที่ในใจสบถด่า
เราว่า ต่างคนต่างอยู่ไปเลยดีกว่า
จริงมะ

0
~๐สุดสายป่าน_มะขามเปียก๐~ 27 ส.ค. 50 เวลา 17:41 น. 11

เดี๋ยวนี้แหม....เห็นหน้าผู้ใหญ่..พยักหน้าทักทาย กักๆ...

เรียบร้อยกันมากเลยนะคุณเธอ...คึคึ...

หนูไหว้ไม่ค่อยสวยเจ้าค่ะ เก้ๆกังๆ...

เวลาไปร้านอาหารประจำของแม่อ่ะเจ้าค่ะ จะมีแบบ คนสูงอายุแล้ว

เราสวัสดีเค้า (เอ้อ...ต้องเดินไหว้เค้าทุกโต๊ะ) ... หนูยกมือไหว้อ่ะเจ้าค่ะ แล้วคืออึ้ง เค้ารับไหว้เราสวยงามๆๆ

มากๆๆๆๆ  คือขนาดขาเค้าไม่ค่อยดีนะเจ้าคะ ยังอุตส่าห์ย่อ...เราแบบ เหวอเลย 

หนูย่อแล้วมันเซ...แต่พยายามอยู่นะเจ้าคะ ^^

 


PS.  จะผูกอสรพิษท่านให้ผูกด้วยมนตรา ผูกไอยราท่านให้ผูกด้วยสายบาศ แต่ถ้าจะผูกคนท่านให้ผูกด้วยสายใยแห่งไมตรีจิต ด้วยไม่มีความเหนียวแน่นใดๆจะทรงพลังเท่า ...
0
_แซมส์_ 27 ส.ค. 50 เวลา 20:19 น. 13

อิอิ เราก้อเปงแบบนั้นอ่ะ ขนาดเราเปงทอมนะนี่


PS.  ^_^อิอิ ขอบคุงสำหรับพื้นที่เล็กๆน้อยๆที่ให้เรามาโพส...
0
กนกพร 17 ส.ค. 51 เวลา 18:27 น. 14

เราเป็นคนไทยต้องทำความเคารพแบบไทยๆ

เพราะการทำความเคารพของไทยสวยงามที่สุดเลย

จากเด็กหน้าตาดี&nbsp จังหวัดกรุงเทพค่ะ3

0