โจ๊กตลกพม่า

[แตงไทยปั่นเฉาก๊วย]

ขำๆ นะ เพื่อนส่งเมลล์มาให้อ่าน อย่าซีเรียสกันะ ขำๆ
ถ้ามันไม่ดี ไม่เหมาะสมยังไง ใครจะแจ้งลบก็ได้นะ 

            มีโจ๊กการเมืองออกมาจากพม่าเรื่อยๆ ในช่วงนี้ หลังการปราบปรามพระสงฆ์และชาวพม่าที่เดินขบวนต่อต้านเผด็จการทหาร

โจ๊กที่โด่งดังของดาวตลกพม่าทั้งหลายที่ถูกเอาเล่ากันต่อๆ มีอยู่หลายเรื่อง  แต่เรื่องที่สะท้อนอารมณ์ของคนพม่าต่อภาวะการเมืองและผู้ปกครองประเทศที่ฮือฮาที่สุดเรื่องหนึ่ง เป็นเรื่องเกี่ยวกับนายทหารสามนายจากไทย เกาหลี และพม่า พร้อมด้วยผู้ติดตามโดยสารรถไฟสู่กรุงย่างกุ้งหลังจากไปเยี่ยมค่ายทหารแห่งนอกเมือง

        เมื่อถึงเวลาอาหารเที่ยง ทหารไทยสั่งให้ผู้ติดตามหยิบเอากุ้งทะเลตัวเบ้อเริ่มออกมาจากกระเป๋า 2 ตัว  กินไปได้เพียงสองคำ ก็โยนกุ้งทั้งสองตัวออกทางหน้าต่างรถไฟ

       ทหารพม่ามองด้วยความเสียดายเพราะเป็นที่รู้ๆ กันว่าในพม่านั้น  แม้แต่นายทหารก็ยังต้องอยู่กันอย่างอดๆ อยากๆ
 

        “เมืองไทยบ้านผม อาหารแบบนี้มีเหลือเฟือ คนไทยกินทิ้งกินขว้างเป็นประจำ” นายทหารไทยเจตนาคุยทับ

 

        นายทหารจากเกาหลีไม่ยอมน้อยหน้า  ขอโทรศัพท์มือถือจากนายทหารติดตาม คุยได้ไม่กี่ประโยค ก็โยนโทรศัพท์ทิ้งออกทางหน้าต่าง
 

        “โทรศัพท์มือถือที่เกาหลี ถูกเสียยิ่งกว่าโสร่งพม่า  ผมใช้เสร็จก็โยนทิ้งอย่างนี้ทุกทีแหละ”  นายทหารเกาหลีคุยโม้
 

         นายทหารพม่ารู้สึกตัวว่ากำลังถูกทหารไทยและเกาหลีลูบคมถึงในบ้าน จึงคิดหาทางข่มทับ คิดเท่าไรก็คิดไม่ออก เพราะทุกอย่างในพม่ามันขาดแคลนไปเสียหมด จะทิ้งก็เสียดาย
 

         และแล้ว ความคิดที่(นึกว่า)แหลมคมก็เกิดขึ้น
 

         “ขอวิสกี้แก้ว” นายทหารพม่าตะโกนเรียกผู้ติดตาม
 

         ทันทีที่ซดเหล้าหมดแก้ว  นายทหารพม่าก็ลุกขึ้นมากระ ชากคอเสื้อผู้ติดตาม แล้วจับตัวโยนออกนอกหน้าต่างทันที  ท่ามกลางความตื่นตลึงของนายทหารไทยและเกาหลี
 

         “ไม่ต้องตกใจ”  นายทหารพม่ารีบอธิบาย “ในพม่า ชีวิตคนถูกมาก  เราใช้งานแค่ครั้งเดียวก็โยนทิ้งได้แล้ว”
 

         อีกเรื่องเป็นการอวดความสามารถของศัลยแพทย์สามคน ที่สะท้อนให้เห็นถึงความรู้สึกของคนพม่าที่มีต่อผู้นำทหาร
 

          ศัลยแพทย์ฝรั่งเศส:  ผมเคยต่อขาให้เด็กคนหนึ่งที่โดนรถไฟทับจนขาขาดทั้งสองข้าง   คุณเชื่อมั๊ย  ทุกวันนี้เด็กคนนั้นโตขึ้นและกลายเป็นดาราฟุตบอลชื่อดังที่สุดของฝรั่งเศส

          ศัลยแพทย์อังกฤษ: สู้ผมไม่ได้ ผมมีคนไข้ที่โดนเครื่องจักรตัดจนคอขาด ผมต่อหัวให้ ทุกวันนี้เขากลายเป็นนักการเมืองชั้นนำของอังกฤษ
 

          ศัลยแพทย์พม่า: ฟังเรื่องของผมดีกว่า   ผมเคยรักษาเด็กคนหนึ่งที่ถูกรถทับหัวจนสมองเละไปหมด   ผมต้องไปแคะเอาสมองจากหมูตัวหนึ่งในเล้าข้างโรงพยาบาลมาใส่แทน  เด็กคนนี้โตขึ้นก็ไปสมัครเป็นทหาร เป็นใหญ่เป็นโตในกองทัพ ปฏิวัติยึดอำนาจและปกครองประเทศพม่ามาจนถึงทุกวันนี้

----------------------------------------

Comments

[~<[[SMLUL_6M6M]]>~]

โอ้ เรียกว่าตลกแทงใจ

---

PS.   วักทะเลเทใส่จาน รับประทานกับข้าวขาว เอื้อมเก็บบางดวงดาว ไว้คลุกเคล้าซาวเกลือกิน ดูปูหอยเริงระบำ เต้นรำทำเพลงวังเวงสิ้น กิ้งก่ากิ้งกือบินไปกินตะวันและจันทร์

[มารน้อยหน้าใส]

โฮๆๆๆขำไม่ค่อยออก แต่มันก้อเป็นเรื่องจริง