Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

ตกลงว่า องค์เทพกับผีถือว่าเหมือนกันใช่มั้ย

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่

บางคนบอกว่าคนละอย่าง องค์เทพไม่มีวันเป็นผี แต่บางคนบอกว่าชนิดเดียวกัน ไปกันใหญ่แล้ว จะเชื่ออันไหน

แสดงความคิดเห็น

11 ความคิดเห็น

แบะๆ 6 พ.ค. 67 เวลา 00:12 น. 2

เทพไม่เกี่ยวกับว่ามีร่างกายหรือไม่มี เทพคือ "การมีพลังเหนือมนุษย์" เสียมากกว่า มีปัญญาเหนือกว่า มีอำนาจเหนือกว่า เคยอ่านเหมือนเขาว่าเทพในไบเบิลจะมีพลังราวๆ แค่มนุษย์จ้องหรืออยู่ใกล้ๆ ก็ถูกเผากลายเป็นไฟได้ รูปร่างของเทพตามไบเบิล (หรือเอเซเคียล) ก็ราวๆ วงแหวนหรือปีกที่มีตา มีความน่ากลัวเพื่อไล่ปีศาจ เทพเลยบอกมนุษย์บ่อยๆ ว่า "อย่ากลัวฉัน" (หลายๆ ที่บอกว่าเทพมาจากบนฟ้า แต่ถ้ามองอีกแง่ สูงขึ้นไปบนฟ้าก็คือนอกโลก เทพอาจจะเป็นมนุษย์ต่างดาวก็ได้เนอะคะ โกหกมนุษย์ว่ามาจากบนฟ้าเพราะก็ไม่ได้โกหกอ่ะ มนุษย์สมัยนั้นแค่ไม่รู้เรื่องอวกาศและคิดไปเองว่าเทพอยู่บนเมฆ)


ผีบางทีจะหมายถึงตัวตนที่ไม่มีกายเนื้อ พลังอำนาจก็ไม่ถึงว่าจะเรียกว่าเป็นเทพได้ ถ้าเป็นผีที่มีกายเนื้อคงเรียกว่าเป็นปีศาจมากกว่าหรือเปล่า หรือไม่ก็ประเภทผลุบๆ โผล่ๆ สบายใจตอนไหนก็ไม่มีกายเนื้อ อยากทำร้ายคนก็โผล่กายเนื้อมา ขัดหลักวิทยาศาสตร์มากที่กลุ่มควันหรือพลังงานจะสร้างกายเนื้อขึ้นมาได้แวบๆ แล้วก็หายไปแล้วกลับมาอีกตามใจนึก ระเหิดกายเนื้อได้เหรอ? ทำได้ไวกว่ากระบวนการระเหิดของน้ำอีกค่ะ สุดยอด แต่คิดว่าถ้าเป็นประเภทมีกายเนื้อจะกลายเป็นซอมบี้เสียมากกว่า

0
ำพเฟไำ 6 พ.ค. 67 เวลา 00:13 น. 3

อยู่ที่นิยายจะสื่อแบบไหน โดยส่วนตัวชอบเขียนไม่เชื่อทั้งว่ามีทั้งสองอย่าง แต่ถ้าเขียนเกี่ยวกับผีมักไม่บอกว่าเป็นอะไรมันน่าสนใจกว่า

0
รถเก๋งกับรถสปอร์ต 6 พ.ค. 67 เวลา 00:42 น. 4

ความเชื่อ

เทพเหนือกว่าผีแบบเทียบไม่ติด

ถามพันคน ได้คำตอบเดียวกันเกือบพันคน


เทพ ไม่เหมือน ผี ผีอยู่ต่ำกว่ามาก

หากจะจัดอยู่ในหมวดเดียวกันว่าเป็นความเชื่อเหมือนกัน ทำได้.... แต่จะบอกว่าเหมือนกันไม่ได้


เหมือนบอกว่ารถเก๋งธรรมดา กับรถสปอร์ต เหมือนกันนั้นแหละ ยังไงก็ไม่เหมือน

0
omen 6 พ.ค. 67 เวลา 06:35 น. 5

สำหรับชาวคริสต์นอกจากพระเจ้าแล้วที่เหลือนับเป็นผีหมดครับ เป็นแค่ปีศาจที่มาหลอกลวงมนุษย์เท่านั้น

คิดดูดีดีแล้วมันเท่ากับว่าทุกศาสนายอมรับการมีอยู่ของเรื่องเหนือธรรมชาติ

แค่กำหนดว่าสิ่งเหนือธรรมชาติของตนเองเท่านั้นที่มีอยู่จริงและมีอำนาจมากกว่าของคนอื่นๆ

6
omen 6 พ.ค. 67 เวลา 11:16 น. 5-2

เป็นแค่คนที่มีอำนาจน้อยกว่าพระเจ้าเท่านั้น ท่าทางจะลืมลูซิเฟอร์ไปแล้วว่างั้น

เป็นการอธิบายได้อย่างดีว่ามีปีศาจที่มีอำนาจอยู่จริง แต่พระเจ้าเข้มแข้งกว่า


จนชวนสงสัยว่าประชาชนคนธรรมดาจะไปเข้าข้างลูซิเฟอร์ที่เป็นพวกขี้แพ้ไปทำไม?

ถ้าคนธรรมดาเห้นแก่ตัวจริงๆเข้าข้างพระเจ้าที่เข้มแข้งกว่าก็สมเหตุสมผลแล้ว

0
การง่วง 6 พ.ค. 67 เวลา 11:32 น. 5-3

Lucifer เป็นอดีตพนักงานทูตสวรรค์ทำผิกกฎของบริษัท แล้วไปหางานใหม่เป็นฟรีแลนช์หรือตั้งบริษัทแยกใหม่ โดยรับลูกน้องครึ่งนึงเป็นผีพนักงานจบใหม่


ใช่รึเปล่า

0
omen 6 พ.ค. 67 เวลา 11:48 น. 5-4

ตำราชาวยิวเล่นมุกเมหือนกันว่าซาตานนนี่คล้ายๆทนายของบริษัทที่มาตรวจสอบคนที่ศรัทธาอีกทีหนึ่ง


ผมเอามุกชาวฮินดูไปแซวชาวคริสต์ว่า


หากให้ชาวฮินดุนับถือพระเยซุที่แค่ทหารโรมันกองหนึ่งยังปราบไม่ได้นั้นคงจะยากหน่อยเมื่อตำนานของชาวฮินดู

แผลงศรทีเดียวทหารนับล้านก็ตายแล้ว


ใจคอจะให้เชื่อว่าคือบุตรของพระเจ้าโดยที่แค่ทหารของเมืองเดียวยังฆ่าไม่ได้งั้นหรือ?


ง่ายเกินไปมั้ง?


ดังนั้นวิธีแก้คือเราต้องบอกว่า


ตำนานของศาสนาอื่นคือของปลอม


มีแต่ตำนานของศาสนาเราเท่านั้นที่คือของจริง


เพราะหากไม่ทำอย่างนั้นมันจะเป็นการเปรียบเปรยว่าพระเจ้าของใครเก่งกว่ากันไม่จบสิ้น


เพราะมนุษย์ที่เห็นแก่ตัวอย่างเราจะเคารพแต่พระเจ้าที่เก่งที่สุดเท่านั้น

0
omen 8 พ.ค. 67 เวลา 09:01 น. 5-6

บอกไว้อย่างชัดเจนว่าอาณาจักรของข้าไม่อยู่บนโลกนี้ แต่สัญยาว่าจะกลับมาฆ่าคนบาปทุกคนในวันสิ้นโลก

อิสลามก็เห้นด้วยเรื่องนี้ ฮา


แค่ต่างกันตรงที่ไม่ได้มองว่าพระเยซูคือบุตตรพระเจ้า


พระเจ้าหนึ่งเดียวจะแยกร่างลงมาบนโลกได้อย่างไรกัน?

0
Miran/Licht 6 พ.ค. 67 เวลา 12:34 น. 6

ตอนค้นเรื่องท้าวมเหสักข์พบว่าบางพื้นที่หรือคนสมัยก่อนก็เรียกว่าผีมเหสักข์ค่ะ


อนึ่งท้าวมเหสักข์เป็นเทพารักษ์ผู้ปกครองดูแลพื้นที่ ที่รู้จักกันดีคือ ท้าวมเหสักข์ผู้เฝ้าศาลหลักเมืองกรุงเทพฯค่ะ

0
สื่อศิลป์ 6 พ.ค. 67 เวลา 13:52 น. 7

มันก็แล้วการกำหนดคำนิยาม ยิ่งมีกรอบบรรทัดฐานแค่คำว่า " เหมือน " ซับเซตยิ่งกว้างมากจนตอบไม่ถูกล่ะครับ


ผมขอตอบคำถามด้วยคำถามล่ะกัน....คุณเจ้าของกระทู้คิดว่า คนผิวดำ กับคนผิวขาวเหมือนกันใช่มั้ย?

0
Hoshisora 7 พ.ค. 67 เวลา 08:46 น. 8

แล้วแต่ความเชื่อเลยคับ อันนี้ไม่มีตัววัดจริงๆ ขาดของไทยยังแบ่งเป็นภูติ ผี ปีศาจ เทวดา อะไรอีกบลาๆ เลย เพราะงั้นแล้วแต่คน หรือแล้วแต่ว่าจะนิยามแต่ละอันว่าไงคับ


แต่ชาวบ้านทั่วๆ ไป ไม่ได้มีความรู้หรือไม่ได้อยากจะจำแนกให้ละเอียดมาก เค้าก็เรียกผีหมดคับ

0
Necromancer พิสูจน์อักษรนิยายจีน 7 พ.ค. 67 เวลา 19:25 น. 9

คนละอย่างกันครับ เทพ คือ เทวดาในสวรรค์ชั้นแรก ชั้นจาตุมหาราชิกาขึ้นไป เทพของจีนที่นับถือตามศาลเจ้า นั่นคือเทพทั้งหมด แต่มีระดับต่ำ-กลาง-สูง

ศาลพระภูมิ = ผี

ศาลเจ้าที่ = ผี

ศาลพระพรหม = เทพชั้นสูง มีเล่มนึงบอกว่า นี่คือ เทพเจ้าสูงสุด 1ใน3ของศาสนาฮินดูนะ ไทยเราเอาท่านมาผนวกรวมไว้ในลำดับต่ำพระพุทธเจ้าซะนี่

ศาลพระพิฆเณศ = เทพชั้นสูง

0
vector-raid 8 พ.ค. 67 เวลา 20:14 น. 10

เกี่ยวกับเรื่องนี้......


เทพกับผีเป็นคนละอย่างกันนะครับ เทพหรือเทพเจ้านั้น เป็นบุคคลที่อยู่บนสวรรค์ มีอำนาจที่สูงส่ง มีความพิเศษเหนือกว่าคนธรรมดา และมีการกำเนิดที่เหนือธรรมดาอย่างมาก ตามแต่ความเชื่อของประเทศนั้นๆ


ส่วนผีนั้น คือวิญญาณที่หลุดออกจากร่างหลังเสียชีวิตไปแล้ว โดยธรรมดาสามัญแล้ว เราไม่สามารถเห็นผีได้จริง เพราะตามความเชื่อแล้ว ผีกับคนอยู่กันคนละโลก แต่ที่เรารู้สึกว่ามีผีนั้น เพราะความหวาดกลัวบวกกับความเชื่อเรื่องผีที่ได้ยินมาด้วยนะครับ

0
DaWrite 9 พ.ค. 67 เวลา 15:02 น. 11

ในมุมผมที่ศึกษามาบ้าง ขอตอบในมุมความรู้อันน้อยนิดของตัวเองว่า ปรกติแล้วสิ่งมีชีวิตทุกชนิดจะมีสิ่งที่เราเรียกว่าจิตอยู่ เมื่อกายเนื้อตายไปก็จะกลายเป็นกายจิต

ซึ่งจิตจะถูกเรียกแตกต่างกันไปตามแต่พื้นที่ และเทพเองก็จะมีจิตของตัวเองเหมือนกัน โดยปรกติแล้วกายจิตของเทพมักจะไม่ต้องการกายเนื้อ คงอยู่ได้ด้วยพลังงานของจิตนั้น ๆ ตามความเชื่อของพุทธจะเรียกสิ่งนี้ว่าผลบุญ จนกว่าจะหมดบุญหรือหมดพลังจิต จนกลับมาเป็นมนุษย์เพื่อพยายามบําเพ็ญเพียรชดใช้กรรมสะสมบุญอีกครั้ง


สรุปแล้ว ผีก็คือจิตที่อ่อนแอไม่มีผลบุญเพียงพอที่รอวันสลายหายไปและจะยึดติดกับบางสิ่งบางอย่างจนกระทั่งหมดเวลาของอายุขัยจิตไป ยกตัวอย่างเช่นผีในโรงแรม ผีในของโบราณ การไหว้ผีนับถือผีก็จะยิ่งทำให้เขามีพลังงานมากขึ้น อยู่ต่อไปได้นานขึ้นด้วยผลบุญที่ผู้คนยกให้


ในขณะที่ เทพก็คือจิตที่แข็งแกร่งเต็มไปด้วยผลบุญที่กระทำกรรมมาอยู่เสวยสุขไปจนกระทั่งหมดบุญไปตามอายุขัยบุญเพื่อวนกลับมาจุติกำเนิดสะสมบุญใหม่อีกครั้ง หากทำกรรมดีก็ได้ขึ้นไปเสวยสุขอีกครั้ง หากทำกรรมชั่วเยอะก็ต้องไปชดใช้ในนรกภูมิ หากยึดติดก็ไม่มีวันได้ไปไหนแล้วกลายเป็นผีรอวันหมดอายุขัยจิตแล้วหายไปตลอดกาล /เพิ่มเติม กรรมดีกรรมชั่ว ไม่สามารถหักล้างกันได้ ทำกรรมดีได้เสวยสุขในกรรมดีนั้น ๆ ทำกรรมชั่ว ต้องชดใช้ในกรรมชั่วนั้น ๆ

---

แต่ถ้าให้พูดในมุมของนิยายเทพเจ้า เทพเจ้าคือมนุษย์ต่างดาวครับ 555555555 มนุษย์ต่างดาวที่มีเทคโนโลยีล้ำสมัยกว่าเราชาวโลก เทคโนโลยีที่มนุษย์หาคำมาอธิบายไม่ได้

3
omen 9 พ.ค. 67 เวลา 19:00 น. 11-1

ถ้าท่านไปถามพวกพุทธที่เน้นคัมภีร์จะโดนบอกว่าวิญญาณไม่มีอยู่ตริงครับ

เราตายภพนี้กำเนิดภพใหม่เลยโดยอัตโนมัติ

ไม่มีขั้นตอนระหว่างทาง

ไม่มีช่วงเวลารอคอยแบบวิญญาณระวห่างภพ

ผมสังเกตมาตลอดว่าศาสนาที่จะอยู่รอดได้ ต้องมีความเอทิสม์ระดับหนึ่งที่พยายามไม่ให้คนเห็นผีจริงๆในชีวิตประจำวันแต่ให้เชื่อพระเจ้าเท่านั้น

0
omen 10 พ.ค. 67 เวลา 22:12 น. 11-3
อ้างว่าการตายคือการเลปี่ยนภพภูมิคอืการเกิดขึ้นทันที หากถาม "ความต่อเนื่อง" หรือความสัมพันธ์กับชาติภพนี้กัยชาติภพหน้าก็จะตอบว่า

"ไม่มีอยู่จริง"


ผมก็ถามบอกว่า


แล้วจะหาจุดเชื่อมต่อระวห่างเราตอนนี้กับชาติภพหน้าอย่างไร?

ก็บอกว่าต้องถามว่า

ตัวตนเรามีอยุ่จริงหรือไม่?



ผมก็คิดว่าน่าสนใจหากพยายามมองกันอย่างนี้

คือการทำให้คนเป็นเอทิสม์โดยไม่เป็นเอทิสม์


ให้ยอมรับการมีอยู่จริงของชาติหน้า แต่ไม่ค่อยให้มีประโยชน์เท่าไรต่อชาตินี้แต่อย่างใด

0