ประสบการณ์ห้ามพลาด!! จากปาก 2 รุ่นพี่มนุษยศาสตร์ "เอกจีน"

         ก๊อกๆๆ สวัสดีค่ะ พบกันอีกแล้วนะคะกับ คณะในฝัน เดือนนี้เรายังอยู่กันที่ อักษรศาสตร์ เอกภาษาจีน หลังจากที่ครั้งก่อนพี่แป้งตามไปดูน้อง 2 คนที่พยายามสานฝันจนสามารถเข้าเอกจีนได้แล้ว ครั้งนี้พี่แป้งเลยขอตะลุยรั้วเอกจีนบ้างว่าเค้าเรียนกันอย่างไรค่ะ แต่คราวนี้พิเศษนิดนึงตรงที่พี่แป้งยอมลงทุนซื้อตั๋วเครื่องบินไป-กลับประเทศจีนเลยทีเดียว (เว่อร์ละ - -") อยากรู้กันแล้วหล่ะซิว่าเป็นอย่างไร ตามไปดูกันเลยค่า.....



พี่แป้ง : ก่อนอื่นแนะนำตัวเองก่อนเลยค่ะ
พี่ตี๋ : ผมชื่อนายนวนิติ จิตอวยพร ชื่อเล่นชื่อ ตี๋ ครับ เรียนอยู่ที่ คณะมนุษยศาสตร์ ภาควิชาภาษาต่างประเทศ สาขาเอกภาษาจีน ปี 4 มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ครับ ตอนนี้ได้ทุนมาเรียนต่อที่ประเทศจีนครับ

พี่แป้ง : อะไรเป็นจุดเด่นเรื่องภาษาจีนของสถาบันที่เรียนคะ?
พี่ตี๋ : เอกจีน ม.เกษตรฯ นั้นไม่เพียงแต่สอนด้านภาษาอย่างเดียวแต่สอนให้เรารู้จัก วัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ ปรัชญา ความคิดของชาวจีนด้วยครับ ซึ่งเป็นหลักสูตรที่ทางคณาจารย์ของเราได้คิดขึ้นมาเพื่อให้นิสิตมีความรู้รอบด้าน เตรียมพร้อมสู่สังคมในอนาคต จุดเด่นอีกอย่างของสาขาวิชาภาษาจีนที่นี่คือ ทุกปีพวกเราการจัดกิจกรรมเกี่ยวกับวัฒนธรรมจีน เช่น วันตรุษจีน วันไหว้พระจันทร์ เป็นต้น ซึ่งได้ความร่วมมือจากสถาบันขงจื้อแห่ง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ สาขาวิชาของเราไม่เพียงแต่มีกิจกรรมเฉพาะในมหาวิทยาลัยเกษตรเท่านั้น ยังมีงานกีฬาสัมพันธ์ซึ่งร่วมมือกับสาขาวิชาเอกภาษาจีนจากสถาบันอื่นๆ เช่น มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ สถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์ เป็นต้น ซึ่งทำให้ทั้งสามสถาบันได้รู้จักกันในวงการภาษาจีน
           นอกจากนั้นแล้วม.เกษตรศาสตร์ยังมีสถาบันขงจื้อแห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์คอยสนับสนุน เช่น การจัดกิจกรรมต่างๆ อมรมภาษาจีน ค่ายภาษา การสอบ วัดระดับภาษาจีนหรือ HSK ทุนการศึกษาเรียนภาษาจีน เป็นต้น
            สาขาวิชาภาษาจีนของเรายังได้ร่วมมือกับ มหาวิทยาลัยหัวเฉียว ประเทศจีน ทุกปีจะมีทุนการศึกษาให้ไปศึกษาต่อที่นี่อีกด้วย ส่วนเรื่องการศึกษาภาษาจีนในไทยบางคนอาจคิดว่าเราจะมีโอกาสคุยกับเจ้าของภาษาอย่างไร เรื่องนี้ไม่ต้องห่วงครับทุกปีจะมีนิสิตชาวจีนมาเรียนภาษาไทยที่คณะเพิ่มขึ้นทุกๆปี พวกเราสามารถแลกเปลี่ยนภาษากันได้ครับ

พี่แป้ง : ทำไมน้องตี๋ถึงเลือกเรียนเอกจีนคะ?
พี่ตี๋ : สาเหตุที่ตี๋เลือกเรียนภาษาจีนต้องเท้าความถึงสมัยเด็กครับ คือ สนใจเรียนภาษาจีนตั้งแต่เด็ก ด้วยความที่ตนเองมีพื้นอยู่แล้วเลยอยากจะต่อยอดจึงเรียนสาขาวิชานี้ครับ
         เหตุผลที่สองคือ ทุกๆวันนี้ภาษาจีนได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะไปทางไหนหรือมุมใดในโลกเราก็จะพบชาวจีนหรือคนเชื้อสายจีนจากทั่วทุกมุมโลกถ้าเปรียบภาษาจีนกับสิ่งของก็เสมือนกับ “บัตรผ่านด่าน” ที่สามารถใช้ได้ทั่วทุกมุมโลกนั่นเองครับ


พี่แป้ง : คิดว่าอนาคตอยากประกอบอาชีพอะไรคะ?
พี่ตี๋ : ตี๋อยากเป็นอาจารย์ครับ ตี๋มีความใฝ่ฝันอยากเป็นอาจารย์ตั้งแต่เด็ก ตี๋เริ่มสอนภาษาจีนตามโต๊ะตั้งแต่ปี 1 แล้วเราผูกพันกับเด็กที่เราเรียนด้วย เห็นน้องทำได้เราก็ดีใจด้วย พอเห็นน้องทำไม่ได้เราก็ให้กำลังใจเขา เปรียบเหมือนน้องเป็นน้องของผมจริงๆถึงแม้จะต้องทุ่มแรงกายแรงใจมาก แต่เราก็มีความสุขต่ออาชีพที่เราชอบครับ

พี่แป้ง : ในมุมมองของน้องตี๋ ภาษาจีนยากหรือไม่ อธิบายคร่าวๆ ได้มั้ยคะ?
พี่ตี๋ : พอพูดถึงภาษาจีนหลายๆ คนอาจะนึกถึง ความยาก ขึ้นมาเป็นอันดับแรก ความจริงตัวภาษาจีนไม่ได้ยากอย่างที่คิด สำหรับคนไทยแล้ว ด้านการออกเสียง ไวยกรณ์ภาษาจีนถือว่าเป็นเรื่องที่ง่ายเพราะคล้ายๆ กัน แต่สิ่งที่ทุกคนพูดเป็นเสียงเดียวกันนั่นก็คือ ตัวอักษรจีนครับ ตัวอักษรจีนประวัติศาสตร์มาไม่ต่ำกว่า 5000 ปีและเป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งที่ของภาษาจีนอีกด้วย ตี๋ว่าถ้าเราให้ความพยามและขยันมั่นฝึกฝนตนเองภาษาจีนก็เป็นอีกภาษาหนึ่งที่ไม่ยากครับ
        ถ้าถามว่าภาษาจีนมีภาษาถิ่นไหม คำตอบคือมีครับ เหมือนประเทศไทยที่แบ่งออกเป็น ภาษาเหนือ ภาษาอีสาน ภาษากลาง และภาษาใต้ ภาษาจีนมีภาษาถิ่น(Dialect )เช่นเดียวกัน แต่ภาษาจีนที่ชาวจีนใช่กันทั่วทั้งประเทศและชาวต่างชาติเรียนกันนั่นคือ ภาษาจีนกลาง (mandarin) ครับ เนื่องจากประเทศจีนมีเนื้อที่กว้างขวางรวมทั่งมีชนเผ่าถึง 56 ชนเผ่า แต่ละท้องถิ่นก็มีภาษาถิ่นเป็นของตนเอง


พี่แป้ง : นอกจากเรียนเรื่องภาษาแล้ว เอกจีนสอนอะไรอีกบ้างคะ?
พี่ตี๋ : ดังที่กล่าวมาข้างต้น หลักสูตรของเอกจีน ม.เกษตรฯนั้นไม่เพียงแต่สอนทางด้านตัวภาษาอย่างเดียวแต่สอนให้เรารู้จัด วัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ ปรัชญา ความคิดของชาวจีนด้วยครับ

พี่แป้ง : ตอนนี้ไปอยู่ที่จีน ไปทำอะไรบ้างคะ
พี่ตี๋ : ถ้าให้เล่าให้ฟังวันเดียวคงไม่จบครับ เล่าแบบการใช้ชีวิตโดยรวมละกันนะครับ ชีวิตการเป็นนักเรียนต่างชาติในจีนเป็นหนึ่งในความทรงจำดีๆ ที่ลืมไม่ลงครับ ตี๋ได้ทุนจากสถาบันขงจื้อแห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์มาศึกษาเรียนภาษาต่อที่ BEIJING NORMAL UNIVERSITY เป็นระยะเวลา 1 ปี เหตุผลที่เลือกมาเรียนต่อที่จีนเพราะว่าเราได้อยู่ในสภาพแวดล้อมที่เราต้องบังคับตัวเราเองให้พูดภาษาจีนและใช้ได้จริงในชีวิตประจำวัน ตื่นมาก็ต้องใช้ภาษาจีนในชีวิตประจำวัน(แหงละ) อีกอย่างเรารับรู้ชีวิตความเป็นอยู่ของชาวจีนว่าเป็นอย่างไร เขามีความคิดแบบไหน มีวัฒนธรรมอย่างไร ชีวิตความเป็นอยู่อย่างไร แม้กระทั่งสังคมที่เขาอยู่เป็นอย่างไรบ้าง
         มาที่นี้ตอนแรกตี๋ต้องปรับตัวเยอะมาก ปล่อยไก่ไปหลายรอบ เช่น การใช้ตะเกียบทานข้าว ตอนแรกๆ ไม่ค่อยชินเท่าไร แต่อยู่ไปก็เริ่มชินครับเพราะสภาพแวดล้อมพาไป รวมทั่งตี๋มีเพื่อนชาวจีนทำให้เราได้รับรู้ความคิดต่างๆ ของชาวจีนว่าเป็นอย่างไร ทำไมเขาถึงต้องทำเช่นนั้น(ทั้งที่บ้านเราไม่มี)

พี่แป้ง : ประทับใจวัฒนธรรมของประเทศจีนไหนของจีนบ้างคะ?
พี่ตี๋ : ประทับใจชาวจีนที่เขามีความกตัญญูต่อบิดา มารดา มีความสามัคคีในชุมชนของตนเอง รักชาติตนเองครับ บ่อยครั้งที่ตี๋ได้ออกไปเที่ยวตามสวนสาธารณะ มักจะเห็นผู้สูงอายุรวมตัวกันออกกำลังกายบ้างเต้นรำบ้าง ร้องเพลงบ้าง เห็นแล้วรู้สึกประทับใจมาก อยากให้บ้านเมืองเราเป็นเช่นนี้มากครับ

พี่แป้ง : มุมโปรดของมหาวิทยาลัยที่ชอบคือที่ไหนคะ เพราะอะไร?
พี่ตี๋ : มุมโปรดในมหาวิทยาลัยคือ โต๊ะเมเจอร์ครับ โต๊ะเมจอร์เป็นจุดนัดพบของเอกและเป็นที่จักกิจกรรมของเอกหลายๆกิจกรรม ทั้งรุ่นพี่และรุ่นน้องมักจะรวมตัวกันที่นี่ เป็นเป็นจุดนักพบของคนในเอกเรื่องราวต่างๆเกิดขึ้นมากมายทำให้ตี๋มีความผูกพันกับที่นี่มากครับ

พี่แป้ง : สุดท้ายนี้อยากให้ฝากอะไรดี ๆ ถึงน้องที่อยากเรียนเอกจีนหน่อยค่ะ?
พี่ตี๋ : สิ่งสุดท้ายที่อยากจะฝากน้องๆคือ การเรียนภาษาจีนต้องใช้ความขยัน มุมานะมากๆมั่นทบทวนของเก่าและรับรู้สิ่งใหม่ๆอยู่เสมอ เอกจีน ม.เกษตรศาสตร์ไม่ได้เข้ายากอย่างที่คิด ขอเพียงน้องๆมีใจรักความเป็นเกษตรศาสตร์ รักความเป็นมนุษยศาสตร์ และอยากเป็นสมาชิกเอกจีนก็มาถึงครึ่งทางแล้วครับ




พี่แป้ง : ก่อนอื่นแนะนำตัวเองก่อนเลยค่ะ
พี่กิ๊ฟ : สวัสดีค่ะ ชื่อนางสาวสมฤทัย นพคุณ ชื่อเล่นชื่อ กิ๊ฟ นะคะ ปัจจุบันศึกษาอยู่คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ วิชาเอกภาษาจีน วิชาโทวาทวิทยา ชั้นปีที่ 4 มหาวิทยาลัยบูรพาค่ะ

พี่แป้ง : อะไรเป็นจุดเด่นเรื่องภาษาจีนของสถาบันที่เรียนคะ?
พี่กิ๊ฟ : จุดเด่นของการเรียนภาษาจีนในคณะมนุษยฯ ม.บูรพา คือในหลักสูตรเน้นทั้งหมดในเรื่องของการ ฟัง พูด อ่านและเขียน โดยมุ่งเน้นการสอนที่นำไปใช้ได้จริงในชีวิตประจำวัน มีอาจารย์ทั้งที่เป็นอาจารย์คนไทยและอาจารย์คนจีน อาจารย์คนจีนจะมีทั้งอาจารย์ที่ประจำภาควิชาและอาจารย์ที่มาจากสถาบันขงจื่อ (มหาวิทยาลัยของเรามีสถาบันขงจื่อ)
          ส่วนในเรื่องของกิจกรรมการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมจะมีสถาบันขงจื่อเป็นผู้จัดกิจกรรมให้ ไม่ว่าจะเป็นวันตรุษจีน วันไหว้พระจันทร์ และวันเทศกาลอื่นๆ ของจีนเราก็จะมีกิจกรรมให้น้องๆ ได้เข้าร่วมตลอดทั้งปี และสำหรับน้องปีหนึ่งเอกจีนที่เพิ่งเข้ามาใหม่ทุกคน เราจะมีกิจกรรมพิเศษให้กับน้องๆ คือการจับบัดดี้กับนิสิตจีน ทั้งนี้เพื่อเป็นการให้น้องๆ ได้ฝึกภาษา และสามารถแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมกับเจ้าของภาษาอย่างแท้จริง รวมไปถึงการเป็นเจ้าของบ้านที่ดีในการต้อนรับนิสิตชาวจีนที่เข้ามาเรียนในมหาวิทยาลัยของเราค่ะ

พี่แป้ง : อะไรคือสาเหตุในการเลือกเรียนเอกจีน?
พี่กิ๊ฟ : ก่อนอื่นกิ๊ฟต้องบอกก่อนว่ากิ๊ฟเคยเรียนภาษาจีนมาก่อนในตอน ม.ปลาย ในตอนนั้นที่เลือกเรียนเพราะว่ารู้ตัวเองว่าไม่ชอบการคิดคำนวณ ถ้าเรียนวิทย์-คณิตต้องไม่รอดแน่ๆ เลยคิดเลือกเรียนภาษา แต่จะภาษาอะไรดีล่ะ? ภาษาอังกฤษเรียนมาตั้งแต่อนุบาลแต่ถึงตอนนี้ก็ยังไม่รอดเลย กิ๊ฟเลยตัดสินใจเรียนภาษาจีน เพราะคิดว่าการเริ่มเรียนภาษาใหม่มันน่าจะโอเคกว่า หลังจากที่เรียนภาษาจีนมาแล้วก็ทำให้เริ่มรู้สึกชอบภาษาจีนมากขึ้นนี้เลยเป็นจุดเริ่มต้นของการเลือกเรียนเอกภาษาจีนต่อในระดับมหาวิทยาลัยค่ะ

พี่แป้ง : คิดว่าอนาคตอยากประกอบอาชีพอะไร?
พี่กิ๊ฟ : สำหรับอนาคตต้องการจะประกอบอาชีพอะไรนั้นก็คงจะเป็นไกด์หรือล่ามค่ะ เพราะว่าโดยส่วนตัวแล้วเป็นคนชอบท่องเที่ยวและรักการบริการ อีกอย่างกิ๊ฟคิดว่าอาชีพไกด์ก็เป็นอาชีพในฝันของคนจำนวนไม่น้อยเลยทีเดียว

พี่แป้ง : มีน้องๆ ม.ปลาย หลายคนบอกว่าภาษาจีนยาก แล้วน้องกิฟท์เรียนมาถึงตอนนี้คิดว่ายากมั้ยคะ
พี่กิ๊ฟ : สำหรับตัวกิ๊ฟเองแล้วภาษาจีนนั้นไม่ง่าย แต่ก็ไม่ยากมากเกินไป การเรียนภาษาจีนที่เราเรียนกันอยู่ในปัจจุบันนี้จะเป็นภาษาจีนกลางหรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า แมนดาริน
           สำหรับการเริ่มเรียนภาษาจีนนั้นจะต้องเรียนการออกเสียง(พินอิน) และการเขียนตัวอักษรจีน(อักษรจีนตัวย่อ) ซึ่งสำหรับการเริ่มต้นนั้นต้องยอมรับเลยว่ายากมากๆ เพราะนอกจากเราต้องเรียนการออกเสียงจากพินอินแล้ว ยังต้องจำตัวอักษรจีนอีก จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องฝึกพูดและเขียนอยู่บ่อย ๆ และการเรียนภาษาจีนนั้นที่เราหลีกเลี่ยงไม่ได้เลยคือการเรียนไวยากรณ์จีน ซึ่งถ้านำทั้งหมดมารวมๆดูแล้วคงต้องยอมรับว่าการเรียนภาษาจีนนั้นไม่ได้ง่ายเลย แต่เมื่อตั้งใจดูแล้วก็ไม่ยากเกินความสามารถของเราแน่นอนค่ะ


พี่แป้ง : ประทับใจวัฒนธรรมของประเทศจีนไหนของจีนบ้างคะ?
พี่กิ๊ฟ : วัฒนธรรมจีนที่ประทับใจคือศิลปะการชงชาและการเขียนพู่กันจีน รวมไปถึงประเพณีและขนบธรรมเนียมในเทศกาลต่างๆ เพราะทำให้รู้สึกถึงความรักและการให้ความสำคัญกับคนในครอบครัว เทศกาลที่ชอบมากที่สุดก็คงจะเป็นเทศกาลวันตรุษจีน เพราะเป็นวันที่สมาชิกทุกคนต้องกลับมาอยู่พร้อมหน้าพร้อมตากัน รับประทานอาหารร่วมกัน ได้ซื้อเสื้อผ้าใหม่ ได้ไปเยี่ยมญาติๆ และที่สำคัญที่สุดคือได้เงินแต๊ะเอียหรืออั่งเปานั่นเองค่ะ

พี่แป้ง : นอกจากเรียนเรื่องภาษาแล้ว เอกจีนสอนอะไรอีกบ้างคะ?
พี่กิ๊ฟ : นอกจากเรียนเรื่องภาษาแล้วในเอกจีนของเรายังสอนเกี่ยวกับวัฒนธรรมจีน หนังสือพิมพ์จีน ภูมิศาสตร์จีน เศรษฐกิจจีน การสอนภาษาจีน มัคคุเทศน์ (ซึ่งวิชาทั้งหมดนี้สอนเป็นภาษาจีน) แล้วยังสามารถเลือกเรียนวิชาโทได้อีกด้วย วิชาที่กิ๊ฟเลือกเรียนคือ วาทวิทยา(นิเทศศาสตร์) แต่หลักสูตรปัจจุบันในเอกภาษาจีนของเราได้ยกเลิกการเรียนวิชาโทแล้ว แต่น้องๆ สามารถเลือกเรียนวิชาเอกเลือกแทน โดยวิชาเอกเลือกนั้นจะมี วิชาการเขียนพู่กันจีน ขับร้องเพลงจีน ดนตรีจีน และอื่นๆอีกมากมายเลยทีเดียวค่ะ

พี่แป้ง : ตอนนี้คิดว่าภาษาจีนของเราอยู่ในระดับไหน? (เต็ม 5 ดาว)
พี่กิ๊ฟ : ตอนนี้คิดว่าภาษาจีนของตัวเองยังถือว่าอยู่ในระดับกลางค่ะ ถ้าคะแนนเต็ม 5 ดาวคงจะให้ตัวเองแค่ 3 ดาวก่อน เพราะยังเขียนตัวอักษรจีนผิดอยู่บ่อยๆ และยังมีการออกเสียงเพี้ยนไปบ้าง ตอนนี้อยู่ในช่วงระหว่างการแก้ไขค่ะ

พี่แป้ง : คิดจะไปเรียนต่อที่ประเทศจีนไหม?
พี่กิ๊ฟ : แน่นอนค่ะสำหรับคนที่เรียนภาษา เราเรียนภาษาอะไรเราก็คงอยากจะไปเรียนในประเทศนั้นๆ เพื่อที่จะไปสัมผัสและเรียนรู้บรรยากาศการใช้ภาษานั้นที่เกิดขึ้นจริงอย่างธรรมชาติ ตอนนี้ที่วางแผนไว้คือหลังจากจบปริญญตรีก็จะยื่นขอทุนปริญญาโทจากสถาบันขงจื่อหรือทุนของรัฐบาลจีนเพื่อไปเรียนต่อที่ประเทศจีนซึ่งมีอาจารย์ในเอกเป็นที่ปรึกษาค่ะ

พี่แป้ง : สุดท้ายนี้อยากให้ฝากอะไรดีๆ ถึงน้องที่อยากเรียนเอกจีนหน่อยค่ะ?
พี่กิ๊ฟ : สำหรับน้องๆ ที่สนใจในคณะมนุษยศาสตร์ เอกภาษาจีนของเรา ก็ต้องมีการเตรียมความพร้อมที่ดีและความรักในภาษาจีน เพราะเนื้อหาค่อนข้างยากและเยอะ ซึ่งถ้าน้องๆ ไม่ตั้งใจและมีการเตรียมตัวที่ไม่พร้อมอาจจะส่งผลกับการเรียนได้อนาคต  ทั้งนี้ทั้งนั้นความสำเร็จจะสำเร็จได้จากผู้ที่มีความตั้งใจและผู้ที่มีความพยายามอย่างสุดความสามารถแล้ว ยินดีต้อนรับน้องๆทุกคนค่ะ


         บอกตรงๆ เลยว่าการมีภาษาติดตัวนี่ยังไงก็ไม่อดตายนะคะ เพราะเราสามารถพลิกแพลงภาษาทำงานอื่นได้มากมาย สิ่งที่สำคัญที่สุดของมนุษย์คือการสื่อสาร เมื่อเราเข้าใจเครื่องมือที่ใช้ในการสื่อสารที่เรียกว่าภาษาแล้ว เราจะสามารถเข้าใจมนุษย์ด้วยค่ะ คราวหน้าพี่แป้งจะขอตะลุยหารุ่นพี่ที่จบแล้วมาคอนเฟิร์มว่า มีภาษาติดตัวไว้ทำงานได้แน่ๆ ค่ะ คราวนี้ลากันไปก่อน สวัสดีค่ะ

"
 

      

            

.

   4 สาขาล่าสุดใน "คณะในฝัน"  



.