จ๊อก...คร่อกๆๆ (กรุณาอ่านให้เป็นเสียงท้องร้อง)  วันนี้น้องๆ ชาว Dek-D.com ทานอะไรกันไปบ้างแล้วเอ่ย ? พี่เป้ หิ๊วหิว อยากทานอาหารหรูๆ จังเลยแฮะวันนี้ 555 เพราะฉะนั้นคอลัมน์เตรียมตัวไปเรียนต่อนอกวันนี้ พี่เป้ มีอาหารหรูๆ มานำเสนอ ได้แก่ อาหารบนเครื่องบินนั่นเอง
             น้องๆ ทราบกันมั้ยคะว่า นอกจาก ไก่ หมู ปลา เนื้อ หรืออื่นๆ ที่เราทานกันบนเครื่องบินแล้ว ยังมีอาหารพิเศษไว้บริการผู้โดยสารที่มีข้อจำกัดในเรื่องของอาหาร เช่น เหตุผลทางศาสนา ความเชื่อ หรือทางด้านสุขภาพ ลองมาดูกันเลยดีกว่าว่าจะมีอะไรบ้าง

 

             1. อาหารมังสวิรัติ

                  - Raw Vegetarian เป็นอาหารที่ประกอบด้วยผักและผลไม้ล้วนๆ

                  - Asian Vegeterian เป็นอาหารมังสวิรัติชนิดที่ไม่มีเนื้อสัตว์รวมถึงผักมีกลิ่น เช่น หัวหอม จะเน้นผลิตภัณฑ์ที่ทำจากนม


asian vegeterian :แซนด์วิชใส่มะเขือยาว มะเขือเทศ ชีส
และสมุนไพรต่างๆ ราดด้วยมายองเนส  และโยเกิร์ตรสพีช



                  - Strict Western Vegetarian เป็นอาหารที่ไม่มีเนื้อสัตว์ทุกชนิด รวมไปถึงผลิตภัณฑ์ที่ทำจากนมด้วย


strict western vegeterian : เพนนีพาสต้าใส่เฉพาะมะเขือเทศ กับ สลัดพาสต้า


                  - Strict Indian Vegetarian เป็นอาหารที่ไม่มีเนื้อสัตว์ ปลา ไข่ ผลิตภัณฑ์จากนม รวมไปถึงผักกินหัวไม่ว่าจะเป็นขิง กระเทียม หัวหอม มันฝรั่ง ปรุงด้วยเครื่องเทศแบบอินเดีย

Strict Indian Vegetarian : อาหารที่ใช้เครื่องปรุงและส่วนผสมแบบอินเดีย

 

              2. อาหารของผู้นับถือบางศาสนา 

                  - อาหารโคเชอร์ เป็นอาหารของผู้ที่นับถือศาสนายิว จะปิดอย่างมิดชิด สามารถมีเนื้อเป็นส่วนประกอบ


อาหารโคเชอร์ : อาหารโคเซอร์ที่ถูกซีลมาด้วยพลาสติก


                  - อาหารชาวฮินดู เป็นอาหารที่ไม่มีเนื้อวัว หรือเนื้อหมู แต่เป็นเนื้อแกะ เนื้อปลาหรือเนื้อชนิดอื่น มีผลิตภัณฑ์ ของนมปรุงแบบอินเดีย

                  - อาหารมุสลิม ไม่มีส่วนประกอบของหมู เบคอน แฮมหรือแอลกอฮอลล์ เนื้อทุกประเภทปรุงตามกฎฮาลาล

                  - อาหารที่ไม่มีเนื้อวัว ไม่มีส่วนประกอบของเนื้อวัวเลย

 

              3. อาหารสำหรับผู้โดยสารที่มีข้อจำกัดด้านสุขภาพ 

                  - อาหารโซเดียมต่ำ ไม่มีส่วนประกอบของเกลือ เหมาะสำหรับผู้โดยสารที่ความดันโลหิตสูงหรือมีปัญหาเกี่ยวกับไต

                  - อาหารแคลอรีต่ำ ประกอบไปด้วยเนื้อไม่ติดมัน ผลิตภัณฑ์จากนมที่ไขมันต่ำ อาหารที่มีไฟเบอร์สูงไม่มีอาหารทอดหรือราดซอส ไขมันสูงหรือมีน้ำตาลเยอะ

                  - อาหารเหลว เช่นนม น้ำผลไม้ ชา กาแฟ คัสตาร์ดและเยลลี่

                  - อาหารปราศจากแลกโตส ไม่มีส่วนประกอบของแลกโตสหรือผลิตภัณฑ์จากนม

                  - อาหารไฟเบอร์สูง ประกอบไปด้วยส่วนประกอบจำพวกถั่ว ผัก ผลไม้ ขนมปังธัญพืชไฟเบอร์สูง และซีเรียล

                  - อาหารโปรตีนต่ำ จำกัดโปรตีนและเกลือ

                  - อาหารที่ประกอบไปด้วยผลไม้ มีแต่ผลไม้เท่านั้น ทั้งสด เชื่อมหรือของหวานที่ทำจากผลไม้

 
 
                  - อาหารสำหรับผู้ที่เป็นโรคเบาหวาน มีส่วนประกอบของไฟเบอร์สูง ไขมันและแคลอรีต่ำ
 

 

              4. อาหารเด็ก

                  - อาหารสำหรับเด็กทารก ประกอบด้วยจานเนื้อและผัก (ขนาดเล็ก) ขนมหวานและน้ำผลไม้สำหรับเด็กทารก 

                  - อาหารสำหรับเด็ก จะคัดสรรชนิดของอาหารที่เด็กเล็กโปรดปรานเช่นแฮมเบอร์เกอร์ ไส้กรอก หรือปลาทอดเป็นชิ้น วางในกล่องที่ออกแบบเป็นพิเศษ


อาหารสำหรับเด็ก : นักเกตไก่ และ มะเขือเทศทอดทำเป็นรูปหน้ายิ้ม

 


             นอกจากนี้ น้องๆ เคยสังเกตมั้ยคะว่า ทำไมอาหารบนเครื่องบินมันถึงจื๊ดจืด ?

             ปกติแล้วอาหารที่บริการบนเครื่องบินนั้นจะถูกแช่แข็งและนำมาอุ่นให้ร้อนบนพื้นดินก่อนที่เครื่องจะออก ไม่ใช่ปรุงกันสดๆ เดี๋ยวนั้น จึงทำให้ความเข้มข้นของรสชาติลดน้อยลง สาเหตุอีกอย่างหนึ่งคือ ปุ่มรับรสบนลิ้นของมนุษย์เราจะรับรสได้น้อยลงเวลาที่บินในระดับสูง ทำให้อาหารที่รับประทานเข้าไปนั้นคล้ายกับไม่มีรสชาติหรือรู้สึกว่ามันจืดนั่นเอง

             นอกจากนี้ การที่อาหารมีรสชาติจืดนั้น ยังมาจากความตั้งใจของสายการบินด้วย !

                - ประการแรกคือ ตั้งใจเพื่อให้เกิดความปลอดภัยแก่ผู้โดยสารทุกคน น้องๆ ลองคิดสิคะว่า ถ้าอาหารมีรสชาติเข้มข้นมากไป แน่นอนว่าอาจจะเกิดอาการจู๊ดๆ ท้องเสียได้ เพราะฉะนั้นทานอาหารรสชาติกลางๆ จืดๆ ปลอดภัยกว่าค่ะ 

                - ประการที่สองคือ ตั้งใจให้ผู้โดยสารทุกคนทานได้ นั่นคืออาหารรสชาติกลางๆ จืดๆ นั้นเป็นอาหารที่ใครๆ ก็ทานได้ ถ้าใส่เครื่องเทศกลิ่นฉุนมากไปอาจจะสร้างความไม่พอใจให้แก่ผู้โดยสารบางคนได้ เช่น หัวหอมใหญ่ ทำให้เกิดกลิ่นปากอันหอมหวน (ตรงไหน) หรือผักบางชนิดอาจก่อให้เกิดแก๊ซในกะเพาะอาหาร

 

 

              โอ้โห พี่เป้ เองก็เพิ่งจะรู้นะเนี่ยว่าบนเครื่องบินมีอาหารหลากหลายชนิดเยอะมากขนาดนี้ ซึ่งการที่จะเลือกอาหารนั้น น้องๆ สามารถเลือกได้ตั้งแต่ตอนเช็คอินเลยนะคะ (ขอแนะนำให้เช็คอินผ่านเว็บไซต์จะสะดวกมาก) เลือกอาหารให้ดีและเหมาะกับสุขภาพของเรารับรองว่ามีชัยไปกว่าครึ่ง เพราะหากทานอาหารที่ไม่เหมาะต่อสุขภาพแล้ว อาจทำให้เกิดอาการท้องเสียหรือไม่สบาย เมื่อเดินทางไปถึงประเทศปลายทางแล้ว อาจส่งผลต่อสุขภาพจิตหรือเกิดอาการเซ็งเบื่อหน่ายได้นะคะ ว่าแต่มีใครเคยสั่งอาหารพิเศษเหล่านี้มาทานบ้าง มาเล่าประสบการณ์กันให้ไวเลย


{pic-desc}
ขอบคุณข้อมูลดีๆ จาก http://wikipedia.org
และรูปภาพจาก http://www.airlinemeals.net

 

พี่เป้
พี่เป้ - Columnist มนุษย์บ้างานและบ้านวด ผู้ตกหลุมรักปลาแซลมอน การนอน และและออฟฟิศ

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

39 ความคิดเห็น

★ข้าวเหนียวใบเตย Member 8 ก.ค. 52 04:07 น. 1
ผักบางชนิดอาจก่อให้เกิดแก๊ซในกะเพาะอาหาร  <--- กลัวผู้โดยสารผายลมนั่นเอง 55555
0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
+:+PaYYY+:+ Member 8 ก.ค. 52 20:02 น. 10
อาหารเหล่านี้ จำเป็นต้องสั่งล่วงหน้านะคะ ซึ่งส่วนมากจะสั่งตอนเช็คอินค่ะ ถ้าไม่สั่ง ก็ไม่ได้หรอกจ้า
0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
PaGii Member 8 ก.ค. 52 22:41 น. 15

เห็นแล้วอยากเล่า

ตอนบินกลับจากนิวซีแลนด์มาไทยอ่ะคะ 

แอร์ฯก็เอาอาหารมาเสริฟ มันคือข้าวกับแกงเขียวหวานค่ะ แต่เป็นข้าวอินเดีย =="

มันไม่นิ่มเหมือนข้าวหอมมะลิไทยอ่าาา เม็ดมันจะแบนๆคล้ายเม็ดแตงโมอบแห้ง


จากการไปคราวนั้นสอนให้รู้ว่า ข้าวไทยอร่อยสุดละ - -

0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
3*12 9 ก.ค. 52 18:22 น. 20
ตอนขึ้นเครื่องครั้งล่าสุดอ่ะ
เรากินราเม็งก่อนขึ้นเครื่อง อิ่มแปล้แล้ว
พอขึ้นไป เขาก็อัพที่นั่งให้จาก bissiness เป็น first

อาหารแบบ..บำรุงเต็มที่อ่ะ
กะให้อ้วนกันไปข้างนึง

แต่เราก็กิน ๆ ๆ จนเกือบหมด พุงกาง
เหลือแต่ชีส 3 ก้อน ที่ไม่ได้กิน

พอลงเครื่องมาแม่ก็บอกว่าทำไมไม่กิน มันอร่อยมากนะ
เราก็มานั่งคิดนอนคิด
เออ เสียดายอ่ะ วันนั้นไม่น่ากินราเม็งก่อนเลย T^T
0
กำลังโหลด
กำลังโหลด