![]() |
|
![]() |
|
![]() |
|
![]() |
สวัสดีค่ะน้องๆ ทุกคน ตอนนี้หลายโครงการรับตรงเปิดรับสมัครแล้ว น้องๆ ชาวสายอาชีพ Dek-D ก็คงได้เห็นนะคะว่ามีหลายโครงการเลยที่มีเกณฑ์การคัดเลือกโดยใช้คะแนน GAT PAT ซึ่งก็แล้วแต่คณะว่าใช้วิชาอะไรบ้าง แต่ว่าน้องๆ รู้จักหรือยังคะว่า GAT PAT คืออะไร ถ้ายังไม่เข้าใจ ตามมาดูเลยค่ะว่าแต่ละวิชาคืออะไร สอบอะไรบ้าง และใช้ในคณะไหนบ้าง >_<
.
มาที่วิชาแรกก่อนเลยค่ะ GAT (General Aptitude Test) เป็นวิชาที่ทดสอบความถนัดทั่วไปค่ะ แบ่งออกเป็น 2 ส่วน ส่วนแรกคือส่วนของ "ความสามารถในการอ่าน เขียน คิดวิเคราะห์ และแก้โจทย์ปัญหา" หรือที่เรียกว่าเชื่อมโยง จะเป็นการทดสอบกระบวนการความคิดของเรา ในข้อสอบจะให้บทความมาแล้วให้เราโยงลูกศรเชื่อมโยงแต่ละสาเหตุ/ผล ซึ่งข้อสอบส่วนนี้พี่แป้งว่าเก็บคะแนนไม่ยาก ต้องหมั่นฝึกทำหลายๆ โจทย์เพื่อที่จะจับทางข้อสอบได้ค่ะ
อีกส่วนนึงก็คือ "ความสามารถในการสื่อสารด้วยภาษาอังกฤษ" หรือพาร์ทอิ้งค์ เป็นข้อสอบภาษาอังกฤษนั่นเองค่ะ ส่วนตัวพี่แป้งคิดว่าวิชาภาษาอังกฤษเป็นข้อสอบที่เก็บจากประสบการณ์ค่ะ ถ้าใครประสบการณ์ดีก็ไม่ค่อยยากเท่าไหร่ แต่ถ้าไม่ดีอันนี้ก็ต้องเสริมค่ะ อาจจะเป็นการฝึกทำโจทย์ ท่องศัพท์เยอะๆ เวลาเจอประโยคจะได้เข้าใจค่ะแต่ถ้าเกิดว่าอ่านยังไงก็ไม่เข้าใจก็สามารถเรียนพิเศษเพิ่มเติมได้ค่ะ แต่ระวังนะคะเพราะเวลาเรียนปกติเราก็เยอะมากแล้ว T_T
ส่วนใหญ่แล้ว GAT จะใช้เกือบทุกคณะในสอบตรง ส่วนรอบแอดมิชชั่นใช้หมดทุกคณะเลยค่ะ ด้วยความที่เป็นวิชาพื้นฐาน พี่แป้งอยากให้น้อง ๆ เน้นวิชา GAT เยอะ ๆ ค่ะ ใช้ทั้งสอบตรงและรอบแอดมิชชั่นเลยค่ะ
.
ต่อมาก็เป็น PAT (Professional and Academic Aptitude Test) คือ วิชาที่ทดสอบความรู้พื้นฐานที่จะเรียนต่อในวิชาชีพและศักยภาพที่จะเรียนในวิชาชีพนั้นๆให้ประสบความสำเร็จ เจาะลึกกว่าการสอบ GAT หรือ O-NET อีกค่ะ บอกเลยว่ายากพอตัวเหมือนกัน วิชา PAT 1 เป็นวิชาความถนัดทางคณิตศาสตร์ มักจะใช้กับคณะที่ต้องเรียนคณิตศาสตร์เยอะๆ เช่น คณะวิศวกรรมศาสตร์ คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ คณะบริหารธุรกิจ คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี คณะเศรษฐศาสตร์ คณะครุศาสตร์เป็นต้น
เนื้อหาที่ออกสอบนั้นเป็นคณิตศาสตร์ที่ยากขึ้นมากกว่าปกติค่ะ เรื่องที่ออกสอบก็เช่น ตรรกศาสตร์ เซต จำนวนจริง จำนวนเชิงซ้อน ลำดับอนุกรม ลอคการึทึ่ม ความน่าจะเป็น การแจกแจงปกติ แคลคูลัสเบื้องต้น เป็นต้น พี่แป้งว่าลำบากสำหรับน้องๆ สายอาชีพเลยค่ะ ถ้าเกิดคณะที่น้อง ๆ อยากเข้าไม่ใช้ PAT 1 พี่ว่าเป็นลาภอันประเสริฐจริง ๆ ถ้าไม่ใช้ก็ไม่ต้องสอบนะคะ ไม่ว่ากัน
.
มาที่ PAT 2 หรือ ความถนัดทางวิทยาศาสตร์ เป็นการทดสอบวิทยาศาสตร์ ซึ่งจะมีทั้งในส่วนของฟิสิกส์ เคมี และชีววิทยา คณะที่จะใช้ก็เช่น คณะเทคโนโลยีสารสนเทศ คณะเกษตรศาสตร์ คณะวนศาสตร์ คณะอุตสาหกรรมเกษตร และก็คณะสายวิทย์สุขภาพ แต่ส่วนใหญ่แล้วน้องๆ ปวช. จะไม่ค่อยได้ใช้วิชานี้ค่ะ
แต่ถ้าต้องใช้จริงๆ ล่ะก็พี่แป้งแนะนำให้ลองทำโจทย์ย้อนหลังเยอะๆ 15-19 พ.ศ. ช่วยได้เยอะเลยค่ะ เก็บข้อสอบหรือเนื้อหาการสอบ โดยเรื่องที่จะออกสอบก็เช่น สิ่งมีชีวิตกับกระบวนการดำรงชีวิต สารและสมบัติของสาร แรงและการเคลื่อนที่ พลังงาน ดาราศาสตร์และอวกาศ เป็นต้น
.
PAT 3 หรือ ความถนัดทางวิศวกรรมศาสตร์ เป็นวิชาที่ใช้แค่เฉพาะคณะวิศวกรรมศาสตร์เท่านั้น ซึ่งน้องๆ ปวช.ที่สามารถสอบเข้าคณะวิศวกรรมศาสตร์ได้มีเพียงน้องๆ ที่เรียนสายเตรียมวิศวะฯ และสายช่างอุตสาหกรรม
ไม่ว่าจะเป็นสอบตรงหรือแอดมิชชั่น ถ้าจะเข้าคณะวิศวกรรมศาสตร์ต้องสอบด้วยกันทั้งนั้น เนื้อหาที่ออกสอบจะประมาณเรื่อง กลศาสตร์ ไฟฟ้า แม่เหล็ก คลื่น แสง เสียง พลังงาน ความร้อน ของไหล .... เอาเป็นว่าส่วนของวิชาฟิสิกส์นี่จัดเต็ม!!! ตอนสมัยที่พี่แป้งสอบพี่แป้งใช้วิธีคือ ทำโจทย์ย้อนหลัง 10 ปี ใน 1 ข้อทำประมาณ 3 รอบ เอาเป็นว่าวันเสาร์-อาทิตย์ห้ามชวนไปไหน ตีตั๋วทำโจทย์ยาวตั้งกะ 9 โมงเช้ายัน 4 โมงเย็น แต่ระหว่างทางก็แอบพักๆ บ้างนะคะ
.
วิชาต่อมาคือ PAT 4 หรือ ความถนัดทางสถาปัตยกรรมศาสตร์ ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าเป็นความถนัดทางสถาปัตยกรรมศาสตร์ คณะที่ใช้ก็คือ คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ คณะศิลปกรรมศาสตร์ คณะวิจิตรศิลป์ คณะดุริยางฯ คณะศิลปการออกแบบ ซึ่งเนื้อหาที่ใช้สอบจะมีทั้งวิชาคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ ความรู้ทั่วไปทางสถาปัตยกรรมและการออกแบบ มิติสัมพันธ์ น้องๆ คนไหนที่อยากเข้าคณะที่พี่แป้งบอกไปเบื้องต้นก็เตรียมตัวไว้นะคะ สอบแน่ๆ แต่ว่า!! บางโครงการสอบตรงก็ไม่ต้องสอบ PAT 4 ทางมหาวิทยาลัยเขาจะจัดสอบเองเพื่อดูฝีมือจริงๆ ค่ะ
.
วิชา PAT 5 หรือ ความถนัดทางวิชาชีพครู เป็นวิชาที่ใช่เฉพาะ คณะครุศาสตร์ คณะศึกษาศาสตร์ โดยการทดสอบไม่ยากค่ะ เป็นการสอบความรู้ทั่วไปในบริบทการเป็นครู ทริกในการทำข้อสอบง่ายๆ คือ อะไรก็ตามที่นึกถึงนักเรียนเป็นอันดับแรก ข้อนั้นแหละคือคำตอบ เหมือนวัดความเป็นครูว่านอกจากเรื่องการให้ความรู้แล้ว สามารถดูแลลูกศิษย์ได้มากแค่ไหน นอกจากเซ้นส์ที่ใช้ตอบแล้ว ก็ดูความเป็นจริงด้วยนะคะ ใครอยากเป็นครูก็เตรียมตัวสอบได้เลย!!!
.
.
PAT 6 หรือ ความถนัดทางศิลปกรรมศาสตร์ เป็นวิชาที่ทดสอบเกี่ยวกับ ทัศนศิลป์ ดนตรี นาฏศิลป์ การรับรู้ การคิดวิเคราะห์ ความคิดสร้างสรรค์ ซึ่งวิชา PAT 6 จะใช้ในคณะศิลปกรรมศาสตร์ คณะวิจิตรศิลป์ คณะดุริยางฯ คณะศิลปการออกแบบ เป็นวิชาเฉพาะที่เอาไว้สำหรับคนที่ชอบทางศิลปะสอบค่ะ ต้องฝึกฝีมือเยอะ ๆ นะคะ
.
มาที่วิชาสุดท้ายก็คือ PAT 7 หรือ ความถนัดทางภาษาต่างประเทศ เป็นวิชาที่ว่าด้วยภาษาเลยค่ะ การสอบจะสอบในเรื่องของ ศัพท์พื้นฐาน ไวยกรณ์และโครงสร้าง สำนวนในภาษาต่าง ๆ วัฒนธรรมของภาษา การออกเสียง ซึ่งภาษาจะใช้สำหรับสอบเข้า คณะนิเทศศาสตร์ คณะอักษรศาสตร์ คณะศิลปศาสตร์ คณะมนุษยศาสตร์ คณะรัฐศาสตร์ คณะนิติศาสตร์ คณะสังคมวิทยา คณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ คณะการท่องเที่ยวและการโรงแรม เข้าได้หลายคณะมาก เอาเป็นว่ามีภาษาไม่อดตายจริง ๆ ค่ะ ภาษาที่มีให้สอบก็คือ
PAT 7.1 (77) ภาษาฝรั่งเศศ
PAT 7.2 (78) ภาษาเยอรมัน
PAT 7.3 (79) ภาษาญี่ปุ่น
PAT 7.4 (80) ภาษาจีน
PAT 7.5 (81) ภาษาอาหรับ
PAT 7.6 (82) ภาษาบาลี
ตอนนี้ก็รู้กันไปแล้วว่าแต่ละวิชาคืออะไร ต้องสนใจเรื่องอะไรบ้าง คงจะพอช่วยน้องๆ หาแนวทางในการเตรียมตัวอ่านหนังสือต่อไปได้นะคะ น้องๆ คนไหนที่สามารถสอบตรงได้ พี่แป้งก็ขอให้ติดในรอบสอบตรงนี่เลยค่ะ แต่ถ้าคณะในฝันต้องรอรอบแอดมิชชั่น ก็ขอให้ได้คะแนนสูง ๆ นะคะ ได้ในคณะที่ฝันไว้ ไม่มีอะไรเกินความพยายามของเรา ขอให้น้องๆ ทุกคนโชคดีค่ะ เป็นกำลังใจให้น้าาาาาา ....
^______________^
.








3 ความคิดเห็น
ไม่เข้าใจ ทำเอง ผิดเอง
อยากให้คนอธิบายว่าเราทำผิดยังไง แต่ไม่มีใครอธิบายได้เลย TOT
แบบบนี้ต้องลงเรียนอย่างเดียวเลยหรอ TT