ไม่กล้าใส่เสื้อสีเข้ม เพราะกลัวคนเห็นหิมะบนไหล่?!

นอกจากเรื่องผมแห้งผมเสียแล้ว พี่โอ๊ตว่าเรื่องยุบยิบอย่าง รังแค นี่แหละ ที่กลายเป็นมรสุมชีวิตของหลายๆ คนเลยค่ะ นอกจากจะทำให้รู้สึกคันหนังศีรษะแล้ว ยังทำลายความมั่นใจเวลาจะออกไปข้างนอกด้วย เพราะไม่รู้ว่ามันจะร่วงลงมาเมื่อไหร่ จะติดบนเส้นผมจนเห็นชัดมั้ย หรือบางคนถึงขนาดไม่กล้าใส่เสื้อสีเข้มๆ ออกนอกบ้านเลย เพราะมันทำให้เห็นรังแคชัด!

รังแคมาจากไหน ทำไมอยู่ๆ เราถึงเป็นได้

พอรู้ตัวอีกที ก็มีสะเก็ดสีขาวๆ ร่วงลงจากหนังศีรษะแล้ว บางคนอาจจะมีอาการคันร่วมด้วย ทำให้รำคาญและกลายเป็นความกังวลตามมา อันที่จริงเราไม่จำเป็นต้องเครียดไปค่ะ เพราะเป็นอาการที่เกิดขึ้นได้และหายได้ถ้าเรารักษาอย่างถูกวิธี ซึ่งสาเหตุของการเกิดรังแคในปัจจุบันยังไม่แน่ชัดค่ะ แต่ความเป็นไปได้มากที่สุดก็เชื่อว่ามาจากเชื้อราบนหนังศีรษะของเรา (Malassezia) ที่มีจำนวนมากกว่าปกตินั่นเอง

แต่ถ้าใครที่มีอาการอื่นร่วมด้วย เช่น เป็นผื่นแดง รู้สึกแสบคันบริเวณที่หนังศีรษะลอก อาจจะเข้าข่ายของ โรคผิวหนังอักเสบ หรือภาวะต่อมไขมันอักเสบ (Seborrheic Dermatitis) เรียกง่ายๆ ว่า เซบเดิร์ม นั่นเองค่ะ กรณีนี้ ก็อาจเกิดจากการเพิ่มจำนวนของเชื้อราเหมือนกับการเกิดรังแค การเปลี่ยนแปลงของระดับฮอร์โมนแอนโดรเจนหรือฮอร์โมนเพศชาย ความเครียด แม้กระทั่งอากาศที่ร้อนหรือหนาวเกินไป ก็ทำให้เป็นเซบเดิร์มได้เหมือนกันค่ะ นอกจากบนหนังศีรษะเราแล้ว ก็อาจจะมีจุดอื่นเป็นได้ด้วย เช่น ข้างจมูก คิ้ว หลังใบหู หน้าอก และหลัง

อยากให้รังแคหายออกจากชีวิตต้องทำยังไง?

  • เป่าผมให้แห้งทุกครั้งหลังสระผม อย่าปล่อยให้ผมเปียกชื้นเด็ดขาด เพราะทำให้เกิดเชื้อราได้ง่ายมาก รวมถึงผ้าเช็ดตัวที่ใช้เช็ดผมก็ควรตากให้แห้งเสมอเช่นกัน
  • งดการสระผมด้วยน้ำอุ่น เพราะจะยิ่งทำให้หนังศีรษะแห้งและเป็นขุยได้
  • ถ้ามีอาการคัน อย่าเกาหนังศีรษะแรงๆ หรือใช้หวีซี่แหลมๆ เพราะนอกจากจะไม่หายคันแล้ว อาจจะทำให้เกิดแผลอีกต่างหาก
  • ใช้ยาสระผมที่มีส่วนผสมของ คีโทโคนาโซล ซิงค์ไพรีไทออน และ ซิลิเนียม ซัลไฟด์ ที่ช่วยลดเชื้อราบนหนังศีรษะได้ ข้อเสียคืออาจจะทำให้รู้สึกผมแห้งไปนิด สามารถแก้ได้ด้วยการลงทรีตเมนต์บริเวณปลายผมค่ะ ช่วงแรกๆ อาจจะต้องใช้บ่อยหน่อย ซัก 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์ พอรังแคเริ่มลดลงแล้ว ค่อยลดการใช้ลงมาเหลือ 1-2 ครั้งต่อสัปดาห์ก็ได้ค่ะ
  • สิ่งสำคัญคือพยายามพักผ่อนให้เพียงพอ อย่าปล่อยให้ตัวเองเครียดมากเกินไปนะคะ

ถ้าใครที่ไม่ได้เป็นรังแคเยอะ การใช้แชมพูขจัดรังแคที่มีวางขายทั่วไปก็อาจจะช่วยลดปัญหานี้ได้ แต่สำหรับคนที่ลองทุกอย่างกวาดซื้อทุกเชลฟ์แล้วก็ยังรู้สึกไม่นำพา จะไปใช้แชมพูยาก็ไม่ชอบกลิ่นเวลาสระ อยากให้ลอง Fungazol Shampoo (ฟังกาซอล แชมพู) แชมพูที่มีส่วนผสมของ คีโทโคนาโซล (Ketoconazole) 2% ที่นอกจากจะช่วยขจัดรังแค ฆ่าเชื้อราได้แล้ว ยังช่วยลดการอักเสบบริเวณหนังศีรษะ ลดการออกฤทธิ์ของฮอร์โมนเพศชายบริเวณรากผม ลดการสร้าง sebum ทำให้ความมันบริเวณหนังศีรษะลดลงด้วยค่ะ

วิธีใช้ก็ง่ายมากค่ะ แค่ฟอกทิ้งไว้บริเวณหนังศีรษะ 3-5 นาทีแล้วล้างออก ใช้ซักสัปดาห์ละ 2 ครั้ง นาน 2-4 สัปดาห์ ถ้าหายแล้วไม่อยากให้รังแคบุกอีกก็ใช้สัปดาห์ละ 1 ครั้งก็พอค่ะ ใครรู้สึกว่าผมแห้งเกินไปก็ลงทรีตเมนต์บริเวณปลายผมต่อได้เลย ที่ชอบมากสำหรับแชมพูตัวนี้คือ เค้าตอบโจทย์คนที่ไม่ชอบกลิ่นแชมพูยา เพราะกลิ่นหอมมาก ไม่ฉุนเลย แถมใครที่ทำสีผมแล้วมีปัญหานี้อยู่ก็บอกเลยว่าใช้ได้ไม่มีปัญหา ไม่ทำให้สีผมที่ทำมาเปลี่ยนแน่นอน

แต่ต้องบอกไว้ก่อนว่ารังแคหรือเซ็บเดิร์มนั้นสามารถกลับมาเป็นซ้ำๆ ได้นะคะ จากสาเหตุที่บอกไปแล้วนั่นแหละ แต่ฟังกาซอลดีตรงที่ทำให้กลับมาเป็นซ้ำช้ากว่าแชมพูยาตัวอื่นๆ ยิ่งเราดูแลหนังศีรษะให้ดี ก็ยิ่งไม่ต้องห่วงเลยค่ะ บายจ้ารังแครังใจ ไม่ต้องมาเจอกันอีกดีกว่าเนอะ 555

ใครสนใจก็สามารถหาซื้อได้ที่ร้านขายยาทั่วไป ร้านขายยา Health Up และร้านขายยา Save Drug เลยค่า อีกอย่างปริมาณแชมพูขวดนึงก็เยอะนะ แถมราคาค่อนข้างประหยัดด้วย อยู่ที่ 200 บาทต่อปริมาณ 150 ml. เลยค่ะ คุ้มมากกก

อย่างที่บอกว่ารังแคเป็นได้ก็หายได้ หรือแม้แต่เซบเดิร์มก็เช่นกันค่ะ อย่าเอาแต่เครียดหรือกังวลเพราะจะยิ่งทำให้แย่กว่าเดิม เริ่มดูแลหนังศีรษะของเราตั้งแต่วันนี้ กู้ความมั่นใจกลับคืนมาให้ได้ค่ะ เริ่ม!!

 

ข้อมูลอ้างอิงจาก
https://www.si.mahidol.ac.th/Th/healthdetail.asp?aid=555 
https://www.si.mahidol.ac.th/th/division/hph/admin/news_files/415_49_1.pdf 
พี่โอ๊ต
พี่โอ๊ต - Columnist คอลัมนิสต์สายบิวตี้ ชอบอัปเดตเมคอัพ และศึกษาเรื่องสกินแคร์ เพื่อผิวสวยอย่างปลอดภัย

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

0 ความคิดเห็น