นิสัยคุณภาพก้าวสู่อาเซียน

         จริงๆ เราก็อยู่ในยุคอาเซียนกันมานานตั้งแต่เริ่มมีการก่อตั้งสมาคมเอเซียตะวันออกเฉียงใต้แล้วล่ะ แต่่ตั้งแต่เริ่มมีกฎบัตรอาเซียนและนานาอาเซียนเห็นพ้องต้องกันว่าเราจะเป็นประชาคมอาเซียน เรื่องใหม่ๆ ก็เกิดขึ้น เว็บ Dek-D ก็มีคอลัมน์ AEC WoW! นำเสนอแง่มมุมหลายหลายที่เกี่ยวข้องกับอาเซียน และทั้งหมดนี้ก็เพื่อที่พวกเราชาว Dek-D จะได้มีความสุขและเติบโตในสังคมนี้ได้อย่างมีคุณภาพจ้า 

             

          น้องๆ ชาว Dek-D เคยได้ยินได้อ่านบทความหนึ่งที่แพร่หลายมากในอินเทอร์เน็ตไหมคะ สรุปใจความได้ว่า พระเจ้าประทานสิ่งดีๆ ให้เรามากมายทั้งทรัพยากรธรรมชาติ สมอง ที่ทำให้ประเทศไทยเจริญรุ่งเรืองได้ แต่สิ่งสุดท้ายที่ทำให้ประเทศไทยกลับไม่เจริญ คือ คนไทย อ่านแล้วเจ็บจี๊ด...แต่ไม่มีใครเถียงว่าไม่จริง เพราะเราคนไทยมีดีหลายๆ อย่าง แต่หลายๆ อย่างที่ควรจะดีที่สุด กลับไม่ดีเพราะบุคลิกจำเพาะบางอย่างของคนไทยนี่เอง ขาดสำนึกในบางเรื่อง! และนี่เป็นอีกความคิดที่เด็กไทยควรปรับเปลี่ยน และทำให้เป็นนิสัยจ้า 

       
             สิงคโปร์เจริญได้เพราะมีกฎระเบียบที่เข้มงวด แล้วเขาก็ยอมรับด้วย ผิดก็ว่าไปตามผิด แต่ไทยเราผิดก็เนียนไป ผิดน้อยก็มองผ่าน ผิดมากอาจจะเลี่ยงเอาอย่างอื่นโปะ จิตสำนึกเล็กๆ น้อยๆ หายหรือบิดเบี้ยวไป เช่น มีขยะในมือ ไม่เห็นถังขยะ แต่มีแก้วทิ้งไว้ข้างเสาไฟฟ้าหนึ่งแก้ว แทนที่จะคิดว่า

"ไม่เป็นไร คนอื่นทำ(ไม่ดี)ได้     เราก็ทำได้เหมือนกัน"

เดี๋ยวค่อยไปหาถังขยะทีอื่นถือไว้ก่อนก็ได้ กลับวางแก้วเราเพิ่มที่เสาต้นนั้น คิดไปว่าคนอื่นก็ทิ้งได้ ทำไมเราจะทิ้งไม่ได้ ตรรกะไหนเนี่ย จากขยะชิ้นเดียว ถูกทิ้งเพิ่มอีกหลายชิ้น จากเสาไฟฟ้าธรรมดาต้นหนึ่ง ก็กลายเป็นกองขยะในพริบตา   แล้วสุดท้ายก็เกิดสิ่งสกปรก และไร้ระเบียบในสายตาของเรา ใครทำ? หรือใครจะบอกว่าไม่เคยทำ!?

           

               การแทรกแถวเป็นเรื่องปกติของคนไทย ไม่ได้พูดเรื่องแซงคิวนะคะ เพราะถ้าใครแซงคิวเรา เราก็โกรธเหมือนกัน แต่ถ้าเพื่อนเรามาขอแทรกแถวหน้าเรา เฮ้ย เรายอมแฮะ ก็เพื่อนเรานี่ แหม่....แล้วคนไม่รู้จัก...ที่ต่อแถวข้างหลังอีกกี่สิบคนช่างเขาเนอะ! ลองคิดตามกันนะคะ เพื่อนเราแทรกแถวเพิ่มหนึงคน เพื่อนคนอื่นแทรกเพิ่มอีกสองสามคน แล้วคนที่ทำถูกต้องก็ต้องไปต่อข้างหลัง ต้องรอเพิ่มขึ้นอีกกี่คน เพียงเพราะทำตามกฎระเบียบที่ถูกต้องทางสังคม 

           
          ระเบียบพื้นฐานเหล่านี้ ไม่ใช่เรื่องที่ควรหยวนๆ กันไปนะคะ ไม่ใช่นิสัยที่ดีเลย มันคือจุดเริ่มต้นของการใช้ "เส้นสาย" เด็กๆ เราแค่ขอแทรกคิวเพื่อน พอจะทำงาน ก็ขอเส้นสายให้ได้ที่ทำงาน  โตๆ ไปทำธุรกิจใหญ่ๆ ก็คงขอเอี่ยวในงานพันล้าน... พี่เกียรติอ่านหนังสือเล่มหนึ่งเกี่ยวกับอาเซียนนี่แหละ เขียนไว้ว่า "จริงๆ เรื่องเส้นสายที่ประเทศไหนๆ ก็มี แต่ประเทศไทยมีมากจนน่าเกลียด และเริ่มเฉียดเข้าข่ายขยะแขยง" ต่างชาติหลายชาติไม่อยากทำงานกับคนไทย เพราะคนไทยชอบมาสาย ขี้แก้ตัว และเล่นพวกพ้อง ต่อให้ไทยเรามีความสามารถขนาดไหน ก็คงไม่อยากทำงานด้วย

       

           เมื่อช่วงเดือนกันยายน เอแบคโพลล์รายงานว่า เยาวชนเกินกว่าร้อยละ  75 ขึ้นไป ก็ยอมรับได้ถ้ารัฐบาลทุจริตคอรัปชั่น แต่ขอให้ตนเองได้ประโยชน์ด้วย หมายความว่าเยาวชนไทย มองว่าให้นักการเมืองโกงบ้างก็ได้ ถ้ายังทำอะไรให้ประเทศชาติบ้าง พี่เกียรติขออุทาน เฮ้ย!! นี่มันเรื่องประเทศชาตินะ ถ้าจะโกงกัน...ก็คงไม่ได้แค่ สามบาทห้าสิบ หรอก ขึ้นรถเมล์ยังไม่ได้เลย โน้น...กี่สิบกี่ร้อยล้านบาท โกงเงิน โกงโครงการ แล้วเงินจำนวนหลายๆ ล้านเหล่านี้ จริงๆ แล้วทำประโยชน์ให้แก่ชาติอีกเยอะเลยจริงไหมคะ?

             และจากการวิจัยสำนักเดียวกัน เมื่อเดือนตุลาคมนี้เอง ได้เปรียบเทียบระดับการต่อต้านรัฐบาลที่ทุจริตคอรัปชั่นถึงแม้ตนเองได้ประโยชน์ด้วย ระหว่าง ไทย กับ มาเลเซีย พบว่าประชาชนคนมาเลเซียส่วนใหญ่หรือร้อยละ 63.1 "ต่อต้าน" รัฐบาลทุจริตถึงแม้ตนเองจะได้ผลประโยชน์ด้วย แต่ประชาชนคนไทยที่ถูกศึกษาส่วนใหญ่หรือร้อยละ 68.5 ยัง "ยอมรับ" รัฐบาลทุจริตได้ ถ้าตนเองได้รับผลประโยชน์ด้วย แม้จะมีการสัมภาษณ์เพิ่มเติมว่า จริงๆ ที่ยอมรับรัฐทุจริต ก็เพราะกลัวจะเดือดร้อน เพราะคนที่ทุจริตยังมีหน้ามีตาในสังคมได้ แต่ไม่มีหน่วยงานรัฐใดให้การคุ้มครองคนที่ออกมาเปิดโปงขบวนการทุจริตคอรัปชั่นได้จริงเลย เป็นประเด็นที่น่าสนใจ แต่นี่ก็ทำให้เห็นว่า คนไทยกลับมองเรื่องโกงต่างๆ เป็นเรื่องธรรมดาของสังคมไปแล้วจริงๆ 

                    

"ไม่ทิ้งขยะเรี่ยราด ไม่มีที่ทิ้งก็ถือไว้จนกว่าจะหาที่ทิ้งได้ เจอคนอื่นทิ้งไม่ถูกที่ ก็อย่าทำตาม ไม่ยอมให้ใครแซงคิว และก็ไม่ควรให้เพื่อนแทรกเราด้วย อย่าให้คนข้างหลังที่ทำตามกติกาเสียประโยชน์ เพราะหากเป็นเราบ้าง เราคงโมโหเช่นกัน"

                พี่เกียรติก็เป็นคนไทย เกิดและใช้ชีวิตในไทย พี่เกียรติก็ไท๊ไทย ใครมาว่าก็โกรธเหมือนกัน แต่เราไม่ควรจะมองเพียงด้านเดียวของเรา อะไรที่เขาติ เราก็ควรรับฟัง คิดและมันแก้ไขให้ดี เรามาเป็นคนไท๊ไทย เพราะเรารักชาติไทย ดีกว่าให้ใครมาด่าเราว่าไอคนไทย แบบมีนัยประชดประชันไปทางลบดีกว่านะ

       เรามีดีในเรื่องการยอมรับความแตกต่าง มีความอ่อนน้อมถ่อมตน ยิ้มแย้มแจ่มใสอยู่แล้ว เพิ่มความมีวินัยขึ้นอีกให้ติดเป็นนิสัย เป็นค่านิยม จะช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือเราด้วยอีกหลายเรื่อง เราจะได้ยืนในเวทีอาเซียนได้อย่างสวยงามแน่นอนจ้า

แหล่งข้อมูล: