1. ฮอยอัน ประเทศเวียดนาม
ฮอยอันเป็นเมืองเล็กๆ น่ารัก(มากกก)ตั้งอยู่ทางตอนกลางของเวียดนาม ซึ่งคนไทยจะนิยมไปเที่ยวเวียดนามกลางกันทางรถ โดยขับออกทางภาคอีสาน ผ่านลาว แล้วจะเข้าทางเวียดนามกลางได้พอดี เพราะปัจจุบันยังไม่มีเที่ยวบินบินตรงจากเมืองไทยไปยังเวียดนามกลาง(แต่แว่วว่าจะมีเปิดในเร็วๆ นี้)
โดยรอบนอก ฮอยอันก็เหมือนเมืองอื่นๆ ทั่วไป แต่หากเราเดินมาถึง "ตัวเมืองเก่า" แล้ว ขอบอกเลยว่าทุกสิ่งดีงามมาก เค้าจะกั้นเขตไว้ไม่ให้รถยนต์หรือมอเตอร์ไซค์เข้า เพราะตัวเมืองเก่าของฮอยอันถือเป็นมรดกโลก อนุญาตเฉพาะจักรยานและคนเดินเท้าเท่านั้น บ้านบริเวณตัวเมืองเก่าจะเป็นสีเหลืองแทบทุกหลัง ไฮไลต์เลยคือ "โคมไฟ" ถือเป็นเอกลักษณ์ของที่นี่ ทุกมุมของตัวเมืองเก่าจะมีโคมไฟเต็มไปหมด พอตกค่ำก็จะเปิดไฟจากโคมไฟให้แสงสว่างทั้งเมือง สวยมากจริงๆ ถ้าเห็นกับตาคือมีกรีดร้องกันแน่นอน เพราะมันสวยมากกกกกกก ถือเป็นของฝากขึ้นชื่อด้วย
การเดินทาง ถ้านั่งเครื่องบินจากไทย ให้นั่งไปลงที่เมืองโฮจิมินห์ซิตี้ จากนั้นนั่งสายการบินในประเทศจากโฮจิมินห์ซิตี้ไปลงที่เมืองดานัง ต่อรถยนต์อีก 40 นาทีถึงฮอยอัน อย่างที่พี่เคยจองได้ จากกรุงเทพ-โฮจิมินห์ ไปกลับอยู่ที่ 2 พันหน่อยๆ ส่วนจากโฮจิมินห์-ดานัง ไปกลับอยู่ที่ 8 ร้อยบาทจ้าาา
2. บาหลี ประเทศอินโดนีเซีย
บาหลีเป็นจังหวัดหนึ่งของประเทศอินโดนีเซีย มีลักษณะเป็นเกาะขนาดค่อนข้างใหญ่ โดยใหญ่กว่ากรุงเทพ 3-4 เท่า ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 ชั่วโมงโดยเครื่องบินจากเมืองไทย บนเกาะบาหลีจะมี 2 โซนที่ดังๆ ได้แก่
- อูบุด อารมณ์เหมือนถนนคนเดินชิลล์ๆ สปา ร้านอาหาร ทุ่งนาสีเขียว ร้านกาแฟน่ารักๆ อยู่เต็มพื้นที่
นักท่องเที่ยวที่มีเวลาไม่มากจะนิยมเที่ยวอูบุด 2 วัน และ คูต้าอีก 2 วัน เป็นสถานที่ที่เหมาะแก่การพักผ่อนหย่อนใจ ค่าครองชีพไม่แพง ค่าที่พักก็ถูก บางคนมาอยู่เป็นเดือนๆ เลยก็มี เพราะติดในใจความชิลล์ของที่นี่ คือมันชิลล์จริงๆ ดีงามมาก เป็นอีกที่ที่แนะนำ นอกจากนี้ยังมีวัดของศาสนาฮินดูอยู่เยอะมากกกกทั้งเกาะ ใครอยากชมพิธีกรรมทางศาสนาฮินดูล่ะก็ บอกเลยว่าหาดูได้ทุกวัน
การเดินทาง สายการบินยอดนิยมที่สุดสำหรับเส้นทางนี้คือแอร์เอเชีย ค่าตั๋วเครื่องบินไปกลับอยู่ที่ประมาณ 5-7 พันบาท
3. ย่างกุ้ง ประเทศพม่า
หลายคนเห็นชื่อประเทศพม่าแล้วอาจจะเบือนหน้านี้ ประมาณว่ายังล้าหลัง ไม่เห็นมีอะไรน่าเที่ยว บอกเลยว่าคิดผิดชะมัด อย่างพี่เองก็คิดมาตลอดว่าตัวเองน่าจะชอบเที่ยวอะไรที่ศิวิไลซ์เจริญแล้ว แต่ "พม่า" เป็นที่แรกที่ทำให้เรารู้สึกว่า การเที่ยวอะไรแบบ local นี่มันก็สนุกดีนะ ได้อารมณ์ไปอีกแบบ
ปัจจุบันพม่าเปิดประเทศมากขึ้นและยินดีต้อนรับนักท่องเที่ยวมากขึ้น ย้อนไป 10 ปีก่อน การจะหาหนังสือไกด์บุ๊กที่เขียนเกี่ยวกับพม่านั้นหายากมากกกก แต่ไปตามร้านหนังสือตอนนี้สิ หนังสือเที่ยวพม่ามีเป็นลังเลย เริ่มต้นก็ต้องที่เมืองใหญ่อย่าง "ย่างกุ้ง" ถึงจะเป็นเมืองที่เจริญสุดของประเทศแล้ว แต่รวมๆ แล้วหลายจังหวัดในบ้านเราก็ดูจะเจริญกว่าย่างกุ้ง แต่นี่ไม่ใช่ประเด็นที่จะเล่า
เพราะเสน่ห์ของพม่านั้นอยู่ที่ความน่ารักของผู้คน คนใจดี มีน้ำใจ พร้อมจะช่วยเหลือนักท่องเที่ยว ที่สำคัญขาดไม่ได้เลยคือ "การไหว้พระ" คนที่นี่นิยมเข้าวัดมากกกก เข้ากันแบบจริงจังสุดๆ อย่างเราที่ไม่ค่อยได้เข้าวัด พอได้ไปนั่งไหว้พระบริเวณเจดีย์ชเวดากองซึ่งมีคนพม่ามานั่งสมาธิและสวดมนต์หลายร้อยคน ยังแอบอินตามไปด้วยเลยว่า ความเลื่อมใสในศาสนาของคนพม่าที่ยิ่งใหญ่มากจริงๆ นะ
การเดินทาง บินตรงจากไทยไปพม่าใช้เวลาชั่วโมงกว่าเท่านั้น ค่าตั๋วเครื่องบินก็ถูกมาก ไปกลับอยู่ที่ 2-3 พันบาทเท่านั้น แต่ปัจจุบันการเข้าพม่ายังต้องใช้วีซ่าท่องเที่ยว ค่าทำวีซ่าอยู่ที่พันกว่าบาท แถมยังไม่มีวีซ่าท่องเที่ยวแบบ multiple(เข้าออกได้หลายครั้ง) จะไปทีก็ต้องไปทำวีซ่าท่องเที่ยวที หากต่อไปพม่ายกเลิกวีซ่าท่องเที่ยวล่ะก็ คนไทยคงไปพม่าเยอะกว่านี้หลายเท่าแน่ๆ
4. มะละกา ประเทศมาเลเซีย
ถ้าพูดถึงมาเลเซีย หลายคนคงนึกถึงเมืองหลวงอย่างกัวลาลัมเปอร์ แต่ส่วนตัวแล้วคิดว่ากัวลาลัมเปอร์ไม่ค่อยน่ารักเท่าไหร่ เพราะรถติดแบบวินาศสันตะโร กรุงเทพมีอายเลยล่ะ ดังนั้นขอพูดถึง "มะละกา" แต่เดิมเมืองนี้เป็นเส้นทางเดินเรือค้าขายกับชาติตะวันตก และยังเคยเป็นเมืองขึ้นของทั้งโปรตุเกส เนเธอร์แลนด์ และอังกฤษ สถาปัตยกรรมในเมืองนี้เลยมีกลิ่นอายตะวันตกหน่อยๆ จึงได้รับการลงทะเบียนให้เป็นมรดกโลก
ความน่ารักของเมืองนี้น่าจะอยู่ที่การเป็นเมืองเล็กๆ เหมาะแก่การเดินเล่น ใจกลางเมืองมีให้ล่องเรือชมบ้านเมือง หรือจะนั่งสามล้อเที่ยวก็ได้ โดยสามล้อของมะละกามีจุดเด่นคือต้องมีดอกไม้ประดับเยอะๆ มีถนนเส้นเล็กๆ คล้ายๆ ถนนคนเดินที่มีร้านขายของน่ารักๆ และของกินเยอะมากๆ เหมาะแก่การเดินเล่นชิลล์เวอร์ๆ แนะนำเลย
การเดินทาง จากกัวลาลัมเปอร์ ค่ารถบัสไปมะละกาอยู่ที่ประมาณ 10 ริงกิตหรือ 100 บาทต่อเที่ยว ใช้เวลา 2 ชั่วโมง
5. วังเวียง ประเทศลาว
วังเวียง เป็นเมืองที่อยู่ห่างจากเวียงจันทน์ เมืองหลวงของลาวประมาณ 4 ชั่วโมงโดยรถยนต์ เป็นอีกจุดหมายปลายทางของเหล่าแบ็คแพ็คเกอร์ที่อยากจะพักอยู่กับธรรมชาติ ริมแม่น้ำซอง ชมวิวภูเขา ชีวิตแบบเรียบง่าย ไม่รีบเร่ง แถมยังไม่มีปัญหาเรื่องภาษา เพราะสามารถใช้ภาษาไทยสื่อสารได้ตามปกติ+ใช้เงินบาทไทยได้อีกด้วย
กิจกรรมไฮไลต์ที่นักท่องเที่ยวต้องไม่พลาดคือการพายเรือคายักในแม่น้ำซอง หรือนอนลอยไปกับห่วงยาง ล่องตามสายน้ำไปเรื่อยๆ โดยเฉพาะที่ "บลูลากูน" เป็นลำน้ำเล็กๆ ที่ใสมากและมีสีฟ้าสมชื่อ นักท่องเที่ยวนิยมมากระโดดน้ำโชว์เหนือกันแถวๆ นี้ ให้อารมณ์ย้อนวัยไปสมัยเด็กๆ เหมือนในหนังแฟนฉันยังไงก็ไม่รู้ ทั้งๆ ที่บลูลากูนนี่อยู่ไกลจากตัวเมืองวังเวียงมากเหมือนกัน แต่หลายคนก็ยอมขี่มอเตอร์ไซค์ฝ่าถนนลูกรังเพื่อมากระโดดน้ำที่บลูลากูน คิดดูสิว่าน่าจะเจ๋งแค่ไหน
การเดินทาง นั่งเครื่องบินไปลงที่อุดรธานี จากนั้นนั่งรถไปบขส. ต่อรถทัวร์สายอุดร-หนองคาย-วังเวียง ค่ารถเที่ยวละ 300 กว่าบาท มีรถวันละเที่ยวเท่านั้นคือรอบ 8 โมงครึ่ง ใช้เวลาเดินทาง 8 ชั่วโมง
6. ซาปา ประเทศเวียดนาม
ซาปา เป็นเมืองที่อยู่ทางเหนือของเวียดนาม อยู่ไม่ไกลจากพรมแดนเวียดนาม-จีน ด้วยความที่เป็นเมืองทางเหนือและอยู่บนเขา อากาศจึงเย็นสบายแทบตลอดทั้งปี ยิ่งช่วงตุลาคม-มีนาคมคือหนาวมากกกก ถ้าใครดวงดีอาจเจอแจ็กพ็อตเพราะบางทีก็มีหิมะตกในช่วงเดือนมกราคมด้วยนะเออ!! น่าจะเป็นที่เดียวในอาเซียนล่ะมั้งที่มีหิมะให้เราชม
ในอดีตเมืองนี้เป็นเมืองที่เจ้านายชั้นสูงของฝรั่งเศสเข้ามาพักอาศัยในช่วงที่ฝรั่งเศสยึดครองเวียดนาม มองเผินๆ จึงแอบเหมือนเมืองตากอากาศของฝรั่งเศสอยู่ไม่เบา คนที่มาเที่ยวที่นี่นิยมเดินชมชีวิตของผู้คนตามหมู่บ้าน เดินชมนาขั้นบันได สัมผัสความหนาวเย็นแบบสุดขั้ว เรียกว่าใครชอบอากาศหนาวจัดๆ ควรมาซาปาซักครั้ง แต่อาจจะเดินทางลำบากนิดนึง เพราะมาได้ทางเดียวคือทางรถไฟเท่านั้น ส่วนในอนาคตแว่วว่ากำลังสร้างสนามบินอยู่ อีกประมาณเกือบ 10 ปีน่าจะเสร็จ
การเดินทาง จากเมืองไทยนั่งเครื่องบินไปลงที่เมืองฮานอย ค่าตั๋วเครื่องบินไปกลับ 2-3 พันบาท จากนั้นนั่งรถไฟไปลงสถานีลาวไก ค่ารถไฟไปกลับอยู่ที่ประมาณ 2,000 กว่าๆ แล้วต่อรถไปซาปาอีก 1 ชั่วโมง
7. มัณฑะเลย์ ประเทศพม่า
และที่ไม่ควรพลาดคือ สะพานอูเบ็ง ซึ่งเป็นสะพานไม้ที่ยาวที่สุดในโลก ยาวกว่า 2 กิโลเมตร ข้ามทะเสลสาปตองตะมาน โดยไม้ที่นำมาสร้างนั้นมาจากไม้สักที่รื้อจากวังเก่า ระหว่างที่เดินข้ามสะพานนี้ก็จะได้เห็นวิถีชีวิตของคนพม่า ทั้งพระสงฆ์ที่เดินกันขวักไขว่นับร้อยๆ รูป หรือจะเป็นเด็กน้อยปะแป้งทะนาคากระโดดน้ำกับเพื่อน ก็ถือว่าได้บรรยากาศสบายๆ ไปอีกแบบ
การเดินทาง ปัจจุบันมีเที่ยวบินบินตรงจากกรุงเทพไปยังมัณฑะเลย์โดยสารการบินแอร์เอเชีย ค่าตั๋วเครื่องบินไปกลับประมาณ 2-3 พันบาท และแน่นอนว่าเข้าพม่าต้องทำวีซ่าก่อนนะ
8. หลวงพระบาง ประเทศลาว
หากไม่พูดถึงเมือง "หลวงพระบาง" อีกหนึ่งเมืองมรดกโลก คงต้องมีเสียงท้วงมาแน่ๆ ว่ากันว่าที่นี่คือที่สุดของ Slow Life หรือชีวิตที่ดำเนินไปช้าๆ อย่างเรียบง่ายและสงบ เหมาะแก่การพักผ่อนสูดอากาศบริสุทธิ์ให้ปอดได้หายใจแบบสบายๆ ไม่มีตึกสูงกวนใจที่จะมาทำลายวัฒนธรรมดั้งเดิม แวะไหว้พระ ชมวัดเซียงทอง อยู่กับธรรมชาติ ล่องเรือ ชมแม่น้ำ วิถีชาวบ้าน ซื้อของที่ตลาดมืด และที่พลาดไม่ได้เลยคือตื่นแต่เช้าเพื่อมาใส่บาตรข้าวเหนียวตามวิถีชาวหลวงพระบาง
การเดินทาง วิธีที่สะดวกที่สุด(แต่แพง)คือนั่งเครื่องบินจากกรุงเทพไปลงสนามบินหลวงพระบาง สายการบินยอดนิยมคือบางกอกแอร์เวย์ ไปกลับขั้นต่ำอยู่ที่ 8 พันบาท หากจะไปทางรถยนต์ จากเวียงจันทน์ถึงหลวงพระบางใช้เวลาเกือบ 10 ชั่วโมง ค่ารถเที่ยวละไม่เกิน 500 บาท แต่ไม่เหมาะกับคนที่ขี้เมารถ เพราะถนนยังไม่ค่อยดีเท่าไหร่
9. สุราบายา ประเทศอินโดนีเซีย
สุราบายา เมืองนี้เป็นเมืองใหญ่อันดับที่สองของประเทศอินโดนีเซียที่นักท่องเที่ยวหลายคนใฝ่ฝันอยากจะมาเห็น "ภูเขาไฟโบรโม่" ซึ่งเป็นภูเขาไฟที่ยังไม่ดับและเราสามารถเดินขึ้นไปชมได้ใกล้ๆ ถึงปากปล่องภูเขาไฟ โดยภูเขาไฟนี้อยู่ที่หมู่บ้านเซโมโรลาวัง ซึ่งอยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเลกว่า 2,200 เมตร ทำให้มีอากาศเย็นตลอดปีแบบไม่ต้องเปิดแอร์กันเลย นักท่องเที่ยวจะต้องตื่นแต่ตี 3-4 ขึ้นรถจิ๊บเพื่อไปชมพระอาทิตย์ขึ้นที่ภูเขาไฟ จากนั้นต้องเดินอีกเป็นระยะทางกว่า 2 กิโลเมตร ใครใคร่เดินไหวก็เดิน ใครเดินไม่ไหวก็มีบริการให้ขี่ม้าผ่านผืนทรายสีดำ ให้อารมณ์เหมือนกำลังผจญภัยอยู่ในนิยายเลยล่ะ
อีกที่ในสุราบายาที่ห้ามพลาดคือ "น้ำตกมาดาคารีปูรา" ที่อยู่ในป่าท้ายหุบเขาลึกและต้องแอบลุยน้ำเบาๆ เพื่อเข้าไปสัมผัสของจริงอย่างใกล้ชิด หลายคนยกนิ้วให้เลยว่าสวยและอลังการกว่าน้ำตกหลายแห่งในยุโรปซะอีกนะ
การเดินทาง สายการบินยอดนิยมสำหรับเส้นทางนี้คือแอร์เอเชีย ไปกลับอยู่ที่ประมาณ 7-9 พันบาท หากจะไปชมภูเขาไฟโบรโม่ ให้นั่งรถไปลงที่หมู่บ้านเซโมโรลาวัง ห่างจากสุราบายาประมาณ 3-4 ชั่วโมง
ภาพประกอบ : buffalotourstravelblog.files.wordpress.com/,travelnoire.com/,
davidrichler.com/,baligreentour.com/,media.expedia.com/,myanmartours.us/,
myanmarlandscape.com,malaysia-asia.com,laosvisitorsguide.com/,lostearthadventures.co.uk,
indochinatravelservice.com/,meracushotels.com/,heybrian.com,media.audleytravel.com/
52 ความคิดเห็น
อยากไปหลวงพระบางมากที่สุด เพราะเป็นเมืองที่สงบมีความเรียบง่ายและธรรมชาติที่สวยงาม สำหรับคนที่เหนื่อยจากการทำงาน เรียน หรือการใช้ชีวิตประจำวันถ้าได้มาพักผ่อนจะให้ความรู้สึกที่ผ่อนคลายและมีกำลังใจในการทำงานต่อไป แล้วยังเป็นเมืองที่คงวัฒนธรรมความเป็นอยู่ดั้งเดิมไว้
อีเมล์ : pingpunza@hotmail.com
อยากไปบาหลีค่ะ สวยดี
e-mail: xber.oh@gmail.com
อยากไปฮอยอัน ประเทศเวียดนาม ขอร้าบบบ
โดยส่วนตัวชอบทานอาหารเวียดนามค่ะ เพราะผักเยอะดี ดูสะอาด ฮ่าๆ อยากลองไปสัมผัสวัฒนธรรมคนเวียดนาม ได้สูดอากาศที่นู่นคงจะดี ผู้คนดูอัธยาศัยดีแล้วก็ยังหลงเหลือกลิ่นอายของความเป็นชาวบ้านเวียดนามแท้ๆ ค่าครองชีพไม่แพงเว่อๆ คาดว่าคนคงไปเยอะ อยากเห็นโคมไฟตอนกลางคืนด้วยค่ะ อารมณ์คงโรแมนติกเนอะถ้าได้ไปยืนท่ามกลางแสงไฟ อร๊าย >< //มโน
Email : Sumerdreamno.2@gmail.com
เคยไปหลวงพระบาง กับวังเวียง มันมาก ๆ เลยครับ
ส่วนตัวประทับใจที่วังเวียงมากกว่า
เพราะคนที่วังเวียงใจดีมากครับ ทั้งนักท่องเที่ยว และคนในพื้นที่
อยากไปวังเวียงประเทศลาว เพราะค่าเดินทางไม่แพงจนเกินไปวัยรุ่นอย่างเราเก็บเงินไปเองได้ ที่สำคัญใกล้บ้านด้วย อันที่จริงอยากไปเวียดนามด้วย เพราะ ตอนนี้มีพื้นฐานภาษาเวียดนามกับลาวด้วย เคยเรียนภาษาลาวมาสองปี และตอนนี้กำลังเรียนภาษาเวียดนามอยู่ E-mail sirilux.srisen.55@gmail.com
ง๊ะ แล้วของไทยไม่เห็นมีเลย
หนังสือชุดภาษาอาเซียนมีแล้วเน้อ
เคยมีละครช่อง 3 เรื่องนึงไปถ่ายทำที่เมืองฮอยอัน ประเทศเวียดนามด้วย
เรื่อง ฮอยอัน ฉันรักเธอ มีพี่แดน D2B เล่นเป็นพระเอก
อยากไป ' ซาปา ประเทศเวียดนาม ' ค่ะ
เหตุผลก็เพราะเป็นคนขี้ร้อนค่ะ ถ้าอยากไปเที่ยวก็ขอสถานที่เย็นสบายๆ
หรือถึงขั้นหนาวเลยยิ่งดี แถมที่นั่นดูเป็นสถานที่ๆเงียบสงบ เหมาะแก่การพักผ่อนที่สุดค่ะ
E-mail : sara.kpopforever@gmail.com
อยากไปฮอยอัน ประเทศเวียดนามมากที่สุดค่ะ เพราะไม่ค่อนชอบรถราที่ขวักไขว่ไปตามท้องถนนสักเท่าใหร่ อยากไปสำผัสเมืองที่มีแต่รถจักยาน(ที่ไม่มีมลพิษ) บ้างสักครั้งเหมือนกันค่ะ
G-mail: wannporn@hotmail.com :: hot-mail:vannpr_tam44@hotmail.com
อยากไป มัณฑะเลย์ ประเทศพม่า ค่ะ
เพราะว่า ดูสงบและก็ได้สัมผัสถึงวิถีชีวิตที่สงบและเรียบง่ายของคนพม่า บรรยากาศก็ดูเป็นเมืองเก่าที่โอบล้อมด้วยธรรมชาติ แบบว่าธรรมชาติจริงๆ คงจะRelexสุดๆ ถ้าได้ไปเที่ยวที่นี่
E-mail : Kanchana.perth@gmail.com
อยากไปหลวงพระบางค่ะ เพราะวัฒนธรรม ธรรมชาติ และวิถีชีวิต ดูน่าหลงใหลและดูเหมาะแก่การเดินกินลมชมวิว แต่เอาจริงๆก็อยากไปทุกๆที่ค่ะ
Email : nantichagam@gmail.com
มัณฑะเลย์ค่ะ!! มัณฑะเลย์เท่านั้น!! ต้องมัณฑะเลยยยยย์!!! #กรีดร้องให้ดังไปพม่า
คือเป็นประเทศในอาเซียนที่อยากไปเที่ยว ไปสัมผัส ไปลองสูดอากาศ(?)ที่นั่นมากที่สุดแล้วค่ะ (ที่สองคืออินโดนีเซีย-- มายเดียร์บาหลีที่เลิฟ ฮรอล <3 )
มันเริ่มจากการหาข้อมูลทำรายงานส่งครูธรรมดาเนี่ยแหละค่ะ (แล้วเราก็มีเพื่อนคนนึงที่เป็นติ่งพม่าขั้นรุนแรง มันก็ไซโคเราบ่อยนะ แต่ที่ทำให้เพ้อถึงพม่าได้ทั้งวันอย่างนี้นี่เพราะไซโคตัวเองเป็นส่วนใหญ่ ถถถถ) แล้วคือเราเป็นพวกที่จะทำอะไรต้องทำให้สุด หาข้อมูลให้เยอะ อ่านๆๆ มันเข้าไป ดูๆๆๆ มันเข้าไปเรื่อยๆ ก็รู้สึกถึงอะไรที่มากกว่าแค่คำว่า 'สวย' มันคือ...คือ... แบบ-- มันเป็นความขลังอ่ะค่ะ ขลังในบรรยากาศ ในความศรัทธาที่เขามีให้พุทธศาสนาได้ถึงขนาดนี้ ขนาดว่าโดนมองโกลเผาเสียราบ โดนญี่ปุ่นบุกตอนสงครามโลกครั้งที่สอง โดนสารพัดสารเพ ยังเหลือรอดมาได้ถึงทุกวันนี้อ่ะค่ะ อเมซิ่งชิ่งปลาดุกส์ ฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟ
//มันทำให้เรารู้สึกจริงๆนะว่าศรัทธาทำอะไรที่ยิ่งใหญ่เหนือกาลเวลาได้ ซาบซึ้งแทบเข้าขั้นติ่งเมียนมาร์
อีกอย่างที่ทำให้เราอยากไปพม่าคือเขา.... ไม่ใช่แค่ประเทศที่ติดทะเลล่ะคะ แต่สำหรับเรานี่เขาเป็นทะเลทั้งประเทศเลยค่ะ --- ทะเลเจดีย์ 55555555 //มองไปทางไหนก็มีแต่เจดีย์ เจดีย์ เจดีย์ โว้ววววววว อยากลองย้อนเวลากลับไปสมัยที่ยังไม่โดนทำลายมาก มันจะอร่ามอลังการล้านแปดขนาดไหน ขนาดทุกวันนี้เหลือแค่ซากยังรู้สึกได้ถึงความอลังการเลย ถถถถ
เอ้อ ที่อยากลองอีกอย่างถ้าได้ไปมัณฑะเลย์คือไปเดินเล่นตอนกลางคืนที่นั่นค่ะ ฟฟฟฟฟฟฟ!!!!! จะท่ามกลางแสงไฟ แสงจันทร์ หรือคืนเดือนมืดก็อยากไปค่ะ ซีเรียสมาก จริงจังมากๆ ฟหดกหฟกฟ --- อยากไปซึมซับบรรยากาศที่นั่น ในตอนนั้น อารมณ์นั้น มันจะฟิน(?)อย่างที่ใจเคยคิด หรือจะหลอนกับเงามืดๆ ทึมๆ ของเจดีย์เป็นร้อยมากกว่า 5555555555 #เป้าหมายมีไว้พุ่งชน #ความหลอนมีไว้ท้าทาย
เอ่อ... ถ้าการพรั่นเบื้องต้นนั่นทำใครผวาหวาดกลัว(??)เราก็ขออภัยนะคะ นานๆ ทีเราจะได้ปล่อยความติ่งที่ไม่ใช่แค่กับคนวงใน กะอารมณ์ไม่ถูก 555555
E-mail : junjang9840@hotmail.com
อยากไปฮอยอัน กับบาหลีอ่ะ โอ่ยย ต่อมความอยากเพิ่มขึ้นอีกละ #มองรายการที่ลิสต์จะเที่ยวแล้วปาดเหงื่อเก็บเงินอีกละ