ทุกวันนี้อินเทอร์เน็ตกลายเป็นปัจจัยที่ห้าของคนเราไปเสียแล้ว โดยเฉพาะสื่อโซเชียลต่างๆ ในอินเทอร์เน็ต ข้อดีของมันคือข้อมูลที่ฉับไว แพร่กระจายอย่างรวดเร็ว ข้อเสียก็คือบางคนใช้มันเป็นเครื่องมือในการทำร้ายคนอื่น
เดี๋ยวนี้เราเกลียดใครเราไม่เดินไปต่อยหน้าคนนั้นแล้ว เราใช้อินเทอร์เน็ตทำร้ายคนๆ นั้นแทน เขาเรียกวิธีการทำร้ายคนแบบนี้ว่า Cyber Bullying (ไซเบอร์ บัลลีอิง) ไม่ว่าจะเป็นการส่งข้อความคุกคามทางเฟซบุ๊ก เอาภาพที่เราโพสต์ไปใส่ข้อมูลบิดเบือนเพื่อให้คนแชร์ไปเยอะๆ เชื่อไหมคะว่าการกระทำแบบนี้ทำลายชีวิตคนมานักต่อนักแล้ว
อแมนด้า ท็อดด์เป็นเหยื่อคนหนึ่งของ Cyber Bullying ค่ะ และถ้าเธอยังมีชีวิตอยู่ ปีนี้จะเป็นปีที่เธอบรรลุนิติภาวะ
youtube.com
เรื่องของเธออาจจะยาวหน่อย แต่พี่น้องอยากให้ชาวเด็กดีได้อ่านกันเพื่อเป็นอุทาหรณ์ค่ะ
ความคึกคะนองชั่ววูบ
ย้อนกลับไปเมื่อปลายปี 2009 อแมนด้าอายุได้ 14 ปี ตอนนั้นเธออาศัยอยู่กับพ่อที่แคนาดา และเริ่มใช้อินเทอร์เน็ตค่ะ ก็เหมือนวัยรุ่นทั่วไปที่หลงใหลในโลกออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็นการได้แชทกับคนที่เธอไม่เคยรู้จักมาก่อน หรือการอัพโหลดรูปภาพ คลิปวิดีโอที่เธอร้องเพลงลงอินเทอร์เน็ต ทำให้เธอมีความมั่นใจในตัวเองมากขึ้น
thinglink.com
แต่แล้ววันหนึ่งเธอก็ได้พบกับผู้ชายที่เข้ามาทำลายชีวิตเธอ เขาขอให้เธอถอดเสื้อโชว์อกผ่านกล้อง และเธอตกลงทำตามโดยหารู้ไม่ว่าเขาแอบเก็บคลิปตอนนั้นและแคปภาพเอาไว้ เพื่อแบล็กเมลเธอทีหลัง
ฝันร้ายที่ตามหลอกหลอน
คริสต์มาสปี 2010 เธอได้รับแจ้งจากตำรวจตอนตีสี่ว่ามีคนเอาภาพเปลือยอกของเธอไปเผยแพร่ในอินเทอร์เน็ต เพื่อนๆ ที่โรงเรียนพากันล้อเลียนเธอ ต่อว่าเธอ ทำให้เธอต้องย้ายบ้านและย้ายโรงเรียนในที่สุด
แต่อีกหนึ่งปีให้หลัง ผู้ชายคนนี้ก็สร้างแอคเคาท์ใหม่ในเฟซบุ๊กแล้วใช้รูปเปลือยของเธอเป็นรูปโปรไฟล์ ก่อนจะไปแอดเพื่อนๆ ในโรงเรียนใหม่ของอแมนด้า ทำให้เธอต้องประสบชะตากรรมซ้ำรอยเดิมอีก เธอถูกเพื่อนที่โรงเรียนทำร้ายร่างกาย จนทนไม่ได้และตัดสินใจฆ่าตัวตายในที่สุด แต่เธอรอดชีวิตมาได้
การกลั่นแกล้งไม่ได้เกิดจากผู้ชายที่มีภาพเปลือยของเธอเพียงคนเดียว แต่ยังรวมถึงคนอื่นที่คิดว่าเธอเป็นผู้หญิงไม่ดีด้วย แม้แต่ตอนที่เธอพยายามฆ่าตัวตาย พอเพื่อนที่โรงเรียนรู้ข่าว ทุกคนก็พูดคุยเรื่องนี้ในเฟซบุ๊กอย่างสนุกสนาน บางคนถึงกับบอกว่าเธอน่าจะลองอย่างอื่นจะได้ตายไปซะ
ไม่ว่าเธอจะย้ายโรงเรียนไปอีกกี่ครั้ง แต่ฝันร้ายก็ยังคงตามมาหลอกหลอนเธอเหมือนเดิม ผู้ชายปริศนาจะคอยแอดเพื่อนในเฟซบุ๊กคนใหม่ของเธอและส่งคลิปวิดีโอของอแมนด้าให้ ไม่เว้นแม้กระทั่งครูอาจารย์ อแมนด้าถึงกับต้องเข้ารับการบำบัดทางจิตเนื่องจากเธอเครียดหนัก แต่พอออกจากโรงพยาบาล เพื่อนที่โรงเรียนก็ล้อว่าเธอเป็นคนบ้าอีก
สองปีแห่งความทรมาน
สองปีที่อแมนด้าต้องทนอยู่กับวงจรเดิมๆ ย้ายโรงเรียน ย้ายบ้าน ถูกรังควาน เพื่อนล้อเลียน ย้ายโรงเรียน ฯลฯ เธอจึงทำวิดีโอคลิปขึ้นมาเพื่อเล่าเรื่องราวของเธอผ่านข้อความบนกระดาษ คุณแม่ของอแมนด้าบอกว่านี่ไม่ใช่วิดีโอสั่งเสีย เธอไม่ได้มีความคิดจะฆ่าตัวตายในขณะนั้น เธอยังโพสต์ข้อความว่าเธอรู้สึกดีขึ้นด้วยซ้ำที่ได้ระบายออกไป และเธอจะไปสักคำว่า "Stay Strong (จงเข้มแข็ง)" เพื่อเตือนให้เธอก้าวต่อไป
แต่อาจไม่ใช่ทุกคนที่ดูวิดีโอของอแมนด้าแล้วจะเห็นใจเธอ บางคนยังทำภาพล้อเลียนเธอเอาไปลงในเพจดังอย่าง 9GAG สุดท้ายความกดดันทำให้เธอตัดสินใจฆ่าตัวตายอีกครั้งในวันที่ 10 ตุลาคม 2012
และครั้งนี้เธอไม่มีโอกาสได้กลับมาเล่าความรู้สึกของเธอให้เราฟังอีก
วิดีโอของอแมนด้า
คลิปที่อแมนด้าอัพโหลดลงยูทูปมีคนเข้าชมกว่า 10 ล้านคนหลังจากที่เธอเสียชีวิตไม่กี่วัน แน่นอนว่าเมื่อมีคนตายจริง หลายคนย่อมรู้สึกผิด และรู้ว่าสายไปแล้วที่จะขอโทษเธอ แต่บางคนยังคงเอาความตายของเธอไปล้อเล่นและทำมุขตลกต่อไปโดยอ้างว่ามีคนอีกมากที่ฆ่าตัวตายด้วยเหตุผลดีกว่านี้ ทำไมเราต้องเห็นใจผู้หญิงที่โชว์นมให้ผู้ชายดูเองด้วย
พ่อของอแมนด้าตัดสินใจทำความต้องการของลูกสาวคนเดียวให้เป็นจริงด้วยการสักคำว่า Stay Strong ไว้ที่แขนของเขาเองเพื่อระลึกถึงอแมนด้าที่ต้องจากไปอย่างไม่มีวันกลับเพียงเพราะการกระทำที่รู้เท่าไม่ถึงการณ์ในวัย 14 ปี
ล่าผู้ร้าย
ความจริงแล้วตั้งแต่เกิดเรื่อง ครอบครัวของอแมนด้าไม่ได้นิ่งเฉย แต่แจ้งความกับตำรวจ และขอให้หาตัวผู้ร้ายให้ได้ แต่การหาตัวคนร้ายในโลกออนไลน์อันกว้างใหญ่ไม่ง่ายนัก เบื้องต้นตำรวจได้ให้อแมนด้าหยุดติดต่อกับคนร้าย ซึ่งในขณะนั้นอแมนด้าพยายามโต้ตอบกับคนร้ายและไม่ยอมให้เขาข่มขู่เธอได้
การตายของอแมนด้าช่วยกระพือไฟให้สังคมโซเชียลตื่นตัว ตำรวจได้รับรายงานจากเฟซบุ๊กว่าชายชื่อ Tyler Boo ที่ติดต่อกับอแมนด้าและเแบล็กเมลเธอนั้นโดนรีพอร์ทในข้อหากระทำอนาจารเด็กที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ แถมเขายังมีแอคเคาท์เฟซบุ๊กกว่า 80 ชื่อ มีผู้เสียหายแบบเดียวกับอแมนด้าเกือบร้อยคน
youtube.com
Anonymous กลุ่มแฮกเกอร์ปริศนา (ที่ตอนนี้กำลังมีประเด็นกับหน่วยงานในไทย) ก็ออกมาร่วมล่าตัวผู้กระทำผิดในครั้งนี้ด้วย แต่ดูเหมือนจะจับแพะ เพราะผู้ชายที่ Anonymous ได้ข้อมูลมาเคยคุยกับอแมนด้าจริง แต่ไม่ได้เป็นคนแบล็กเมลเธอ
หลังจากตามหาตัวอยู่นานจนถึงต้นปี 2014 ในที่สุดตำรวจก็พบตัวผู้ร้ายเป็นชายวัย 35 ปีอาศัยอยู่ที่เนเธอร์แลนด์ชื่อ ไอดิน โคบัน พร้อมหลักฐานว่าเขาก่ออาชญากรรมออนไลน์รังควานเด็กผู้หญิงไปทั่วโลก ทั้งในเนเธอร์แลนด์ อังกฤษ และอเมริกา
จากการสอบสวนเบื้องต้น โคบันปฏิเสธว่าไม่ได้เป็นคนแบล็กเมลอแมนด้า ท็อดด์ แต่คดีอื่นดิ้นไม่หลุด เขาถูกตัดสินโทษจำคุกสำหรับคดีที่ก่อในประเทศ แต่นอกประเทศนั้นต้องรอส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนเพื่อสืบสวนต่อไป
บทเรียนครั้งสำคัญ
ความจริงแล้วการตายของอแมนด้า ท็อดด์จะไม่เกิดขึ้นเลยถ้าทุกคนตระหนักถึงความร้ายแรงของการกลั่นแกล้งทางโลกโซเชียล หลายคนอาจคิดว่าก็แค่ด่าทอกันในเฟซบุ๊ก ทนไม่ได้ก็เลิกเล่นไป นี่แหละค่ะคือความน่ากลัวของโลกอินเทอร์เน็ต
เพราะทุกคนมองว่าโลกอินเทอร์เน็ตเหมือนเกมที่ถ้าเบื่อ ถ้าแพ้ก็แค่ออกจากเกม กลับมาอยู่กับโลกแห่งความจริง พอได้เข้ามาในเกม ทุกคนอยากจะเป็นอะไรก็ได้ อยากจะทำร้ายใครก็ได้จนเกินขอบเขต
ไม่ใช่แค่คนที่คอยกลั่นแกล้งคนอื่นเท่านั้นนะคะ คนที่สนับสนุนหรือคอยแชร์ข้อมูลผิดๆ ก็เช่นกัน กรณีของอแมนด้า ท็อดด์ก็ทำให้ชาวเน็ตถึงกับของขึ้น พอได้ข้อมูลจาก Anonymous ว่าใครเป็นคนแบล็กเมลเธอทุกคนก็กระหน่ำส่งข้อความไปตามเบอร์โทร โทรศัพท์ไปข่มขู่ โดยไม่รู้เลยว่าจริงๆ แล้วเขาไม่ใช่คนร้ายในคดีนี้ และคนที่รับโทรศัพท์ก็เป็นผู้หญิงคนหนึ่งที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่อะไรเลย
เราใช้ศาลออนไลน์ลงโทษคนนั้นคนนี้ โดยไม่ตระหนักก่อนว่าเขาผิดจริงหรือเปล่า และถ้าเขาผิดจริง วิธีการแบบนี้เหมาะสมแล้วหรือ? เราทำเพราะเราเห็นใจผู้เคราะห์ร้ายจริง หรือเราทำไปเพราะความสะใจส่วนตัวลองถามตัวเองดูค่ะ
โลกอินเทอร์เน็ตไม่ใช่แค่เกม มันเปลี่ยนชีวิตคนได้ กรณีของอแมนด้า ท็อดด์ทำให้คนทั่วโลกตื่นตัวและตระหนักว่าการกลั่นแกล้งในโลกไซเบอร์ไม่ใช่เรื่องเล็กๆ คนที่ประสบปัญหาแบบเดียวกับอแมนด้ายังมีอยู่มาก ขาดแค่สักคนที่จะเข้าใจสิ่งที่พวกเขาเผชิญอยู่เท่านั้นเอง
ใครเคยถูกกลั่นแกล้ง ไม่ว่าจะในโลกแห่งความจริงหรือโลกไซเบอร์ ก็มาแชร์ประสบการณ์หรือระบายความรู้สึกในกล่องคอมเมนต์ข้างล่างได้เลยค่ะ เพื่อนๆ ชาวเด็กดีทุกคนอยู่ข้างเราเสมอนะ
42 ความคิดเห็น
มันน่าสลดใจจริงๆ ค่ะ เรื่องแบบนี้ไม่ควรเกิดขึ้นเลย
รู้สึกสะเทือนใจที่อ่านข่าวนี้ค่ะ
และถือเป็นอุทาหรณ์สำหรับน้องๆที่กำลังอยู่ในวัยยุคโซเชียลเป็นอย่างดี
การใช้งานโลกออนไลน์มีทั้งผลดีและผลเสีย
ขึ้นชื่อว่าโลกแล้วแสดงว่ามันขยายผลออกไปกว้างเสมอ
น่าสงสารอแมนด้าและบุคคลที่ถูกเข้าใจผิดว่าเป็นผู้กระทำต่ออแมนด้า
เราก็ชอบทำนะ
แกล้งเอารูปของเพื่อนตอนฮาๆมาลงเฟส
แต่เราเล่นแบบเบาๆอ่ะ
แกล้งแค่พอให้อีกฝ่ายหัวเสีย แต่อีกฝ่ายก็หัวเราะด้วยตลอดนะ
อา...คนที่เอาไปล้อเลียนใน 9GAG นี่แย่มากเลยนะคะ เราเองก็เคยโดนแอบถ่ายภาพหลุดตอนอ้าปากหวอบ้าง หัวเราะบ้าง ยิ้มบ้าง ใครว่าผู้หญิงทุกคนยิ้มน่ารักคะ? สำหรับเรามันน่าเกลียดค่ะ เราเป็นคนขี้เหร่ แล้วพวกมันก็เอามาหัวเราะกัน แล้วบอกเราว่า 'นี่ขำๆ นะ' บางทีเอาไปโชว์ให้เพื่อนคนอื่นดู แล้วต้องมานั่งมองเขาหัวเราะภาพเรา อะไร? ตอนแรกเราก็ฮาๆ แหละค่ะ ตอนหลังชักไม่ชอบแล้ว มีครั้งนึงที่คุณพ่อเราไปทำงานแถวๆ ประเทศเพื่อนบ้าน เราเลยต้องมาเรียนลำบากหน่อย พอเล่าให้พวกเพื่อนฟังปุ๊บ นางก็บอกว่า 'พ่อแกไปขายตูดที่นั่นเหรอ?'
พูดบ้าอะไรออกมา? เราไม่ชอบ แล้วก็ตบท้ายด้วยคำว่า 'ขำๆ นะ' ทุกทีเลยค่ะ บางทีก็มาบอกว่าเราหน้าปลวก หนอนแทะ หน้าเหมือนอุกกาบาต บางทีมารยาทหน่อยตบท้ายด้วยคำว่า 'ขำๆ นะ'
'ขอโทษนะ เราว่าหน้าแกเหมือนมีปลวกมาแทะเลยอะ ขำๆ นะ'
//ชูนิ้วกลางรัวๆ
คนอื่นก็หัวเราะกันค่ะ แต่เรานั่งเงียบ จนมันบอกว่า 'ดูดิ เตยอารมณ์เสียแล้ว' แล้วก็ขำกันอีกค่ะ เราเลยถอนหายใจแรงๆ ทำหน้าเบื่อโลกแล้วหันเก้าอี้กลับมาค่ะ ไม่คุยกับพวกนั้นเลย ได้ยินพวกนั้นพูดกันว่าเราน่ะงี่เง่า เพื่อนหยอกนิดหยอกหน่อยก็โกรธแล้ว ก็เรื่องที่เอามาล้อปมด้อยคนอื่นน่ะมันน่าขำนักเหรอ?
คุณอแมนด้าอาจจะต้องกดดันจากหลายๆ อย่างค่ะ คนที่ทำนี่ก็เลวเกิน คือแบบ...กำลังจะเริ่มต้นชีวิตใหม่ก็มาทำให้มันพังพินาศอีก เขามีปัญหาทางจิต ปัญหาทางครอบครัว พ่อแม่ไม่รักหรือว่าอะไรคะ!?
เขียนดีัมากๆครับ มันทำให้เราตระหนักถึงคนอื่นได้มากจริงๆครับ
บางคนแค่เกรียน จนไม่คิดถึงผู้อื่น หรือ บางคนก็ทำลายคนอื่นไปเลยจริงๆ
แอบคิดถึงเรื่อง Miss A เหมือนกันครับ แต่เรื่องนี้เป็นอะไรที่สะเทือนขวัญมากๆครับ และเป็นอุทาหรณ์ให้เพื่อนมนุษย์ทุกคนได้ดี
เกือบ1ปี ตำรวจก็ยังไม่เลิกหา
เราคิดว่าในกรณีของอเมนด้านี้เพื่อนก็ทำเกินไปค่ะ เพราะถ้ามันมีเหตุการณ์นี้จริงๆคนเป็นเพื่อนควรจะให้กำลังใจมากกว่าซ้ำเติมและยังเอาไปเผยแพร่อีก เราก็โดนค่ะ โดนประจำ โดนทุกวันจนเหมือนตัวเองเป็นตัวตลกของเพื่อนเลยค่ะ โดนล้อ โดนว่า โดนนินทาทั้งต่อหน้าและลับหลัง
เราไม่ใช่คนสวย เรามีดีแค่เรียนเก่ง แล้วเราก็ชอบฝรั่งค่ะ
ทุกครั้งที่ไปเรียนเพื่อนจะชอบล้อท่าเดิน ชอบว่าท่ากิน ชอบว่าอะไรเราตรงๆ ว่าในที่สาธารณะแล้วก็เสียงดังด้วย
ที่เจอทุกวันคือ เราก็แค่อัพรูปลง เพื่อนก็จะมาว่า 'นี่สวยแล้วเหรอ? 55 ล้อเล่น'
คือมันทำให้เราหมดความมั่นใจจนไม่อยากจะโพสต์รูปลงเลยค่ะ แล้วก็เวลาคุยสไกป์กับฝรั่งแล้วเขาชมเราว่าน่ารัก(รูปร่าหน้าตาเราไปทางสเปคฝรั่ง)เพื่อนก็จะบอกว่า 'ฝรั่งตาต่ำ ดูยังไงว่าเราน่ารัก เราหน้าอย่างกับอะไรดี สู้คนนั้นคนนี้ก็ไม่ได้'
แล้วเวลาเราทำอะไรพลาดแล้วมันน่าอาย มันขายหน้าต่อหน้าเพื่อน พวกนั้นก็จะจำแล้วเอามาล้อเรา เอามาเล่าให้คนอื่นฟัง แล้วก็พูดๆอยู่อย่างนั้นแหละ อย่างตอนนั้นเราสะดุดล้มแล้วท่าล้มมันแย่มาก เพื่อนก็จะชอบแกล้งล้มแล้วก็ทำท่าเหมือนเรา เวลาเราเดินก็ชอบทำท่าเดินเหมือนเราแล้วหัวเราะ
แล้วเวลาเราคุย เราเมาท์มอย เราชอบว่าคนนั้นสวย คนนี้สวย แล้วเพื่อนก็จะพูดว่า 'ก็ใช่สิ ใครจะไปเหมือนเรา ดำก็ดำ ดั้งก็ไม่มี เตี้ยก็เตี้ย จะมีคนเอาไหม?'
คือแล้วเวลาเราโกรธก็ว่าเราล้อเล่นแค่นี้ก็โกรธ อย่าซีเรียสสิ
ก็เพื่อนมันไม่โดนแบบเรามันไม่รู้หรอก การโดนเอาปมด้อยมาล้อ เอามาแกล้งแบบนี้จะให้มีคามสุข จะให้ยิ้มใช่ไหม!!!?