มารู้จัก "สวาลบาร์ด" ดินแดนขั้วโลกเหนือที่มีหมีขาวมากกว่าคน!

    สวัสดีค่ะน้อง ชาว Dek-D.com เคยได้ยินชื่อ "สวาลบาร์ด" กันบ้างมั้ยคะ อาจเคยเห็นตามนิยายหรือหนังต่างๆ แต่เชื่อว่ายังมีหลายคนที่ยังไม่รู้จักดินแดนแห่งหมีขาวแห่งนี้แน่ๆ ว่าแต่ทำไมถึงเป็นดินแดนหมีขาวเหรอ? ถ้าสงสัย พี่นิทาน มีคำตอบให้ค่ะ

Photo credit : pixabay.com

    สวาลบาร์ด (Svalbard หากออกเสียงตามภาษานอร์เวย์คือ สวาลบาร์ เน้น ร.เรือ ชัดๆ ค่ะ) เป็นชื่อหมู่เกาะของนอร์เวย์ที่ตั้งอยู่กลางมหาสมุทรอาร์กติก อยู่กึ่งกลางระหว่างนอร์เวย์และขั้วโลกเหนือ มีประชากรทั้งหมดประมาณ 2,600 คน โดยมีลองเยียร์เบียน (Longyearbyen) เป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดและเป็นศูนย์กลางของสวาลบาร์ด

Photo credit : pixabay.com
 
    สวาลบาร์ดแบ่งออกเป็น 3 เกาะใหญ่ๆ คือ สปิตซ์เบอร์เกน, บีเยอร์เนอยา และโฮเปน เดิมทีสวาลบาร์ดไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งขอนอร์เวย์เลย แต่เคยใช้เป็นฐานล่าวาฬ, ทำเหมืองแร่ของรัสเซียในเขต Pyramiden, ศูนย์วิจัย และเป็นที่ๆ มีหลายๆ ชาติมาดูแล จนในปี ค.ศ. 1920 มีการจดสนธิสัญญาสวาลบาร์ดขึ้นและในปี ค.ศ. 1925 มีพระราชบัญญัติสวาลบาร์ดเป็นการรับรองว่าสวาลบาร์ดได้เป็นของนอร์เวย์แล้วค่ะ 

Photo credit : pixabay.com
   
      สวาลบาร์ดเป็นดินแดนแห่งขั้วโลกเหนือที่ไม่ได้ถูกบุกรุกหรือเสริมเติมแต่งให้กลายเป็น 'เมือง' อย่างประเทศอื่นๆ คือมีความเป็นขั้วโลกและมีธรรมชาติที่น่าค้นหา เป็นที่สนใจของนักเดินทางและนักวิทยาศาสตร์มากมาย ทั้งภูเขาหิมะลูกใหญ่ๆ ธารน้ำแข็งขนาดมหึมาสุดลูกหูลูกตา พื้นที่ปกคลุมไปด้วยหิมะ และอากาศที่เหน็บหนาวตลอดปี จึงถือว่าที่นี่เปรียบเหมือนสวรรค์ของนักผจญภัยอีกที่หนึ่งเลยค่ะ

    นอกจากนั้น สวาลบาร์ดยังเป็นที่ๆ รณรงค์รักษาระบบนิเวศของขั้วโลกให้คงอยู่เพื่อสิ่งมีชีวิตต่างๆ ที่นี่มีทะเลและแวดล้อมที่อุดมสมบูรณ์ถึงขนาดนกบางพันธุ์บินอพยพข้ามโลกมาเพื่อทำรังและอาศัยอยู่ หน้าผาที่กว้างใหญ่เต็มไปด้วยสุนัขจิ้งจอกขั้วโลกหรือแม้กระทั่งนกเพนกวินมากมายก็มาใช้เพื่อเป็นที่อยู่กัน 

Photo credit : pixabay.com
   
       นอกเหนือจากนั้น สวาลบาร์ดยังเป็นที่อยู่อาศัยของมวลมหาประชาหมีขาวที่มีจำนวนมากกว่าคนที่อาศัยอยู่ที่นี่เสียอีก!(หมีขาวมีทั้งหมดประมาณ 3,000 ตัว ในขณะที่ประชากรในสวาลบาร์ดมีประมาณ 2,600 คน) คนที่นี่ถูกปลูกฝังให้เคารพในความเป็นอยู่ของเหล่าหมีขาวทั้งหลาย จึงไม่แปลกหากจะเห็นหมีขาวอยู่ตามที่ต่างๆ ในสวาลบาร์ด

    แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่ได้ฟังดูน่ารักน่าเอ็นดูอย่างที่เราคิดนะคะ หมีขาวมีความดุร้ายและแข็งแรงมาก จึงทำให้ที่นี่มีกฏบังคับให้ใครก็ตามที่ต้องออกจากเขตเมืองให้พกปืนไรเฟิลไว้กับตัวไว้และตามที่ต่างๆ จะมีป้ายเตือนให้ระวังหมีขาว ถือว่าเป็นเรื่องธรรมดาของที่นี่ค่ะ (อาจดูแปลกตาสำหรับนักท่องเที่ยวเวลาเห็นพวกนักปีนเขาหรือนักเดินทางต้องแบกปืนไว้กับตัวด้วย)

 
Photo credit : pixabay.com
 
        การทำร้ายหรือล่าหมีขาวถือว่าเป็นสิ่งผิดกฏหมายที่นี่ และมนุษย์กับหมีขาวก็มีกฏคือไม่บุกรุกหรือทำร้ายกันและกันจึงทำให้ไม่ค่อยเกิดเหตุการณ์ร้ายๆ ขึ้นเท่าไหร่ ไม่ว่าหมีทำร้ายคน หรือคนทำร้ายหมี ทุกๆ คนที่มาเที่ยวจะมีที่ทางที่ปลอดภัยและเจ้าหน้าที่ระมัดระวังให้เสมอ ส่วนใหญ่เวลามาเที่ยวกันไม่ว่าจะเป็นกลุ่มหรือคนสองคนก็จะต้องมีไกด์ที่แข็งแรงและมีประสบการณ์ ไกด์จะพกปืนตลอดเวลาหรืออาจเป็นคบเพลิง และบางครั้งไกด์ก็จะพาสุนัขที่ฝึกฝนเพื่อป้องกันภัยมากับเราด้วยค่ะ

    หมีขาวไม่ว่าจะดุขนาดไหนแต่ถ้ามันได้ยินเสียงตะโกนดังๆ หรือเสียงสุนัขเห่าก็จะตกใจและอยู่ห่างๆ คน การถือปืนไรเฟิลเพื่อป้องกันตัวนั้นเป็นกฏของที่นี่ก็จริง แต่หากใครสักคนบังเอิญตกอยู่ในอันตรายถึงขั้นต้องชักปืนออกมายิงหมีนั้นหมายความว่าคนนั้นอาจไปบุกรุกถิ่นหมีขาวเข้า หรืออาจไม่ได้อยู่ในพื้นที่ที่มีการป้องกันไว้ก็ได้ค่ะ ดังเช่นเหตุการณ์ที่น่ากลัวที่เคยเกิดขึ้นเมื่อปี 2011 ค่ะ

Photo credit : pixabay.com
   
      เดือนสิงหาคม ปี 2011 หนึ่งในนักเรียนจากประเทศอังกฤษถูกหมีขาวทำร้ายจนเสียชีวิตระหว่างการตั้งแคมป์ในเขต Von Post ที่ห่างจากตัวเมืองลองเยียร์เบียนออกไป 40 กม. โดยมีนักเรียนอีก 4 คนได้รับบาดเจ็บ ภายหลังตำรวจได้เปิดเผยสาเหตุของโศกนาฏกรรมครั้งนี้ว่าหัวหน้าทริปนี้มีปืนแต่ปืนเกิดติดขัดทำให้ไม่สามารถยิงออกไปได้ทันการ

    นอกจากนั้นคือการจะไปตั้งแคมป์นอกเขตป้องกันหรือเขตในเมืองนั้นหัวหน้าทริปควรแจ้งให้เจ้าหน้าที่เฝ้าระวังทราบก่อนและเตรียมอุปกรณ์ป้องกันให้พร้อมไม่ว่าจะเป็น Trip wires (เชือกที่ไว้ป้องกันและจะสั่นหรือส่งเสียงเตือนเวลามีผู้บุกรุกเดินเข้ามาในพื้นที่ที่ติดตั้งไว้) สุนัขเฝ้ายาม และอื่นๆ โดยแคมป์ของกลุ่มนักเรียนนี้ใช้แค่เชือก trip wires แต่สุดท้ายต้องมาสูญเสียไปเพราะปืนขัดข้อง
 
      เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นได้กล่าวอีกว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดก่อนจะมาตั้งแคมป์ที่ไหนก็ตามที่สวาร์ลบาร์ดคือต้องแจ้งให้ทางพื้นที่ทราบก่อนค่ะ และในปี 2012 ต่อมา เจ้าหน้าที่สืบสวนของทางนอร์เวย์ได้แถลงข่าวอย่างเป็นทางการเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่าเหตุการณ์ร้ายแรงแบบนี้จะไม่เกิดขึ้นถ้าพวกเด็กๆ ที่มาตั้งแคมป์เลือกที่จะนอนในบ้านพักแทน และถ้านอนเต็นท์จริงๆ ก็ควรมีเจ้าหน้าที่ป้องกันและสุนัขเฝ้ามาด้วย แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น สวาลบาร์ดไม่ได้มีกฏหมายอย่างตายตัวในเรื่องดังกล่าวจึงไม่มีใครโดนกล่าวข้อหาใดๆ ในเหตุการณ์นี้

Photo credit : pixabay.com
 
      ปัจจุบันสวาลบาร์ดเริ่มมีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แต่ก็ยังไม่เป็นที่รู้จักแพร่หลายเหมือนที่เที่ยวในประเทศอื่นๆ นัก ด้วยความที่เป็นพื้นที่หนาวเย็นและอาจเหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวบางกลุ่มเท่านั้น (อุณหภูมิเฉลี่ย -16 ในหน้าหนาวและสูงสุดคือ 20 องศาเซลเซียสในหน้าร้อนค่ะ) แต่ก็เป็นอีกหนึ่งที่ที่น่าไปสักครั้งในชีวิต

    สวาลบาร์ดมีกิจกรรมให้ทำมากมายไม่ว่าจะไปดูแสงเหนือในช่วงหน้าหนาว หรือหากใครที่ชอบผจญภัยก็สามารถเลือกกิจกรรมต่างๆ ทำได้เช่น ขี่รถ ATV, ล่องเรือชมธารน้ำแข็งและภูเขาสวยๆ, ปีนเขา หรือกิจกรรมอื่นเช่นสำรวจซากฟอสซิลล้านปี ขี่ม้า เยี่ยมชมเหมืองแร่ หรือที่พลาดไม่ได้สำหรับคนรักสุนัขและเป็นกิจกรรมยอดฮิตสุดๆ ของที่นี่ คือ ทัวร์สุนัขลากเลื่อน เราจะได้สัมผัสบรรยากาศของสวาลบาร์ดโดยสุนัขฮัสกี้ขนฟูๆ ใจดีจะเป็นคนพาเราไปเองค่ะ

Photo credit : pixabay.com
 

       อ่านจบแล้วมีใครอยากไปเที่ยวที่สวาลบาร์ดบ้างไหมคะ การจะไปสวาลบาร์ดเราจะต้องนั่งเครื่องไปลงที่นอร์เวย์ก่อน แล้วค่อยต่อเครื่องบินไปอีกที ไม่มีสายการบินตรงค่ะเนื่องจากเป็นเกาะเล็ก ใครอยากไปผจญภัยกับเหล่าหมีขาวก็คอมเมนต์กันด้านล่างได้เลย เผื่อพี่จะขอไปด้วยค่ะ 555 
ข้อมูลจาก
พี่นิทาน

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

กำลังโหลด
กำลังโหลด

3 ความคิดเห็น

กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด