ถูกจับเพราะฉีดน้ำหอม
ภาพเพื่อประกอบบทความ เนื่องจากบุคคลในบทความยังเป็นเยาวชน
คดีนี้ไม่ใช่การฉีดแกล้งเพื่อนคนอื่นด้วย แต่สาวน้อยซาร่าห์วัย 12 ปีแค่ฉีดใส่ตัวเอง 2 ปื้ดเองค่ะ ต้องเล่าย้อนเลยว่าซาร่าห์มักโดนเพื่อนร่วมชั้นรังแกอยู่เสมอ ซาร่าห์เป็นเด็กตัวอ้วนใหญ่กว่าเพื่อนๆ ในวัยเดียวกัน เธอยังเป็นเด็กสมาธิสั้นและเป็นไบโพลาร์ นั่นทำให้คนอื่นชอบรังแกเธอ เธอมักโดนดูถูกด้วยถ้อยคำร้ายๆ เสมอ และคำที่มักโดนบ่อยๆ เลยคือทุกคนบอกว่าเธอตัวเหม็นมาก ดังนั้นเพื่อเพิ่มความมั่นใจ เธอจึงลองฉีดน้ำหอมที่ซอกคอตัวเอง 2 ครั้งก่อนไปโรงเรียน
แต่ทันทีที่ถึงห้องเรียน เพื่อนร่วมห้องก็พร้อมใจกันบอกว่านั่นเป็นกลิ่นที่เหม็นน่ารังเกียจมาก แล้วครูก็แจ้งตำรวจทันที ซึ่งแค่พริบตาเดียวตำรวจก็มาถึงห้อง เพราะปกติโรงเรียนรัฐบาลในรัฐเท็กซัสนี้จะมีตำรวจคอยเดินตรวจตามทางเดินในโรงเรียนอยู่แล้ว ซาร่าห์ถูกตั้งข้อหาขัดขวางการเรียนในชั้นเรียน เธอถูกจับกุมและต้องไปขึ้นศาล
ถูกจับเพราะเขียนโต๊ะ
ภาพเพื่อประกอบบทความ เนื่องจากบุคคลในบทความยังเป็นเยาวชน
จริงอยู่ที่การขีดเขียนบนโต๊ะถือเป็นการทำลายทรัพย์สิน แต่ยอมรับเถอะว่าสมัยเรียนทุกคนต้องเคยคิดเขียนอะไรบนโต๊ะบ้างแหละ บางทีที่คิดอะไรไม่ออกมือที่จับดินสอมันก็เผลอเขี่ยๆ โต๊ะไปบ้าง แต่อย่างมากก็ควรโดนครูสั่งให้เช็ดออกมากกว่าโดนตำรวจจับใช่มั้ยคะ
เรื่องนี้คนที่ถูกจับคือสาวน้อยอเล็กซ่าวัย 12 ปีจากโรงเรียนแห่งหนึ่งในรัฐนิวยอร์ค เธอเป็นเด็กร่าเริงและเข้ากับคนง่าย วันหนึ่งเธอเอาปากกาสีเขียวเขียนบนโต๊ะว่า "ฉันรักเพื่อนของฉัน แอ็บบี้กับเฟธ เล็กซ์เคยนั่งโต๊ะนี้ 2/1/10" เมื่อคุณครูเห็นดังนั้นก็แจ้งตำรวจทันที อเล็กซ่าถูกใส่กุญแจมือต่อหน้าเพื่อนทั้งห้อง นั่นเป็นสิ่งที่ทำให้เธอเสียใจและอายมากๆ (ไม่เข้าใจคุณครู ทำไมไม่ทำโทษเองหรือให้ขัดโต๊ะอะไรแบบนี้)
ถูกพ่นสเปรย์พริกไทยใส่เพราะปีนชั้นหนังสือ
ภาพเพื่อประกอบบทความ เนื่องจากบุคคลในบทความยังเป็นเยาวชน
เหตุการณ์นี้เกิดกับเด็กชายอดัม (นามสมมติ) วัย 7 ขวบที่มีความบกพร่องทางทักษะทางการเรียนรู้ เขาเป็นโรคดิสเล็กเซีย โรคประสาทกังวล และมีปัญหาการเข้าสังคม เขาเรียนอยู่ในชั้นเรียนสำหรับเด็กพิเศษในโรงเรียนแห่งหนึ่งในแคลิฟอร์เนีย ในวันเกิดเหตุเขารู้สึกไม่อยากทำงานในห้องเลยพยายามจะกลับบ้าน ผู้ดูแลในห้องเรียนนั้นก็ไปตามบังคับเขากลับมาโรงเรียนอีก เขาจึงโวยวายด้วยความโมโหและเริ่มปีนป่ายชั้นหนังสือในห้อง ครูและนักบำบัดในห้องเรียนจึงโทรแจ้งตำรวจ เมื่อตำรวจมาถึงก็สั่งให้อดัมปีนลงมา โดยตำรวจจะนับ 1 ถึง 5 ถ้าอดัมไม่ลงมาก็จะฉีดสเปรย์พริกไทยใส่
แต่อดัมไม่รู้ว่าสเปรย์พริกไทยคืออะไร ตำรวจเลยอธิบายว่ามันเป็นเหมือนพริกร้อนๆ ที่จะทำให้ร้องไห้และรู้สึกอยากอ้วก ว่าแล้วตำรวจก็เริ่มนับถอยหลัง แต่อดัมก็ไม่ลงมา ตำรวจจึงฉีดสเปรย์ใส่จนเขาร้องไห้และยอมลงมาในที่สุด หลังเหตุการณ์นี้ครอบครัวของอดัมก็ส่งเขาไปประเมินสภาพจิตใจกับจิตแพทย์ และพบว่าเขามีอาการกังวลและตื่นกลัวมากขึ้นกว่าเดิม ครอบครัวย้ายอดัมไปเรียนที่อื่นแล้วก็หวังว่าอาการของเขาจะดีขึ้น (นี่ขนาดมีนักบำบัดอยู่ด้วยนะ ทำไมถึงทำกับเด็กแบบนี้)
ถูกจับส่งโรงเรียนดัดสันดานเพราะพกคัตเตอร์มาเหลาดินสอ
ภาพเพื่อประกอบบทความ เนื่องจากบุคคลในบทความยังเป็นเยาวชน
สาวน้อยเชื้อสายเกาหลีวัย 13 ปีที่เป็นทั้งประธานสภานักเรียนและนักเรียนดีเด่นถูกจับเพราะเธอพกใบมีดคัตเตอร์ยาว 2 นิ้วมาโรงเรียน แม่เป็นคนให้ใบมีดนั้นกับเธอเพื่อเอามาใช้เหลาดินสอเนื่องจากในเกาหลีนั่นถือเป็นเรื่องปกติมาก แต่ทางโรงเรียนในรัฐเท็กซัสไม่เข้าใจและไม่ยอมฟัง โรงเรียนส่งเธอไปเข้าโรงเรียนดัดสันดานถึง 7 วัน และไล่เธอออกจากการเป็นประธานสภานักเรียนและถอนตำแหน่งนักเรียนดีเด่นอีกต่างหาก
ถูกจับส่งสถานกักกันเพราะเรอในห้องเรียน
แก๊สในกระเพาะเป็นเรื่องไม่เข้าใครออกใคร ใครๆ ก็มีสิทธิลมขึ้นและเผลอปล่อยลมออกทางปากได้ทั้งนั้น เด็กชายวัย 13 ปีจากรัฐนิวเม็กซิโกคนนี้ก็เช่นกัน เขาเรอเสียงดังออกมาในชั่วโมงพละและนั่นก็ทำให้ครูแจ้งตำรวจจับเขา ตำรวจมาถึงที่เกิดเหตุและจับมือไล่หลังใส่กุญแจมือเด็กคนนั้นทันที ก่อนจะส่งตัวเขาไปยังสถานกักกันเยาวชนในระหว่างตั้งข้อหาว่าเขาขัดขวางกิจกรรมในห้องเรียนโดยที่ไม่บอกพ่อแม่ของเด็ก แถมยังไม่อนุญาตให้เด็กชายคนนี้ติดต่อผู้ปกครองหรือเรียกเพื่อนร่วมห้องมาช่วยเป็นพยานให้ด้วย ดีที่ศาลไม่บ้าจี้ตาม ทำให้เด็กผู้ชายคนนี้ถูกปล่อยตัวโดยไม่มีข้อหาติดตัว แต่ก็คงเสียขวัญไปอีกนาน
ถูกจับเพราะอยู่ไม่สุข
นักเรียนชายวัย 5 ขวบจากรัฐแคลิฟอร์เนียถูกรัดข้อมือและข้อเท้าด้วยพลาสติกล็อกสายไฟและถูกส่งไปประเมินสภาพจิตพร้อมถูกตั้งข้อหาทำร้ายร่างกายเจ้าพนักงาน เด็กชายไมเคิลคนนี้เป็น ADHD (สมาธิสั้น) ซึ่งทางคุณแม่ก็แจ้งโรงเรียนตั้งแต่ต้นแล้วว่าลูกเป็น ทางโรงเรียนบอกว่ามีแผนในการปรับปรุงพฤติกรรมไมเคิลไว้แล้ว คุณแม่ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าโรงเรียนหมายถึงอะไร แต่นั่นแหละคือจุดที่ทำให้ทุกอย่างแย่ลง เหมือนโรงเรียนไม่เข้าใจว่าสมาธิสั้นคืออะไร คิดแต่ว่าไมเคิลเป็นเด็กดื้อเฉยๆ เลยคิดแต่จะบังคับให้ทำโน่นทำนี่อย่างเดียว นั่นยิ่งทำให้ไมเคิลแสดงออกด้วยความรุนแรงมากขึ้น เขาชกต่อยกับเพื่อนร่วมชั้นและยังทุ่มเก้าอี้อีก ทางโรงเรียนเลยแจ้งตำรวจให้มาจัดการไมเคิลโดยหวังว่าตำรวจจะช่วยดัดนิสัยให้ไมเคิลได้
แต่เรื่องก็ยิ่งแย่เข้าไปอีก เมื่อเห็นตำรวจมาเต็มยศ ไมเคิลวัย 5 ขวบก็แสดงอาการต่อต้านทันที ไมเคิลปัดเอกสารลงจากโต๊ะ และผลักมือตำรวจออกไปเมื่อตำรวจทำท่าจะจับเขา และไมเคิลก็เตะขาตำรวจไปทีนึง นั่นทำให้ตำรวจต้องล็อกตัวเขาไว้และใช้กุญแจมือพลาสติกรัดสายไฟรัดข้อมือและข้อเท้าไมเคิลไว้ พร้อมตั้งข้อหาทำร้ายเจ้าพนักงาน
เห็นแต่ละเคสแล้วก็ต้องถอนหายใจแรงๆ จริงๆ หน้าที่อบรมบ่มนิสัยเวลาอยู่ที่โรงเรียนควรเป็นหน้าที่ของคุณครูนะคะ ไม่ควรจะต้องถึงกับแจ้งตำรวจมาเลย แถมตำรวจยังจับกุมเด็กราวกับเป็นอาชญากรตัวเอ้ ไม่สมควรเลยจริงๆ แต่เหตุการณ์ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นในโรงเรียนรัฐเท่านั้น ถ้าเป็นโรงเรียนเอกชนในอเมริกาก็จะมีระบบเป็นของตัวเองค่ะ
ข้อมูล
http://www.theguardian.com/world/2012/jan/09/texas-police-schools
http://edition.cnn.com/2010/CRIME/02/18/new.york.doodle.arrest/index.html?hpt=C1
http://www.sfgate.com/bayarea/article/San-Mateo-pays-family-of-boy-pepper-sprayed-by-cop-2384518.php
http://www.eagleforum.org/educate/2009/june09/zero-tolerance-states.html
http://www.cbsnews.com/news/student-arrested-for-burping-lawsuit-claims/
http://www.kcra.com/5-Year-Old-Handcuffed-Charged-With-Battery-On-Officer/12648852
19 ความคิดเห็น
ไม่มีถูกจับเพราะ "ตด" บ่อยเกินหรอกเหรอ เคยเห็นอยู่แว้บๆ
...ตำรวจนี่ก็บ้าครับ และน่าจะเป็นเพราะยุคสมัยที่กำลังเข้าสู่ยุคใหม่หลังสงครามด้วยแหละ (จากเรื่องคาดว่าน่าจะเวลาประมาณนี้ ปัจจุบันคงไม่มีแบบนี้) กฎต่างๆเลยยังไม่ชัดเจน ไม่เข้มงวด การกระจายความรู้และข่าวสารก็คงไม่ดีนัก ยิ่งกรณีของเหลาดินสอเป็นเด็กต่างชาติด้วย ความหวาดระแวงน่าจะมีอยู่ แต่อ่านแล้วรู้สึกปวดตับปวดไต จริงๆอยากให้ใส่ปี ค.ศ. ไว้ในบทความด้วย จะได้รู้ความชัดเจนว่าเกิดขึ้นเมื่อไหร่ ถ้าเกิดขึ้นเร็วๆนี้ ต้องมีประเด็นกันบ้างละ
เอาตรงๆน่ะ อิตำรวจกับอิครูแม่มปัญญาอ่อน บ้านเราว่าตำรวจงี่เง่าแล้วนะ เจอแบบนี้มันเข้าขั้นต้องไป รพ.ศรีธัญญาแล้วล่ะ ตอนมันเด็กๆมันก้อต้องมีบ้างล่ะเรื่องอย่างงี้ เราว่าอิตำรวจมันบ้าแล้วน่ะ เผือกบ้าจี้ตามอิครูปญอ.นั้นอีก มันจะแจ้งตำรวจหาพระแสงอะไร ถึงบางกรณีอาจจะเปนการทำลายทรัพสินอย่างเขียนโต๊ะ ทำให้คนอื่นกลัวอย่างเอาคัตเตอร์มาโรงเรียน ก่อความวุ่นวายอย่างฉีดน้ำหอมมารร. ก้อควรแก้ไขเช่นให้ขัดโต๊ะ ริบคัตเตอร์ ไม่ใช่จับเข้าตารางบ้าง เข้ารร.ดัดสันดานบ้าง อย่างงี้เด็กทั่วไปไม่เข้าคุกกันหมดหรอ ยิ่งเปนเดกไทยด้วยยิ่งแล้วใหญ่ เพราะอย่างงี้ไงคนถึงไม่เคารพกฏหมายเพราะมีแต่พวกงี่เง่าปัญญาอ่อน หากฏหมายดีๆมาใช้ไม่ได้ -ที่สมควรจับมันเผือกไม่จับ
ผู้ใหญ่ทำน่าเกลียดมากเลยเด็กน่าสงสารยังจะไปทำให้แย่ลงอีกส่วนเคสของเล็กซ์เธอก็เป็นเด็กคนนึงที่รักเพื่อนแล้วทำไมต้องถูกจับอะเคยคิดกันบ้างไหมว่าถ้าเธออกมาเธอจะกลายเป็นเด็กซึมเศร้าไหมน่าสงสารจริงๆ
ทุกอย่างเกิดขึ้นเป็นปกติในประเทศไทย
พกคัตเตอร์เอย เรอในห้อง ตดในคาบ ฉีดน้ำหอมมาโรงเรียน - -
ที่ว่าขีดเขียนโต๊ะนี่ เป็นเพราะ ครูเค้าคงขี้เกียจ ตักเตือน ครูก็เลยสั่งตำรวจ เชือดไก่ ให้ลิงดูแม้มเลย
ลั่นตรงเรอ แล้วครูแจ้งตำรวจมาจับนี่แหละ5555555555
ความรู้สึกของเรานะคะ...อาจจะแรงไปหน่อย...หลายๆ ข้อหานี่มันเหยียดเด็กพิการหรือเด็กที่มีปัญหาบกพร่องอะไรบางอย่างชัดๆ อย่างเด็กเป็นไบโพล่าร์นั่นคุณครูก็ต้องรังเกียจเด็กอยู่บ้างแหละถึงทำแบบนี้ ตำรวจก็ด้วย บางอันก็แกล้งทำเป็นหวังดีกับเด็ก จริงๆ แล้วคือเหยียดบอกว่าเด็กทำอะไรไม่ได้เลยเลยต้องหาทางแก้ไขให้สินะ? สุดท้ายก็เป็นการฆ่าเด็กทางอ้อมอีก//อ่านแล้วฉุนขอวีนเล็กน้อย
ตรงคดีน้ำหอมเนี่ยน่าจะฟ้องกลับนะ...
ตำรวจกับครูคะไปเล่นตรงนั้นเลยค่ะศาลตัดสินไปเกิดใหม่=_=
บอกทีว่าบางเคสนั่นมาจากกฏหมายจริงๆ เอิ่มมมมมมมมมมมม ส่งไปให้สภาผู้แทนราษดรตรวจสอบใหม่ก็ดีนะ ปัญญาอ่อน เรอก็โดนจับ ฉีดน้ำหอมก็โดนจับ เขียนโต๊ะก็โดนจับ เฮ้องี้แคะขี้มูกเอามาป้ายเพื่อน ตดในห้องเรียน เป็นลมชักกลางโรงอาหารแม่งก็โดนจับไปด้วยเลยงี้ เพลียจิต และเรื่องฉีดน้ำหอมนะ ถ้าเป็นเด็กไทยสงสัยไม่โดนประหารเลยเหรออออ หน้านิวอกมาเชียว แก้มแดงงง ปากเหมือนปอบเพิ่งกินเลือด ก็ต้องโดนข้อหาทำให้เพื่อนๆตกใจรบกวนการเรียนเพราะหันมามองก็ต้องผวาทุกทีงี้ ปัญญาอ่อนเกินหว่ะ