สวัสดีค่ะน้องๆ ชาวเด็กดีทุกคน มีใครในนี้เคยดูพวกคลิป Social Experiment หรือคลิปที่จัดฉากสถานการณ์เพื่อทดสอบปฏิกิริยาของคนในสังคมบ้างหรือเปล่าคะ?
ในต่างประเทศมีคนทำคลิปแบบนี้เยอะมาก จนถึงขั้นตั้งเป็นช่องเฉพาะใน Youtube และแต่ละคลิปก็มักจะเป็นคลิปที่คนดูเยอะ คนแชร์เยอะ บางคลิปมีคนดูเป็นล้านก็มี จุดประสงค์ของคลิปพวกนี้ส่วนใหญ่ก็คืออยากให้สังคมตื่นตัวในบางเรื่องที่เรามักมองข้าม หรือรณรงค์ให้คนทำสิ่งดีๆ ให้กัน หรือคอยช่วยเหลือกัน
บางคนก็วิจารณ์ว่าจัดฉากบ้าง ไม่น่าจะเกิดขึ้นจริง บางคนก็ว่าการทดสอบสังคมแบบนี้เป็นการเล่นกับความรู้สึกของคนมากเกินไป แต่พี่น้องว่าถ้ามันไม่ได้เลยเถิดมาก และผลลัพธ์ออกมาคือได้คลิปดีๆ ที่คนในสังคมให้ความสนใจ ก็น่าจะเป็นเรื่องดีนะ
เนื่องจากพี่น้องชอบดูคลิปพวกนี้มาก วันนี้พี่น้องก็เลยจะมาแนะนำ 10 อันดับคลิป Social Experiment เหล่านี้ที่พี่น้องคิดว่าเป็นการทดสอบที่สร้างสรรค์ ทำให้สังคมตื่นตัว และมีหลายคลิปในนี้ก็มีผลลัพธ์ที่น่าตกใจทีเดียวค่ะ
ในต่างประเทศมีคนทำคลิปแบบนี้เยอะมาก จนถึงขั้นตั้งเป็นช่องเฉพาะใน Youtube และแต่ละคลิปก็มักจะเป็นคลิปที่คนดูเยอะ คนแชร์เยอะ บางคลิปมีคนดูเป็นล้านก็มี จุดประสงค์ของคลิปพวกนี้ส่วนใหญ่ก็คืออยากให้สังคมตื่นตัวในบางเรื่องที่เรามักมองข้าม หรือรณรงค์ให้คนทำสิ่งดีๆ ให้กัน หรือคอยช่วยเหลือกัน
บางคนก็วิจารณ์ว่าจัดฉากบ้าง ไม่น่าจะเกิดขึ้นจริง บางคนก็ว่าการทดสอบสังคมแบบนี้เป็นการเล่นกับความรู้สึกของคนมากเกินไป แต่พี่น้องว่าถ้ามันไม่ได้เลยเถิดมาก และผลลัพธ์ออกมาคือได้คลิปดีๆ ที่คนในสังคมให้ความสนใจ ก็น่าจะเป็นเรื่องดีนะ
เนื่องจากพี่น้องชอบดูคลิปพวกนี้มาก วันนี้พี่น้องก็เลยจะมาแนะนำ 10 อันดับคลิป Social Experiment เหล่านี้ที่พี่น้องคิดว่าเป็นการทดสอบที่สร้างสรรค์ ทำให้สังคมตื่นตัว และมีหลายคลิปในนี้ก็มีผลลัพธ์ที่น่าตกใจทีเดียวค่ะ
10. อย่าตัดสินคนที่ภายนอก (JoshPalerLin)
คลิปนี้ความยาวแค่ 3 นาทีแต่ได้ยอดวิวไป 34 ล้าน เจ้าของช่องนี้เป็นชาวเอเชียค่ะ เขาแกล้งแต่งตัวเป็นคนไร้บ้านมาขอนั่งกินอาหารที่ร้านหรู แต่บริกรของร้านกลับไม่ยอมให้เขาเข้าไปในร้าน ถึงแม้เขาจะบอกว่าพอมีเงินอยู่บ้าน
หลังจากนั้นเขากลับไปแต่งตัวทำผมหล่อ ขับรถหรูมาจอดเทียบหน้าร้านอีกครั้ง คราวนี้บริกรเดินมาเปิดประตูรถ ให้บริการอย่างดี เขาเลยถามว่า "คุณจำผมได้มั้ย? เมื่อกี้ผมก็มาที่ร้านนี้"
บริกรตอบว่าจำได้ แต่จอชบอกว่า "เพราะคุณตัดสินคนที่ภายนอก ผมขอไม่กินที่ร้านคุณดีกว่า" แล้วก็กลับไปที่รถ ผู้จัดการร้านถึงกับต้องวิ่งมาบอกว่าเดี๋ยวจะอบรมพนักงานให้ใหม่ พร้อมขอโทษขอโพยเป็นการใหญ่
คลิปนี้ทำให้เราตระหนักได้ว่าเราตัดสินคนจากภายนอกมากแค่ไหน เราอาจจะไม่ต้องถึงขั้นทำตัวสนิทสนมกับคนไร้บ้าน แต่แค่เอื้อเฟื้อแบ่งปัน และมองเขาเหมือนเขาเป็นคนๆ หนึ่งก็พอ
หลังจากนั้นเขากลับไปแต่งตัวทำผมหล่อ ขับรถหรูมาจอดเทียบหน้าร้านอีกครั้ง คราวนี้บริกรเดินมาเปิดประตูรถ ให้บริการอย่างดี เขาเลยถามว่า "คุณจำผมได้มั้ย? เมื่อกี้ผมก็มาที่ร้านนี้"
บริกรตอบว่าจำได้ แต่จอชบอกว่า "เพราะคุณตัดสินคนที่ภายนอก ผมขอไม่กินที่ร้านคุณดีกว่า" แล้วก็กลับไปที่รถ ผู้จัดการร้านถึงกับต้องวิ่งมาบอกว่าเดี๋ยวจะอบรมพนักงานให้ใหม่ พร้อมขอโทษขอโพยเป็นการใหญ่
คลิปนี้ทำให้เราตระหนักได้ว่าเราตัดสินคนจากภายนอกมากแค่ไหน เราอาจจะไม่ต้องถึงขั้นทำตัวสนิทสนมกับคนไร้บ้าน แต่แค่เอื้อเฟื้อแบ่งปัน และมองเขาเหมือนเขาเป็นคนๆ หนึ่งก็พอ
จอชทำคลิปเกี่ยวกับคนไร้บ้านเยอะค่ะ แต่ก็มีอยู่คลิปหนึ่งที่ดราม่า เป็นคลิปที่เขาให้เงินคนไร้บ้าน 100 ดอลลาร์ แล้วผู้ชายคนนั้นที่ชื่อ เคนนี นิกเคล ก็เอาเงินที่ได้ไปซื้ออาหารมาแจกจ่ายเพื่อนๆ คนไร้บ้านคนอื่นๆ แทนที่จะเก็บไว้ซื้อของตัวเอง
คลิปนี้ทำให้คนทั่วโลกให้ความสนใจกับคนไร้บ้านมากขึ้น และจอชถึงขั้นตั้งกองทุนสนับสนุนเคนนี เรียกเงินบริจาคได้กว่า 140,000 ดอลลาร์ แต่ 4 เดือนหลังจากนั้น เคนนี่กลับเมาจนเสียชีวิตอยู่ในตรอกเล็กๆ และครอบครัวของเขาก็ออกมาเปิดเผยว่าจริงๆ แล้วเคนนี่มีเงินกองทุนอยู่ แต่เขาสติไม่ดี ก็เลยออกไปเร่ร่อน แถมเคนนี่ยังเคยบอกกับพ่อเขาด้วยว่าคลิปนี้เป็นแค่การจัดฉากเท่านั้น
9. อย่าไว้ใจคนแปลกหน้า (Coby Persin)
สำหรับคลิปนี้ค่อนข้างทุ่มทุนสร้างมาก โคบี้ เพอร์ซินจัดฉากโดยอาศัยความร่วมมือของคุณพ่อคุณแม่ที่มีลูกสาววัยรุ่นทั้งหลาย ทำทีเป็นหนุ่มใจดี สปอร์ต กทม. แชทเฟซกับลูกสาวของคุณพ่อคุณแม่เพื่อล่อให้ออกมาเจอกัน
และในวันที่นัดเจอ พวกเด็กๆ ก็ไปตามนัด แต่กลับเจอพ่อแม่ของตัวเองแทน งานนี้โดนดุจนร้องไห้ ไม่กล้าแชทกับคนแปลกหน้าไปอีกนาน
คลิปนี้ต้องการให้ผู้ปกครองและเด็กๆ ตระหนักถึงภัยร้ายที่มักเกิดกับเด็กสาว เป็นผลมาจากพ่อแม่ปล่อยให้ลูกเล่นอินเทอร์เน็ตอย่างอิสระ โดยไม่คอยสอบถาม หรือดูแล กว่าจะรู้ตัวอีกที ลูกสาวอาจจะโดนลักพาตัวไปข่มขืนแล้วก็ได้
สำหรับน้องๆ วัยรุ่นเมื่อได้ดูคลิปนี้คงรู้เท่าทันพวกแชทหลอกแล้ว ก็อย่าเอาตัวเองเข้าไปเสี่ยงเลยนะคะ ถ้าจะนัดเจอกันก็ขอให้อยู่ในสายตาของผู้ใหญ่ดีกว่า
และในวันที่นัดเจอ พวกเด็กๆ ก็ไปตามนัด แต่กลับเจอพ่อแม่ของตัวเองแทน งานนี้โดนดุจนร้องไห้ ไม่กล้าแชทกับคนแปลกหน้าไปอีกนาน
คลิปนี้ต้องการให้ผู้ปกครองและเด็กๆ ตระหนักถึงภัยร้ายที่มักเกิดกับเด็กสาว เป็นผลมาจากพ่อแม่ปล่อยให้ลูกเล่นอินเทอร์เน็ตอย่างอิสระ โดยไม่คอยสอบถาม หรือดูแล กว่าจะรู้ตัวอีกที ลูกสาวอาจจะโดนลักพาตัวไปข่มขืนแล้วก็ได้
สำหรับน้องๆ วัยรุ่นเมื่อได้ดูคลิปนี้คงรู้เท่าทันพวกแชทหลอกแล้ว ก็อย่าเอาตัวเองเข้าไปเสี่ยงเลยนะคะ ถ้าจะนัดเจอกันก็ขอให้อยู่ในสายตาของผู้ใหญ่ดีกว่า
8. ความซื่อสัตย์กับชายตาบอด (Adrian Gee)
เอเดรียน จี ตัดสินใจทดสอบความซื่อสัตย์ของเพื่อนมนุษย์ด้วยการปลอมตัวเป็นชายตาบอดไปเดินตามถนน แล้วคอยถามคนแถวนั้นว่ามีเศษเหรียญให้เขาแลกกับแบงค์ 5 ดอลลาร์หรือเปล่า แต่เขาจะแกล้งยื่นแบงค์ 50 ดอลลาร์ไปแทน
คลิปนี้เราจะได้เห็นทั้งคนที่เอาเปรียบจากความพิการของผู้อื่น บางคนแกล้งทำเป็นรับแบงค์ 50 ดอลลาร์โดยไม่บอกเขา บางคนรับมาแล้วสับเปลี่ยนกับแบงค์ที่มีค่าน้อยกว่า โดยแกล้งบอกว่าไม่มีเศษโทษที บางคนยิ่งแล้วใหญ่ รับมาแล้วเดินไปเลย เพราะคิดว่าคนตาบอดคงตามตัวไม่ได้
แต่ในขณะเดียวกันเราก็เห็นคนหลายคนที่บอกชายคนนี้ว่าแบงค์ที่เขายื่นเป็นแบงค์ 50 นะ ไม่ใช่ 5 ดอลลาร์ บางคนมีเศษไม่ถึง แต่ก็ยังให้เศษทั้งหมดกับเขาโดยไม่เอาเงิน
ในความมืดย่อมมีแสงสว่างเนอะ
คลิปนี้เราจะได้เห็นทั้งคนที่เอาเปรียบจากความพิการของผู้อื่น บางคนแกล้งทำเป็นรับแบงค์ 50 ดอลลาร์โดยไม่บอกเขา บางคนรับมาแล้วสับเปลี่ยนกับแบงค์ที่มีค่าน้อยกว่า โดยแกล้งบอกว่าไม่มีเศษโทษที บางคนยิ่งแล้วใหญ่ รับมาแล้วเดินไปเลย เพราะคิดว่าคนตาบอดคงตามตัวไม่ได้
แต่ในขณะเดียวกันเราก็เห็นคนหลายคนที่บอกชายคนนี้ว่าแบงค์ที่เขายื่นเป็นแบงค์ 50 นะ ไม่ใช่ 5 ดอลลาร์ บางคนมีเศษไม่ถึง แต่ก็ยังให้เศษทั้งหมดกับเขาโดยไม่เอาเงิน
ในความมืดย่อมมีแสงสว่างเนอะ
7. คนแปลกหน้าที่แคร์คุณที่สุดในโลก (fouseyTUBE)
คลิปนี้ฟูซี่และเพื่อนซี้ตัดสินใจทดสอบคนแปลกหน้าด้วยการแกล้งโบกแท็กซี่ คุยเรื่องสัพเพเหระ และก็เล่าชีวิตอันอับเฉาของตัวเอง ตั้งแต่โดนไล่ออกจากงาน แฟนทิ้ง แม่เพิ่งเข้าโรงพยาบาล มีลูกอีกสองที่ต้องดูแล พอแท็กซี่ขับไปถึงกลางสะพานข้ามแม่น้ำ ก็ขอลงจากรถกะทันหัน เพื่อไปกระโดดสะพาน
ที่น่าสนใจคือ คนที่ลงมาห้ามก็เป็นคนขับแท็กซี่ที่เป็นชาวอินเดีย ต่างเชื้อชาติ ต่างศาสนา ทั้ง 2 เคสต่างก็พยายามโน้มน้าวคนที่จะฆ่าตัวตายด้วยการให้กำลังใจ โดยบอกว่าคุณยังหนุ่มยังแน่น ยังมีครอบครัวที่รออยู่
ไม่น่าเชื่อใช่มั้ยคะว่าคนที่เข้ามาช่วยเราในช่วงเวลาที่แย่ที่สุดอาจเป็นคนแปลกหน้าที่เพิ่งเจอกันแค่ไม่กี่นาทีก็ได้ เราไม่มีทางรู้หรอกว่าชีวิตคนอื่นย่ำแย่แค่ไหน จนกว่าจะได้เปิดอกพูดคุยกัน บางทีการได้รู้เรื่องราวของคนอื่นอาจทำให้เรามีกำลังใจในการใช้ชีวิตมากขึ้น
ที่น่าสนใจคือ คนที่ลงมาห้ามก็เป็นคนขับแท็กซี่ที่เป็นชาวอินเดีย ต่างเชื้อชาติ ต่างศาสนา ทั้ง 2 เคสต่างก็พยายามโน้มน้าวคนที่จะฆ่าตัวตายด้วยการให้กำลังใจ โดยบอกว่าคุณยังหนุ่มยังแน่น ยังมีครอบครัวที่รออยู่
ไม่น่าเชื่อใช่มั้ยคะว่าคนที่เข้ามาช่วยเราในช่วงเวลาที่แย่ที่สุดอาจเป็นคนแปลกหน้าที่เพิ่งเจอกันแค่ไม่กี่นาทีก็ได้ เราไม่มีทางรู้หรอกว่าชีวิตคนอื่นย่ำแย่แค่ไหน จนกว่าจะได้เปิดอกพูดคุยกัน บางทีการได้รู้เรื่องราวของคนอื่นอาจทำให้เรามีกำลังใจในการใช้ชีวิตมากขึ้น
ทีนี้มาดูคลิปต่อไปซึ่งเป็นการจัดฉากฆ่าตัวตายเหมือนกัน แต่คราวนี้จุดประสงค์ไม่ใช่แค่รณรงค์ให้คนช่วยเหลือคนที่พยายามฆ่าตัวตายค่ะ
6. ผมไม่ใช่ฆาตกร (TheManeMan)
ช่วงนี้มีกระแสความเกลียดชังจากการที่กลุ่ม ISIS ก่อการร้ายในประเทศต่างๆ ทำให้หลายคนมองว่าคนที่นับถือศาสนาอิสลามเป็นคนโหดร้าย เหมารวมไปเสียอย่างนั้น
กระแสต่อต้านนี้อาจทำให้ชาวมุสลิมรู้สึกแปลกแยก และถูกคุกคามจากคนต่างศาสนามากกว่าเดิม บางคนอาจใช้ชีวิตในสังคมที่ศาสนาอิสลามไม่ได้เป็นศาสนาหลักได้ยากขึ้น
คุณเมนแมน คนนี้ เลยทำคลิปนี้ขึ้นมา แกล้งทำเป็นว่าเขาจะฆ่าตัวตาย
และคนส่วนใหญ่ที่เดินผ่านไปมาตรงนั้นก็เป็นคนผิวขาวที่เข้ามาช่วยแลกเปลี่ยนความรู้สึก โดยเขาบอกว่า เขารู้สึกไม่ไหวแล้ว ผู้คนต่างพากันรังเกียจเขา ตัดสินเขา เพียงเพราะเขาเป็นมุสลิม
สิ่งที่ออกจากปากของคนที่เข้ามาช่วยชายคนนี้ สะท้อนความจริงว่าไม่ใช่คนทุกคนที่เกลียดคนมุสลิมเพียงเพราะ ISIS ไปก่อเรื่องไว้ตรงนั้นตรงนี้นะ พวกเขาให้กำลังใจ ยิ่งเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่เข้ามาคุมสถานการณ์ตรงนั้นเขาพูดไว้ดีมาก เขาบอกว่า "ทุกศาสนามีเป้าหมายเดียวกันคือทำสิ่งที่ดี คุณต้องเดินหน้าต่อ และทำให้คนอื่นรู้ว่าศาสนาอิสลามแท้จริงแล้วคืออะไร ตัวคุณแท้จริงแล้วเป็นอย่างไร นั่นแหละคือสิ่งดีๆ ที่คุณต้องทำ"
ที่ตะลึงกว่านั้นคือผู้หญิงคนสุดท้ายที่เดินมาเห็นชายคนนี้กำลังจะฆ่าตัวตาย เชื่อมั้ยคะว่าเธอทำสิ่งที่แม้แต่คนจัดฉากยังอึ้งเสียเอง นั่นคือ ร้องไห้ แล้วเข้ามากอดค่ะ
พี่น้องคิดว่าผู้หญิงคนนี้อาจจะเคยมีคนใกล้ตัวพยายามฆ่าตัวตายหรือฆ่าตัวตายสำเร็จมาก่อน พอเห็นเข้า คงนึกถึงเรื่องราวไม่ดีในตอนนั้นขึ้นมา
ข้อความท้ายคลิปบอกให้เรารู้ว่าบนโลกนี้มีคนตายเป็นแสนๆ คนต่อวัน แต่เราเปลี่ยนมันได้ แค่ใช้ความรัก ให้คนๆ นั้นรู้ว่ายังมีคนที่แคร์เขาอยู่ แม้จะไม่ได้รู้จักอะไรกันเลยก็ตาม
กระแสต่อต้านนี้อาจทำให้ชาวมุสลิมรู้สึกแปลกแยก และถูกคุกคามจากคนต่างศาสนามากกว่าเดิม บางคนอาจใช้ชีวิตในสังคมที่ศาสนาอิสลามไม่ได้เป็นศาสนาหลักได้ยากขึ้น
คุณเมนแมน คนนี้ เลยทำคลิปนี้ขึ้นมา แกล้งทำเป็นว่าเขาจะฆ่าตัวตาย
และคนส่วนใหญ่ที่เดินผ่านไปมาตรงนั้นก็เป็นคนผิวขาวที่เข้ามาช่วยแลกเปลี่ยนความรู้สึก โดยเขาบอกว่า เขารู้สึกไม่ไหวแล้ว ผู้คนต่างพากันรังเกียจเขา ตัดสินเขา เพียงเพราะเขาเป็นมุสลิม
สิ่งที่ออกจากปากของคนที่เข้ามาช่วยชายคนนี้ สะท้อนความจริงว่าไม่ใช่คนทุกคนที่เกลียดคนมุสลิมเพียงเพราะ ISIS ไปก่อเรื่องไว้ตรงนั้นตรงนี้นะ พวกเขาให้กำลังใจ ยิ่งเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่เข้ามาคุมสถานการณ์ตรงนั้นเขาพูดไว้ดีมาก เขาบอกว่า "ทุกศาสนามีเป้าหมายเดียวกันคือทำสิ่งที่ดี คุณต้องเดินหน้าต่อ และทำให้คนอื่นรู้ว่าศาสนาอิสลามแท้จริงแล้วคืออะไร ตัวคุณแท้จริงแล้วเป็นอย่างไร นั่นแหละคือสิ่งดีๆ ที่คุณต้องทำ"
ที่ตะลึงกว่านั้นคือผู้หญิงคนสุดท้ายที่เดินมาเห็นชายคนนี้กำลังจะฆ่าตัวตาย เชื่อมั้ยคะว่าเธอทำสิ่งที่แม้แต่คนจัดฉากยังอึ้งเสียเอง นั่นคือ ร้องไห้ แล้วเข้ามากอดค่ะ
พี่น้องคิดว่าผู้หญิงคนนี้อาจจะเคยมีคนใกล้ตัวพยายามฆ่าตัวตายหรือฆ่าตัวตายสำเร็จมาก่อน พอเห็นเข้า คงนึกถึงเรื่องราวไม่ดีในตอนนั้นขึ้นมา
ข้อความท้ายคลิปบอกให้เรารู้ว่าบนโลกนี้มีคนตายเป็นแสนๆ คนต่อวัน แต่เราเปลี่ยนมันได้ แค่ใช้ความรัก ให้คนๆ นั้นรู้ว่ายังมีคนที่แคร์เขาอยู่ แม้จะไม่ได้รู้จักอะไรกันเลยก็ตาม
5. สิทธิในการเลือกของฉัน (Adam Saleh)
คลิปนี้คุณ อาดัม ซาเลห์ เป็นคนจัดฉากขึ้นมาเอง เพราะว่าคุณแม่ของเขาเคยโดนดึงฮิญาบกลางที่สาธารณะ แล้วไม่มีใครช่วยเธอเลย เขาเลยอยากกระตุ้นให้คนลุกขึ้นปกป้องชาวมุสลิมที่ถูกเหยียดศาสนาค่ะ
โดยเขาจัดฉากให้ผู้หญิงคนหนึ่งสวมผ้าโพกหัวปิดบังเส้นผมที่เรียกว่า ฮิญาบ ไปนั่งตามที่สาธารณะต่างๆ แล้วเขาจะแกล้งทำท่าเข้าไปแซวว่า "ร้อนแรงนะน้องสาว อากาศก็ร้อน น้องก็ร้อน ทำไมไม่ถอดผ้าออกจ๊ะ" พอสาวเจ้าไม่เล่นด้วย ก็เริ่มหัวเสีย แล้วกระชากผ้าคลุมออก
แทบทุกคน ทั้งชาย ทั้งหญิงเลยค่ะ ที่ลุกขึ้นมาปกป้องผู้หญิงเมื่อเขาทำแบบนั้น มีอยู่แค่คนเดียวที่ไม่พอใจ และหาว่าเขาล้อเลียนศาสนาอิสลาม
แต่ลุงไม่รู้หรอกว่า แม่ของคุณอาดัมเขาเคยโดนแบบนี้มาก่อนนะ เขาถึงอยากทำให้สังคมตื่นตัวในเรื่องนี้
จริงๆ แล้วมีอีกคลิปที่จัดฉากคล้ายๆ กันแต่เปลี่ยนจากผู้หญิงเป็นผู้ชายสวมผ้าโพกหัวแบบอาหรับ แต่ผลตอบรับกลับพลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือ คือไม่มีใครช่วยผู้ชายคนนั้นเลยค่ะ
อืม...ไม่รู้ว่าเพราะต่างสถานที่ หรือเพราะเป็นเพศชาย คนก็เลยไม่ค่อยอยากช่วยเท่าไร อารมณ์ว่าดูแลตัวเองไปละกัน
โดยเขาจัดฉากให้ผู้หญิงคนหนึ่งสวมผ้าโพกหัวปิดบังเส้นผมที่เรียกว่า ฮิญาบ ไปนั่งตามที่สาธารณะต่างๆ แล้วเขาจะแกล้งทำท่าเข้าไปแซวว่า "ร้อนแรงนะน้องสาว อากาศก็ร้อน น้องก็ร้อน ทำไมไม่ถอดผ้าออกจ๊ะ" พอสาวเจ้าไม่เล่นด้วย ก็เริ่มหัวเสีย แล้วกระชากผ้าคลุมออก
แทบทุกคน ทั้งชาย ทั้งหญิงเลยค่ะ ที่ลุกขึ้นมาปกป้องผู้หญิงเมื่อเขาทำแบบนั้น มีอยู่แค่คนเดียวที่ไม่พอใจ และหาว่าเขาล้อเลียนศาสนาอิสลาม
แต่ลุงไม่รู้หรอกว่า แม่ของคุณอาดัมเขาเคยโดนแบบนี้มาก่อนนะ เขาถึงอยากทำให้สังคมตื่นตัวในเรื่องนี้
จริงๆ แล้วมีอีกคลิปที่จัดฉากคล้ายๆ กันแต่เปลี่ยนจากผู้หญิงเป็นผู้ชายสวมผ้าโพกหัวแบบอาหรับ แต่ผลตอบรับกลับพลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือ คือไม่มีใครช่วยผู้ชายคนนั้นเลยค่ะ
อืม...ไม่รู้ว่าเพราะต่างสถานที่ หรือเพราะเป็นเพศชาย คนก็เลยไม่ค่อยอยากช่วยเท่าไร อารมณ์ว่าดูแลตัวเองไปละกัน
4. ขโมยเงินในรถ (HammyTV)
ช่องนี้ชอบเล่นกับเงินๆ ทองๆ ค่ะ อย่างคลิปนี้ ไรอันจัดฉากให้มีรถจอดข้างทาง เปิดกระจกรถทิ้งไว้ แล้ววางเงินบนคอนโซลหน้ารถ
ผลลัพธ์น่าตกใจมากค่ะ คนแรกขโมยแล้วพอโดนจับได้ก็ปาเงินทิ้งด้วยความไม่พอใจ คนที่สองหนักกว่า พอโดนจับได้ปุ๊บวิ่งรัวๆ เลยจ้า
แต่คนสุดท้ายนี่น่าทึ่งมากค่ะ เป็นคุณลุงร่างท้วมที่สวมแจ็กเก็ตติดตราทั้งหลายทั้งมวล ที่บอกให้เรารู้ว่าเขาเป็นทหารผ่านศึก ตอนแรกเขาล้วงเข้าในรถไป ไรอันก็คิดแล้วว่าเขาคงขโมยเงินแน่ๆ จึงรีบวิ่งเข้าไปชาร์จ
พอไรอันขอคุยกับเขา ก็ถึงกับอึ้ง เพราะเขาไม่ได้ขโมยแต่ซ่อนเงินไว้ให้ในลิ้นชัก คุยไปคุยมาจึงได้รู้ว่าเขาเป็นทหารผ่านศึกที่ต้องอาศัยอยู่ในศูนย์พักพิง เพราะเขาไม่มีบ้านค่ะ
ไรอันเลยให้เงิน (ต้องแอบให้นะคะ เพราะบางรัฐในอเมริกามีกฎหมายห้ามให้อาหารหรือเงินกับคนไร้บ้าน) พร้อมกับเสนอว่าจะขับรถไปส่งที่ศูนย์พักพิงให้
แล้วชายคนนั้นก็ร้องไห้ค่ะ (น้ำตาลูกผู้ชาย ร้องไห้ก็ไม่อยากให้ใครเห็น) พี่น้องคิดว่าชีวิตของเขาหลังสงครามคงทรมานมาก แต่แม้จะผ่านช่วงเวลาแบบนั้น วีรบุรุษที่มีแต่คนมองข้ามคนนี้กลับเป็นคนเดียวที่ไม่ขโมยเงินของคนอื่น แถมยังช่วยซ่อนเงินให้อีกต่างหาก
ผลลัพธ์น่าตกใจมากค่ะ คนแรกขโมยแล้วพอโดนจับได้ก็ปาเงินทิ้งด้วยความไม่พอใจ คนที่สองหนักกว่า พอโดนจับได้ปุ๊บวิ่งรัวๆ เลยจ้า
แต่คนสุดท้ายนี่น่าทึ่งมากค่ะ เป็นคุณลุงร่างท้วมที่สวมแจ็กเก็ตติดตราทั้งหลายทั้งมวล ที่บอกให้เรารู้ว่าเขาเป็นทหารผ่านศึก ตอนแรกเขาล้วงเข้าในรถไป ไรอันก็คิดแล้วว่าเขาคงขโมยเงินแน่ๆ จึงรีบวิ่งเข้าไปชาร์จ
พอไรอันขอคุยกับเขา ก็ถึงกับอึ้ง เพราะเขาไม่ได้ขโมยแต่ซ่อนเงินไว้ให้ในลิ้นชัก คุยไปคุยมาจึงได้รู้ว่าเขาเป็นทหารผ่านศึกที่ต้องอาศัยอยู่ในศูนย์พักพิง เพราะเขาไม่มีบ้านค่ะ
ไรอันเลยให้เงิน (ต้องแอบให้นะคะ เพราะบางรัฐในอเมริกามีกฎหมายห้ามให้อาหารหรือเงินกับคนไร้บ้าน) พร้อมกับเสนอว่าจะขับรถไปส่งที่ศูนย์พักพิงให้
แล้วชายคนนั้นก็ร้องไห้ค่ะ (น้ำตาลูกผู้ชาย ร้องไห้ก็ไม่อยากให้ใครเห็น) พี่น้องคิดว่าชีวิตของเขาหลังสงครามคงทรมานมาก แต่แม้จะผ่านช่วงเวลาแบบนั้น วีรบุรุษที่มีแต่คนมองข้ามคนนี้กลับเป็นคนเดียวที่ไม่ขโมยเงินของคนอื่น แถมยังช่วยซ่อนเงินให้อีกต่างหาก
3. ทิ้งเด็กและสุนัขในรถกลางแดดจ้า (TwinzTV)
คลิปนี้ทำขึ้นเพื่อกระตุ้นให้คนสนใจรถที่มีเด็กหรือสุนัขถูกทิ้งไว้ในรถค่ะ บ้านเราก็มีปัญหาแบบนี้เยอะทุกปี โดยเฉพาะทิ้งสุนัขไว้ในรถ แล้วอากาศบ้านเราก็ใช่ย่อย
สำหรับคลิปนี้เขาแบ่งเป็น 2 การทดลองค่ะ คือ ถ้ามีเด็กในรถร้องไห้ คนจะสนใจช่วยแค่ไหน กับถ้าเปลี่ยนเป็นสุนัข ผลจะเป็นอย่างไร
หลายคนคงคิดว่าเด็กน่าจะได้รับความสนใจมากกว่า แต่ไม่น่าเชื่อค่ะ กลับเป็นสุนัขที่มีคนสนใจช่วยมากกว่า (อาจจะบังเอิญว่าช่วงเวลานั้นมีคนใจดีเยอะหรือไงไม่รู้)
ที่น่าสนใจคือ บางคนพยายามทุบกระจกรถเพื่อช่วยเหลือสุนัขด้วย เช่นเด็กหนุ่มฮิปฮอปคนหนึ่ง โทรแจ้งตำรวจและใช้สเกตบอร์ดของตัวเองทุบกระจกรถ จนคนทำคลิปต้องวิ่งออกมาห้าม กับคู่หนุ่มสาว (ผู้ชายเท่มาก) ที่แฟนหนุ่มไม่ลังเลเลย แต่รีบควักอะไรบางอย่าง ออกมาแล้วทุบเปรี้ยงเดียวกระจกแตก อันนี้เจ้าของคลิปวิ่งมาห้ามไม่ทัน แต่ก็ไม่ได้เรียกร้องค่าเสียหายอะไร (ค่าซ่อมกระจกรถคุ้มกับยอดวิวมั้ยเนี่ย)
น้องๆ ชาวเด็กดีถ้าเห็นอย่างนี้ก็อย่าเพิ่งรีบทุบกระจกรถ แต่โทรแจ้งกู้ภัย หรือตามผู้ใหญ่มาช่วยกันเยอะๆ นะคะ จะได้กระจายความรับผิดชอบ (ฮ่าๆ)
สำหรับคลิปนี้เขาแบ่งเป็น 2 การทดลองค่ะ คือ ถ้ามีเด็กในรถร้องไห้ คนจะสนใจช่วยแค่ไหน กับถ้าเปลี่ยนเป็นสุนัข ผลจะเป็นอย่างไร
หลายคนคงคิดว่าเด็กน่าจะได้รับความสนใจมากกว่า แต่ไม่น่าเชื่อค่ะ กลับเป็นสุนัขที่มีคนสนใจช่วยมากกว่า (อาจจะบังเอิญว่าช่วงเวลานั้นมีคนใจดีเยอะหรือไงไม่รู้)
ที่น่าสนใจคือ บางคนพยายามทุบกระจกรถเพื่อช่วยเหลือสุนัขด้วย เช่นเด็กหนุ่มฮิปฮอปคนหนึ่ง โทรแจ้งตำรวจและใช้สเกตบอร์ดของตัวเองทุบกระจกรถ จนคนทำคลิปต้องวิ่งออกมาห้าม กับคู่หนุ่มสาว (ผู้ชายเท่มาก) ที่แฟนหนุ่มไม่ลังเลเลย แต่รีบควักอะไรบางอย่าง ออกมาแล้วทุบเปรี้ยงเดียวกระจกแตก อันนี้เจ้าของคลิปวิ่งมาห้ามไม่ทัน แต่ก็ไม่ได้เรียกร้องค่าเสียหายอะไร (ค่าซ่อมกระจกรถคุ้มกับยอดวิวมั้ยเนี่ย)
น้องๆ ชาวเด็กดีถ้าเห็นอย่างนี้ก็อย่าเพิ่งรีบทุบกระจกรถ แต่โทรแจ้งกู้ภัย หรือตามผู้ใหญ่มาช่วยกันเยอะๆ นะคะ จะได้กระจายความรับผิดชอบ (ฮ่าๆ)
2. โหวตให้ทรัมพ์ (UDY Pranks)
ถ้าใครตามการเมืองอเมริกาอยู่คงรู้ว่าตอนนี้อเมริกากำลังอยู่ในช่วงหาประธานาธิบดีคนใหม่อยู่ค่ะ ซึ่งตัวเลือกของชาวอเมริกาตอนนี้มีโดนัลด์ ทรัมพ์ กับฮิลลารี คลินตัน และทรัมพ์ก็ดังมากเนื่องจากนโยบาย "ขาวล้วน" สุดโต่งของเขา
เนื่องจากอเมริกาเป็นประเทศที่มีผู้อพยพย้ายเข้าไปตั้งถิ่นฐานมากที่สุด ทำให้เป็นสังคมอุดมความหลากหลายทางชาติพันธุ์ ไล่ตั้งแต่อเมริกัน อเมริกันแอฟริกัน ชนพื้นเมืองดั้งเดิม เอเชีย อเมริกาใต้ (ชาวละติน)
ความหลากหลายนี้ทำให้อเมริกาเกิดความขัดแย้งหลายครั้ง โดยเฉพาะระหว่างคนผิวขาวกับคนผิวดำค่ะ รุนแรงถึงขั้นมีอยู่ยุคหนึ่งที่เป็นยุคมืด มีคนโดนฆ่าตายอยู่แทบทุกคืนเพราะปัญหาเรื่องความขัดแย้ง และจนบัดนี้ความเหยียดชาติพันธุ์ก็ยังไม่หายไป แต่ฝังลึกอยู่ในใจคนอเมริกันหลายๆ คน ไม่กล้าพูดออกไป เพราะนโยบายความเท่าเทียมของโลกใหม่
แต่ทรัมพ์มาเหนือค่ะ เขาทิ้งไพ่ไม้ตายว่าถ้าเขาได้เป็นประธานาธิบดี ปัญหาเหล่านี้จะหมดไป ผู้อพยพทั้งหมดต้องออกไปจากอเมริกา เขาจะกวาดล้างความขัดแย้งนี้ด้วยการไม่ต้องให้อยู่ร่วมกันเสียเลย แล้วสร้างอเมริกาที่มีแต่คนอเมริกันผิวขาวจริงๆ
พี่น้องเกริ่นซะยาว ทีม UDY Pranks เขาเลยจัดฉากให้คนในทีมไปยืนถือป้ายสนับสนุนนโยบายทรัมพ์ ไล่คนต่างชาติพันธุ์ออกไปให้หมด กลางลานสาธารณะ ผลปรากฏว่ามีหลายคนที่สนับสนุนเขา และอยากให้อเมริกามีแต่คนผิวขาว (ซึ่งคนพวกนี้ก็คือคนผิวขาวนั่นแหละ)
ส่วนคนผิวสีพอมาเจอแบบนี้ก็เข้าไปต่อว่าบ้าง หาเรื่องบ้าง เขียนป้ายให้ใหม่บ้าง ขำๆ นานเข้ากลัวจะมีปัญหา เพราะตำรวจเริ่มมาเฝ้าระวัง เลยย้ายไปกลางวิทยาลัยแทน
ที่วิทยาลัยกลับให้ผลลัพธ์น่าสนใจกว่าค่ะ เพราะนักศึกษาส่วนใหญ่ต่างไม่พอใจนโยบายของทรัมพ์และคนที่มาถือป้าย บางคนเกือบจะเข้ามาหาเรื่อง แต่ก็เบี่ยงตัวออกไป จนสุดท้ายถึงได้มีกลุ่มนักศึกษาทำป้ายผ้าที่เขียนคำว่า "Keep America Great" (รักษาความยิ่งใหญ่ของอเมริกาต่อไป) และติดแฮชแท็กว่า #NationOfImmigrants หรือ ชาติแห่งผู้อพยพ นั่นเอง
ตอนหลังคนทำคลิปก็ต้องรีบประกาศว่าจริงๆ แล้วเขาเองก็ไม่ได้สนับสนุนนโยบายนี้นะ อเมริกาจะยังคงความยิ่งใหญ่ต่อไปได้ต้องประกอบด้วยคนต่างชาติพันธุ์ทุกคนนั่นแหละ
คลิปนี้พี่น้องประทับใจกลุ่มนักศึกษามากค่ะ ไม่เสียแรงเปล่าที่มาที่นี่เนอะ
เนื่องจากอเมริกาเป็นประเทศที่มีผู้อพยพย้ายเข้าไปตั้งถิ่นฐานมากที่สุด ทำให้เป็นสังคมอุดมความหลากหลายทางชาติพันธุ์ ไล่ตั้งแต่อเมริกัน อเมริกันแอฟริกัน ชนพื้นเมืองดั้งเดิม เอเชีย อเมริกาใต้ (ชาวละติน)
ความหลากหลายนี้ทำให้อเมริกาเกิดความขัดแย้งหลายครั้ง โดยเฉพาะระหว่างคนผิวขาวกับคนผิวดำค่ะ รุนแรงถึงขั้นมีอยู่ยุคหนึ่งที่เป็นยุคมืด มีคนโดนฆ่าตายอยู่แทบทุกคืนเพราะปัญหาเรื่องความขัดแย้ง และจนบัดนี้ความเหยียดชาติพันธุ์ก็ยังไม่หายไป แต่ฝังลึกอยู่ในใจคนอเมริกันหลายๆ คน ไม่กล้าพูดออกไป เพราะนโยบายความเท่าเทียมของโลกใหม่
แต่ทรัมพ์มาเหนือค่ะ เขาทิ้งไพ่ไม้ตายว่าถ้าเขาได้เป็นประธานาธิบดี ปัญหาเหล่านี้จะหมดไป ผู้อพยพทั้งหมดต้องออกไปจากอเมริกา เขาจะกวาดล้างความขัดแย้งนี้ด้วยการไม่ต้องให้อยู่ร่วมกันเสียเลย แล้วสร้างอเมริกาที่มีแต่คนอเมริกันผิวขาวจริงๆ
พี่น้องเกริ่นซะยาว ทีม UDY Pranks เขาเลยจัดฉากให้คนในทีมไปยืนถือป้ายสนับสนุนนโยบายทรัมพ์ ไล่คนต่างชาติพันธุ์ออกไปให้หมด กลางลานสาธารณะ ผลปรากฏว่ามีหลายคนที่สนับสนุนเขา และอยากให้อเมริกามีแต่คนผิวขาว (ซึ่งคนพวกนี้ก็คือคนผิวขาวนั่นแหละ)
ส่วนคนผิวสีพอมาเจอแบบนี้ก็เข้าไปต่อว่าบ้าง หาเรื่องบ้าง เขียนป้ายให้ใหม่บ้าง ขำๆ นานเข้ากลัวจะมีปัญหา เพราะตำรวจเริ่มมาเฝ้าระวัง เลยย้ายไปกลางวิทยาลัยแทน
ที่วิทยาลัยกลับให้ผลลัพธ์น่าสนใจกว่าค่ะ เพราะนักศึกษาส่วนใหญ่ต่างไม่พอใจนโยบายของทรัมพ์และคนที่มาถือป้าย บางคนเกือบจะเข้ามาหาเรื่อง แต่ก็เบี่ยงตัวออกไป จนสุดท้ายถึงได้มีกลุ่มนักศึกษาทำป้ายผ้าที่เขียนคำว่า "Keep America Great" (รักษาความยิ่งใหญ่ของอเมริกาต่อไป) และติดแฮชแท็กว่า #NationOfImmigrants หรือ ชาติแห่งผู้อพยพ นั่นเอง
ตอนหลังคนทำคลิปก็ต้องรีบประกาศว่าจริงๆ แล้วเขาเองก็ไม่ได้สนับสนุนนโยบายนี้นะ อเมริกาจะยังคงความยิ่งใหญ่ต่อไปได้ต้องประกอบด้วยคนต่างชาติพันธุ์ทุกคนนั่นแหละ
คลิปนี้พี่น้องประทับใจกลุ่มนักศึกษามากค่ะ ไม่เสียแรงเปล่าที่มาที่นี่เนอะ
1. ชายที่ต้องการความช่วยเหลือที่สุด (Johal)
Jonal เป็นคนที่ชอบทำคลิปจัดฉากเพื่อช่วยเหลือคนไร้บ้านค่ะ คลิปนี้ได้ยอดวิวไป 7 ล้าน (ซึ่งพี่น้องว่าน้อยไปนะ สำหรับคลิปดีๆ แบบนี้)
ตอนแรกเขาแค่จะทำคลิปจัดฉากดูว่ามีคนสนใจช่วยเหลือเขาตามหาลูกสาวแค่ไหน แต่เขามาเจอชายไร้บ้านคนหนึ่งที่กำลังยืนถือป้ายขอเงินอยู่ เขาเลยเล่าให้ฟังว่าลูกสาวหาย ช่วยตามหาได้มั้ย นี่รูปเธอ
แต่ชายคนนี้กลับขอรูปเอาไว้ แล้วถือรูปเด็กหญิงคนนั้นตลอดวัน แทนที่จะถือป้ายขอเงินของตัวเอง แม้ว่าจะแทบไม่มีคนเดินผ่านไปมาเลย เขาก็ยังอยู่ตรงนั้นไม่ไปไหน
น่าประทับใจมากค่ะ แถมเขายังเล่าให้ฟังด้วยว่าจริงๆ แล้วครอบครัวของเขาไม่รู้นะว่าเขาไม่มีที่อยู่ ไม่มีงานทำ (คนทำคลิปเลยต้องเบลอหน้าเขาไว้ตลอด)
ทั้งๆ ที่เขาน่าจะห่วงความเป็นอยู่ของตัวเองกลับห่วงคนอื่นมากกว่า พี่น้องหวังว่าเขาจะหาทางของตัวเองเจอและมีชีวิตที่มีความสุข ไม่ลงเอยแบบลุงเคนนี่นะ
ตอนแรกเขาแค่จะทำคลิปจัดฉากดูว่ามีคนสนใจช่วยเหลือเขาตามหาลูกสาวแค่ไหน แต่เขามาเจอชายไร้บ้านคนหนึ่งที่กำลังยืนถือป้ายขอเงินอยู่ เขาเลยเล่าให้ฟังว่าลูกสาวหาย ช่วยตามหาได้มั้ย นี่รูปเธอ
แต่ชายคนนี้กลับขอรูปเอาไว้ แล้วถือรูปเด็กหญิงคนนั้นตลอดวัน แทนที่จะถือป้ายขอเงินของตัวเอง แม้ว่าจะแทบไม่มีคนเดินผ่านไปมาเลย เขาก็ยังอยู่ตรงนั้นไม่ไปไหน
น่าประทับใจมากค่ะ แถมเขายังเล่าให้ฟังด้วยว่าจริงๆ แล้วครอบครัวของเขาไม่รู้นะว่าเขาไม่มีที่อยู่ ไม่มีงานทำ (คนทำคลิปเลยต้องเบลอหน้าเขาไว้ตลอด)
ทั้งๆ ที่เขาน่าจะห่วงความเป็นอยู่ของตัวเองกลับห่วงคนอื่นมากกว่า พี่น้องหวังว่าเขาจะหาทางของตัวเองเจอและมีชีวิตที่มีความสุข ไม่ลงเอยแบบลุงเคนนี่นะ
7 ความคิดเห็น
จะพบคนเหล่านี้มากไม่ใช่เรื่องแปลก จริงๆสังคมปัจจุบันดีกว่าเมื่อก่อนมากๆครับ สมัยก่อนสังคมล้าหลังกว่านี้ทุกด้าน มีทั้งการค้ามนุษย์แบบเปิดเผย การเหยียดชนชั้นเผ่าพันธุ์ สงครามฆ่าฟันกันเป็นปกติ ก่อนจะดีขึ้นเรื่อยๆด้วยน้ำมือของกลุ่มมองโลกสวยที่เข้าใจและลงมือทำ(ว่ายังงี้สินะ ผมไม่รู้ว่าคนทั่วไปเข้าใจคำว่าโลกสวยหมายถึงคนที่มองทุกอย่างสวยงามอย่างไม่รู้อะไร หรือหมายถึงคนที่มีความหวังจะเห็นโลกนี้ดีขึ้นแม้เพียงสักนิดกันแน่เห็นบางคนใช้ด่ากันมั่วไปหมด ที่ผมว่านี่หมายถึงอย่างหลัง) ที่เราว่าโลกมันโหดร้ายเพราะมองแต่ด้านร้ายๆและรู้อะไรกันมากขึ้นต่างหาก และแน่นอนว่าคนปัจจุบันมีภูมิคุ้มกันทางสังคมต่ำลงจนน่ากลัว...
ดูแต่ละคลิปแล้วประทับใจ โลกเรายังมีคนดีๆ อีกเยอะค่ะ มันไม่ได้เลวร้ายไปเสียหมดหรอกเนอะ
ยังมีอะไรดีๆหลงเหลืออยู่บนโลกสินะเนี่ย
เราชอบดูคลิปพวกนี้มาก มันรู้สึกอบอุ่นในหัวใจ เเละเป็นเหมือนกำลังใจให้ทำดีต่อไป
การทำดีอ่ะ ไม่จำเป็นต้องให้ใครเห็นหรือรับรู้ เเค่เรามีความสุขที่ได้ช่วยเหลือคนอื่นก็พอ
ขอบคุณค่ะ โลกใบนี้ยังคงสวยงามอยู่เสมอ ตราบใดที่ยังมีมนุษย์ที่ดีแบบนี้ #คลิปฆ่าตัวตายคือร้องไห้หนักมาก
ไม่เก่งภาษาอังกฤษอะ แต่ก็เข้าใจนะว่าเขาจะสื่ออะไร
แต่ละอันนี่ให้ข้อคิดในการใช้ชีวิตได้ดีมากเลย