สวัสดีค่ะน้องๆ ชาว Dek-D.com วันนี้ พี่นิทาน มีเรื่องสุดแสบและน่าปวดหัวของผู้โดยสารบนเครื่องบินจากทั่วโลกที่เคยทำให้ไฟลท์บินต้องวุ่นวาย บางไฟลท์ถึงกับต้องลงจอดฉุกเฉินบ้าง บางไฟลท์ก็บินกลับเลยทีเดียวค่ะ เรามาดูกันเลยว่ามีเหตุการณ์วุ่นๆ อะไรที่เคยเกิดขึ้นบ้าง
1. กลิ่นเหม็นทำให้ไปต่อไม่ได้
เป็นข่าวไปเมื่อ 2 ปีก่อนค่ะ ด้วยเหตุการณ์ประหลาดที่ไม่น่าจะร้ายแรงถึงขั้นกัปตันต้องวกเครื่องบินกลับแทนที่จะบินไปถึงจุดหมายอย่างสวัสดิภาพ แต่มันก็ร้ายแรงจริงๆ โดยเป็นไฟลท์บินของสายการบิน British Airways ที่กำลังจะบินจากลอนดอนไปยังดูไบ แต่อยู่ๆ ผู้โดยสารทุกคนต่างก็บ่นกันเป็นเสียงเดียวว่าได้กลิ่นอันไม่พึงประสงค์มาจากห้องน้ำ!
กลิ่นนั้นก็คือกลิ่นอุนจิของใครสักคนที่มาปล่อยทิ้งไว้ ลูกเรือทุกคนพยายามแก้ไขปัญหานี้แล้วแต่ก็ไม่เป็นผลสำเร็จ และที่แย่ที่สุดคือผู้โดยสารที่นั่งใกล้ห้องน้ำนี่แทบจะทนไม่ไหว ในเมื่อกลิ่นสุดเหม็นนี้ไม่ยอมหายไปสักที กัปตันเลยต้องจำใจวกเครื่องบินกลับไปยังลอนดอนเพื่อสุขภาพและสวัสดิภาพของผู้โดยสารทุกคน
หลังจากเครื่องกลับไปจอดที่เดิม ทางสายการบินก็ต้องขอโทษผู้โดยสารเป็นการใหญ่ที่ต้องทำให้เสียเวลา และเต็มใจจ่ายเงินค่าที่พักและอาหารการกินให้ทุกคน แหม สงสัยจริงๆ ว่าใครนะเป็นเจ้าของกลิ่นอันไม่พึงประสงค์นี้ที่สร้างวีรกรรมให้ทุกคนบนเครื่องจำไปอีกนานเลยทีเดียว
2. เมาแล้วพาล
ดูเหมือนจะเป็นไฟลท์วันหยุดหน้าร้อนที่น่าจะลงเอยด้วยดี แต่กลับกลายเป็นว่าชายขี้เมาคนหนึ่งสั่งค็อกเทลที่ชื่อว่า "Bloody Mary" บนเครื่องไม่ยอมหยุด แถมหน้าแดงๆ ของเขานั้นบ่งบอกว่าเมามาตั้งแต่ยังไม่ขึ้นเครื่องแล้วด้วย และเมื่อสั่งเครื่องดื่มมา ชายคนนี้ก็แอบเอาว็อดก้าที่เขาซื้อมาจาก Duty free มาเติมดื่มเองเรื่อยๆ ทั้งๆ ที่แอร์โฮสเตสก็เตือนแล้วเตือนอีกว่าไม่ให้นำน้ำหรือของเหลวขึ้นมาบนเครื่อง (แต่ไม่รู้ว่าผ่านเข้ามาได้ไงแฮะ)
เมื่อถูกแอร์ฯ เตือน ชายคนนี้ก็โกรธ หลังจากนั้นไม่นานเขาก็เดินไปเข้าห้องน้ำเป็นเวลานานกว่าครึ่งชั่วโมง แอร์ฯ คนเดิมเห็นว่าไม่ปกติแล้วเลยเคาะประตูถามว่าเป็นอะไรหรือเปล่า แต่เปล่าเลย ชายขี้เมาคนนี้ตะโกนออกมาด้วยเสียงดังแบบทั้งเครื่องได้ยินว่า "กรูจะเขร้โว้ย!!"
และเมื่อเขาออกมาจากห้องน้ำเขาก็บ่นเรื่องแอร์ฯ กับภรรยาที่นั่งข้างๆ เป็นเสียงดังๆ และกดปุ่มเรียกแอร์ฯ คนเดิมมาเพื่อต่อว่าเธอว่า "เธอรู้มั้ยว่าชั้นอายแค่ไหนที่ต้องตะโกนออกมาแบบนั้น แล้วอีกอย่างนึงนะ เวลาเข้าห้องน้ำไม่ได้มีจำกัดว้อย!"
แหม เกรี้ยวกราดจริงๆ เลยนะคะ จนท้ายที่สุดเมื่อเครื่องลงจอดก็มีหญิงคนหนึ่งที่นั่งใกล้ๆ ชายคนนี้ ยืนขวางไม่ให้เขาเดินลงจากเครื่องพร้อมกับเอื้อมมือไปจับข้อมือเขาที่ใส่สร้อยข้อมือเขียนว่า 'What Would Jesus Do' (พระเยซูจะทำยังไงนะ) และพูดกับเขาว่า "ชั้นเห็นนะว่าคุณใส่สร้อยข้อมืออะไรอยู่ และชั้นว่าพระเยซูคงมีความสุขมากกับสิ่งที่คุณทำบนเครื่องวันนี้เลยแหละ" งานนี้ชายขี้เมาคงจะเสียหน้าน่าดูเลยค่ะ ต้องขอบคุณหญิงผู้กล้าหาญคนนี้จริงๆ
3. อย่ามาพูด "Merry Christmas" กับชั้น!
ผู้โดยสารขี้โมโหถูกเชิญตัวลงจากเครื่องเพราะเหตุแค่ว่าทุกคนอวยพร "Merry Christmas" กับเขา ไม่รู้ไปโกรธอะไรซานต้ามารึเปล่านะคะ เพราะตั้งแต่ที่สนามบินระหว่างที่รอขึ้นเครื่องที่นิวยอร์ค พนักงานที่เกตทุกคนก็ต้อนรับผู้โดยสารด้วยการอวยพรวันคริสต์มาสกันเพราะอยู่ในช่วงเทศกาลคริสต์มาส แต่ชายคนนี้ไม่พอใจเมื่อถูกอวยพรแบบนี้ เขาเลยพูดตอบกลับพนักงานไปว่า "คุณไม่ควรอวยพรแบบนี้นะ เพราะไม่ใช่ว่าทุกคนจะฉลองวันคริสต์มาสซักหน่อย"
ก็จริงของเขา แต่จะโกรธทำไมขนาดนั้น 555 พนักงานเลยถามกลับไปงงๆ ว่า "ถ้างั้นควรพูดอะไรดีล่ะคะ/ครับ" ชายคนนี้เลยตะโกนตอบกลับไปว่า "ก็ไม่ต้องพูดว่าสุขสันต์วันคริสต์มาสว้อย!" แล้วก็รีบเดินขึ้นเครื่องไป ทำเอาทุกคนงงและทำตัวไม่ถูกกันเลยทีเดียว
แต่เรื่องก็ไม่จบแค่นั้นเมื่อเขาขึ้นเครื่องไป พนักงานบนเครื่องก็ยืนต้อนรับและพูดกับเขาอีกว่า "สุขสันต์วันคริสต์มาสค่ะ" และเหมือนคราวนี้ความอดทนของเขาจะมาถึงขีดจำกัด "กรูบอกว่าอย่าพูดว่าสุขสันต์วันคริสต์มาส!!" เขาตะโกนอย่างโมโหและยืนเทศนาบ่นกับทั้งแอร์ฯ ทั้งนักบินถึงเรื่องที่พวกเขาไม่ควรอวยพรวันคริสต์มาส แน่นอนว่าพนักงานทุกคนพยายามจะพูดจาดีๆ และทำให้เขาสงบสติอารมณ์ลง แต่ชายขี้โมโหคนนี้ก็ไม่ยอม และเมื่อเรื่องไม่จบและยังอาละวาดอยู่ เขาเลยต้องโดนพาตัวออกจากเครื่องไป เหตุการณ์ทั้งหมดจึงสงบสุขลงขึ้นเยอะ
4. กลิ่นตัวทำลายล้าง
เป็นเรื่องปกติสำหรับสายการบินและพนักงานทุกคนที่จะต้องรับมือกับผู้โดยสารที่มีพฤติกรรมไม่เป็นมิตรหรือเป็นปัญหาต่อส่วนรวมนะคะ แต่สำหรับเคสนี้ดูเหมือนจะแตกต่างออกไปหน่อย แล้วก็ไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยๆ ซะด้วย เนื่องจากไฟลท์ของสายการบิน Jazz Air ของแคนาดา (ที่บินในอเมริกาด้วย) ต้องเชิญผู้โดยสารคนนึงให้ออกจากเครื่องด้วยเหตุผลที่ว่า "กลิ่นตัว" ของเขาเหม็นสุดๆ จนทุกคนทนไม่ไหวจริงๆ ค่ะ
ผู้โดยสารคนที่นั่งใกล้ๆ เขาบอกว่า "ทุกคนที่เขาเดินผ่านจะต้องหันไปมองและร้องออกมาเบาๆ ด้วยความทรมานจากกลิ่นตัวเขาเลยล่ะ" ใครจะไปคิดว่ากลิ่นตัวของคนๆ นึงจะสร้างความเดือดร้อนได้มากขนาดนี้ และกลิ่นตัวที่แรงสุดๆ ของเขาก็ต้องทำให้ทุกคนบนเครื่องแทบจะนั่งไม่ได้กันเลยทีเดียว บางคนถึงกับพูดว่ากลิ่นตัวเขามัน "โหดร้าย" มาก คิดดูว่าจะเหม็นขนาดไหน และในที่สุดทางสายการบินต้องขอร้องให้เขาลงจากเครื่องไปเนื่องจากต้องรักษาสวัสดิภาพของคนส่วนมากไว้ จะสงสารก็สงสารไม่ได้แฮะ เพราะเขาเองก็ควรอาบน้ำมาก่อนขึ้นเครื่องนะ ว่ามั้ยคะ
5. ซ่านัก... ก็ถูกมัดไว้ละกัน
สายการบิน Icelandair ของประเทศไอซ์แลนด์ ที่กำลังบินกลับจากประเทศไอซ์แลนด์ไปยังนิวยอร์คต้องปวดหัว เมื่อเจอผู้โดยสารเป็นลุงคนหนึ่งที่เมาเหล้าเพราะดื่มไปหมดทั้งขวด และก่อวีรกรรมมากมาย เพราะเมื่อเมาแล้วความบ้าบิ่นก็เกิดขึ้นได้เมื่อลุงคนนี้พยายามหันไปดึงผู้หญิงที่นั่งข้างๆ แล้วตะโกนว่า "เครื่องบินจะตกแล้ว!!" ทั้งๆ ที่ไม่ได้มีอะไรเกิดขึ้นแม้แต่นิด เมื่อเกิดเหตุการณ์แบบนั้นแน่นอนว่าความวุ่นวายก็ตามมา หลังจากนั้นเขาก็อาละวาดไปทั่ว และมีรายงานว่าเขาหันไปบีบคอผู้ชายคนนึงอีกด้วย (โห อาละวาดจริงจังเลยเนี่ย)
พอเหตุการณ์เริ่มวุ่นวายขึ้นและตาลุงคนนี้ก็ไม่ยอมอยู่เป็นสุขแบบผู้โดยสารคนอื่น แถมไประรานชาวบ้านแบบนี้ มีหรือจะปล่อยไว้เฉยๆ เพราะเมื่อผู้โดยสารทุกคนสุดจะทนเลยแห่กันเข้ามาจับตัวเขาไว้และมัดเขาไว้กับที่นั่ง ด้วย Duct tape หรือเทปกาวแลคซีน ไม่อยากจะขำเลยค่ะ แต่แอบสะใจเล็กน้อยเมื่อเห็นภาพ 555 ผู้บริหารสายการบิน Icelandair มาบอกทีหลังว่าตาลุงคนเนี้ยทำให้ไฟลท์ 2 ชั่วโมง เสียเวลาไปถึง 6 ชั่วโมงเพราะต้องจัดการกับความวุ่นวายของเขา และเมื่อเครื่องลงจอด ลุงคนนี้ก็ถูกส่งตัวไปโรงพยาบาล และคิดว่าเขาคงจะจำวีรกรรมตัวเองไปอีกนานเลยค่ะ
6. นี่มันไฟลท์จำลองชัดๆ
.jpg)
ไม่รู้ว่าเมาอะไรมาเหมือนกัน เพราะผู้โดยสายหนุ่มวัย 22 ปี พยายามจะเปิดประตูฉุกเฉินเครื่องบินและกระโดดลงไปจากเครื่องบินที่กำลังบินจากสเปนไปยังอังกฤษ เนื่องจากเขาบอกว่า "ไฟลท์นี้เป็นไฟลท์จำลอง" ไม่แน่ใจว่าเขาคิดว่านี่คือเกมคอมพิวเตอร์หรือเมายาอะไรอยู่นะ แน่นอนว่าวีรกรรมของเขาทำให้ผู้โดยสารทุกคนตื่นกลัวกันมาก เพราะถ้าหากเครื่องบินตกจะทำยังไงล่ะ
หลังจากเกิดเหตุการณ์ชุลมุนเนื่องจากเพื่อนของชายหนุ่มคนนั้นก็พยายามดึงเขาออกมาจากประตูฉุกเฉิน ทั้งด่าทั้งต่อยเขา แต่เขาก็ยังยืนยันว่า "ไม่เป็นไรหรอก เพราะนี่เปนไฟลท์จำลองขึ้นมาเท่านั้น" แต่พอพูดอย่างนั้นหลายคนก็ไม่พอใจและรำคาญกับการกระทำเขา ทั้งแอร์โฮสเตสห้ามก็แล้ว เพื่อนๆ ดุด่าก็แล้ว ในที่สุดเลยมีผู้หวังดีทนไม่ไหวเดินมาจัดการเจ้าหนุ่มตัวแสบจนหนุ่มน้อยล้มลงไปนอนที่พื้น
หลังจากนั้นทุกคนจึงช่วยมาพาตัวเขาไปนั่งกับที่และมัดเขาไว้กับที่นั่งด้วยเข็มขัดนิรภัยถึง 8 เส้น ฟังดูโหดร้ายแต่ก็สมควรแล้วแหละค่ะ เพราะหลังเหตุการณ์อาละวาดนั้นมีทั้งเด็กๆ ร้องห่มร้องไห้ ผู้โดยสารหลายคนก็ตื่นตระหนก ใจไม่ดีกันไปเลย เครื่องบินต้องลงจอดฉุกเฉินและเจ้าหน้าที่ตำรวจ 6 คนก็รีบเข้ามาจับกุมชายหนุ่มคนนี้ไว้
แต่ละคนนี่สุดๆ ไปเลยนะคะ ใครที่กำลังจะเดินทางด้วยเครื่องบินก็อย่าเป็นกังวลไปค่ะ เพราะเรื่องแบบนี้คงไม่ได้เกิดบ่อยๆ แต่ถ้าหากเกิดขึ้นในไฟลท์บินของเราจริงๆ ก็ขอให้ใจเย็นๆ ไว้นะคะ เดี๋ยวเหตุการณ์ทุกอย่างก็จะผ่านไปด้วยดีเอง (หวังว่านะคะ) 5555
อ้างอิง
4 ความคิดเห็น
UNITED Airline รับไปดูแลหน่อยครับ