สวัสดีค่ะน้องๆ ชาว Dek-D.com ปกติน้องๆ ใช้เวลาเดินทางไปกลับโรงเรียนวันละกี่ชั่วโมงค่ะ สมัยมัธยมจนถึงมหาวิทยาลัย พี่พิซซ่า ใช้เวลาหมดไปกับการเดินทางวันละประมาณ 4 ชั่วโมงได้ค่ะ (ปัจจุบันก็ไม่ค่อยต่างจากเดิมเท่าไหร่อยู่ดี 5555) สมแล้วที่กรุงเทพได้ตำแหน่งเมืองที่รถติดที่สุดในโลกไปค่ะ แต่วันนี้พี่จะพาน้องๆ ไปทำความรู้จักกับคนที่หาวิธีเดินทางไปทำงานด้วยตัวเองแบบไม่แคร์รถติดค่ะ นับถือเลย
ชายผู้ว่ายน้ำ 2 กิโลเมตรเพื่อไปทำงานทุกเช้า
แม้บ้านกับที่ทำงานจะห่างกันจริงๆ แค่ 2 กิโลเมตร แต่ถ้าเดินทางด้วยรถส่วนตัว รถเมล์ หรือแม้แต่รถไฟจะกินระยะทางยาวกว่า แถมเสียเวลามากกว่าทั้งรถติดหรือแม้แต่คนแน่นรถขนส่งสาธารณะจนต้องหงุดหงิดทุกเช้าเมื่อไปถึงออฟฟิศ Benjamin David ชาวเยอรมันวัย 40 ปีจึงเลือกจะว่ายน้ำไปทำงานเองทุกเช้าค่ะ
เมื่อก่อนเบนยามินเองก็เคยเป็นหนึ่งในผู้โดยสารขนส่งสาธารณะของเมืองมิวนิกเพื่อไปทำงานทุกเช้า ปั่นจักรยานไปทำงานก็เคยพยายามมาแล้วแต่ก็ยังไม่เวิร์กอยู่ดี เมื่อสองปีก่อนเบนยามินจึงคิดจะเปลี่ยนวิธีเดินทางไปทำงานใหม่ และเมื่อมองไปยังแม่น้ำ Isar ที่ไหลผ่านอพาร์ทเมนต์เขาพอดี เขาก็เกิดไอเดียนี้ขึ้นมาค่ะ
เบนยามินบอกว่าหลายร้อยปีก่อนแม่น้ำสายนี้ถือเป็นเส้นทางเดินทางสำคัญของผู้ที่ต้องการเดินทางระหว่างกรุงโรมและเวียนนา แต่เพิ่งร้อยกว่าปีนี้เองที่ความเจริญและการพัฒนาระบบการเดินทางทางบกเข้ามามีบทบาทสำคัญจนทุกคนเลิกเดินทางด้วยแม่น้ำสายนี้ไป เบนยามินเห็นว่าแม่น้ำสายนี้ก็ผ่านใกล้ๆ ออฟฟิศของเขาด้วย ฉะนั้นทำไมไม่เดินทางทางน้ำล่ะ และที่สำคัญคือไม่ต้องไปหาเรือหรือต่อแพหรอก ว่ายเอาเองนี่แหละ จะได้ผ่อนคลายไปด้วยในเวลาเดียวกัน
นับจากนั้นเบนยามินก็เดินทางไปทำงานด้วยวิธีนี้เป็นหลักค่ะ ถ้าเป็นฤดูร้อนก็จะใช้แทบทุกวัน แต่ถ้าเป็นฤดูหนาวก็พอไหวแค่ไม่กี่วัน ทุกวันเบนยามินจะเช็กข้อมูลดูระดับน้ำ ความเร็วของน้ำ รวมถึงอุณหภูมิน้ำเพื่อดูว่าจะไปไหวมั้ย ถ้าหนาวหน่อยก็จะใส่ชุดว่ายน้ำแขนยาวขายาวไป แต่ถ้าอากาศกำลังดีก็จะใส่แค่กางเกงว่ายน้ำขาสั้นตัวเดียวไปค่ะ แต่ถ้าวันไหนเช็กแล้วดูเสี่ยงก็จะเดินทางด้วยวิธีทางบกเหมือนคนอื่นแทน
เสื้อผ้าสำหรับใส่ทำงาน โทรศัพท์ กระเป๋าสตางค์ คอมพิวเตอร์ และของที่ต้องใช้ทำงานอื่นๆ จะเก็บไว้ในกระเป๋ากันน้ำอย่างดีที่เป็น Wickelfisch หรือกระเป๋าปลา ที่เมื่อใส่ของและม้วนปิดสนิทแล้ว จะกลายเป็นลูกบอลลอยน้ำได้ในตัว น้ำในแม่น้ำไหลจากอพาร์ทเมนต์ไปยังออฟฟิศอยู่แล้ว ถ้าขี้เกียจว่ายเมื่อไหร่เบนยามินก็นอนกอดกระเป๋าแล้วลอยไปตามน้ำเรื่อยๆ ก็ได้ค่ะ
ทุกเช้าก็มักมีคนที่เดินผ่านพอดีโบกมือทักทายเบนยามิน หลังๆ มาก็มีเพื่อนร่วมอุดมการณ์มากขึ้นแล้วค่ะ บางวันก็มีคนว่ายน้ำไปทำงานพร้อมเบนยามินเยอะเลย ถือว่าเป็นอีกวิธีเดินทางที่ประหยัดเวลา ค่าใช้จ่าย และยังได้ออกกำลังกายอีกด้วย แต่ถ้าใครจะทำตามก็ตรวจสอบให้ดีก่อนนะคะว่าสภาพแม่น้ำเป็นอย่างไร ไม่อย่างนั้นจะเกิดอันตรายได้ค่ะ
ชายผู้พายเรือเป็นระยะทาง 8 กิโลเมตรไปทำงานเป็นเวลา 15 ปี
Photo: Napalon Productions video screen grab/Vimeo
คราวนี้มาดูอีกท่านนึงที่เลือกเดินทางไปทำงานทางน้ำค่ะ แต่คนนี้ไม่ได้ว่ายไปเองนะคะ เขาพายเรือไปทำงานและกลับบ้านทุกวันเลยค่ะ คุณตา Gabriel Horchler ชาวอเมริกันวัย 72 ปี พายเรือเรซซิ่งเชลล์ยาว 21 ฟุตทำจากไฟเบอร์กลาสไปทำงานเองตลอดเป็นเวลา 15 ปี ตั้งแต่ปี 1997 จนถึงต้นปี 2016 ค่ะ
คุณตาเล่าว่าวันหนึ่งในปี 1997 ตอนนั้นคุณตายังขี่มอเตอร์ไซค์ไปทำงานอยู่ ขณะที่กำลังเซ็งเพราะรถติดมากกกกกกกกก คุณตาก็หันไปมองแม่น้ำ Anacostia ที่ขนานกับถนนแล้วก็เกิดไอเดียขึ้นมาว่าทำไมเราไม่ใช่แม่น้ำสัญจรแทนล่ะ จากนั้นวิธีนี้ก็กลายเป็นวิธีเดินทางประจำไปเลย
ด้วยความที่แม่น้ำไม่ได้ไหลผ่านตั้งแต่บ้านไปจนถึงหอสมุดสภาคองเกรสที่เป็นที่ทำงานของคุณตา คุณตาเลยเดินทางด้วยเรือทดแทนแค่ระยะของถนนช่วงที่ขนานกับแม่น้ำเท่านั้น ตอนแรกคุณตาจะปั่นจักรยานออกจากบ้านมายังที่จอดเรือริมน้ำโดยใช้เวลาประมาณ 15 นาที จากนั้นก็พายเรือเป็นระยะทางประมาณ 8 กิโลเมตรโดยใช้เวลาอีกประมาณ 1 ชั่วโมง และเมื่อมาถึงอีกฝั่งแล้วก็ปั่นจักรยานอีกคันอีก 15 นาทีเพื่อไปถึงที่ทำงานค่ะ ส่วนขากลับคุณตาจะกลับด้วยรถไฟแทน และวันต่อมาก็จะกลับกันคือตอนเช้าจะนั่งรถไฟไปทำงาน ด้วยตอนเย็นค่อยพายเรือกลับบ้าน ทำสลับกันไปมาแบบนี้ทุกวันทำงานตลอด 15 ปีเลยค่ะ
Photo: Napalon Productions video screen grab/Vimeo
คุณตาบอกว่าหลายคนก็ไม่คิดว่ามันเป็นวิธีเท่าไหร่ แต่คุณตาคิดว่ามันเวิร์กมากเลยนะ ช่วงที่ข้ามแม่น้ำก็ไปทางตรงได้เลย ไม่ต้องอ้อมไปอ้อมมาตามถนน แล้วก็ไม่ต้องเบียดกับคนบนรถไฟทุกเช้าด้วย แถมยังได้ดื่มด่ำกับธรรมชาติ ได้ผ่อนคลาย แล้วก็รู้สึกเหมือนได้เป็นเจ้าแห่งแม่น้ำเพราะไม่มีใครมาแย่ง ที่สำคัญคือยังทำให้คุณตาได้ออกกำลังกายทุกวันจนดูแข็งแรงและหนุ่มกว่าวัยเยอะเลย มีคนบอกด้วยว่าแม้ลุคภายนอกของคุณตาจะดูเป็นบรรณารักษ์อาวุโสที่ท่าทางจะขรึมๆ เนิร์ดๆ แต่ภายใต้เสื้อเชิ้ตทำงานนั้นมีกล้ามแน่นๆ ไม่แพ้คนหนุ่มเลยด้วยค่ะ
แต่คุณตาก็บอกด้วยว่าใช่ว่าจะมีข้อดีนะ เพราะหลายครั้งเลยที่เกิดเหตุไม่คาดฝันระหว่างพายเรือ ระหว่างพายๆ อยู่เจอฝนตกลงมาแบบไม่มีปี่มีขลุ่ยก็หลายครั้ง บางทีก็มีลมแรงมาพัดจนเรือออกนอกทิศทางจนหลงไปไกลต้องพายวนกลับมาอีก แถมคุณตายังเคยเรือคว่ำอีก 3 ครั้งและไปชนตอม่อสะพานอย่างแรงอีกครั้ง นอกจากนี้ก็มีอีกหลายครั้งที่เจอมลภาวะทางสายตา ทั้งขยะเน่าและซากสัตว์ที่ลอยผ่านมา
แม้ตอนนี้คุณตาจะเกษียณแล้ว และไม่ต้องพายเรือไปทำงานแล้ว แต่คุณตาก็จะยังพายเรือเป็นงานอดิเรกต่อไปเรื่อยๆ ค่ะ
แต่ละคนก็มีวิธีเลี่ยงการจราจรที่หนาแน่นในชั่วโมงเร่งด่วนตามสไตล์ของตัวเองนะคะ น้องๆ คนไหนที่ต้องใช้เวลาเดินทางไปเช้าเย็นกลับนานๆ มีวิธีเลี่ยงให้เจอรถติดน้อยที่สุดหรือใช้เวลาเดินทางน้อยที่สุดบ้างมั้ยคะ
1 ความคิดเห็น
ถ้าเปผ้นประเทศเราคงทั้งดำขึ้น ทั้งร้อนจนตับแตกอ่ะค่ะ