เปิด 3 เหตุผลที่ทำให้ 'เด็กสายอาร์ต' และ 'ศิลปิน' ในเยอรมนีไม่มีคำว่าไส้แห้ง!

          สวัสดีค่ะ ชาว Dek-D ถ้าจะเอ่ยถึงอาชีพสายอาร์ตที่ทำงานด้านศิลปะนั้น คำว่า “ศิลปินไส้แห้ง” คงเป็นคำคุ้นหูที่ลอยขึ้นมาอยู่ในความนึกคิดของใครหลายคนทันที เพราะบางคนอาจกังวลว่า การยึดอาชีพนี้อาจมีรายได้ไม่แน่นอน หรือไม่สบายใจว่าพอเรียนจบแล้วหน้าที่การงานอาจไม่มั่นคงก็ได้  แต่สำหรับที่ประเทศเยอรมนีนั้น เด็กสายอาร์ตรับรองว่า “ไม่มีไส้แห้ง” แน่นอน เพราะที่นั่นให้ความสำคัญกับศิลปะมากๆ รวมทั้งภาครัฐและองค์กรหลายฝ่ายต่างก็ทำงานประสานกันเพื่อช่วยสนับสนุนเหล่าศิลปินอยู่เสมอ รวมไปถึงสายอาร์ตจากต่างชาติด้วยค่ะ
 
          วันนี้พี่เลยอยากขอพาน้องๆ ไปสำรวจกันว่าเยอรมนีเค้ามีแนวทางสนับสนุนศิลปินอาชีพกันอย่างไรบ้าง? รวมถึงทำไมที่นี่ถึงเป็นประเทศที่เหมาะกับคนที่มีใจรักงานศิลปะ? ถ้าพร้อมแล้วเราตามไปดูกันเลยค่ะ :)
 
เบอร์ลินและเมืองอื่นๆ ในเยอรมัน
ล้วนให้ความสำคัญกับงานศิลปะ
 
          ต้องบอกว่าที่เมืองใหญ่ๆ อย่างเบอร์ลิน โคโลญ และไลพ์ซิก ต่างก็รุ่มรวยไปด้วยอาร์ตแกลเลอรี และยังมีกิตติศัพท์ที่รู้จักกันว่าเป็นแหล่งรวมศิลปะร่วมสมัยอีกด้วย โดยเบอร์ลินขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองที่มี  "Art Scenesขายงานแกลเลอรีอยู่ทั่วทุกมุมเมือง และนั่นทำให้นักสะสมงานศิลป์จากทั่วโลกต่างเดินทางมาซื้อชิ้นงานศิลปะอันล้ำค่ากันอย่างไม่ขาดสาย จึงไม่ใช่แปลกเลยถ้าจะบอกว่าเบอร์ลินนั้นเป็นเมืองที่เหมาะกับศิลปินรุ่นใหม่ที่อยากแจ้งเกิด และมีแกลเลอรีแสดงผลงานศิลปะของตนเองเป็นอย่างยิ่ง
 
          นอกจากนี้ยังมีองค์กร มูลนิธิ รวมถึงนักสะสมงานศิลป์จากทั่วประเทศให้การสนับสนุนทุนประเภทต่างๆ รวมถึงมีการจัดงานประกวดศิลปะอยู่บ่อยๆ ด้วยค่ะ (เห็นแล้วอิจมากกก) อีกทั้งที่เยอรมนีนั้นมีพื้นที่จัดแกลเลอรีที่กว้างขวางมากๆ และค่าเช่าก็ไม่แพงด้วย ซึ่งนี่ถือว่าเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ศิลปินอาชีพในเบอร์ลินสามารถเลี้ยงชีพได้ด้วยการจัดแสดงงานศิลปะ ยิ่งพอภาครัฐเข้ามามีบทบาทให้งบประมาณสนับสนุนก็ยิ่งช่วยให้เหล่าศิลปินสามารถยึดเส้นทางอาชีพสายนี้ได้แบบสบายๆ เลยค่ะ 
 
เพราะภาครัฐช่วยผลักดัน
 
             ต้องบอกว่าใครที่เรียนด้านศิลปะและมาทำงานที่เยอรมนีนั้นเข้าทางมากๆ เลยค่ะ เพราะผู้ที่ทำงานในอุตสาหกรรมเชิงสร้างสรรค์ (creative industries) จะได้รับความช่วยเหลือทางการเงินจากรัฐบาลเยอรมันด้วย ยิ่งถ้าเรียนจบจากสถาบันศิลปะด้วยแล้ว คนที่นั่นเค้าจะถือว่าเป็น “ศิลปินมืออาชีพ” เลยทีเดียวค่ะ และเมื่อสมัครขอรับทุนต่างๆ ก็จะยังคงได้รับความช่วยเหลือจากรัฐบาลอย่างต่อเนื่องอยู่เสมอเลย 
 
             พูดแบบนี้อาจจะยังนึกภาพไม่ออกว่าสนับสนุนขนาดไหน ซึ่งตัวอย่างที่เห็นชัดๆ เลยคือ ตามปกติแล้วคนที่เป็นนายตัวเองหรือทำอาชีพอิสระส่วนใหญ่จะอยู่นอกระบบแผนประกันสุขภาพของรัฐ แถมยังต้องควักเงินจ่ายค่าประกันเองด้วย แต่ในทางกลับกัน ศิลปินที่เยอรมนีนั้นจะได้รับสิทธิประกันสังคมแบบพิเศษ หรือที่เรียกว่า “Künstlersozialkasse” ซึ่งสิทธินี้จะช่วยลดการจ่ายค่าเบี้ยประกันให้เหลือเพียงครึ่งหนึ่งเท่านั้นนั่นเอง 
 
             ใครที่ชื่นชอบงานอาร์ต ถ้าบินมาที่เยอรมนีบอกเลยว่าคุ้มมากๆ เพราะทุกๆ เมืองใหญ่ในเยอรมนีมีพิพิธภัณฑ์ รวมถึงนิทรรศการหมุนเวียนผลัดเปลี่ยนกันมาจัดแสดงอยู่บ่อยครั้ง แถมพิพิธภัณฑ์หลายแห่งก็ยินดีรับศิลปินเข้ามาร่วมทำงานกันด้วย เช่น เปิดโอกาสให้เด็กอาร์ตที่ทำงานพาร์ตไทม์ในส่วนติดตั้งนิทรรศการมาเป็นพนักงานประจำฝ่ายทะเบียน รวมถึงให้ดูแลเรื่องการเคลื่อนย้าย รื้อถอน ชิ้นงานต่างๆ ที่นำมาจัดแสดง 
 
             และอย่างที่รู้กันว่าตามพิพิธภัณฑ์ใหญ่ๆ มักมีพื้นที่ค่อนข้างเยอะ เค้าเลยเปิดโอกาสให้ศิลปินหน้าใหม่มาโชว์ผลงานของตัวเองให้คนทั่วไปได้เข้าชมอีกด้วย นับว่านอกจากจะเป็นช่องทางเปิดโอกาสให้โชว์ผลงานเจ๋งๆ แล้วยังช่วยผลักดันให้ศิลปินได้ขายผลงานไปในตัวด้วยค่ะ
 
แจกทุนเพียบ แถมให้อยู่ฟรีด้วย! 
 
             ที่เยอรมนี ศิลปินอาชีพจากประเทศอื่นๆ สามารถมองหาการทำงานระยะสั้นในฐานะศิลปินพำนัก (Artist in Residence) ซึ่งเป็นการรับทุนเพื่อไปอาศัยและทำงานระยะเวลาหนึ่งตามสถาบันวัฒนธรรม หรือเมืองต่างๆ ได้  ไม่เพียงเท่านี้ เค้ายังมีแหล่งเงินทุนให้กับศิลปิน รวมถึงมีเว็บไซต์ต่างๆ รวบรวมทุนน่าสนใจเอาไว้ให้ได้ไปเปิดประสบการณ์ทางศิลปะกันได้ตามความชอบ
 
             ที่เห็นกันบ่อยๆ ก็มีเว็บไซต์ Stiftungssuche.de ที่น้องๆ สามารถเข้าไปหาทุนกันได้มากมาย แถมรัฐบาลเยอรมันยังให้ความช่วยเหลือผ่านการมอบเงินทุนสนับสนุนต่างๆ ให้อีกเป็นจำนวนมาก อาทิ โครงการ Art Fund และ the Performing Arts Fund นั่นเองค่ะ นอกจากนั้นแล้วยังมีสมาคม International Association of Art in Germany (IGBK) ที่เข้ามาดูแลประโยชน์ และยกระดับสถานะของศิลปินทั้งให้ได้รับการคุ้มครองในแง่สังคม การเมือง และกฎหมายด้วยค่ะ
 
             ทั้งหมดนี้คือทางเลือกและโอกาสอันหลากหลายสำหรับนักเรียนที่เรียนสาขาศิลปะ รวมถึงศิลปินอาชีพอีกหลายชีวิตที่มีใจรักงานศิลป์  ที่สำคัญคือ โรงเรียนศิลปะ พิพิธภัณฑ์ รวมทั้งทุนการศึกษาต่างๆ ในเยอรมนีจะไม่กระจุกตัวอยู่ในเมืองใดเมืองหนึ่งเท่านั้น คนที่นั่นเลยเข้าถึงศิลปะได้อย่างทั่วถึง นอกจากนั้นเเล้วเค้ายังมีศูนย์ศิลปะ และสถานที่สร้างแรงบันดาลใจชั้นยอดอีกนับไม่ถ้วน เพื่อให้ผู้คนได้แวะเวียนไปเสพย์งานศิลปะกันตามความชอบเลยค่ะ 
 
             โอ้โห! ต้องบอกว่านอกจากเยอรมนีจะเป็นดินแดนแห่งนักคิดนักเขียนแล้ว ยังเป็นประเทศที่ให้ความสำคัญกับศิลปะไม่น้อยเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดพื้นที่ให้ศิลปินได้จัดแสดงและขายงานศิลปะ รวมทั้งภาครัฐและองค์กรต่างๆ ก็มีการมอบทุนและเงินสนับสนุนให้สายอาร์ตได้ต่อยอดความสามารถกันอยู่เสมอ อาชีพศิลปินที่นี่จึงมีรายได้แน่นอนและมีสวัสดิการที่ดีด้วยเช่นกัน เมื่อได้รับการสนับสนุนเต็มที่แบบนี้แล้ว ศิลปินก็ย่อมมีพลังมุ่งสร้างผลงานเจ๋งๆ ออกมาอย่างให้ได้ชื่มชมกันอย่างต่อเนื่องแน่นอน และถ้าหากน้องๆ คนไหนที่เรียนสายนี้และสนใจทำงานที่เยอรมนี ก็ลองศึกษารายละเอียดกันไว้ได้เลยนะคะ :)
 
Source:
พี่ไก่กุ๊ก

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

1 ความคิดเห็น

กำลังโหลด
กำลังโหลด