20 เรื่องจริง "คณะเภสัชศาสตร์" คณะสายวิทย์สุขภาพที่สำคัญไม่แพ้ใคร!


            สวัสดีค่ะ ก่อนหน้านี้เราได้รู้จักกันไปแล้วว่า คณะเภสัชศาสตร์ เรียนอะไรบ้าง รวมทั้งสถาบันที่เปิดสอน น้องๆ หลายคนคงเข้าใจกันมากขึ้นแล้วว่าคณะเภสัชศาสตร์เรียนอะไร บอกเลยว่าเป็นคณะที่สำคัญมากในวงการแพทย์ เป็นอีกหนึ่งหัวใจสำคัญในการรักษาเลยล่ะค่ะ

            แต่ก็จะต้องมีความสงสัยว่าเรื่องบางเรื่องที่เราได้รู้เกี่ยวกับคณะนี้มันจริงหรือเปล่า หรือเรื่องไหนที่เราควรจะรู้บ้าง วันนี้พี่แป้งรวบรวมมาให้เป็น
20 เรื่องจริงของคณะเภสัชศาสตร์ มีเรื่องไหนบ้างที่เราควรรู้ก่อนที่จะตัดสินใจเลือกเรียน ไปดูกันเลยค่ะ
 

          1.รอบแอดมิชชั่น คณะเภสัชศาสตร์ ใช้ PAT 2 ถึง 40% คิดเป็น 12,000 คะแนน เลยทีเดียวเชียวล่ะ!!

          2.สาขาของคณะเภสัชศาสตร์ แบ่งออกเป็น สาขาเภสัชศาสตร์ เน้นด้านการผลิตยา และ สาขาบริบาลเภสัชกรรม เน้นการดูและรักษาผู้ป่วย

          3.ปีการศึกษา 2560 คณะเภสัชศาสตร์เปิดรับในรอบ กสพท.ด้วย ตอนนี้ กสพท. มีเปิดแล้ว 4 คณะคือ แพทยศาสตร์ ทันตแพทยศาสตร์ สัตวแพทยศาสตร์ และเภสัชศาสตร์

          4.เท่ากับว่า ถ้าจะสอบเข้าคณะเภสัชศาสตร์ทุกช่องทาง ต้องสอบ GAT, PAT 2, O-NET 5 วิชา และวิชาสามัญอีก 7 วิชา โอ้โห้!! แพ้คณะทันตะฯ แค่ไม่ได้สอบ PAT 1 เอง

          5.พื้นฐานวิชาเคมี ม.ปลาย สำคัญมากในการเรียนคณะนี้ ทุกวิชาในมหาวิทยาลัยจะมีเคมีแทรกซึมอยู่ ตั้งอธิบายกลไลมนุษย์จะไปถึงการผลิตยาเลยค่ะ

          6.เรียนคณะนี้ไม่ใช่แค่เข้าใจอย่างเดียว ต้องจำชื่อยาและสารประกอบให้ได้ด้วย ท่องวนไปค่ะ!

          7.ถ้าใครได้เก่งรากศัพท์ภาษาอังกฤษด้วย จะได้เปรียบมากในการเรียนคณะนี้ เพราะเอกสารหรือคำศัพท์ต่างๆ ที่เกี่ยวกับตัวยาเป็นภาษาอังกฤษหมด

          8.ไม่ต้องกลัวว่าจะมีเรียนแค่วิชาเคมีนะคะ ฟิสิกส์ ชีววิทยา คณิตศาสตร์ ก็เรียนจ้า พื้นฐานวิทยาศาสตร์มาหมด

          9.แล็บกริ๊ง อีกแล็บที่เป็นที่กล่าวขาน เตรียมตัวได้เลย เจอแน่!

          10.เห็นเรียนตัวยาแบบนี้ มีเรียนกับอาจารย์ใหญ่ด้วยนะ และมีทดลองยาในสัตว์ด้วยแหละแก T_T

 

          11.คณะเภสัชเปิดในรอบรับตรงเยอะมาก แนะนำว่าถ้าอยากเรียรีบโกยตั้งแต่รอบรับตรง แอดมิชชั่นเปิดรับน้อยมากเลย

          12.นอกจากรู้เรื่องยาแล้ว ต้องรู้การบริหารจัดการเรื่องยาและกฎหมายเกี่ยวกับยาด้วยนะคะ มีความนิติศาสตร์เบาๆ

          13.คนที่เรียนเภสัชฯ เวลาไปซื้อยาจะชอบอ่านสารประกอบข้างขวด (ที่เราแปลไม่ออกอะ - -*) แล้วก็เลือกยาจากสารประกอบแทน

          14.เรียนเภสัชฯ ก็มีฝึกงานนะ มีตั้งแต่ฝึกที่โรงงานยา ร้านขายยา จนไปถึงโรงพยาบาล เริ่มฝึกกันตั้งแต่ปี 4 เลยค่ะ (3 ปีรวด)

          15.เห็นเรียนแบบนี้ ก็มีกิจกรรมนะคะ ไม่ว่าจะเป็นเชียร์ลีดเดอร์ ละครเวที หรือแม้แต่กีฬาต่างๆ คณะเภสัชศาสตร์

          16.สีประจำคณะคือสีเขียวมะกอก และเป็นสีประจำวิชาชีพด้วย

          17.จบคณะเภสัชศาสตร์ ทำงานได้มากกว่าเป็น เภสัชกร นะ เปิดร้านยาเองก็ได้ เป็นตัวแทนขายยาก็ได้ หรือจะเป็นนักวิจัยและผลิตยาก็ได้ เรื่องยาพัฒนาไม่มีหยุด

          18.สัญลักษณ์ประจำวิชาชีพเภสัชกรรมคือ รูปงูศักดิ์สิทธิ์พันถ้วยยาของเทพี Hygeia แต่ก็มีสัญลักษณ์อื่นๆ อีก คือ สัญลักษณ์ Recipe, โกร่งบดยาและลูกโกร่ง และ เฉลว

          19.รู้ไหมว่า แต่ก่อนคณะเภสัชศาสตร์มีทั้งหลักสูตร 5 ปีและ 6 ปี โดยหลักสูตร 5 ปีจะเป็นสายเภสัชอุตสาหกรรม และ 6 ปีจะเป็นบริบาลทางเภสัชกรรม แต่ตอนนี้เป็นหลักสูตร 6 ปีหมดแล้วจ้า

          20.นอกจากยาเพื่อรักษาแล้ว คณะนี้ยังเรียนครออบคลุมถึงเรื่องเครื่องสำอางค์ ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร สารเสพติดและสารออกฤทธิ์ต่างๆ ด้วย อยากรู้เรื่องยาเดินมาทางนี้

            ถึงจะไม่ได้ลงมือรักษาหรือดูแลผู้ป่วยอย่างคณะแพทยศาสตร์ ทันตแพทยศาสตร์ หรือพยาบาลศาสตร์ แต่ก็เป็นคณะที่สำคัญมาก ถ้าไม่มียาก็ไม่รู้จะรักษาคนไข้ยังไงให้หายได้ ซึ่งการเรียนในคณะนี้ต้องมีความจำดีมาก ต้องจำว่ายาตัวนี้ใช้กับการรักษาอะไร และการผลิตยาแต่ละตัวต้องใช้สารประกอบอะไรบ้าง ถ้าได้ยินเด็กคณะเภสัชฯ คุยกันเป็นภาษาที่เราแปลกันไม่ออกก็ไม่ต้องแปลกใจนะคะ อาจจะเป็นศัพท์เฉพาะของยาอยู่ก็ได้ ใครจะไปรู้ ฮ่าๆๆ

            ในสัปดาห์หน้าพี่แป้งจะพาน้องๆ ไปพบกับ 2 รุ่นพี่คณะเภสัชศาสตร์ คนหนึ่งกำลังเรียนอยู่ ส่งอีกคนหนึ่งเรียนจบและทำงานเรียบร้อยแล้ว ไปดูกันว่าประสบการณ์การเรียนและการทำงานของเด็กคณะเภสัชศาสตร์เป็นอย่างไรบ้าง รอติดตามกันได้วันพฤหัสฯ หน้า สวัสดีค่ะ

 
พี่แป้ง
พี่แป้ง - Columnist นักข่าวสายรับตรง พร้อมเสิร์ฟข่าวสอบเข้าทุกมหา'ลัย เติมพลังได้จากชาเย็นหวานน้อย

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

กำลังโหลด

8 ความคิดเห็น

ความคิดเห็นนี้ถูกลบเนื่องจาก

ถูกลบโดยเจ้าของ

กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
demom poker face Member 19 ก.พ. 60 23:34 น. 5
เข้ามาบอกอีกเสียง เรียนหนักมาก อยากออกจริงๆ 555 #หลบเกิบ ความจำไม่ค่อยดี เป็นคนขก.ท่อง มาเจอคณะนี้ตายมาก แต่ก็นะ โอ๊ยยยย สู้ต่อไปทาเคชิ
0
กำลังโหลด
Weewawat 20 ก.พ. 60 11:31 น. 6

เป็นกำลังใจให้.. สู้ๆๆนะครับ คณะนี้สำคัญไม่เเพ้ที่อื่นนน. คนเรียนสายวิทย์สุขภาพ เข้าใจได้ อาจจะหล่ยสาเหตุ

1. เข้าไปเรียนเเล้วไม่ใช่ตัวเรา ... อันนี้คิดหนักเลยยย. ผมก็เป็น

2. พ่อเเม่มีร้านยา อยากให้ลูกดูเเลกิจการต่อ

3. อันนี้ไม่อยากโพสต์ ต้องบอกก่อนนะครับขอโทดล่วงหน้า. คือ สอบไม่ติด เเพทย์หรือทันตเเพทย์ เเลัวพ่อเเม่ อยากให้เรียน หรือ คิดว่าเป็นอาชีพที่มีเกียรติ ยุสายวิทย์สุขภาพเหมือนกัน

4. เรียน 6 ปี. เหนื่อยเเละหนักเท่ากับ เเพทย์เลย เเต่พอจบมา.... ทำไมเเพทย์ดูมั่นคงกว่า

ปล. ผมก้มีเพื่อนเรียนเภสัช เข้าใจครับ. ไม่มีใครเรียนเบา กว่าใครเลย ทุกอย่างมันหนักเเละมีคุณค่าในตัวมันเองเสมอ ผมยังต้องไปให้เพื่อนเภสัช สอนเคมีให้เลย

เอาใจช่วยครับ สู้ๆๆ ☺️

....จากใจ นิสิตเเพทย์

0
กำลังโหลด

ความคิดเห็นนี้ถูกลบเนื่องจาก

ถูกลบโดยเจ้าของ

กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด